แฟนไม่ค่อยควักเงินแบบนี้ ควรคบต่อหรือขอเลิกดีคะ

จขกท ขอแชร์เรื่องในชีวิตจริงให้ฟังนะคะ เกี่ยวกับเรื่องแฟนที่คบอยู่เราคบกันได้เกือบห้าปีแล้ว ก็คบกันดีมาเรื่อยๆไม่มีเรื่องนอกใจมือที่สามเลย ยกเว้นเรื่องเดียวค่ะ ...เรื่องเงิน ต้องเล่าก่อนว่าเรามาทำงานตจว.ซึ่งตอนนี้ลาออกมาช่วยธุรกิจที่บ้านค่ะ ช่วงที่เราทำงานตจว.ไม่ได้อยู่กับแฟนนะคะเพราะแฟนก็ช่วยที่บ้านทำงานเราก็เช่าหอของเราเอง ทีนี้พอเสาร์อาทิตย์เราก็ขับรถมาหาแฟนซึ่งอยู่จังหวัดติดกัน ที่บ้านแฟนก็ต้อนรับเราดีเค้าก็เอ็นดูเราเหมือนลูกสาวเพราะบ้านเค้าเป็นลูกผู้ชายหมดค่ะเราก็มีของฝากให้ทางบ้านเค้าบ้างตามประสา ส่วนเรื่องคบหาบ้านเค้าก็ไม่ได้มาก้าวก่ายอะไรค่ะ ถึงตรงนี้ทุกอย่างก็เหมือนจะดีใช่ไหมคะแต่ติดตรงที่ แฟนจขกท ไม่ค่อยออกเงินค่ะ เรื่องมันก็เลยเก็บๆมาเรื่อยๆด้วยความที่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากแต่พอถึงจุดที่เราต้องประหยัดเพราะไม่ได้มีรายได้ประจำเหมือนตอนทำงานบริษัท เราก็เลยต้องเริ่มคิดเรื่องเงินมากขึ้นจะใช้จ่ายอะไรก็ต้องคิดหน้าหลังเพราะเรามาสานต่องานที่บ้านก็ไม่อยากมีรายจ่ายเยอะ วันนึงเราก็ขอคุยกับแฟนเรื่องการไปหาเพราะเราต้องเซฟค่าน้ำมัน (ตลอด2-3ปีที่เราทำงานตจว ก็เป็นฝ่ายขับรถไปหาแฟนตลอด) เวลาไปเที่ยวตปท. เราก็ต้องรับภาระจ่ายค่าตั๋วและโรงแรมไปก่อนเพราะเรามีบัตรเครดิตโปะเต็มบ้างตามยอดขั้นต่ำบ้างเพราะเราพยายามไม่จ่ายเงินเกินเงินเดือนแต่ละเดือน หรือถ้าไปเที่ยวตจว แต่มักไปกับแกงค์เพื่อนๆที่บริษัทเรา ก็จะเป็นเราที่สำรองจ่ายไปก่อนสำหรังเงินกองกลางของทริป พอจบทริปก็เนียนค่ะ! ไม่จ่ายอะไรเรายังต้องขับรถไปรับและส่งเค้าจากบ้านมาเที่ยวด้วยนะ แรกๆก็ไม่คิดค่ะด้วยความที่มันไม่ได้มากมายแต่หลายๆทริปก็เยอะนะคะ บางทีขับรถกันไปเองสองคนเที่ยวไกลๆก็รถเราค่ะ น้ำมันก็เราค่ะ ไปๆมาๆตลอดร่วมห้าปีที่คบกันมามีแต่เราที่ออกเงิน บางทีเที่ยวกลับจากตจว มันดึกเนอะเราก็พักบ้านเค้าแล้วเช้ามืดก็ขับรถไปทำงาน มาคิดตอนนี้ก็รู้สึกแย่มากค่ะว่าทำไมเราไม่คิดเยอะบ้าง เหมือนทำงานเอาเงินมาเลี้ยงเค้าเลยอ่ะ (เราส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือนนะคะไม่เคยขอด้วย) ส่วนตัวเค้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินค่ะเพราะช่วยกิจการที่บ้านไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรกินอยู่ที่บ้านเสร็จสรรพ แล้วเค้าก็ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยอะไร เดือนๆนึงน่าจะไม่ต้องจ่ายไรเลยยกเว้นเวลาไปห้างกินข้าวดูหนังก็มีเลี้ยงบ้างแชร์บ้างเพราะเราเกรงใจค่ะไม่ชอบให้ผู้ชายมาเลี้ยง แต่ลืมไปว่านี่ชั้นขับรถมาหามารับจากบ้านเค้ามาเที่ยวดูหนังกินข้าวที่ห้างป่าววะ... จนวันนึงค่ะ เราจะรวบรวมเงินเก็บทั้งหมดเพื่อเป็นสเตทเมนท์ขอวีซ่าสำหรับไปเรียนต่อตปท. เราก็เลยเขียมสุดฤทธิ์ ก็เลยเป็นประเด็นพูดเปรยๆกับเค้าว่า ตัวเองเราขอหารค่าใช้จ่ายเวลาเราจะเจอกันได้ไหม ตัวเองเราขอหารครึ่งค่าตั๋วเครื่องบินตอนเราไปเที่ยวสิ้นปีนี้ก่อนได้ไหมเพราะยอดบัตรเครดิตเราเยอะมากเลยหนี้เก่ายังไม่หมดหนี้ใหม่ก็มาอีกแล้วแล้วดอกเบี้ยมันแพงถ้าเราไม่สามารถโปะหมด เค้าก็แบบว่าตกใจค่ะเลยบอกว่าให้ยืมเงินเค้าก่อนมาจ่ายให้หมด เราก็ด้วยความเกรงใจค่ะไม่กล้าเอาเงินเค้ามาหรอกก็ได้แต่ขอบคุณแล้วบอกเดี๋ยวค่อยว่ากันเฉยๆค่ะ เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเจอจะเอาเงินให้ สุดท้ายเงียบค่ะเราก็หน้าบางเนอะไม่กล้าทวงหรอกได้แต่กัดฟัน จนตอนนี้มันไม่ไหวแล้วค่ะก็เลยโทรคุยกันว่าเราคิดแบบนั้นแบบนี้อยู่ เราคิดทุกช็อตที่เค้าให้เราออกเงินก่อนที่เค้ายังไม่ได้ให้เงินเรารวมๆแล้วก็หลายหมื่นนะคะ เค้าก็ตกใจค่ะแบบว่าไม่เคยเห็นเราน้ำเสียงสั่นคลอนเหมือนจะร้องไห้เพราะปกติเราบ้าบอและร่าเริงมาก บอกว่าขอโทษที่คิดเรื่องเราน้อยไปคิดแต่จะให้ๆพอเจอหน้าก็ลืมค่ะ เรายิ่งน้อยใจและเสียใจหนักค่ะ เพราะแค่นี้เค้ายังไม่คิดต่อไปใช้ชีวิตด้วยกันจะทำยังไง ค่อยเราก็ไม่ได้งกนะฐานะทางบ้านเราก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เราออกจะฐานะน้อยกว่าแฟนด้วยซ้ำ แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์รึเปล่าคะที่เราต้องเป็นฝ่ายแบกรับเรื่องแบบนี้ก็รู้แหละค่ะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่อยากรู้เจตนาและความคิดรวมถึงทัศนคติของเค้าเฉยๆว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ตัวเค้าเองก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้าย รักและดูแลเราดีค่ะ ไม่ใช่ประเภทจะเกาะผู้หญิงแต่การที่เค้าลืมเรื่องอะไรแบบนี้มันก็ไม่แมนไหมคะ แค่ว่ามีแต่เราที่ขับรถไปหาค่าน้ำมันรถค่าเสื่อมรถที่ไม่แสดงตัวเลขให้เห็นออกมามันตั้งเท่าไรที่เสียไป ก็รู้สึกจุกจะแย่จนไม่กล้าพูดกับใครแล้วค่ะ บางทีก็คิดนะว่าเราก็อยากเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆมีแฟนมารับไปเที่ยวบ้างอะไรทำนองนี้ แต่ด้วยความถึกของตัวเองและความไม่คิดมากก็เลยตามเลยมาตลอด
ขออภัยมากๆนะคะถ้าเราพิมพ์ยาวไป เราเองก็พิมพ์ในมือถืออาจไม่ค่อยถนัดเวลาเว้นวรรคึกคัก

เราเลยอยากจะปรึกษาเพื่อนๆจากสิ่งที่เราระบายไปว่าถ้าเป็นกรณีนี้กับเพื่อนๆจะทำยังไงต่อคะ ทางบ้านเราทั้งสองก็เร่งอยากให้แต่งงานค่ะ เราจะไปเรียนต่อด้วยกันก็อยากให้หมั้นกันไว้ก่อน กลับมาก็ค่อยแต่งแล้วก็ดูแลกิจการครอบครัวกันต่อ ภายนอกคนอื่นก็มองว่าเราทั้งคู่เหมาะกันดีรักกัน แต่รายละเอียดอะไรแบบนี้ไม่มีใครรู้ค่ะ ถ้าเพื่อนๆเป็นเราจะทำยังไงต่อคะ คบต่อไปโดยรอให้เค้าปรับปรุงตัวเอง หรือห่างๆเลิกกันไปเลยเพราะไปเรียนต่อก็ห่างกันอยู่แล้วเำราพเรีบนคนละเมืองกันค่ธุรกิจ

เราสองคนไม่เคยมีอะไรกันนะคะ เสียแค่เรื่องเงินเนี่ยแหละค่ะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอหรือคุยกันค่ะต่างคนต่างอยู่บ้านตัวเองแล้วก็ยุ่งๆเรื่องเตรียมตัวเรียนต่อ
ขอทราบความเห็นของเพื่อนๆหน่อยนะคะ ว่าถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร คบต่อไป หรือบอกขอเลิกดี

ขอบคุณล่วงหน้าในทุกความคิดเห็นค่ะ