นี่คืออีกเรื่องของจขกท.มาอ่านกันนะ
http://pantip.com/topic/34331968
เรื่องเล่าของโรงเรียนที่เคยเป็นคอกม้าเก่ามาก่อนตอนประถม
ในวันเข้าค่ายลูกเสือเนตรนารี ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งได้มีการจัดกิจกรรมการเข้าค่ายรอบกองไฟโดยนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่6และนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่3 โดยรุ่นพี่มอ.3จะเป็นคนจัดกิจกรรมให้น้องทำกันในคืนวันที่เข้าค่ายรุ่นพี่ได้ให้น้องๆปิดตาเดินไปรอบโดยที่รุ่นพี่จะพาเดินไปที่ป้านช้าแถวโรงเรียนแต่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจนกระทั่ง
“พี่ค่ะ เมย์ปวดหัวของขึ้นไปนอนรอเพื่อนที่ห้องได่ไหมค่ะ”
“ได้สิ แต่ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนน้องนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เพื่อนคนนี้ได้ขึ้นไปนอนที่บนอาคารเรียนโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีสิ่งที่เธอมองไม่เห็นรอเธออยู่พอเธอขึ้นไปได้นานเด็กสาวอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นกับเพื่อนเธอว่า
“แก เมย์มันไปนั่งทำอะไรที่ระเบียงวะแล้วมันนั่งอยู่กับใคร”
“ใครจะไปรู้ อยากรู้ก็รอถามมันเอาก็แล้วกัน”
ฉันไม่สนใจอะไรกับคำถามของเพื่อนมากมายจนกระทั่งพี่ๆปล่อยให้พวกเราขึ้นไปนอนแต่อาจารย์บอกว่ากระเป๋าของอาจารย์หายเลยให้พวกเราไปหาแต่ก็หาไม่เจอ พวกเราขึ้นไปตึกเป็นพวกสุดท้ายเพราะต้องไปเก็บกระทะที่ทำกินกันพอเราขึ้นไปเพื่อนอีกคนก็ปิดไปนอนในคืนนั้นพวกเราไม่ได้นอนกันเลยสักคนเพราะทุกคนได้ยินเสียงม้าวิ่งเหล็กที่จะทบกันอยู่ตลอดเวลา(เพื่อนเล่าให้เราฟังนะ)
แต่!!เราเจอของจริงและดันไปทักด้วยเราได้ยินเสียงเหมือนกระทะกระทบกันที่ปลายเท้ามันตรงพอดีกับเพื่อนที่นอนอยู่ตรงด้วยล่างแล้วมองเห็นเพื่อนเป็นเงาดำๆอ้วนใส่หมวกทหาร
“กระแตแกทำไรวะ นอนได้แล้ว”
“...” เงาดำนั้นค่อยหันมาทางเราเราใช่ฉายส่องไปปรากฏว่าเพื่อนเรานอนไม่ได้นั่งให้ตายเถอะโดยหลอกอีกแล้วเราหลังจากคืนนั้นเพื่อนป.6เลยมาแชร์ให้กันฟังและได้ไปเล่าให้ครูฟัง
ครูบอกว่าที่นี้เป็นคอกม้าเก่าและเคยมีทหารมาอยู่ที่นี้ด้วยเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราเจอเพราะอาจารย์ที่มาอยู่เวรเจอกันทุกคน
เรื่องจริงที่โรงเรียนอดีตเคยเป็นศูนย์อพยพลาว
โรงเรียนของเราเป็นศูนย์อพยพคนลาวมาก่อนเคยมีสงครามอะไรประมาณนั้นเราเคยได้ยินเรื่องเล่ามาว่าในสมัยก่อนโรงเรียนแห่งนี้ยังไม่มีอาคารเรียนจึงต้องเรียนเป็นกระท่อมก่อนและทุกๆวันที่อาจารย์กำลังสองก็จะมีพวกทหารหรือไม่ก็ชาวบ้านแบกศพพาหน้าเราไปในสมัยก่อนยังไม่มีโรงศพก็ต้องเอาผ้าห่อแบบที่หัวก็โพล่มาสวัสดีบางก็ขาโพล่นักเรียนไม่เป็นอันเรียนกันเลยที่เดียว
ทุกวันอาจารย์ที่เป็นเวรเฝ้าโรงเรียนก็จะมานอนที่บ้านพักครูซึ่งอยู่ทางด้านหลังของโรงเรียนโดยจะมีภูเขารูปตัวยูบังเอาไว้แล้วภูเขารูปตัวยูมีต้นไม่ขึ้นสูงมากแต่มีอยู่ต้นหนึ่งที่มักจะมีหญิงสาวใส่ชุดขาวไม่มีใบหน้าไม่มีตาไม่มีปากไปนั่งห้อยขาอยู่ตรงนั้นเธอเป็นใคร?ไม่มีใครรู้
แต่!วันนั้นครูของเราได้เดินไปเจอพอดีอาจารย์เราพูดเล่นว่าผู้สาวทำไมไม่กลับบ้านผู้หญิงคนนั้นเลยหันมามองที่อาจารย์แล้วกวักมือเรียกแต่แกไม่สนใจพอให้หลังจะเข้าบ้านมาเท่านั้น
ผู้หญิงคนนั้นก็หายแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าอาจารย์จนอาจารย์ของเราล้มลงกับพื้นเลยอาจารย์บอกว่าหน้าของเธอดูไม่ได้เลยหนอนเต็มต่างจากที่คนอื่นเล่าให้ฟังมาก
(แค่เรื่องเล่าในสมัยก่อนนะ)
หลังจากที่จบการศึกษาจากที่นั้นเราก็มาเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมอันดับสามของจังหวัดและเป็นทีที่เป็นประวัติศาสตร์ด้วย
วันแรกที่เข้าไปโรงเรียนอะไรใหญ่จังหน้ากลัวพร้อมมีหอสังเกตการอะไรสักอย่างมีภูเขารูปตัวยูเอาไว้ซุมยิงมีคลังเก็บอาวุธมีปลอกกระสุนที่ใช่แล้ว บรรยากาศรอบด้านหน้าโรงเรียนมีแต่ต้นยูคาจนเป็นป่าหลังโรงเรียนเป็นบ้าพักครูมีหอดนตรีไทยมองรวมแล้วนะคงเป็นสถานทีที่ต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน
“สวัสดีค่ะน้องๆพี่อยู่ชั้นมอ5วันนี้จะพาน้องทำกิจกรรมปฐมนิเทศนะ เราจะอยู่ด้วยกันสองวันหนึ่งคืนใครมีอัฃะไรเป็นอะไรบอกพวกพี่ๆนะอย่าเก็บไว้คนเดียว แล้วหลังหกโมงเย็นอย่าเข้าห้องน้ำชั้นสามตึกห้านะค่ะแล้วห้ามออกมาเดินคนเดียวตอนกลางคืนนะค่ะ เข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ”
แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องห้ามไม่ให้ไปเข้าห้องน้ำชั้นสามมันมีอะไรหรอหรือห้องน้ำมันสกปกเลยไม่อยากให้น้องๆเข้าไปใช้แล้วเราจะไปใช้ ที่ไหนเพราะเราได้นอนที่ชั้นสามอ่ะจะให้มาชี่ชั้นสองก็กะไรอยู่นะ เพื่อนก็ไม่มีไม่รู้จักใครเลยสักคนแล้วจะทำยังไงที่นี้
หลังจากที่เก็บข้าวของเสร็จแล้วพวกพี่ๆก็พาไปทำกิจกรรมที่หอประชุมตรงด้านหลังห้องดนตรีไทยซึ่งที่เราเห็นตอนนี้ห้องดนตรีไทยคงไม่มีใครมาใช้นานแล้วมั่งฝุ่นเต็มไปหมดเลยเตรื่องดนตรีไทยก็อยู่ครบทั้งระนาด ซอ ปี่ กลองและอีกมากมายชุดไทยก็มีแม้!!น่ากลัวจริงๆ
พวกเราสนุกกับการได้ทำกิจกรรมจนพี่พามาอาบน้ำที่ตึกห้าเราได้เข้ามาอาบน้ำที่ชั้นสามไหนบอกว่าไม่ให้เข้าแล้วพามาอาบน้ำที่นี้ทำไม สะอาดก็สะอาดไม่เห็นเป็นไรเลย
“น้องๆค่ะพี่ให้เวลาถึง17.30 ถ้ายังไม่เสร็จให้ไปอาบต่อที่ชั้นสองนะค่ะ”
“ค่ะ”
ตอนนี้พึ่งจะห้าโมงนักเรียนก็เยอะจะให้ไปแย่งกันอาบที่ชั้นสองหรอค่ะแค่นี้ยังไม่รู้เลยว่าจะอาบทันหรือเปล่าเรารออาบน้ำเราก็ได้ยินเพื่อนๆกลุ่มหนึ่งพูดกันว่ามีห้องน้ำตึกนี้มีเด็กทารกตายและมีผีผู้หญิงด้วยซึ่งมาตายอยู่ที่ห้องน้ำชั้นสามของโรงเรียนนี้และทุกๆหกโมงเย็นถ้ามีใครมาเข้าห้องน้ำห้องนี้ก็จะเจอของดีกันทุกคนเลย เล่าจริงจังดีนะ
คืนเดียวกัน
“พี่ต่อค่ะ หนูขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหมค่ะ”
“รีบไปรับมานะ”
“ค่ะ”
ในตอนนี้เป็นเวลา21.32น.เราปวดชี่มากเลยขอพี่เขาไปเข้าห้องน้ำซึ่งเราเข้าที่ชั้นสามและในอาคารชั้นสามตอนนี้ไม่มีใครเลยมีแต่เราเพราะทุกคนเข้าห้องหมดแล้วเหลือแต่พี่ต่อที่มาเก็บของเราเดินไปเข้าห้องน้ำคนเดียวไม่ได้คิดอะไรเลยนะไม่กลัวด้วยพอเดินเข้าไปในห้องน้ำชี่จนสบายแล้วเตรียมตัวที่จะออกจากห้องน้ำเท่านั้นแหละเจอดีเลย
“ฮือๆ ฮือๆ”เป็นเสียงเด็กทารกที่กำลังร้องไห้
ตาย!ตูเจออะไรเนี่ยขออย่าให้เป็นอย่างที่กลุ่มนั้นพูดเลยนะยิ่งอยู่คนเดียวอยู่เป็นไรไปแล้วใครจะมาเห็นเราเลยตัดสินใจคอยๆเปิดประตูออกไปอย่างช้าๆแล้วหันหลังเตรียมตัวที่จะวิ่งออกไป
พอหันไปดูทางต้นเสียงเท่านั้นและ
ตึงๆๆ เสียงคนทบประตูห้องที่ปิดตายกระถางตัวไม้ก็วางขว้างเอาไว้แล้วใครอยู่ข้างในกันวะ ไม่รอช้าเราวิ่งหนีอย่างเดียวเลยไม่หันกลับไปดูด้วยเรานอนสวดมนต์ทั้งคืนเลยครั้งแรกที่เจอแบบนี้เลยนะ
เรื่องที่สองที่เจอตอนเรียนอยู่ที่นี้ก็คือวันนั้นเป็นวันที่เราต้องไปแข่งขัน Science Show ที่หว้ากอ จ.ประจวบฯเราต้องมานอนที่รงเรียนเพราะออกเดินทางตอนตีสองโดยรถบัสวันนั้นเรากับรุ่นน้องอีกสามคนเดินเล่นไปที่หลังโรงเรียนแถวๆห้องดนตรีพวกเราทั้งสี่คนเดินเล่นไปมาแล้วก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยเริ่มจากเสียงระนาดมาก่อนเพื่อนเลย น้องๆเริ่มเงียบไม่พูดอะไรกันเราก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยพาน้องกลับมานอน
ตีสองของวันเดียวกัน
เราอยู่บนอาคารช่วยอาขจารย์เก็บของส่วนน้องลงไปแปรงกันที่ข้างล่างรู้สึกว่าทุกคนเลือกที่จะไม่พูดหรือเห็นที่สิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจแล้วทำให้มันเป็นปกติจนกระทั่งน้องๆพวกนั้นพากันมาขึ้นนรถหน้าซีดทุกคนเลยเป็นอะไรกันน้อ
“เจ๊ พวกฝ่ายถ่ายรูปกันเมือกี้เจ๊รู้ไหมว่าพวกเราถ่ายติดอะไร”
“อะไร”
“ผู้หญิงใส่ชุดไทย”
ฝ้ายไม่พูดเปล่าเอารูปให้เราดูด้วยเห็นเป็นเงาร่างๆใส่ผ้าใบเฉียงสีครีมจงกระเบนสีแดงหน้าขาวโฮ่วOoOเรานี้ช็อคไปเลยหน้ากลัวจริงๆดีนะมาแค่นี้ยังน้อยกว่าที่เราเจอในห้องน้ำอยู่หรอก
เรื่องของเด็กมอ.3
หลังจากที่เรียนที่นี้จนจะจบมอ.3 เพื่อนของเราที่อยู่ห้องมอ.3/11ได้จมน้ำตายเพราะอยากว่ายน้ำเป็นเลยให้เพื่อนสอนในวันนั้นเพื่อนของเราได้เป็นเล่นน้ำกันที่แม่น้ำหลังโรงเรียนและมีรุ่นพี่ไปเล่นด้วยเพื่อนคนนั้นไม่กล้าลงไปเล่นน้ำเพราะน้ำมันลึกมากเพราะเป็นแบบนี้ A(นามสมมุติ) เลยให้เพื่อนสอนว่ายน้ำพอเล่นไปนานเริ่มตะคิวที่ขาเลยจมน้ำเพื่อนๆพี่พากันช่วยAแต่Aตัวใหญ่มากจะว่าตัวโตที่สุดก็ได้นะ ในที่สุดAก็จมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆพี่ๆ
หลังจากวันนั้นพวกเราก็ไปงานศพของAในวันที่เผาAลมแรงมากทั้งที่ไม่มีลมมากก่อนเลยพวกเราเลยคิดว่าAมาหามาอยู่ที่นี้ด้วยจนมาถึงวันจันทร์เหตุการณ์เป็นปกติทุกอย่างจนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งมาโรงเรียนเป็นคนแรกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเก้าอี้ของAตั้งอยู่แค่ตัวเดียวทั้งที่ทุกคนเอาเก้าอี้ขึ้นโต๊ะหมดแล้วรวมถึงของAด้วยหน้าตาก็เปิดทีที่Aเท่านั้นเพื่อนคนนั้นกลัวเลยไม่กล้าเอาไปในห้องรอเพื่อนๆคนอื่นมาก่อน
เรื่องสยองของอดีดศูนย์อพยพลาวและคอกม้าเก่า(ที่เคยมีทหาร)
http://pantip.com/topic/34331968
เรื่องเล่าของโรงเรียนที่เคยเป็นคอกม้าเก่ามาก่อนตอนประถม
ในวันเข้าค่ายลูกเสือเนตรนารี ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งได้มีการจัดกิจกรรมการเข้าค่ายรอบกองไฟโดยนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่6และนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่3 โดยรุ่นพี่มอ.3จะเป็นคนจัดกิจกรรมให้น้องทำกันในคืนวันที่เข้าค่ายรุ่นพี่ได้ให้น้องๆปิดตาเดินไปรอบโดยที่รุ่นพี่จะพาเดินไปที่ป้านช้าแถวโรงเรียนแต่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจนกระทั่ง
“พี่ค่ะ เมย์ปวดหัวของขึ้นไปนอนรอเพื่อนที่ห้องได่ไหมค่ะ”
“ได้สิ แต่ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนน้องนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เพื่อนคนนี้ได้ขึ้นไปนอนที่บนอาคารเรียนโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีสิ่งที่เธอมองไม่เห็นรอเธออยู่พอเธอขึ้นไปได้นานเด็กสาวอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นกับเพื่อนเธอว่า
“แก เมย์มันไปนั่งทำอะไรที่ระเบียงวะแล้วมันนั่งอยู่กับใคร”
“ใครจะไปรู้ อยากรู้ก็รอถามมันเอาก็แล้วกัน”
ฉันไม่สนใจอะไรกับคำถามของเพื่อนมากมายจนกระทั่งพี่ๆปล่อยให้พวกเราขึ้นไปนอนแต่อาจารย์บอกว่ากระเป๋าของอาจารย์หายเลยให้พวกเราไปหาแต่ก็หาไม่เจอ พวกเราขึ้นไปตึกเป็นพวกสุดท้ายเพราะต้องไปเก็บกระทะที่ทำกินกันพอเราขึ้นไปเพื่อนอีกคนก็ปิดไปนอนในคืนนั้นพวกเราไม่ได้นอนกันเลยสักคนเพราะทุกคนได้ยินเสียงม้าวิ่งเหล็กที่จะทบกันอยู่ตลอดเวลา(เพื่อนเล่าให้เราฟังนะ)
แต่!!เราเจอของจริงและดันไปทักด้วยเราได้ยินเสียงเหมือนกระทะกระทบกันที่ปลายเท้ามันตรงพอดีกับเพื่อนที่นอนอยู่ตรงด้วยล่างแล้วมองเห็นเพื่อนเป็นเงาดำๆอ้วนใส่หมวกทหาร
“กระแตแกทำไรวะ นอนได้แล้ว”
“...” เงาดำนั้นค่อยหันมาทางเราเราใช่ฉายส่องไปปรากฏว่าเพื่อนเรานอนไม่ได้นั่งให้ตายเถอะโดยหลอกอีกแล้วเราหลังจากคืนนั้นเพื่อนป.6เลยมาแชร์ให้กันฟังและได้ไปเล่าให้ครูฟัง
ครูบอกว่าที่นี้เป็นคอกม้าเก่าและเคยมีทหารมาอยู่ที่นี้ด้วยเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราเจอเพราะอาจารย์ที่มาอยู่เวรเจอกันทุกคน
เรื่องจริงที่โรงเรียนอดีตเคยเป็นศูนย์อพยพลาว
โรงเรียนของเราเป็นศูนย์อพยพคนลาวมาก่อนเคยมีสงครามอะไรประมาณนั้นเราเคยได้ยินเรื่องเล่ามาว่าในสมัยก่อนโรงเรียนแห่งนี้ยังไม่มีอาคารเรียนจึงต้องเรียนเป็นกระท่อมก่อนและทุกๆวันที่อาจารย์กำลังสองก็จะมีพวกทหารหรือไม่ก็ชาวบ้านแบกศพพาหน้าเราไปในสมัยก่อนยังไม่มีโรงศพก็ต้องเอาผ้าห่อแบบที่หัวก็โพล่มาสวัสดีบางก็ขาโพล่นักเรียนไม่เป็นอันเรียนกันเลยที่เดียว
ทุกวันอาจารย์ที่เป็นเวรเฝ้าโรงเรียนก็จะมานอนที่บ้านพักครูซึ่งอยู่ทางด้านหลังของโรงเรียนโดยจะมีภูเขารูปตัวยูบังเอาไว้แล้วภูเขารูปตัวยูมีต้นไม่ขึ้นสูงมากแต่มีอยู่ต้นหนึ่งที่มักจะมีหญิงสาวใส่ชุดขาวไม่มีใบหน้าไม่มีตาไม่มีปากไปนั่งห้อยขาอยู่ตรงนั้นเธอเป็นใคร?ไม่มีใครรู้
แต่!วันนั้นครูของเราได้เดินไปเจอพอดีอาจารย์เราพูดเล่นว่าผู้สาวทำไมไม่กลับบ้านผู้หญิงคนนั้นเลยหันมามองที่อาจารย์แล้วกวักมือเรียกแต่แกไม่สนใจพอให้หลังจะเข้าบ้านมาเท่านั้น
ผู้หญิงคนนั้นก็หายแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าอาจารย์จนอาจารย์ของเราล้มลงกับพื้นเลยอาจารย์บอกว่าหน้าของเธอดูไม่ได้เลยหนอนเต็มต่างจากที่คนอื่นเล่าให้ฟังมาก
(แค่เรื่องเล่าในสมัยก่อนนะ)
หลังจากที่จบการศึกษาจากที่นั้นเราก็มาเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมอันดับสามของจังหวัดและเป็นทีที่เป็นประวัติศาสตร์ด้วย
วันแรกที่เข้าไปโรงเรียนอะไรใหญ่จังหน้ากลัวพร้อมมีหอสังเกตการอะไรสักอย่างมีภูเขารูปตัวยูเอาไว้ซุมยิงมีคลังเก็บอาวุธมีปลอกกระสุนที่ใช่แล้ว บรรยากาศรอบด้านหน้าโรงเรียนมีแต่ต้นยูคาจนเป็นป่าหลังโรงเรียนเป็นบ้าพักครูมีหอดนตรีไทยมองรวมแล้วนะคงเป็นสถานทีที่ต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน
“สวัสดีค่ะน้องๆพี่อยู่ชั้นมอ5วันนี้จะพาน้องทำกิจกรรมปฐมนิเทศนะ เราจะอยู่ด้วยกันสองวันหนึ่งคืนใครมีอัฃะไรเป็นอะไรบอกพวกพี่ๆนะอย่าเก็บไว้คนเดียว แล้วหลังหกโมงเย็นอย่าเข้าห้องน้ำชั้นสามตึกห้านะค่ะแล้วห้ามออกมาเดินคนเดียวตอนกลางคืนนะค่ะ เข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ”
แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องห้ามไม่ให้ไปเข้าห้องน้ำชั้นสามมันมีอะไรหรอหรือห้องน้ำมันสกปกเลยไม่อยากให้น้องๆเข้าไปใช้แล้วเราจะไปใช้ ที่ไหนเพราะเราได้นอนที่ชั้นสามอ่ะจะให้มาชี่ชั้นสองก็กะไรอยู่นะ เพื่อนก็ไม่มีไม่รู้จักใครเลยสักคนแล้วจะทำยังไงที่นี้
หลังจากที่เก็บข้าวของเสร็จแล้วพวกพี่ๆก็พาไปทำกิจกรรมที่หอประชุมตรงด้านหลังห้องดนตรีไทยซึ่งที่เราเห็นตอนนี้ห้องดนตรีไทยคงไม่มีใครมาใช้นานแล้วมั่งฝุ่นเต็มไปหมดเลยเตรื่องดนตรีไทยก็อยู่ครบทั้งระนาด ซอ ปี่ กลองและอีกมากมายชุดไทยก็มีแม้!!น่ากลัวจริงๆ
พวกเราสนุกกับการได้ทำกิจกรรมจนพี่พามาอาบน้ำที่ตึกห้าเราได้เข้ามาอาบน้ำที่ชั้นสามไหนบอกว่าไม่ให้เข้าแล้วพามาอาบน้ำที่นี้ทำไม สะอาดก็สะอาดไม่เห็นเป็นไรเลย
“น้องๆค่ะพี่ให้เวลาถึง17.30 ถ้ายังไม่เสร็จให้ไปอาบต่อที่ชั้นสองนะค่ะ”
“ค่ะ”
ตอนนี้พึ่งจะห้าโมงนักเรียนก็เยอะจะให้ไปแย่งกันอาบที่ชั้นสองหรอค่ะแค่นี้ยังไม่รู้เลยว่าจะอาบทันหรือเปล่าเรารออาบน้ำเราก็ได้ยินเพื่อนๆกลุ่มหนึ่งพูดกันว่ามีห้องน้ำตึกนี้มีเด็กทารกตายและมีผีผู้หญิงด้วยซึ่งมาตายอยู่ที่ห้องน้ำชั้นสามของโรงเรียนนี้และทุกๆหกโมงเย็นถ้ามีใครมาเข้าห้องน้ำห้องนี้ก็จะเจอของดีกันทุกคนเลย เล่าจริงจังดีนะ
คืนเดียวกัน
“พี่ต่อค่ะ หนูขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหมค่ะ”
“รีบไปรับมานะ”
“ค่ะ”
ในตอนนี้เป็นเวลา21.32น.เราปวดชี่มากเลยขอพี่เขาไปเข้าห้องน้ำซึ่งเราเข้าที่ชั้นสามและในอาคารชั้นสามตอนนี้ไม่มีใครเลยมีแต่เราเพราะทุกคนเข้าห้องหมดแล้วเหลือแต่พี่ต่อที่มาเก็บของเราเดินไปเข้าห้องน้ำคนเดียวไม่ได้คิดอะไรเลยนะไม่กลัวด้วยพอเดินเข้าไปในห้องน้ำชี่จนสบายแล้วเตรียมตัวที่จะออกจากห้องน้ำเท่านั้นแหละเจอดีเลย
“ฮือๆ ฮือๆ”เป็นเสียงเด็กทารกที่กำลังร้องไห้
ตาย!ตูเจออะไรเนี่ยขออย่าให้เป็นอย่างที่กลุ่มนั้นพูดเลยนะยิ่งอยู่คนเดียวอยู่เป็นไรไปแล้วใครจะมาเห็นเราเลยตัดสินใจคอยๆเปิดประตูออกไปอย่างช้าๆแล้วหันหลังเตรียมตัวที่จะวิ่งออกไป
พอหันไปดูทางต้นเสียงเท่านั้นและ
ตึงๆๆ เสียงคนทบประตูห้องที่ปิดตายกระถางตัวไม้ก็วางขว้างเอาไว้แล้วใครอยู่ข้างในกันวะ ไม่รอช้าเราวิ่งหนีอย่างเดียวเลยไม่หันกลับไปดูด้วยเรานอนสวดมนต์ทั้งคืนเลยครั้งแรกที่เจอแบบนี้เลยนะ
เรื่องที่สองที่เจอตอนเรียนอยู่ที่นี้ก็คือวันนั้นเป็นวันที่เราต้องไปแข่งขัน Science Show ที่หว้ากอ จ.ประจวบฯเราต้องมานอนที่รงเรียนเพราะออกเดินทางตอนตีสองโดยรถบัสวันนั้นเรากับรุ่นน้องอีกสามคนเดินเล่นไปที่หลังโรงเรียนแถวๆห้องดนตรีพวกเราทั้งสี่คนเดินเล่นไปมาแล้วก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยเริ่มจากเสียงระนาดมาก่อนเพื่อนเลย น้องๆเริ่มเงียบไม่พูดอะไรกันเราก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยพาน้องกลับมานอน
ตีสองของวันเดียวกัน
เราอยู่บนอาคารช่วยอาขจารย์เก็บของส่วนน้องลงไปแปรงกันที่ข้างล่างรู้สึกว่าทุกคนเลือกที่จะไม่พูดหรือเห็นที่สิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจแล้วทำให้มันเป็นปกติจนกระทั่งน้องๆพวกนั้นพากันมาขึ้นนรถหน้าซีดทุกคนเลยเป็นอะไรกันน้อ
“เจ๊ พวกฝ่ายถ่ายรูปกันเมือกี้เจ๊รู้ไหมว่าพวกเราถ่ายติดอะไร”
“อะไร”
“ผู้หญิงใส่ชุดไทย”
ฝ้ายไม่พูดเปล่าเอารูปให้เราดูด้วยเห็นเป็นเงาร่างๆใส่ผ้าใบเฉียงสีครีมจงกระเบนสีแดงหน้าขาวโฮ่วOoOเรานี้ช็อคไปเลยหน้ากลัวจริงๆดีนะมาแค่นี้ยังน้อยกว่าที่เราเจอในห้องน้ำอยู่หรอก
เรื่องของเด็กมอ.3
หลังจากที่เรียนที่นี้จนจะจบมอ.3 เพื่อนของเราที่อยู่ห้องมอ.3/11ได้จมน้ำตายเพราะอยากว่ายน้ำเป็นเลยให้เพื่อนสอนในวันนั้นเพื่อนของเราได้เป็นเล่นน้ำกันที่แม่น้ำหลังโรงเรียนและมีรุ่นพี่ไปเล่นด้วยเพื่อนคนนั้นไม่กล้าลงไปเล่นน้ำเพราะน้ำมันลึกมากเพราะเป็นแบบนี้ A(นามสมมุติ) เลยให้เพื่อนสอนว่ายน้ำพอเล่นไปนานเริ่มตะคิวที่ขาเลยจมน้ำเพื่อนๆพี่พากันช่วยAแต่Aตัวใหญ่มากจะว่าตัวโตที่สุดก็ได้นะ ในที่สุดAก็จมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆพี่ๆ
หลังจากวันนั้นพวกเราก็ไปงานศพของAในวันที่เผาAลมแรงมากทั้งที่ไม่มีลมมากก่อนเลยพวกเราเลยคิดว่าAมาหามาอยู่ที่นี้ด้วยจนมาถึงวันจันทร์เหตุการณ์เป็นปกติทุกอย่างจนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งมาโรงเรียนเป็นคนแรกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเก้าอี้ของAตั้งอยู่แค่ตัวเดียวทั้งที่ทุกคนเอาเก้าอี้ขึ้นโต๊ะหมดแล้วรวมถึงของAด้วยหน้าตาก็เปิดทีที่Aเท่านั้นเพื่อนคนนั้นกลัวเลยไม่กล้าเอาไปในห้องรอเพื่อนๆคนอื่นมาก่อน