สวัสดียามเช้า วันอังคาร ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน
เมื่อวานนี้ดัชนี SET index ยังคงเผชิญกับแรงเทขายออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน ภายหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจ
ประเทศจีน ประกาศออกมา ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สลับกันไป อย่างไรก็ตามช่วงท้ายๆตลาด ก็ได้มีแรงซื้อจากนักลงทุนบางกลุ่ม
กลับเข้ามาในตลาด คาดว่าพากันเก็งผลการประชุม ECB ในวันที่ 22 ตุลา นี้ ซึ่งมีโอกาสที่ ว่าจะมีการออก QE เพิ่ม
หรือจะยืดเวลาใช้ QE ไปอีกนานแค่ไหน เนื่องจากเงินเฟ้อออกมายังไม่ได้เป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นจึงทำให้ดัชนี
SET index ย่อตัวลงไปปิดที่ระดับ 1416 จุด +1.47 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถกลับไปยืน 1420 ได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดลบ 84.01 จุด หรือ -0.36% แตะที่ 22,991.60 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวล
เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวช้าลงในไตรมาส 3 ปีนี้
ทางการจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จีดีพีไตรมาส 3 ของจีนขยายตัวเพียง 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี
และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวช้าลงในไตรมาส 3 ปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,230.54 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ +0.08%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,905.47 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.38%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,033.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.03%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้น 0.6% และหุ้นอินเทลปรับขึ้น 1.7% ทั้งนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากข่าวการทำข้อตกลงซื้อกิจการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงข่าวที่ว่าบริษัทไมโครเซมิ คอร์ป
เสนอซื้อกิจการบริษัทพีเอ็มซี-เซียร์รา อิงค์ เป็นวงเงินสูงถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นไนกี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ ปรับตัวขึ้น 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีบีแอนด์ที แคปิตอล มาร์เก็ต ได้ปรับเพิ่มน้ำหนัก
ความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้ขึ้นสู่ระดับ "buy" จากเดิมที่ระดับ "hold"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนต.ค.
อยู่ที่ระดับ 64 ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 62 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2005 โดยได้รับแรงหนุน
จากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากมีรายงานว่า
จีดีพีไตรมาส 3 ของจีนขยายตัวเพียง 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีน
ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 4.8% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์รายงานว่า ทางธนาคารมีกำไรลดลงสู่ระดับ 1.02 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือ
48 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 1.69 พันล้านดอลลาร์ หรือ 83 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเช่นกัน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.3%
หุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ คอร์ป ดีดตัวขึ้น 4.7% และหุ้นมาราธอน ออยล์ คอร์ป พุ่งขึ้นราว 4.8%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.ย.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.,
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก Conference Board และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นดอยช์แบงก์ หลังจากที่ทางธนาคารประกาศ
ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อพลิกฟื้นผลประกอบการ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 364.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,704.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.03%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,164.31 จุด เพิ่มขึ้น 59.88 จุด หรือ +0.59%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,352.33 จุด ลดลง 25.71 จุด หรือ -0.40%
หุ้นดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากทางธนาคารประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อพลิกฟื้นศักยภาพในการ
ทำกำไร และเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงหลังจากที่ธนาคารต้องเผชิญกับเหตุการณ์อื้อฉาว เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ดอยช์แบงก์ต้องจ่ายเงินสูงถึง
55 ล้านดอลลาร์ให้แก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่ว่า ทางธนาคารได้ปกปิดตัวเลขขาดทุน
มากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงวิกฤติการเงินที่เริ่มขึ้นในปี 2008
หุ้นดานอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโยเกิร์ตรายใหญ่ของยุโรป ปรับขึ้น 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่สูงเกินคาดในไตรมาส 3 ขณะที่หุ้นเมโทร
ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายในปีนี้และเชื่อมั่นว่ายอดขายของบริษัทจะ
แข็งแกร่งขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
นักลงทุนยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวของข่าวโฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยต์รายใหญ่ของเยอรมนี โดยรายงานล่าสุดระบุว่า อัยการสเปนเรียกร้องให้ศาลยุติธรรมของประเทศทำการสอบสวนบริษัทโฟล์คสวาเกนในข้อหาฉ้อโกง และละเมิดกฎคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หลังเกิดข่าวอื้อฉาวของการโกงการตรวจ
จับมลพิษในไอเสีย
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการได้ส่งคำแนะนำดังกล่าวไปยังผู้พิพากษาอิสมาเอล มอเรโน โดยระบุว่า ความผิดดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วสเปน
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานนี้ดัชนี ยังคงมีความพยายามจะขึ้นไปทดสอบ 1430 จุด อีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
เนื่องจากเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน และปิดแท่งเทียนไปแบบ "Two Black Crows"
ซึ่งยังคงทำให้สัญญาณระยะสั้นดูแย่ลงเล็กน้อย และ วันนี้มีโอกาสลงไปทดสอบ เส้น EMA75 วัน ถ้าหลุดลงไป ระวังเกิด
แรง Panic Sell เบาๆ // แต่ถ้าหากไม่หลุด ลงไป ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound กลับขึ้นไป
ทดสอบ 1430 อกีครั้งในวันถัดไป
S50Z15 TF Day : เมื่อวานนี้ดัชนี ยังคงมีความพยายามจะขึ้นไปทดสอบ 925 จุด อีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
เนื่องจากเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน และปิดแท่งเทียนไปแบบ "Two Black Crows"
ซึ่งยังคงทำให้สัญญาณระยะสั้นดูแย่ลงเล็กน้อย และ วันนี้มีโอกาสลงไปทดสอบ เส้น EMA75 วัน ถ้าหลุดลงไป ระวังเกิด
แรง Panic Sell เบาๆ // แต่ถ้าหากไม่หลุด ลงไป ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound กลับขึ้นไป
ทดสอบ 930 อีกครั้ง
TF60 : เช้าวานนี้ ดัชนีได้เผชิญแรงเทขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ทำให้กลับลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ (903 - 922 ) อีกครั้ง
"รู้สึกว่าจะอาลัย-อาวอนกรอบนี้นานเหลือกัน " ซึ่งถ้าหากวันนี้ ดัชนียังคงไหลร่วง ลงไปต่อ ก็จะเป็นการยืนยัน False Break
และมีโอกาสกลับลงไปต่ำกว่า 900 อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่ย่อต่อ แล้ววันนี้พุ่งทะยานขึ้นไปยืนเหนือ 930 ได้ ก็จะเป็นการ
ยืนยันหูถ้วย "Cup with Handle" พร้อมมุ่งสู่ดวงดาวอันไกลโพ้น
Resistance 920 925 930 935 / 1420 1424 1430
Support 911 906 900 / 1410 1404 1400
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (20 Oct 15)
สวัสดียามเช้า วันอังคาร ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน
เมื่อวานนี้ดัชนี SET index ยังคงเผชิญกับแรงเทขายออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน ภายหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจ
ประเทศจีน ประกาศออกมา ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สลับกันไป อย่างไรก็ตามช่วงท้ายๆตลาด ก็ได้มีแรงซื้อจากนักลงทุนบางกลุ่ม
กลับเข้ามาในตลาด คาดว่าพากันเก็งผลการประชุม ECB ในวันที่ 22 ตุลา นี้ ซึ่งมีโอกาสที่ ว่าจะมีการออก QE เพิ่ม
หรือจะยืดเวลาใช้ QE ไปอีกนานแค่ไหน เนื่องจากเงินเฟ้อออกมายังไม่ได้เป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นจึงทำให้ดัชนี
SET index ย่อตัวลงไปปิดที่ระดับ 1416 จุด +1.47 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถกลับไปยืน 1420 ได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดลบ 84.01 จุด หรือ -0.36% แตะที่ 22,991.60 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวล
เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวช้าลงในไตรมาส 3 ปีนี้
ทางการจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จีดีพีไตรมาส 3 ของจีนขยายตัวเพียง 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี
และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวช้าลงในไตรมาส 3 ปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,230.54 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ +0.08%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,905.47 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.38%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,033.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.03%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้น 0.6% และหุ้นอินเทลปรับขึ้น 1.7% ทั้งนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากข่าวการทำข้อตกลงซื้อกิจการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงข่าวที่ว่าบริษัทไมโครเซมิ คอร์ป
เสนอซื้อกิจการบริษัทพีเอ็มซี-เซียร์รา อิงค์ เป็นวงเงินสูงถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นไนกี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ ปรับตัวขึ้น 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีบีแอนด์ที แคปิตอล มาร์เก็ต ได้ปรับเพิ่มน้ำหนัก
ความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้ขึ้นสู่ระดับ "buy" จากเดิมที่ระดับ "hold"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนต.ค.
อยู่ที่ระดับ 64 ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 62 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2005 โดยได้รับแรงหนุน
จากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากมีรายงานว่า
จีดีพีไตรมาส 3 ของจีนขยายตัวเพียง 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีน
ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 4.8% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์รายงานว่า ทางธนาคารมีกำไรลดลงสู่ระดับ 1.02 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือ
48 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 1.69 พันล้านดอลลาร์ หรือ 83 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเช่นกัน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.3%
หุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ คอร์ป ดีดตัวขึ้น 4.7% และหุ้นมาราธอน ออยล์ คอร์ป พุ่งขึ้นราว 4.8%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.ย.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.,
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก Conference Board และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นดอยช์แบงก์ หลังจากที่ทางธนาคารประกาศ
ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อพลิกฟื้นผลประกอบการ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 364.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,704.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.03%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,164.31 จุด เพิ่มขึ้น 59.88 จุด หรือ +0.59%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,352.33 จุด ลดลง 25.71 จุด หรือ -0.40%
หุ้นดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากทางธนาคารประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อพลิกฟื้นศักยภาพในการ
ทำกำไร และเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงหลังจากที่ธนาคารต้องเผชิญกับเหตุการณ์อื้อฉาว เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ดอยช์แบงก์ต้องจ่ายเงินสูงถึง
55 ล้านดอลลาร์ให้แก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่ว่า ทางธนาคารได้ปกปิดตัวเลขขาดทุน
มากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงวิกฤติการเงินที่เริ่มขึ้นในปี 2008
หุ้นดานอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโยเกิร์ตรายใหญ่ของยุโรป ปรับขึ้น 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่สูงเกินคาดในไตรมาส 3 ขณะที่หุ้นเมโทร
ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายในปีนี้และเชื่อมั่นว่ายอดขายของบริษัทจะ
แข็งแกร่งขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
นักลงทุนยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวของข่าวโฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยต์รายใหญ่ของเยอรมนี โดยรายงานล่าสุดระบุว่า อัยการสเปนเรียกร้องให้ศาลยุติธรรมของประเทศทำการสอบสวนบริษัทโฟล์คสวาเกนในข้อหาฉ้อโกง และละเมิดกฎคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หลังเกิดข่าวอื้อฉาวของการโกงการตรวจ
จับมลพิษในไอเสีย
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการได้ส่งคำแนะนำดังกล่าวไปยังผู้พิพากษาอิสมาเอล มอเรโน โดยระบุว่า ความผิดดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วสเปน
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานนี้ดัชนี ยังคงมีความพยายามจะขึ้นไปทดสอบ 1430 จุด อีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
เนื่องจากเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน และปิดแท่งเทียนไปแบบ "Two Black Crows"
ซึ่งยังคงทำให้สัญญาณระยะสั้นดูแย่ลงเล็กน้อย และ วันนี้มีโอกาสลงไปทดสอบ เส้น EMA75 วัน ถ้าหลุดลงไป ระวังเกิด
แรง Panic Sell เบาๆ // แต่ถ้าหากไม่หลุด ลงไป ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound กลับขึ้นไป
ทดสอบ 1430 อกีครั้งในวันถัดไป
S50Z15 TF Day : เมื่อวานนี้ดัชนี ยังคงมีความพยายามจะขึ้นไปทดสอบ 925 จุด อีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
เนื่องจากเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน และปิดแท่งเทียนไปแบบ "Two Black Crows"
ซึ่งยังคงทำให้สัญญาณระยะสั้นดูแย่ลงเล็กน้อย และ วันนี้มีโอกาสลงไปทดสอบ เส้น EMA75 วัน ถ้าหลุดลงไป ระวังเกิด
แรง Panic Sell เบาๆ // แต่ถ้าหากไม่หลุด ลงไป ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound กลับขึ้นไป
ทดสอบ 930 อีกครั้ง
TF60 : เช้าวานนี้ ดัชนีได้เผชิญแรงเทขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ทำให้กลับลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ (903 - 922 ) อีกครั้ง
"รู้สึกว่าจะอาลัย-อาวอนกรอบนี้นานเหลือกัน " ซึ่งถ้าหากวันนี้ ดัชนียังคงไหลร่วง ลงไปต่อ ก็จะเป็นการยืนยัน False Break
และมีโอกาสกลับลงไปต่ำกว่า 900 อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่ย่อต่อ แล้ววันนี้พุ่งทะยานขึ้นไปยืนเหนือ 930 ได้ ก็จะเป็นการ
ยืนยันหูถ้วย "Cup with Handle" พร้อมมุ่งสู่ดวงดาวอันไกลโพ้น
Resistance 920 925 930 935 / 1420 1424 1430
Support 911 906 900 / 1410 1404 1400
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ