[CR] สังขละบุรีครั้งนี้นี่เอง...ไม่วางแผน ไม่จองที่พัก สนุกเฟ้อออ (เที่ยว 2วัน 1คืน)

เรื่องเกิดจากความกระเหี้ยนกระหือรือของกลุ่มวัยรุ่น ที่นั่งสังสรรค์ตอน 00.30 น. หลังจากออกกำลังกายเสร็จ “เฮ้ย!!! เราไปเที่ยวกันเหอะวะ - ที่ไหน , วันไหนอ่ะ ? - พรุ่งนี้เลย กาญจนบุรี !!! (ไปเช้า-เย็นกลับ) - ไปดิ เจอกัน 9 โมงล้อหมุน” ทริปนี้เราตัดสินใจไปเขื่อนศรีนครินทร์ และ น้ำตกเอราวัณ (18 กรกฎาคม 2558)  #เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง_คุยกันเมื่อคืนเดินทางกันเมื่อเช้า (เที่ยวแบบวิถีไบค์เกอร์)  หลังจากกลับมาถึง กทม. เราเลยคิดกันอีกว่า ทริปต่อไปเราจะไปไหนกัน ชวนเพื่อนคนอื่นไปด้วย แต่ขอไปแบบ 2วัน1 คืนนะ ? ไปกันแบบเดิมนี่แหละ ไม่ต้องวางแผนอะไร ไปหาเอาข้างหน้า #NoPlan

แจ็คพล็อตเลยมาโดนที่ “สังขละบุรีครั้งนี้นี่เอง”


หมายเหตุ : รูปภาพจากหลายอุปกรณ์ อาทิ Samsung Note 3 LTE , Iphone5 , SJ4000 , Cannon 60D


         “เรา” อย่าบอกว่าเราสิต้องบอกว่า “ผม” เริ่มหาวันเวลาว่าเราจะไปกันเมื่อไหร่ดี “สิ้นเดือนละกัน เงินเดือนออก” ทุกคนจะได้มีเงินไปเที่ยว ความเห็นนี่เพื่อนๆตบปากรับคำ(จำนวนผู้ร่วมทริป 6-7 คน) ผมจึงเสนอกำหนดการเที่ยวออกมาว่า งั้นไป 29-30 สิงหาคม 2558 (เสาร์-อาทิตย์) ใกล้ถึงวันเดินทาง ทุกคนเตรียมพร้อมและเราไปเที่ยวกันอย่างมีความสุข ฝัน!!!! ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นครับ  ใกล้วันเดินทางไม่กี่วัน มีสายเรียกเข้า เบอร์เพื่อนที่คุ้นเคย โทรมาบอกผมว่า เฮ้ยย ไปไม่ได้แล้วว่ะ สิ้นเดือนพี่ชายจะพาแม่ไปเที่ยวภูทับเบิกเลยต้องไปด้วย อีกคนทักไลน์มาบอก เฮ้ยย ไปไม่ได้ว่ะ ไม่สบาย  โอเคงั้นเลื่อนไปสัปดาห์หน้าก็ได้ ทุกคนตกลงปลงใจกันเลื่อนไป 5-6 กันยายน 2558 (เสาร์-อาทิตย์) ครั้งนี้มีสมาชิกเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันมาเพิ่ม (จาก 6 คน เพิ่มเป็น 8 คน) โอเค เราจะได้ไปเที่ยวกันแล้วเว้ยย มันคงจะสนุกแน่นอน ไปกันเยอะๆ แต่ก็นั่นแหละครับ ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้น ผมมี งานด่วน!!! แทรก โอ้ววว แม่เจ้า มันยากเย็นจริงๆเลย กว่าจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ตอนแรกผมก็ลังเลที่จะไม่รับงานแล้วไปเที่ยวกับเพื่อน  “เงินหาใหม่ได้ว่ะ” เพื่อนมันก็หวังดีบอกว่า “หาเงินก่อนเถอะตอนนี้” สรุปว่าเลื่อนเที่ยวออกไปก่อน จากความกระเหี้ยนกระหือรือตอนแรก มันค่อยๆจางหายไปตามภาระหน้าที่ จนได้ฟังเพลงและชมมิวสิควีดีโอเพลง Vacation Time เพลงประกอบภาพยนตร์ฟรีแลนซ์ฯ มันปลุกความอยากของพวกเราอีกครั้ง “ดื่มชีวิตช้าๆแล้วพักผ่อน ลืมความจริงร้ายๆทิ้งเอาไว้ก่อน” เราปรึกษาและกำหนดวันเดินทางกันอีกครั้ง เราจะไปเที่ยวสังขละฯกัน 3-4 ตุลาคม 2558 (เสาร์-อาทิตย์) เออไปเว้ย เราจะไปเที่ยวกัน  
    
     เฮ้ยยย ไปไม่ได้แล้วว่ะ แม่มาหา
     โทษทีว่ะ ติดสอบ
     เค้าไม่ไปนะแก ที่บ้านมาหา
     ไปไม่ได้ หยุดงาน 2 วันไม่ได้ (ทำธุรกิจส่วนตัว)
     ไม่ไปว่ะ ต้องกลับบ้านกับพี่สาว

จำนวนผู้ร่วมทริป 3 คนถ้วน โอเควันเสาร์ (3 ต.ค.) เจอกัน 7.00 น. ที่ท่ารถตู้หน้าเซนจูรี่  

3 ตุลาคม 2558

         ถึงกำหนดวันเดินทาง ผมรีบออกเดินทางแต่เช้าจากพหลโยธิน 35 (เมเจอร์รัชโยธิน) ไปเซนจูรี่ อากาศดูไม่ค่อยดีนัก เมฆฝนก้อนหนาลอยมาแต่ไกล ผมไปถึง 6.45 น. รอเพื่อนอีกคนมาถึง (มีมาพร้อมกันกับผมหนึ่งคน) ผมโทรหามันว่าถึงไหนแล้ว มันบอกแปปเดียวถึงอยู่บนทางด่วนแล้ว ผมก็คิดว่ามันนั่งแท็กซี่มา ผมเลยเดินไปซื้อตั๋วรถตู้ไปกาญจนบุรีสำหรับ 3 คน คนขายตั๋วก็ถามว่าเพื่อนมาครบหรือยัง ผมบอกว่ายังไม่ครบครับแต่อีกคนใกล้ถึงแล้วครับพี่ ผมเอากระเป๋าไปวางไว้ที่รถ ปรากฎว่าเหลือแค่ 3 ที่นั่งพอดี นั่นหมายความว่าถ้าผมขึ้นรถครบ 3 คน รถจะออกเดินทางทันที เอาแล้วไงครับเรื่องวุ่นวายจึงบังเกิด ผมโทรหาเพื่อนอีกรอบว่าถึงไหนแล้วทั้งรถรอคนเดียว มันด่ากลับมาทันที “ทำไมไม่ปรึกษากูบ้าง”  มันบอกมันนั่งรถตู้มา เอ้า ห่า คิดว่านั่งแทกซี่มา เท่านั้นยังไม่พอครับ เรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดก็เกิดจนได้ “ฝนตก” ตกหนักด้วย ก่อนวันไปพี่ที่ทำงานก็บอกว่าไปเที่ยวระวังนะพายุเข้าฝนมันจะตก ไม่เป็นไรครับผมไม่กลัว สักพักเพื่อนมาถึงมันบอกมันวิ่งบนสกายวอร์คที่อนุสาวรีย์ใส่เกียร์หมามาเลยจากจุดลงรถตู้(ฝั่งพหลที่จะไปจตุจักร) รถตู้ออกเดินทางด้วยบรรยากาศที่ไม่ค่อยอำนวย รถขับเร็วดีครับเร็วจนลืมไปว่าฝนมันกำลังตกอยู่ พี่เค้าคงไม่ได้ใช้ยางสลิกผมก็อธิฐานอย่างนั้น เราถึง บขส.กาญจนบุรีตอน 9.30 น. ไม่รู้ถึงเร็วหรือช้าเพราะไม่เคยมาแต่ฝนตกตลอดทางผมรู้แค่นี้


*** ฝนตกตลอดการเดินทาง ***


         พอถึงเราก็หารถที่จะต่อไปสังขละบุรี มันไปหลายการเดินทางนะครับ รถตู้, รถบัสปรับอากาศ, รถเมล์หวานเย็น เราตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าเราจะไปโดยรถเมล์หวานเย็นกัน มาเที่ยวไม่ต้องรีบร้อนอะไร ก็เดินหารถที่จะไปสังขละฯ ได้รถเที่ยว 10.10 น. ก็จัดแจงเอากระเป๋าไปจองที่ไว้แล้วลงไปหาข้าวกินแถวๆนั้น ถึงเวลารถออกคนก็ทยอยขึ้นมาบนรถจนเต็มคัน นั่งบ้างยืนบ้าง บางคนไปใกล้บางคนไปไกล “หลากหลายเป้าหมายแต่เส้นทางเดียวกัน”


*** บรรยากาศบนรถเมล์หวานเย็น ***


         อ่อพอเราถึงที่ บขส. ฝนหยุดตกแล้วนะครับ อากาศดี ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ พวกเราก็นั่งชมวิวกันตลอดทาง บรรยากาศของความสดชื่นที่หาจาก กทม. ไม่ได้ และก็ถึงเวลาเก็บค่าโดยสาร ก็จ่ายเงินกันปกติแต่มันเริ่มไม่ปกติ ถ้ากระเป๋าไม่ตะโกนถามว่า “มีใครจะไปลงที่สังขละบ้าง” เดี๋ยวๆๆๆ ป้าจะถามทำไมครับ ป้ายหน้ารถป้าบอกว่าไปสังขละฯ ผมกำลังจะโดนทิ้งไว้กลางทางใช่มั้ย ป้านับ 3 (คือพวกผม) และ 4 , 5, 6, ..., 9 คน  โอเคผมสบายใจ ว่าเอาแล้วเว้ยยย ไม่โดนทิ้งแน่เพราะมีคนไปลงเยอะพอสมควร ( 9 คนเยอะตรงไหนวะ ฮ่าๆๆๆ ) ผ่านไปสักช่วงเวลาจากคนแน่นก็ค่อยเหลือน้อยตามระยะทาง ผ่าน 1 ชั่วโมง ผ่าน 2 ชั่วโมง เป็น  2 ชั่วโมงที่เราเดินทางแล้วรู้สึกสนุกแม้ปลายทางที่เราจะไปมันยังอีกไกล ภูเขาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม ดินแดง(เลยไปนิดก็จะถึงอนุสาวรีย์ละ) แหม 5 บาท 10 บาทก็จะเล่น  มันเป็นภาพที่เราเห็นเมื่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ลมเย็นบริสุทธิ์ตีเข้าหน้าสัมผัสถึงออกซิเจนที่วิ่งเข้าร่างกาย เราก็ถ่ายรูปเล่นเก็บบรรยากาศการเดินทางไป เอากล้องมาติดที่ราวจับบนเพดานถ่ายรูปหมู่กับการเดินทางของเรา


*** จำนวนสมาชิก 3 คนถ้วน มาน้อยแต่ร้อยเปอร์เซ็น ***


         ถ่ายได้ประมาณ 3 ภาพ ป้ากระเป๋ารถเมล์เดินมาหาอย่างไว ไอ้หนูเอ็งเอาอะไรติดกัน เอาออกเดี๋ยวนี้เลย ผมก็ถึงกับงงว่า ป้าจะห้ามทำไมครับ แต่ป้าก็มาเฉลยในอีกไม่กี่นาทีว่า “อ้าวว คนที่จะไปสังขละฯ เดี๋ยวไปต่อรถคันหน้าที่จอดอยู่ตรงนั้นนะ” เท่านั้นแหละครับ ผมรีบแกะกล้องออกจากราวจับแทบไม่ทัน ฮ่าๆๆๆ ป้าแกหย่อนพวกเราและคณะลงที่ อ.ทองผาภูมิ หลังจากนั่งรถมาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เราเก็บสัมภาระเพื่อเปลี่ยนคัน รถคันใหม่สภาพก็เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือแดดส่อง เนื่องจากรถโล่งมากก็เลือกที่นั่งตามใจชอบ พี่โชเฟอร์แกคงหวังดีกลัวลูกทัวร์จะเหงาและเบื่อ คุณอาจจะคิดว่าเอ้าก็ดีแล้วนิ นั่งรถเปิดเพลงฟังชิลๆ มันจะดีมากครับถ้าเครื่องเสียงของพี่เค้ามาตรฐานระดับโฮมเทียร์เตอร์หรือลำโพงมาร์แชล แต่ที่ผมได้ยินมันคือเสียงแหลมปี๊ด เสียงเบสไม่ออก ถ้าระดับการปรับค่าเสียงเต็ม 10 คงจะประมาณ แหลม 8 กลาง 6 ทุ้ม 2 เพลงแรกผมจำได้แม่น “ใจสั่งมา” ของพี่เสกโลโซ เสียงกีต้าร์โซโล่มันปาดคมเข้าที่หูซ้ายและขวา ปวดหูมากและรำคาญสุดๆ ชั่วโมงกว่าๆ เริ่มเข้าเขตสังขละฯ มันจะมีสะพานปูนที่ข้ามน้ำยาวๆ เพื่อบอก “มาถึงสังขละบุรีแล้วนะเว้ย เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วลงจากรถซะ” ป้ากระเป๋ารถเมล์(ไม่ใช่คนเดิมจากคันที่แล้วนะครับ) เดินมาถามว่า “!#@*@$@%&$*(^$^_))” ป้าพูดอะไรครับ ผมตะโกนถาม ผมฟังป้าไม่ได้ยิน แกเดินไปบอกให้ลูกชายเบาเสียงเพลง แล้วก็ตะโกนมาอีก “ใครจะลงไปถ่ายรูปที่สะพานมั้ย ให้เวลา 10 นาที” ทุกคนไม่ตอบสนองความตั้งใจของป้าแก เพราะไม่มีใครลงไปสักคน รถจึงออกเดินทางต่อ อีกไม่นานเราก็มาถึงจุดหมายปลายทาง

    “สังขละบุรี” เฮ้ยยย เรามาถึงแล้วเว้ยยยย  หลังจากเดินทางมา 5 ชั่วโมงกว่า สโลว์ไลฟ์มาก ดื่มชีวิตช้าๆแล้วพักผ่อน ช้าสมใจมั้ยละ ฮ่าๆๆๆ  พอถึงสังขละฯ ไหนพายุ ไหนฝน โอ้วโห เจอแต่แดด อากาศร้อนๆ แบบร้อนสัสเอธิโอเปีย แต่ดีแล้วแหละ ร้อนยังดีกว่าฝน พวกเราดูตารางรถขากลับกันไว้ก่อนว่ามีรถกลับเข้ากาญฯ เวลาอะไรบ้าง


*** ตารางเวลารถขากลับเข้ากาญจนบุรี ***


         เราก็เลือกเวลากลับ เราเลือกกลับรถตู้ เอ้า แล้วดูเวลารถเมล์ทำใม เออนั่นนะสิ แต่รถตู้ขึ้นตรงไหนพวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ แถวๆนั้นแหละ ขากลับค่อยหาเอาละกัน  ดูเสร็จก็หาอะไรกินกันก่อนเพราะหิวเหลือเกินเดินทางมานาน ใกล้ๆจุดลงรถมีตลาด ร้านอาหารตามสั่งและก็มี 7-11 เราก็กินข้าวอาหารตามสั่งกัน เพราะมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งปรึกษากันเรื่องที่พัก อย่างที่บอกไปข้างต้นกับชื่อกระทู้เราไม่ได้วางแผนหรือจองที่พักเอาไว้ จากภาพจินตนาการผมคิดว่ามันไม่ใหญ่มาก ลงรถเดินหาๆเอาเดี๋ยวก็เจอ แต่ความจริงๆมันไม่ใช่ มันใหญ่มากและไกลกัน เราเริ่มรู้สึกกังวลถึงการไม่มีที่ซุกหัวนอน เราเสิร์ชหาข้อมูลที่พักจากอินเตอร์เน็ตและโทรสอบถาม แต่ทุกที่เต็มหมด “จะนอนไหนวะ” เพื่อนผมเริ่มวิตก ผมก็ปลอบใจตามทัศนคติคิดบวก “เออ เดินหาๆเอาเดี๋ยวก็มี” เนื่องจากผมคิดเอาเองว่ามันไม่ใช่วันหยุดยาว คนเค้าไม่ค่อยเที่ยวกันหรอก เลยไม่คาดคิดว่าที่พักจะเต็มและหายาก จากที่เราอิ่มแล้วก็มีแรงออกเดินหาที่พักกัน  เดินหาอย่างไร้จุดมุ่งหมาย คิดอย่างเดียวเดินๆไปก่อน เดินไปใกล้ๆสะพานมอญมันต้องมีว่างบ้างละวะ

เดี๋ยวมาต่อนะครับ
ชื่อสินค้า:   สังขละบุรี, กาญจนบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่