When in Seoul : Spring Episode

Spring In Seoul
15 - 22 April 2015



แชร์ประสบการณ์การเที่ยวโซล ครั้งแรกของเรากับมนุษย์ป้าผู้น่ารักทั้งหลาย
ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะพี่สาวตัวดี ส่งราคาตั๋วไป-กลับโซล เกาหลีใต้ เข้ามาในกรุ๊ปไลน์ของครอบครัว
มนุษย์ป้าผู้หลงไหลการท่องเที่ยวมีเหรอจะปล่อยผ่าน ทุกคนตอบตกลงทันที
เราเลือกเดินทางช่วงSpringค่ะ เพราะกลัวอากาศหนาวจัด Springน่าจะไม่หนาวมากแล้ว
-สภาพอากาศ
ตอนกลางคืนหนาวจัดเลยค่ะ อุณหภูมิจะอยู่ที่7-12องศา บางคืนฝนตกด้วยจะยิ่งหนาวเข้าไปอีก กลางวันแดดดีมากแต่ไม่ร้อนนะคะ
บางวันก็มีฝนบ้างแต่ตกไม่หนัก แป๊ปเดียวก็หยุด อุณหภูมิอยู่ที่ประมาน15-22องศาค่ะ
-ข้อดีของฤดูSpring
จากที่เราเจอนะ ดอกไม้สวยค่ะ ต้นไม้สีเขียวดูแล้วสดชื่นดี อากาศดีไม่หนาวมากเกินไป
กลางวันยาวค่ะ กว่าจะมืดก็ทุ่มกว่า เลยมีเวลาเที่ยวเยอะขึ้นอีก

เราขอแนะนำเพื่อนร่วมทริปครั้งนี้ของเราก่อนเลย
คนแรก มนุษย์แม่ของเราเอง แม่เราเป็นติ่งซีรี่ส์เกาหลีมานานมากแล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ทริปแรกของคุณแม่ค่ะ
น่าจะครั้งที่4แล้ว ถ้านับไม่ผิดนะ เราก็เคยถามแม่นะว่าไม่คิดจะไปเที่ยวที่อื่นบ้างเหรอ เค้าคงชอบของเค้ามากน่ะค่ะ
อย่าว่าแม่เลยเนอะ
คนที่สอง มนุษย์ป้า แบบมนุษย์ป้าตัวจริงเลยแหละ ฮ่าๆๆๆ (จะโดนด่าป่ะเนี่ย) ป้าชอบเที่ยวมาก เป็นติ่งเกาหลีเช่นเดียวกัน
ปกติป้าแกจะเจ็บป่วยออดๆแอดๆ เจ็บตรงนั้น เมื่อยตรงนี้ แต่ถ้าชวนเที่ยวนะ หึหึ ไปไหนไปกันค่า ลืมป่วยไปเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
ล้อเล่นนะคะ ป้าน่ารักกกกกข่ะ
คนที่สาม มนุษย์ป้าอีกเช่นกัน คนนี้ว่าง่าย อะไรก็ได้ ไปไหนไปกัน กินไรก็กิน ซื้อง่ายจ่ายคล่องมาก
คนที่สี่ มนุษย์เพื่อนผู้น่ารักของเราเอง ตอนแรกเราก็ลังเล จะไปไม่ไปดี ไปกับป้าทั้งนั้นเลยจะสนุกไหมนะ
แล้วเราก็คิดถึงเพื่อนคนนี้ขึ้นมาทันทีเลย ทักนางไปถามว่าไปเกาหลีกันไหม? ยังไม่ทันบอกรายละเอียดนางก็ตอบกลับมาทันทีว่าไปสิ!!

เอาล่ะ คนพร้อม จองตั๋วกันเลย โดยสายการบินที่เราใช้บริการกันคือThai AirAsiaX ราคาไป-กลับ
พร้อมค่าโหลดกระเป๋าทั้งขาไปและกลับ คนละประมาน 11,800 บาทค่ะ
เดินทางสองวันค่ะ เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนการบุ๊คกิ้ง เสียใจมากค่ะ ร้องไห้หนักมากด้วย ฮ่าๆๆๆ
โดยแม่เรากับมนุษย์ป้าคนที่สามเดินทางวันที่ 15 เมษายน 2015 เรากับคนที่เหลือเดินทางวันต่อมาค่ะ
(เดินทางกลับวันที่ 22 เมษายนค่ะ)

ขอข้ามไปตอนที่เราถึงโซลเลยละกันเนอะ เครื่องลงประมาน10โมง(เวลาเกาหลีนะคะ) ตอนแรกก็ตื่นเต้นนะ จะผ่านตม.ไหมน้าา
แต่เอาจริงๆ ไม่ได้น่ากังวลอะไรเลย ฮ่าๆๆๆ เจ้าหน้าที่น่ารักมาก ตรวจแค่Passportแค่นั้นเอง พอผ่านตม.เราก็มายืนรอรับกระเป๋า
ปัญหาอยู่ตรงที่กระเป๋าของมนุษย์ป้าที่สองไม่ยอมออกมาสักที กระเป๋าใบเดิมวนกลับมาอีกสองสามรอบ
กระเป๋าที่เรารอก็ยังไม่มา ตอนนั้นก็เริ่มหน้าเสียละ กลัวว่าจะตกรถแล้วต้องรอรถรอบต่อไปอีกตั้งครึ่งชั่วโมงเลย
รอประมาน 10-15 นาที ในที่สุดกระเป๋าป้าก็มา!!!!!


ทันทีที่ได้สัมภาระครบเราก็ตรงไปที่ร้าน GS25 เพื่อเติมตังค์บัตรT-money เราเติมคนละ 30,000krw
คิดเป็นเงินไทยก็ประมาน900บาทค่ะ เอาไว้ใช้ในSubwayแล้วก็ร้านมินิมาร์ทต่างๆ ค่ะ สะดวกดี ไม่ต้องจ่ายเงินสด ไม่ต้องรอตังค์ทอน
เติมตังค์เสร็จเราก็รีบเดินออกมารอรถบัสเข้าโซล ที่พักที่เราพักชื่อ Jongnowon อยู่แถวเดียวกับ Banana backpacker
เราพักที่จองโนวอนเพราะว่าแม่ชอบที่นี่มาก ไม่เปลี่ยนเลย พักที่นี่ทุกครั้ง แต่ก็สะดวกดีค่ะ ใกล้ซับเวย์ ใกล้ที่เที่ยวหลายๆ ที่ด้วย
-- กลับมาที่บัสก่อนเนอะ เราต้องขึ้นบัสหมายเลย6011 ไปลงที่ป้าย Changdeokgung Palace (ค่าบัส10,000krwค่ะ ใช้  T-moneyจ่ายได้เลย)

*จุดยืนรอบัสค่ะ จะมีหมายเลขบอก

อ๋อ ใช้เวลาประมานหนึ่งชั่วโมงนะคะ จากสนามบินอินชอนถึงที่พักของเรา บัสตรงเวลามากค่ะ ที่จอดบัสจะมีเวลาออกบอกไว้
พอถึงเวลาก็มาจอด จอดไม่นานนะคะ มีคนแค่ไหนก็ไปแค่นั้น ไม่ได้รอจนเต็ม รอบที่เรานั่งมีคนไม่ถึงสิบคนค่ะ โล่งมากๆ
แต่คุณลุงคนขับเนี่ยขับรถเร็วมากเราวางเป้ไว้บนตักแล้ววางกล้องไว้บนเป้อีกที ขณะที่กำลังเช็คสภาพหน้าตัวเองอยู่
คุณลุงแกเบรคแบบหัวทิ่มเลย ของที่อยู่บนตักกระจายค่ะ กระเด็นกระดอนไปกองที่เท้าใครบ้างไม่รู้ อายก็อาย กลัวกล้องพังก็กลัว
เครื่องสำอางในเป้อีก แตกหมดรึป่าวก็ไม่รู้ ทั้งตลกทั้งตกใจเลย คือลุงขับเร็วมาก พอจะลุกไปเก็บของก็ลำบากเลย
ดีนะที่คนที่นั่งมาด้วยกันเค้าช่วยเก็บแล้วส่งมาให้ ขอบพระคุณนะคะที่ช่วยหนูเก็บของ จะไม่ลืมบุญคุณเลยค่ะ T^T

พอถึงป้ายที่เราจะลง คุณลุงจะบอกให้เราเตรียมตัวก่อนค่ะ ลุงจะช่วยยกกระเป๋าให้ด้วย
เราเดินเข้าซอยนิดนึงก็ถึงที่พักแล้ว ตอนลงจากบัสคือแทบขยับไม่ได้ หนาวมาก เพราะฝนกำลังตกปรอยๆ ด้วย
ลมก็แรง หนาวมากจริงๆ ค่ะ นึกแล้วตลกมาก กระเป๋าก็หนักมาก มือแข็งไปหมด ตอนนั้นอยากทิ้งกระเป๋าแล้ววิ่งไปเลย
แต่ทำไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


*ด้านหน้าที่พักค่ะ เป็นตึกนะคะ เล็กๆ แต่ใหม่ สะอาด น่าอยู่ค่ะ(นี่ไม่มีส่วนได้เสียนะ)

พอถึงที่พักก็เจอแม่นั่งรออยู่แล้ว เราก็จัดการเชคอิน(ถ้าเล่าเรื่องการเชคอินก็คงจะยืดยาวไปอีก แต่อนนี่เจ้าของใจดีมาก
อยากเล่า ฮ่าๆๆๆ ขอโทษนะคะ ใครไม่อยากอ่านข้ามไปได้เลย^^) ตอนที่บุ๊คกิ้งที่พัก เราอีเมล์คุยกับเค้า
โดยเราต้องการบุ๊คสองห้อง สำหรับสองคน1ห้อง สามคน1ห้อง แต่เค้าตอบกลับมาว่าไม่มีห้องสามคน
ให้เราพักห้องสองคนแล้วเพิ่มเป็นเตียงเสริม(เตรียงเสริมหมายถึงฟูกนอนกับพื้นค่ะ) เราก็โอเค ยังไงก็ได้ ไม่ซีเรียส
ราคาก็ถูกลงด้วย แต่ตอนเชคอิน อนนี่บอกว่ามีห้องสำหรับสามคนว่าง แต่จะว่างแค่สองคืน เราอยากพักห้องนี้ไหม
ตอนแรกเราก็จะไม่เอาเพราะขี้เกียจย้ายของไปมา เค้าเลยเสนอให้ขึ้นไปดูห้องก่อน
หลังจากเห็นห้องเราตกลงทันที ฮ่าๆๆๆ
ห้องสำหรับสองคนมันเล็กอะค่ะ แต่ถ้าให้อยู่จริงก็อยู่ได้แหละ เลือกห้องได้แล้วก็จ่ายตังค์
ตอนที่เราจองอนนี่คิดราคาห้องสองคน50,000krw + 10,000krw เพราะนอนสามคนค่ะ
ทีนี้พอมีห้องแล้วเราก็เลยถามว่าราคาเท่าไหร่ ขึ้นรึป่าว เค้าก็บอกไม่ขึ้นนะราคาเดิม เราคิดว่าสงสัยไม่ขึ้นเพราะนอนห้องนี้แค่สองคืน
แต่พอถึงเวลาจริงๆ เค้าบอกให้เราพักยาวเลยไม่ต้องย้ายแล้ว แถมไม่ต้องจ่ายเพิ่มด้วยนะ(อันที่จริงห้องสามคนราคา70,000krw/nightค่ะ)
ดีใจมาก รู้สึกขอบคุณเค้ามาก ใจดีจริงๆ เลย(สามีอนนี่ก็หล่อด้วยนะเธอ)


*ห้องของเราค่ะ
พูดถึงห้องที่เราพัก สามคน สามเตียง ดีมากๆ เตียงจะอยู่แต่ละมุมของห้อง ห้องไม่กว้างมากนะคะ แต่ไม่อึดอัดไม่รู้สึกแคบนะ
เราเลือกนอนตรงที่ติดหน้าต่าง เก็บของเสร็จดูเวลาเที่ยงพอดี ก็เริ่มหิวละ เลยรีบออกจากที่พักไปหาอะไรกินกันก่อน

คุณแม่ชวนไปร้านอาจุมม่าใกล้ๆ ที่พัก อ๋อติดกับสถานีAngukเลย เราเดินนิดเดียวก็ถึง เป็นร้านธรรมดาๆ มีอาจุมม่า3คน
คอยปรุงอาหาร เสิร์ฟอาหาร ร้านค่อนข้างวุ่นวายนะคะ คนเข้าออกตลอดเวลา
เท่าที่เราสังเกตคนเกาหลีจะเข้ามานั่งกินแป๊ปเดียวก็ลุกไปละค่ะ
ร้านนี้เปิด24ชั่วโมงเลยด้วย ราคาไม่แพง เมนูเยอะมากๆ (ร้านแบบนี้หาได้ทั่วไปเลยค่ะ มีทุกที่)
พอสั่งอาหารเสร็จอาจุมม่าจะเอาเครื่องเคียงมาเสิร์ฟให้ มีกิมจิผักกาดขาว เต้าหู้ราดซอสแดง กิมจิแตงกวาค่ะ


*เมนูร้านอาจุมม่าค่ะ น่ากินทุกอย่างเลย อิอิ


*เครื่องเคียงสามอย่าง


*กิมจิชิแก ของเราค่ะ

เราสั่งกิมจิชิแกหรือแกงกิมจินั่นเอง ฮ่าๆๆๆ รสชาตเปรี้ยวๆ เผ็ดหน่อยๆ
แม่สั่งคิมบับ เป็นข้าวห้อสาหร่ายจะมีไส้ตรงกลางพวกผักต่างๆ ไข่ ประมานนี้ค่ะ รสชาตดีทีเดียว ราคาถูกมากด้วย
ของป้าจะเป็นคัลกุกซูหรือก๋วยเตี๋ยวน้ำ จานนี้จืดๆ ค่ะ เราไม่ชอบกินอาหารจืดอยู่แล้วด้วย จานนี้เลยเฉยๆ
ส่วนอีกสองคนสั่งเหมือนเรา ร้านนี้เราได้เจอพี่ๆคนไทยด้วยค่ะ มากันสี่คนมั้งนะ ถ้าจำไม่ผิด
ทักทายกันเสร็จเราก็อาสาถ่ายรูปกลุ่มให้พี่เค้า แล้วพี่เค้าก็ถ่ายให้เราด้วย--ขอบคุณนะค้าา


*คิมบับที่แม่สั่งค่ะ อร่อย ราคาไม่แพง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่