มันเป็นเรื่องของชีวิตระหว่างอนาคตกับสิ่งที่เป็นอยู่
ผมรู้สึกท้อเเท้กับชีวิตชีวิตที่เป็นอยู่จนคิดไปว่าผมสมควนเกิดมามั้ย เรื่องราวของผมยังไงก็รบกวนทนดูหน่อยนะครับ ผมหนะเรียนปวชปี1ในเเผนกช่างกลโรงงานในวิทยาลัยเเห่งหนึ่ง ในตอนเเรกที่เรียนไปได้สักพักมันก็โอเค เเตพักหลังระหว่างเรียนจนจบเทอม1ผมรู้สึกท้อมันรู้สึกไม่ดีจากสภาพเเวดลัอมเเละตัวเราเอง ผมรูสึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยกับสิ่งทึ่เรียนอยู่เเละสภาภเเวดล้อมที่มีเเต่เพื่อนค่มห้องส่วนมากมีเเต่คนไม่ดีปลอกลอก เเต่ก็ยังมีคนดีอยู่เเต่มีน้อย ส่วนเพื่อนสนิทจริงที่ตายเเทนกันได้ก็อยูคนละห้องเป็นเพื่อนทึ่มาสมัคเรียนช่างกลด้วยกันสนิทกันมาเเต่โรงเรียนเก่า เพื่อนผมคนนึ้เเหละเป็นคนดีมากเท่าที่ผมไว้ใจเเละรู้จัก เพราะเพื่อนคนนี้ผมถึงได้คิดมาเรียนช่างกลกับมันเเละเพื่อนคนนี้เเหละที่ให้กำลังใจผมในวันที่ท้อเเท้ผมถึงอดทนเรียนมาได้จนถึงเทอม1ถ้าไม่ใช่เพื่อนนี้ผมคงคิดจะออกเเต่ทึ่เเรกเเล้ว เพราะหนะรู้สึกว่าไม่ถนัดไม่เป็นสิ่งที่ชอบที่รัก ส่วนหนึ่งก็เพราะเพื่อนเเละได้ยินว่าเป็นสาขาทึ่ดีเรียนเเล้วไม่ตกงานสอดคล้องกับความต้องการของครอบครัว เพราะผมหนะเป็นลูกคนโตเเละมีเล็ก1คน ครอบครัวผมหนะไม่ด้วยอะไรพอมีพอใช้พ่อผมเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทำงานคนเดียว เพราะเหตุทึ่อยากโตมาหาเรื่องครอบครัวได้ ผมจึงตามหลังเพื่อนที่รักมาเรียนช่างกล เเต่ความคิดผมเปลียนไปเเล้วผมหนะไม่เก่งคณิตไม่ชำนาญกับช่างกลเลย ผมรู้สึกว่าอยูไปวันๆถ้าไม่ใช่เดินตามเพื่อนมาเพราะผมมันความคิดช้าเองทึ่ไม่รู้อะไร หลังจากผ่านไป1เทอมผมรูสึกอุดอึดมากจนขอบอกพ่อเเม่เรื่องนี้เเละขอออกเรียน เพราะผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมคิดว่าจะดรอปเเล้วทางด้านศิลปกรรมในสาขาวิจิตศิลป์ ก็เพราะผมถนัดเรีองนี้ (มันยากที่ผมจะทำใจ) ในจะจากเพื่อนไหนจะพ่อเเม่ที่เขาอุสาส่งเสียเรา ไหนจะอนาคต/ ผมอยากรู้เเค่ว่าผมสมควรมั้ยครับ ที่ออกจากเรียนเพื่อดรอปไว้เรียนในสิ่งที่ผมสนใจ. ท้ายนี้ผมขอโทษด้วยนะครับทึ่ยาวไปหน่อย ยังไงผมรบกวนด้วยนะครับขอบคุณครับ
ชีวิตที่สับสน ดรอปเรียนช่างกล เเละค่อยมาเรียนวิจิตรศิลป์ดีมี้ยครับ
ผมรู้สึกท้อเเท้กับชีวิตชีวิตที่เป็นอยู่จนคิดไปว่าผมสมควนเกิดมามั้ย เรื่องราวของผมยังไงก็รบกวนทนดูหน่อยนะครับ ผมหนะเรียนปวชปี1ในเเผนกช่างกลโรงงานในวิทยาลัยเเห่งหนึ่ง ในตอนเเรกที่เรียนไปได้สักพักมันก็โอเค เเตพักหลังระหว่างเรียนจนจบเทอม1ผมรู้สึกท้อมันรู้สึกไม่ดีจากสภาพเเวดลัอมเเละตัวเราเอง ผมรูสึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยกับสิ่งทึ่เรียนอยู่เเละสภาภเเวดล้อมที่มีเเต่เพื่อนค่มห้องส่วนมากมีเเต่คนไม่ดีปลอกลอก เเต่ก็ยังมีคนดีอยู่เเต่มีน้อย ส่วนเพื่อนสนิทจริงที่ตายเเทนกันได้ก็อยูคนละห้องเป็นเพื่อนทึ่มาสมัคเรียนช่างกลด้วยกันสนิทกันมาเเต่โรงเรียนเก่า เพื่อนผมคนนึ้เเหละเป็นคนดีมากเท่าที่ผมไว้ใจเเละรู้จัก เพราะเพื่อนคนนี้ผมถึงได้คิดมาเรียนช่างกลกับมันเเละเพื่อนคนนี้เเหละที่ให้กำลังใจผมในวันที่ท้อเเท้ผมถึงอดทนเรียนมาได้จนถึงเทอม1ถ้าไม่ใช่เพื่อนนี้ผมคงคิดจะออกเเต่ทึ่เเรกเเล้ว เพราะหนะรู้สึกว่าไม่ถนัดไม่เป็นสิ่งที่ชอบที่รัก ส่วนหนึ่งก็เพราะเพื่อนเเละได้ยินว่าเป็นสาขาทึ่ดีเรียนเเล้วไม่ตกงานสอดคล้องกับความต้องการของครอบครัว เพราะผมหนะเป็นลูกคนโตเเละมีเล็ก1คน ครอบครัวผมหนะไม่ด้วยอะไรพอมีพอใช้พ่อผมเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทำงานคนเดียว เพราะเหตุทึ่อยากโตมาหาเรื่องครอบครัวได้ ผมจึงตามหลังเพื่อนที่รักมาเรียนช่างกล เเต่ความคิดผมเปลียนไปเเล้วผมหนะไม่เก่งคณิตไม่ชำนาญกับช่างกลเลย ผมรู้สึกว่าอยูไปวันๆถ้าไม่ใช่เดินตามเพื่อนมาเพราะผมมันความคิดช้าเองทึ่ไม่รู้อะไร หลังจากผ่านไป1เทอมผมรูสึกอุดอึดมากจนขอบอกพ่อเเม่เรื่องนี้เเละขอออกเรียน เพราะผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมคิดว่าจะดรอปเเล้วทางด้านศิลปกรรมในสาขาวิจิตศิลป์ ก็เพราะผมถนัดเรีองนี้ (มันยากที่ผมจะทำใจ) ในจะจากเพื่อนไหนจะพ่อเเม่ที่เขาอุสาส่งเสียเรา ไหนจะอนาคต/ ผมอยากรู้เเค่ว่าผมสมควรมั้ยครับ ที่ออกจากเรียนเพื่อดรอปไว้เรียนในสิ่งที่ผมสนใจ. ท้ายนี้ผมขอโทษด้วยนะครับทึ่ยาวไปหน่อย ยังไงผมรบกวนด้วยนะครับขอบคุณครับ