สวัสดีค่ะขอตั้งชื่อเรื่องที่จะเล่าว่า"เธอมากับเพื่อน"
เรื่องมีอยู่ว่าตอนเรียนปีหนึ่งปลายเทอมจะมีการออกไปสอบนอกสถานที่คะ โดยไปกันหลายแผนกค่ะ เพราะอาจารย์เค้าสอนหลายแผนกเวลาสอบก็เลยพาไปพร้อมกันทีเดียว อาจารย์ต้องพาไปที่ต่างจังหวัดคะ ตอนนั้นเราไปที่ปราณบุรีคะไปที่อุทยานแห่งชาติที่หนึ่งที่มีUnseen Thailand อยู่ที่นั่น
ระหว่างเดินทางก็มีการจอดแวะพักอะไรบ้างตามประสา มีการละเล่นแจกการ์ดกันบนรถเล็กน้อยแก้เบื่อ 55555
พอไปถึงปุ้ปสิ่งแรกที่ได้ยินคือ เสียงวัวร้องค่ะดังมากๆ ร้องแบบโหยหวนน่ากลัวสุดๆ (ตอนแรกอินี่คิดว่าเสียงช้าง เพราะร้องเสียงแบบช้างเลยคะ) เราก้อแปลกใจว่ามันร้องทำไม ตอนเดินผ่านมันเหมือนพยามจะหนีเรา และหวาดกลัวเรามาก เพราะมันมองมาทางกลุ่มพวกเรา แล้วร้องโหยหวน พยามดึงเชือกแล้วถอยห่างจากพวกเรา ตอนแรกก่อนไปอาจารย์ได้บอกว่า เราจะพักกันที่ศาลาวัด แต่พอไปถึงจิงๆ ศาลาที่ว่านี้ดันมีงานศพค่ะ จึงไม่สามารถพักได้ และเพื่อนในรุ่นเราเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด จึงไม่สะดวกที่จะพักตรงด้านบนกุฏิพระ เราจึงเดินหาที่พักกันโดยแยกไปเป็นกลุ่มๆค่ะ เราเดินไปที่ร้านค้าแถวนั้น ถามเค้าว่ามีเต้นท์ให้เช่ามั้ย โชคดีที่เค้ามีค่ะ เราจึงตัดสินใจเช่าเต้นท์ทั้งหมด 4 เต้นท์ค่ะ เพราะเราไปกันเยอะ ราวๆ 30 คนได้ พอถึงสักพักเราก็นับคนกัน โดยนับแบบเช็คยอดอ่ะค่ะ คือให้เจ้าตัวพูดเลขออกมา นับ2-3 รอบไม่ตรงกันค่ะ เดี๋ยวขาดเดี๋ยวเกิน คือทุกคนงง และเริ่มใจไม่ดีแล้ว เลยเลิกนับ โดยอาจารย์แยกไปพักที่รีสอร์ทแถวๆนั้น จากนั้นเราก็เลยเริ่มเดินหาฟืนเพื่อมาก่อไฟให้แสงสว่าง เพราะตรงชายหาดไม่มีแสงสว่าง จะมีก็ตรงที่เป็นซุ้มร้านค้าที่เราไปเช่าเต้นท์ เค้าก็ใจดีเปิดไฟให้เราค่ะเผื่อเดินไปเข้าห้องน้ำตอนดึก เสร็จแล้วเราเห็นมีศาลพระภูมิเจ้าที่อยู่ตรงบริเวณหัวนอนที่เรานอนกัน จึงชวนกันไปไหว้ศาลค่ะก็ไม่มีไรผิดปกติ มีขนลุกบ้าง
เธอมากับเพื่อน
เรื่องมีอยู่ว่าตอนเรียนปีหนึ่งปลายเทอมจะมีการออกไปสอบนอกสถานที่คะ โดยไปกันหลายแผนกค่ะ เพราะอาจารย์เค้าสอนหลายแผนกเวลาสอบก็เลยพาไปพร้อมกันทีเดียว อาจารย์ต้องพาไปที่ต่างจังหวัดคะ ตอนนั้นเราไปที่ปราณบุรีคะไปที่อุทยานแห่งชาติที่หนึ่งที่มีUnseen Thailand อยู่ที่นั่น
ระหว่างเดินทางก็มีการจอดแวะพักอะไรบ้างตามประสา มีการละเล่นแจกการ์ดกันบนรถเล็กน้อยแก้เบื่อ 55555
พอไปถึงปุ้ปสิ่งแรกที่ได้ยินคือ เสียงวัวร้องค่ะดังมากๆ ร้องแบบโหยหวนน่ากลัวสุดๆ (ตอนแรกอินี่คิดว่าเสียงช้าง เพราะร้องเสียงแบบช้างเลยคะ) เราก้อแปลกใจว่ามันร้องทำไม ตอนเดินผ่านมันเหมือนพยามจะหนีเรา และหวาดกลัวเรามาก เพราะมันมองมาทางกลุ่มพวกเรา แล้วร้องโหยหวน พยามดึงเชือกแล้วถอยห่างจากพวกเรา ตอนแรกก่อนไปอาจารย์ได้บอกว่า เราจะพักกันที่ศาลาวัด แต่พอไปถึงจิงๆ ศาลาที่ว่านี้ดันมีงานศพค่ะ จึงไม่สามารถพักได้ และเพื่อนในรุ่นเราเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด จึงไม่สะดวกที่จะพักตรงด้านบนกุฏิพระ เราจึงเดินหาที่พักกันโดยแยกไปเป็นกลุ่มๆค่ะ เราเดินไปที่ร้านค้าแถวนั้น ถามเค้าว่ามีเต้นท์ให้เช่ามั้ย โชคดีที่เค้ามีค่ะ เราจึงตัดสินใจเช่าเต้นท์ทั้งหมด 4 เต้นท์ค่ะ เพราะเราไปกันเยอะ ราวๆ 30 คนได้ พอถึงสักพักเราก็นับคนกัน โดยนับแบบเช็คยอดอ่ะค่ะ คือให้เจ้าตัวพูดเลขออกมา นับ2-3 รอบไม่ตรงกันค่ะ เดี๋ยวขาดเดี๋ยวเกิน คือทุกคนงง และเริ่มใจไม่ดีแล้ว เลยเลิกนับ โดยอาจารย์แยกไปพักที่รีสอร์ทแถวๆนั้น จากนั้นเราก็เลยเริ่มเดินหาฟืนเพื่อมาก่อไฟให้แสงสว่าง เพราะตรงชายหาดไม่มีแสงสว่าง จะมีก็ตรงที่เป็นซุ้มร้านค้าที่เราไปเช่าเต้นท์ เค้าก็ใจดีเปิดไฟให้เราค่ะเผื่อเดินไปเข้าห้องน้ำตอนดึก เสร็จแล้วเราเห็นมีศาลพระภูมิเจ้าที่อยู่ตรงบริเวณหัวนอนที่เรานอนกัน จึงชวนกันไปไหว้ศาลค่ะก็ไม่มีไรผิดปกติ มีขนลุกบ้าง