ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าในละครหรือนิยายอีก(สำหรับผม)
ช่วงเวลากับอายุ 25 ปีผมผิดหวังกับคำว่า "การทิ้ง"ของความรักมา 3 ครั้ง และครั้งล่าสุด(ครั้งที่ 3)ของผมก็มาถึง
ผมคบกับเธอในช่วงเวลาที่เข้ามหาลัย การพบเจอครั้งแรกผมจำได้ดี ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง เราคบกันมา 6-7 ปี ตลอดเวลาช่วงนั้นคือเรียกได้ว่าเป็นปาท่องโก๋ ตัวติดกันตลอด เพื่อนๆเจอคือมีผมต้องมีเธาด้วย ไปไหนมาไหนด้วยกัน พาไปที่บ้านบางครั้งผมก็อยู่บ้านเขาสะส่วนใหญ่ เพราะผมเลือกที่ทำงานใกล้บ้านเธอ จะได้ช่วยอะไรได้บ้างเวลาผมเลิกงาน เวลาว่างก็ตามประสาแฟน เที่ยวบ้าง กินของอร่อยๆด้วยกัน ดินเนอวันสำคัญ ซื้อของให้กันบางครั้งบางคราว
แต่ช่วงหลังๆเราไม่ค่อยมีเวลา ทะเลาะกันบ่อย เพราะทำแต่งาน(ที่ทำงานใหม่ใกล้บ้านตัวเอง และดีกว่าที่เก่า)ยอมรับว่าผมอยากผ่านโปรครับ เพราะแต่ก่อนเปลี่ยนงานบ่อยมาก ได้งานผ่านโปรผมตั้งใจว่าจะขอหมั้นเธอทันทีเป็นเซอร์ไพส์ แต่กลับต้องเปลี่ยนไปทุกอย่างที่คิดไว้ เพราะช่วงเวลาที่ผมทำโปร เราค่อนข้างที่จะทะเลาะกันบ่อยเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ครั้งนี้คือแรงจริงและตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายคำบอกลาที่เธอพูดคือ "คบกับเธอไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย" (ฮาดคอกว่านี้อันนี้เขียนให้ดูเบาลง) สิ้นสุดคำพูดผมวางหู รู้สึกช๊อคมากกับประโยคนี้ แต่ต้องโฟกัสงานก่อนเพราะคืออนาคต เรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะเปนแฟนกันต้องมีทะเลาะกันบ้าง เดี๋ยวค่อยง้อ รอให้เธออารมเย็นลงกว่านี้
แต่สิ่งที่ผมเจอคือ การบล๊อคไลน์ "โอเคไม่เป็นไรคงงอน ไม่อยากคุย" เฟสโดนบล๊อค เบอร์ก็โดนบล๊อค บล๊อคมันสะทุกอย่าง เอาเบอร์แปลกโทรไปเธอรับพอได้ยินเสียงผมวางหูและบล๊อคทันที ผมเริ่มไม่โอเคละ และผมบอกกับตัวเองว่าไม่ไปบ้านเธอเพราะผมรู้ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน อีกอย่างไม่อยากให้ผู้ใหญ่ที่บ้านมองเราเป็นตัวไร้สาระ พยายามสืบจนรู้ว่า เธอมีคนใหม่ไปแล้ว และคนใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ช.ที่เธอเคยคบมาก่อนผมแต่เขาไป ตปท. และประวัติ ช.คนนี้ค่อนข้างแย่ เพียงแค่ว่า "รวย"กว่า ถามว่าผมรู้เรื่อง ช. คนนี้ได้ไง เพราะเธอเองแหละครับเล่าให้ผมฟัง บอกให้ผมเกลียด แต่กลายเป็นว่า กลับไปคบกับเขาอีกสะงั้น
เสียใจครับร้องไห้เป็นเด็กงอแงจนขนาดแม่ตัวเองต้องมาปลอบใจ ทุเรศตัวเอง นอนไม่ได้ พอหลับก็ฝันเห็น รู้สึกแย่ตลอด ถึงขั้นผอมลง ในหัวคือ "ทำไมวะในเมื่อเราทำทุกอย่างเสียเวลาทุกอย่าง ถึงต้องได้รับสิ่งแบบนี้ด้วย ?" คำถามนี้เกิดขึ้นในหัว ไปพร้อมกับเสียงเธอที่พูดประโยคสุดท้ายว่า "คบกับเธอไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลย"
ผ่านมา 6 เดือนกับเรื่องที่เกิดผมก็ผ่านโปรแล้ว แลกกับการที่ไม่มีเธอมาอยู่ข้างๆ ผมหลุดออกจากความรู้สึกเสียใจมาแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งผมติดอยู่กับคำว่าผูกพันและคิดถึง คิดทีไรผมเสียใจตลอด แต่ตอนนี้ผมต้องขอบคุณเขาที่เขาทิ้งผมไป ขอบคุณอนาคตที่ดีกว่า ผมมีเงินเก็บเป็นของตัวเองจากที่ไม่เคยมี ผมมีเสื้อผ้าใหม่ๆจากแต่ก่อนใส่ตัวเดิมๆ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมานานและผมขอโทษที่ทำให้รู้สึกว่าไม่น่ามาคบกับผม ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา
สำหรับคนที่เป็นคล้ายๆผม จงคิดไว้เสมอว่า มีคนอีกเป็นล้าน ที่เจอหนักกว่าเรา ทะเลาะกันอย่าปล่อยให้บานปลาย คุยกับเขาเหมือนเราเจอกันครั้งแรก รักใครคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นได้ ทุกอย่างมีเหตุและผลของมัน ถ้าจะจบก็จบกันด้วยเหตุผล แล้วเราก็จะอยู่กับมันง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะเสียใจแค่ไหน ร้องไห้ไปเถอะครับคนเรา

ไม่ใช่ก้อนอิฐก้อนปูน ที่พอมันแตกสลายแล้วไม่รู้สึกอะไร อยู่กับเรื่องที่เกิดให้ได้และต้องยอมรับให้ได้
**** ขออภัยด้วยนะครับถ้าหากแทคผิดห้อง และคำพูดตกหล่น ****
คำบอกลากับชีวิตที่เปลี่ยนไป
ช่วงเวลากับอายุ 25 ปีผมผิดหวังกับคำว่า "การทิ้ง"ของความรักมา 3 ครั้ง และครั้งล่าสุด(ครั้งที่ 3)ของผมก็มาถึง
ผมคบกับเธอในช่วงเวลาที่เข้ามหาลัย การพบเจอครั้งแรกผมจำได้ดี ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง เราคบกันมา 6-7 ปี ตลอดเวลาช่วงนั้นคือเรียกได้ว่าเป็นปาท่องโก๋ ตัวติดกันตลอด เพื่อนๆเจอคือมีผมต้องมีเธาด้วย ไปไหนมาไหนด้วยกัน พาไปที่บ้านบางครั้งผมก็อยู่บ้านเขาสะส่วนใหญ่ เพราะผมเลือกที่ทำงานใกล้บ้านเธอ จะได้ช่วยอะไรได้บ้างเวลาผมเลิกงาน เวลาว่างก็ตามประสาแฟน เที่ยวบ้าง กินของอร่อยๆด้วยกัน ดินเนอวันสำคัญ ซื้อของให้กันบางครั้งบางคราว
แต่ช่วงหลังๆเราไม่ค่อยมีเวลา ทะเลาะกันบ่อย เพราะทำแต่งาน(ที่ทำงานใหม่ใกล้บ้านตัวเอง และดีกว่าที่เก่า)ยอมรับว่าผมอยากผ่านโปรครับ เพราะแต่ก่อนเปลี่ยนงานบ่อยมาก ได้งานผ่านโปรผมตั้งใจว่าจะขอหมั้นเธอทันทีเป็นเซอร์ไพส์ แต่กลับต้องเปลี่ยนไปทุกอย่างที่คิดไว้ เพราะช่วงเวลาที่ผมทำโปร เราค่อนข้างที่จะทะเลาะกันบ่อยเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ครั้งนี้คือแรงจริงและตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายคำบอกลาที่เธอพูดคือ "คบกับเธอไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย" (ฮาดคอกว่านี้อันนี้เขียนให้ดูเบาลง) สิ้นสุดคำพูดผมวางหู รู้สึกช๊อคมากกับประโยคนี้ แต่ต้องโฟกัสงานก่อนเพราะคืออนาคต เรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะเปนแฟนกันต้องมีทะเลาะกันบ้าง เดี๋ยวค่อยง้อ รอให้เธออารมเย็นลงกว่านี้
แต่สิ่งที่ผมเจอคือ การบล๊อคไลน์ "โอเคไม่เป็นไรคงงอน ไม่อยากคุย" เฟสโดนบล๊อค เบอร์ก็โดนบล๊อค บล๊อคมันสะทุกอย่าง เอาเบอร์แปลกโทรไปเธอรับพอได้ยินเสียงผมวางหูและบล๊อคทันที ผมเริ่มไม่โอเคละ และผมบอกกับตัวเองว่าไม่ไปบ้านเธอเพราะผมรู้ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน อีกอย่างไม่อยากให้ผู้ใหญ่ที่บ้านมองเราเป็นตัวไร้สาระ พยายามสืบจนรู้ว่า เธอมีคนใหม่ไปแล้ว และคนใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ช.ที่เธอเคยคบมาก่อนผมแต่เขาไป ตปท. และประวัติ ช.คนนี้ค่อนข้างแย่ เพียงแค่ว่า "รวย"กว่า ถามว่าผมรู้เรื่อง ช. คนนี้ได้ไง เพราะเธอเองแหละครับเล่าให้ผมฟัง บอกให้ผมเกลียด แต่กลายเป็นว่า กลับไปคบกับเขาอีกสะงั้น
เสียใจครับร้องไห้เป็นเด็กงอแงจนขนาดแม่ตัวเองต้องมาปลอบใจ ทุเรศตัวเอง นอนไม่ได้ พอหลับก็ฝันเห็น รู้สึกแย่ตลอด ถึงขั้นผอมลง ในหัวคือ "ทำไมวะในเมื่อเราทำทุกอย่างเสียเวลาทุกอย่าง ถึงต้องได้รับสิ่งแบบนี้ด้วย ?" คำถามนี้เกิดขึ้นในหัว ไปพร้อมกับเสียงเธอที่พูดประโยคสุดท้ายว่า "คบกับเธอไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลย"
ผ่านมา 6 เดือนกับเรื่องที่เกิดผมก็ผ่านโปรแล้ว แลกกับการที่ไม่มีเธอมาอยู่ข้างๆ ผมหลุดออกจากความรู้สึกเสียใจมาแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งผมติดอยู่กับคำว่าผูกพันและคิดถึง คิดทีไรผมเสียใจตลอด แต่ตอนนี้ผมต้องขอบคุณเขาที่เขาทิ้งผมไป ขอบคุณอนาคตที่ดีกว่า ผมมีเงินเก็บเป็นของตัวเองจากที่ไม่เคยมี ผมมีเสื้อผ้าใหม่ๆจากแต่ก่อนใส่ตัวเดิมๆ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมานานและผมขอโทษที่ทำให้รู้สึกว่าไม่น่ามาคบกับผม ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา
สำหรับคนที่เป็นคล้ายๆผม จงคิดไว้เสมอว่า มีคนอีกเป็นล้าน ที่เจอหนักกว่าเรา ทะเลาะกันอย่าปล่อยให้บานปลาย คุยกับเขาเหมือนเราเจอกันครั้งแรก รักใครคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นได้ ทุกอย่างมีเหตุและผลของมัน ถ้าจะจบก็จบกันด้วยเหตุผล แล้วเราก็จะอยู่กับมันง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะเสียใจแค่ไหน ร้องไห้ไปเถอะครับคนเรา
**** ขออภัยด้วยนะครับถ้าหากแทคผิดห้อง และคำพูดตกหล่น ****