สวัสดีครับ วันนี้ผมได้รับหลังไมค์จาก สมาชิกหมายเลข 817140 ให้ช่วยตั้งกระทู้เสนอข่าวทางดาราศาสตร์หัวข้อหนึ่ง
เกี่ยวกับความแปลกประหลาดของดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง คือ KIC 8462852 ตามเนื้อหาดังนี้ครับ .....
พบแสงประหลาด! นักดาราศาสตร์เผยมีสิ่งก่อสร้างบนดาวฤกษ์แน่นอน
และแล้วโลกเราก็ไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตดวงเดียวอีกต่อไปเพราะเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 นี้ผ่านมาสำนักข่าวเดลี่เมล์
ได้ลงข่าวว่านักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยลและสถาบันเซติ (SETI) ได้เผยว่าได้จับตามองดาวฤกษ์ชื่อ KIC 8462852
ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโลก 1,480 ปีแสงมาเป็นเวลานานกว่า 4 ปีผ่านทางกล้องโทรทรรศน์อวกาศของยานเคปเลอร์ เพราะเนื่องจากว่า
มันนั้นมีแสงแปลกประหลาดกว่าดาวฤกษ์ทั่วไปจึงทำให้เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งก่อสร้างของเอเลี่ยนโคจรอยู่รอบดาว KIC 8462852
และดูดเอาแสงจากดาวไปเพื่อเป็นพลังงาน
ตัวอย่างภาพ (ในจินตนาการ) ของ MEGASTRUCTURE ที่มนุษย์ต่างดาวสร้างครอบดาวฤกษ์ใว้ดูดพลังงานของดาว
Source
http://goo.gl/BJx9NW
http://edition.cnn.com/2015/10/15/world/extraterrestrial-intelligence-anomaly/
และเนื้อความต่อไปนี้ คือข้อมูลที่ผมหามาเพิ่มเติมครับ ว่าความแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรกันแน่ ?
ดาวฤกษ์ KIC 8462852 นี้ เป็นดาวฤกษ์ที่ใหญ่กว่าดวงอาทิตย์เล็กน้อย อยู่ในทิศทางกลุ่มดาวหงส์ ห่างจากโลก
1,480 ปีแสง ดาวดวงนี้ได้รับชื่อเล่นว่า Tabby's star ซึ่งตั้งตามชื่อนักดาราศาสตร์หญิง Tabetha S. Boyajian ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม
ที่ศึกษาเรื่อง Light curve ที่แปลกประหลาดของดาวดวงนี้ครับ อีกชื่อหนึ่ง คือ
WTF star ย่อมาจาก Where's The Flux ?
ซึ่ง Flux นี้คือ ความเข้มแสง .... Where's the flux นี้ก็คือ ความเข้มแสงของเธอหายไปใหนกันนี่ ??
ตำแหน่งของดาวฤกษ์ KIC 8462852
ดาวฤกษ์ KIC 8462852 เริ่มแสดงความแปลกประหลาดออกมาจาก Light curve ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากถึง 20%
โดยการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของแสงจากดาวดวงนี้ ไม่เป็นไปตามทฤษฏีต่าง ๆ ที่เคยพบเจอ แต่ความเข้มแสงมีการเปลี่ยนแปลง
แบบสุ่ม ดังนั้น จึงมีข้อสันนิษฐานออกมาหลายข้อ คือ อาจมีดาวหางเคลื่อนที่ผ่านและก่อกำเนิดเมฆมวลสารออกมาหนาแน่น
จนบดบังแสงของดาวไปมาก ข้อสันนิษฐานอื่น ๆ คือ อาจมีแถบดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่บดบังแสง หรือ อาจกำลังมีการ
ก่อตัวของ protoplanetary disk ที่กำลังจะกลายไปเป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่
ภาพแสดง Light curve ของแสงจากดาวดวงนี้ จะมีช่วงที่ผิดปกติมากในวันที่ 800
และที่สำคัญคือวันที่ 1510 - 1570 ที่แสงลดลงไปกว่า 22% (ถือว่ามากแบบน่าตกใจ)
แผนการศึกษาต่อไป คือ ทาง SETI Institute (สถาบันเซติ) มีแผนที่จะใช้ Radio Telescope หลายตัวรับสัญญาณ
จากดาวฤกษ์ดวงนี้ เพื่อหวังผลในการ รับสัญญาณ จากสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาได้
รอต่อไปครับ สวัสดีครับ
พบดาวฤกษ์ที่มี Light curve แปลกประหลาด .... จะเกี่ยวข้องกับ Alien หรือไม่ ??
เกี่ยวกับความแปลกประหลาดของดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง คือ KIC 8462852 ตามเนื้อหาดังนี้ครับ .....
พบแสงประหลาด! นักดาราศาสตร์เผยมีสิ่งก่อสร้างบนดาวฤกษ์แน่นอน
และแล้วโลกเราก็ไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตดวงเดียวอีกต่อไปเพราะเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 นี้ผ่านมาสำนักข่าวเดลี่เมล์
ได้ลงข่าวว่านักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยลและสถาบันเซติ (SETI) ได้เผยว่าได้จับตามองดาวฤกษ์ชื่อ KIC 8462852
ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโลก 1,480 ปีแสงมาเป็นเวลานานกว่า 4 ปีผ่านทางกล้องโทรทรรศน์อวกาศของยานเคปเลอร์ เพราะเนื่องจากว่า
มันนั้นมีแสงแปลกประหลาดกว่าดาวฤกษ์ทั่วไปจึงทำให้เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งก่อสร้างของเอเลี่ยนโคจรอยู่รอบดาว KIC 8462852
และดูดเอาแสงจากดาวไปเพื่อเป็นพลังงาน
ตัวอย่างภาพ (ในจินตนาการ) ของ MEGASTRUCTURE ที่มนุษย์ต่างดาวสร้างครอบดาวฤกษ์ใว้ดูดพลังงานของดาว
Source
http://goo.gl/BJx9NW
http://edition.cnn.com/2015/10/15/world/extraterrestrial-intelligence-anomaly/
และเนื้อความต่อไปนี้ คือข้อมูลที่ผมหามาเพิ่มเติมครับ ว่าความแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรกันแน่ ?
ดาวฤกษ์ KIC 8462852 นี้ เป็นดาวฤกษ์ที่ใหญ่กว่าดวงอาทิตย์เล็กน้อย อยู่ในทิศทางกลุ่มดาวหงส์ ห่างจากโลก
1,480 ปีแสง ดาวดวงนี้ได้รับชื่อเล่นว่า Tabby's star ซึ่งตั้งตามชื่อนักดาราศาสตร์หญิง Tabetha S. Boyajian ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม
ที่ศึกษาเรื่อง Light curve ที่แปลกประหลาดของดาวดวงนี้ครับ อีกชื่อหนึ่ง คือ WTF star ย่อมาจาก Where's The Flux ?
ซึ่ง Flux นี้คือ ความเข้มแสง .... Where's the flux นี้ก็คือ ความเข้มแสงของเธอหายไปใหนกันนี่ ??
ตำแหน่งของดาวฤกษ์ KIC 8462852
ดาวฤกษ์ KIC 8462852 เริ่มแสดงความแปลกประหลาดออกมาจาก Light curve ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากถึง 20%
โดยการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของแสงจากดาวดวงนี้ ไม่เป็นไปตามทฤษฏีต่าง ๆ ที่เคยพบเจอ แต่ความเข้มแสงมีการเปลี่ยนแปลง
แบบสุ่ม ดังนั้น จึงมีข้อสันนิษฐานออกมาหลายข้อ คือ อาจมีดาวหางเคลื่อนที่ผ่านและก่อกำเนิดเมฆมวลสารออกมาหนาแน่น
จนบดบังแสงของดาวไปมาก ข้อสันนิษฐานอื่น ๆ คือ อาจมีแถบดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่บดบังแสง หรือ อาจกำลังมีการ
ก่อตัวของ protoplanetary disk ที่กำลังจะกลายไปเป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่
ภาพแสดง Light curve ของแสงจากดาวดวงนี้ จะมีช่วงที่ผิดปกติมากในวันที่ 800
และที่สำคัญคือวันที่ 1510 - 1570 ที่แสงลดลงไปกว่า 22% (ถือว่ามากแบบน่าตกใจ)
แผนการศึกษาต่อไป คือ ทาง SETI Institute (สถาบันเซติ) มีแผนที่จะใช้ Radio Telescope หลายตัวรับสัญญาณ
จากดาวฤกษ์ดวงนี้ เพื่อหวังผลในการ รับสัญญาณ จากสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาได้
รอต่อไปครับ สวัสดีครับ