ข้อกฏหมาย พ.ร.บ.คอมฯ ผิดมากแค่ไหนถึงจะผิดแบบแก้ตัวไม่ได้

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ปวส. ปีนี้ก้อเป็นปีที่2 ซึ่งก้อเป็นปีสุดท้ายและกำลังจะจบในไม่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ดิฉันเรียนเอกคอมพิวเตอร์ สาขาพัฒนาโปรแกรม และเทอมแรกของ ปวส.ปี2 จะต้องทำโปรเจคจบเพราะเทอมน่าจะต้องไปฝึกงาน และนี่ก้อคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้..
      หลังจากที่ดิฉันได้รับมอบหมายงานจากอาจารย์ผู้สอนให้จับคู่กับเพื่อนในห้องเพื่อทำโปรเจคจบ ดิฉันเป็นคนค่อนข้างจริงจังกับงานมากๆ แทบจะไม่ปล่อยให้ใครทำแทนเลย และเพื่อนรักของดิฉันเป็นคนค่อนข้างเรียนไม่ค่อยเข้าใจ ติดโลกโซเชียล ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ (ใช้คำพูดสุภาพสุดๆ) จะมีดิฉันที่คอยช่วยเหลืองานกลุ่ม และงานอื่นๆตลอดมา แต่หลังจากที่อาจารย์มอบหมายเสร็จ ก็คงไม่ต้องเดาว่าดิฉันจะเลือกใคร รวมถึงเพื่อนในห้องก็รู้ว่าดิฉันจะต้องเลือกใคร ดิฉันก็เต็มใจและยอมรับได้ว่าตัวเองจะต้องทำงานหนักทั้งเรื่องตัวชิ้นงานและเอกสาร ทั้งที่มีเสียงเตือนจากหลายฝ่ายว่าหนัก เหนื่อย และอาจทำเลาะกัน แต่ด้วยความรักเพื่อนค่ะ เลยยอม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้เค้าได้ทำอรัยเลย....
      วันนึงเลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า อยากให้เพื่อนได้ลองทำงานดูบ้าง เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะว่าได้ว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ก็เลยออกปากไปว่าให้เค้ารับผิดชอบเรื่องของเอกสารทั้งหมด เพราะเราจะทุ่มให้กับตัวชิ้นงานอย่างเดียว เพื่อให้ชิ้นงานเสร็จสมบูรณ์ที่สุด แต่ก็เเอบทำสำรองเอาไว้ค่ะ เผื่อเค้าทำไม่ได้ โดยบอกกับเพื่อนอีกคนที่ชื่อ จ. ว่าช่วยดูแลให้คำปรึกษาเพื่อนหน่อย เพราะได้รับผิดชอบเรื่องเอกสารเหมือนกัน  จ. ก้อรับปาก    
      แต่แล้ววันนึงก้อรู้ว่าเพื่อนที่อยู่กลุ่มกับดิฉัน (สมมุติให้ชื่อ ฝ.ก็แล้วกัน)  ฝ.ไปจ้าง จ. ทำเอกสารให้ด้วยราคาบทละ 300 บาท ดิฉันจึงไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะ จ. รู้ทั้งรู้ว่าดิฉันอยากให้ ฝ. ได้ทำงาน ทำเป็นบ้างก้อดี พอได้รู้นิดเดียวก็ได้ และอีกอย่างดิฉันก็สำรองงานไว้แล้ว แต่ถ้า ฝ. ทำได้ ก็จะเอางาน ฝ. ส่ง เพื่อ ฝ. จะได้ภูมิใจในตัวเองและมีกำลังใจที่จะเรียนรู้บ้าง ดิฉันจึงไปบอก ฝ. ว่า จ. รู้เรื่องราทุกอย่างแต่ทำไมถึงอยากได้เงินขนาดนั้น เท่ากับหลอก ฝ. เลย  ฝ.ฟังดิฉัน แต่ ฝ. ดันมาเคืองดิฉัน เนื่องจากดิฉันไปรู้เรื่องนี้ และก็สงสัยว่ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง
     หลังจากที่ดิฉันรู้ว่า ฝ. เคืองก็ปล่อยให้เค้าทำต่อไปโดยไม่โกรธไม่อะไรทั้งนั้น เพราะถ้าเค้าอยากจ้างก็จ้าง ดิฉันจะไม่ยุ่งอีก หลังจากที่เค้าเคืองเค้าก็ไปนินทา ใส่ร้ายป้ายสีดิฉันต่างๆนาๆ แม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวของดิฉัน เอาไปพูดให้คนอื่นเกลียดดิฉันสารพัด ต้องบอกเลยว่า ฝ. เปนคนค่อนข้างน่าตาดี คำพูดจาหวานและผลไม้กลิ่นแรงชนิดนึงที่มีแค่แถวภาคใต้ ส่วนดิฉันเปนคนขี้เหร่ค่ะ เป็นลูกชาวนาจนๆ ซื่อ และพูดตรง   เสแสร้งไม่เป็น เพื่อนหลายคนที่ได้รับฟังคำพูดจาก ฝ. จึงทำตัวเมินๆใส่ดิฉัน แต่มีเพื่อนบางคนที่ไม่เชื่อและสงสาร เลยมาถามแบบตรงๆกับดิฉันว่าเรื่องที่ ฝ. พูด จริงหรือเปล่า ดิฉันถึงกับน้ำตาตกในเกิดคำถามขึ้นมากมายกับตัวเองกับเพื่อนที่คิดว่ารักและหวังดีที่สุด สุดท้ายเเล้วเค้ามาทำร้ายดิฉันแบบนี้หรอ? ฉันทำอรัยผิด? ทำกับฉันได้ยังไง?  
       ดิฉันเริ่มทำตัวห่างออกจาก ฝ. โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ก็ได้แต่เงียบๆไป ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ หลายครั้งที่คิดจะให้อภัย แต่เค้าบอกกับเพื่อนคนอื่นว่าถึงเค้าขอโทษได้ แต่ในใจเค้าไม่ได้อยากขอโทษ ดิฉันก็เสียใจ เคือง โกรธ เพราะไม่คิดว่าจะร้ายขนาดนี้
       ทุกๆวันจะคุยจะถามแค่คำเดียวคือ งานเป็นไงบ้างถึงไหนแล้ว เค้าก็จะตอบมา แค่นั้น พูดกันน้อยมาก แต่เค้าก็ยังจ้างเพื่อนทำอยู่ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้ว เค้าเลือกของเค้าเอง พอใกล้วันส่งดิฉันก็ถามอีก เค้าบอกว่าเค้าส่งแล้วแต่อาจารย์ให้เอางานกลับมาแก้ไข ดิฉันก็ไปถามเพื่อนคนอื่น (ขณะนั้นเวลาประมาน 20.30 น.)  เพื่อนคนอื่นบอกว่า งานของดิฉันถูกวางอยู่บนโต๊ะ ที่วิทยาลัย ส่วน ฝ. กลับบ้านแล้ว ไม่ได้สนใจงานเลย
        บอกเลยว่าเค้าแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อโปรเจคตัวเองชื่ออะไร ดิฉันก็ไปบอกเค้าทางแชทเฟสบุคว่า ดิฉันเห็นงานถูกทิ้งไว้บนโต๊ะ แล้ว ฝ. กลับไปได้ยังไง ทำไมไม่เอางานกลับไปด้วย เค้าไม่ตอบแล้วยกเลิกเป็นเพื่อนออกไป ดิฉันก้องง โกรธด้วย หลังจากนั้นดิฉันก็ตรงบึ่งไปที่วิทยาลัยเพื่อไปเอางาน ท่ามกลางสายฝน
       หลังจากที่เอางานมาถึงบ้าน ด้วยความโกรธ ดิฉันจึงโพสว่าเค้าในเฟสบุ๊คด้วยคำพูดค่อนข้างแรง และหยาบคาย แต่ไม่มีชื่อเค้าแต่มีบางคำที่ติดชื่อเล่นของเค้าไปบ้าง
      เหตุการณ์จากวันที่ 21กันยายน2558 ดิฉันลบข้อความที่โพสออกตั้งแต่ 5 นาทีแรก จนมาถึงวันที่ 14ตุลาคม2558 เค้ามาแจ้งความ ดิฉันจะออกฝึกงาน พอดีมีหมายเรียกจาก สน. ดิฉันเลยไปตามหมายเรียก ตร.สอบสวนเสร็จก็ให้มาไกล่เกลี่ย ฝ. เค้าบอกว่าเค้าจะเอา30,000บาท ด้วยความกลัวที่ ตร. คนนี้ให้อ่านกฏหมายว่าจะต้องจำคุก 3ปี ปรับ300,000 บาท ก็เลยว่าจะยอมจ่ายโดยทำสัญญาไว้ เค้าให้เวลาดิฉันแค่3วัน  ดิฉันกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ดิฉันเป็นลูกชาวนา พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ กู้ กยศ.เรียน ดั้นด้นมาจนจะจบ จะมาโดนเรียกเอาเงินขนาดนี้ก้อคงหาไม่ไหว แต่ก็ทำไงได้ มันมีทางเดียว .....
     วันรุ่งขึ้นอาจารย์ที่ปรึกษาได้พาดิฉันและแม่ของดิฉัน เพื่อพาดิฉันไปขอขมาแม่ของ ฝ. และขอโทด ฝ. เพื่อไกล่เกลี่ยจะให้ยอมความกัน แต่เค้าไม่รับคำขอขมาขอโทษอะไรทั้งสิ้น เค้าบอกยังไงก็จะเอา30,000 แต่อาจารย์ก็ยังอยากให้ดิฉันขอขมาแม่ของ ฝ.  ขณะที่ดิฉันยกพานคลานเข้าไปขอขมาแม่ของ ฝ. แม่ของดิฉันลงมาจากเก้าอี้ และมาคุกเข่ายกพานขอขมาและความเห็นใจในขณะที่แม่ของ ฝ. นั่งเชิดน่า และเดินข้ามหัวแม่ของดิฉันไป (บอกก่อนนะค่ะว่าแม่ดิฉันแก่กว่าแม่ของ ฝ. เป็นสิบๆปี) ดิฉันแทบใจสลายร้องให้ยกแม่ขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ถามแม่ว่า แม่ทำทำไม แม่แก่กว่าเค้านะแม่ แม่ดูเค้าทำกับแม่สิ  ในใจสงสารแม่และโกรธตัวเองที่พาแม่มาแล้วเป็นแบบนี้ คือแม่เป็นคนจิตใจงาม ประเสริฐยิ่งหาสิ่งใดเปรียบ แม่ค่อนข้างกลัวเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลตามประสาคนสมัยก่อน แม่ดิฉันไม่ค่อยสบาย ไม่อยากให้แม่กังวลให้แม่ร้องไห้ ดิฉันเสียใจยุทุกครั้งไป...
     เมื่อเค้าไม่ยอม ก็ดิ้นรนหาเงินมาให้เค้า ยืมคนนั้นคนนี้ ยืมๆรวมๆกันญาติๆที่พอจะได้ครบตามจำนวนเงิน แม่แกะออมสินที่แม่มีทุกกระปุก แม่ก็ทำ และก็จ่ายเค้าไป ตอนไปจ่ายเงินนั้นพาผู้ใหญ่บ้านไปด้วย แต่ตอนไปสอบสวนไม่ได้พาคใครไปเลย เพราะไม่อยากให้มีใครรู้เรื่องและกลัวแม่กังวล พอวันนี้พาผู้ใหญ่บ้านไป ตร. ก็พูดเชิงว่าให้ต่อสู้คดีในชั้นศาลได้นะ ถ้าคิดว่าเราไม่ผิดจริง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดแบบนี้เลย พูดแต่ว่าเป็นคดีหนัก ให้จบตรงนี้ดีกว่า พอเซ็นจ่ายเงินเสร็จถ่ายรุปเป็นหลักฐานเรียบร้อย ตร.คนนั้นขอคุยกับผู้ใหญ่บ้าน โดยให้ทุกคนออกไปก่อน ผู้ใหญ่บ้านมาเล่าให้ฟังว่า ตร.แนะนำว่าทำไมไม่ขึ้นศาล อาจจะไม่ต้องจ่ายและเค้าอาจจะเสียเองด้วยซ้ำ และเอากฏหมายมาให้ผู้ใหญ่อ่านดู ผู้ใหญ่บอกว่า ปรับไม่เกิน20,000บาทแค่นั้น แล้วที่ให้หนูดูนี่คืออะไร ?? ที่บอกหนูตอนแรกคืออะไร? ทำไมไม่พูดความจริง ? ทำไมไม่ให้ความยุติธรรมแก่หนูบ้าง? หรือเห็นหนูเป็นแค่ลูกชาวนากระจอกๆ น่าโง่ๆ ไม่มีความรู้ ไม่มีปัญญาจ้างทนาย? กลัวการขึ้นโรงขึ้นศาลตามประสาคนบ้านนอก ความยุติธรรมของผู้ถือกฏหมายอยูตรงไหนหมด? หนูก้อคนไทยคนหนึ่งครอบครัวหนูก็คนไทย อยู่ประเทศไทย ไม่เห็นแก่ความเป็นคนไทยด้วยกันบ้างเลยหรอ?  ใช่  คุณอาจทำไปเพราะอยากให้ครอบครัวคุณสบาย อยากให้ลูกคุณเรียนสูงๆ แต่มากดขี่ข่มเหงเอาจากคนจนหรอค่ะ ไหนคืออาชีพของคุณกันค่ะ ผู้ถือกฏหมาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หรือผู้เก็บของที่หล่นอยู่ใต้โต๊ะค่ะ ขอถามหน่อยเถอะค่ะ "ภูมิใจกัอาชีพที่เป็นและสิ่งที่ทำมั้ยค่ะ" เงินก้อนนั้น อาจต่อยอดชีวิตเด็กบ้านนอกคนหนึ่งให้ไปสู่ฝัน แต่เมื่อมันไม่มีแล้วก็คงต้องจบฝันนั้นลงเพียงเท่านี้ ดิฉันก้อได้รู้แล้วว่าสิ่งที่หายากกว่าเงิน ก็คือ ความยุติธรรมที่อยู่บนโลกใบนี้
      แต่ดิฉันก็ยังเชื่อในความดีและผลของกรรม
     **จากเหตุการณ์ข้างต้น ใครพอจะมีคำแนะนำ วิธีดำเนินการต่างๆ เผื่อดิฉันจะได้นำไปใช้ในอนาคต และเป็นความรู้ จะได้ไม่เสียรู้ใครอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่