...มุมนี้อารมณ์ดี "รอวันฟ้าใส กลุ่มอดีตคนเคยสวยรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง"...20 ตุลาคม 2558...!!!




เม่าฝึกจิตยินดีต้อนรับทุกท่าน ที่มีธรรมะดีๆ มีเรื่อง ตลก ขำขัน อกหัก รักคุด ผ่าฟันคุต ปวดตับ  มาเล่าสู่กันฟังค่ะเม่าฝึกจิต


10 ประเทศที่จะปลอดภัยที่สุด เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3


อันดับ 10  สวิสเซอร์แลนด์ (Switzerland)  สวิสมีภูเขาล้อมรอบ มีนโยบายความเป็นกลางอย่างแน่วแน่มานาน มีบังเกอร์กระจายไปทั่ว พลเมืองมีอาวุธหนัก แม้ว่าสวิสมีพื้นที่ติดกับประเทศเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี แต่ถ้าถูกอาวุธนิวเคลียร์โจมตี สวิสก็มีภูเขาช่วยป้องกัน  สวิสได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นสวรรค์ที่ปลอดภัยในช่วงที่ยุโรปนองเลือดในอดีต

อันดับ 9  ทูวาลู (Tuvalu)  เป็นเกาะที่อยู่ลึกเข้าไปในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นประเทศที่อยู่ห่างไกล และเป็นกลาง มีประชากรน้อยและทรัพยากรน้อย จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่มหาอำนาจจะโจมตี  ทูวาลูบริโภคอาหารและสิ่งของที่ตนผลิตเอง จึงพอเพียงในตัวเอง

อันดับ 8  นิวซีแลนด์ (New Zealand)  เป็นประเทศที่สันโดษและพัฒนา มีประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการทหาร  การมีภูเขาล้อมรอบก็ช่วยปกป้องจากความยุ่งยากที่ไม่พึงประสงค์ได้  นิวซีแลนด์มีอาหารพื้นเมือง มีน้ำสะอาด และดินอุดมสมบูรณ์ที่สามารถหล่อเลี้ยงตัวเองในระยะสั้นได้  นอกจากนี้นิวซีแลนด์ยังมีนโยบายที่สงบสันติ ได้เป็นอันดับ 4 ของดัชนีสันติภาพโลก (Global Peace Index) ในปี 2015

อันดับ 7  ภูฏาน (Bhutan)  แม้ว่าภูฏานจะมีพรมแดนติดกับจีนและอินเดีย ที่อาจเข้าร่วมในสงครามโลก แต่ก็มีลักษณะพิเศษที่เป็นที่พักพิงสำหรับการขัดแย้งทางศาสนา  ภูฏานล้อมรอบด้วยเทือกเขาหิมาลัย เป็นดินแดนไม่ติดทะเล เหมือนแยกออกจากโลกภายนอก  ตั้งแต่เข้าร่วมกับสหประชาชาติ ภูฏานก็มีสถานะคล้ายสวิส ที่ไม่พัวพันกับต่างประเทศในลักษณะใดๆ  นอกจากนี้ภูฏานยังไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐอเมริกา

อันดับ 6  ชิลี (Chile)  เป็นหนึ่งในประเทศอเมริกาใต้ที่มั่นคงและมั่งคั่งที่สุด และมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สูงที่สุดในละตินอเมริกา และยังได้รับการปกป้องการเทือกเขาแอนดีส  ชิลีอยู่ในซีกโลกใต้ที่อากาศมีมลพิษน้อยกว่าซีกโลกเหนือ เพราะมีเมืองใหญ่ๆน้อยกว่า ประชากรน้อยกว่า และมีอุตสาหกรรมน้อยกว่า  อากาศของสองซีกโลกนี้จะแยกออกจากกัน ชิลียังมีอากาศสะอาดจากแอนตาร์กติกเข้ามาเสริม ทำให้อากาศสะอาด

อันดับ 5  ไอซ์แลนด์ (Iceland)  เป็นประเทศที่สงบและเป็นกลางมาก ถูกจัดเป็นอันดับ 1 ของดัชนีสันติภาพโลก ปี 2015  นอกจากไอซ์แลนด์อยู่ห่างไกล ยังไม่มีพรมแดนติดกับประเทศใด  ในกรณีเลวร้ายสุดเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ ไอซ์แลนด์ก็มีภูเขาช่วยปกป้อง

อันดับ 4  เดนมาร์ค (Denmark)  เดนมาร์คมีแนวโน้มว่า จะเดือดร้อนมากถ้าเกิดความขัดแย้งกระจายทั่วยุโรป เพราะเดนมาร์คเข้าร่วมใน NATO (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ)  และมีใกล้ชิดกับสหภาพยุโรป  อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด และต้องขอบคุณข้อยกเว้นคือ กรีนแลนด์ (Greenland) ซึ่งเป็นดินแดนของเดนมาร์คที่เป็นเกาะ กรีนแลนด์คล้ายไอซ์แลนด์ ที่อยู่ห่างไกล เต็มไปด้วยภูเขา และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทางการเมือง  ประชาชนของกรีนแลนด์ก็จะมีเวลาที่จะหาที่ปลอดภัยและพยายามมีชีวิตอยู่ได้ในสงครามโลกครั้งที่ 3

อันดับ 3  มอลตา (Malta)  เป็นเหมือนป้อมปราการที่เป็นเกาะเล็กๆในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากประวัติศาสตร์การทำสงครามศาสนา จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรวรรดินิยมไม่สามารถยึดมอลต้าเป็นเมืองขึ้นได้  นอกจากนี้มอลตายังเป็นเกาะที่เล็กมาก จึงไม่มีเหตุผลสมควรที่จะต้องเสียขีปนาวุธทำลายมอลตา  มอลตาจึงไม่น่าจะเป็นจุดสนใจของประเทศคู่สงคราม

อันดับ 2  ไอร์แลนด์ (Ireland)  เป็นประเทศที่มั่ง พัฒนาแล้ว และไม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับประเทศที่อาจเป็นคู่สงครามในสงครามโลกครั้งที่ 3  ไอร์แลนด์มีนโยบายที่เป็นอิสระไม่พึ่งพา และไม่เป็นสมาชิก NATO มีจุดยืนที่เป็นกลางทางการทหาร และจากกฎหมายของไอริช การที่ไอร์แลนด์จะเข้าสู่สงครามได้ ต้องได้รับการยินยอมจากสหประชาชาติ

อันดับ 1  ฟิจิ (Fiji)  เป็นประเทศที่อยู่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างขวาง ทำให้ยากต่อการรุกราน มีประชากรน้อย มีความเป็นกลางทางการเมืองต่างประเทศ  ฟิจิไม่มีทรัพยากร จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะถูกรุกราน  ยิ่งกว่านั้นคือ เป็นพันๆปีมาแล้ว ที่ฟิจิสนับสนุนการตั้งรกรากและการดำรงชีพของมนุษยชาติ หลังจากที่เกิดความขัดแย้งทั่วโลก




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



"รอวันฟ้าใส ...กลุ่มอดีตคนเคยสวยรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง"



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่