รีวิวหนัง : The Intern เด็กฝึกงานอาวุโส



สำหรับคนหนุ่มสาว น้อยนักที่พวกเขาจะมองไปไกลถึงสิ่งที่ตัวเองจะทำเมื่อยามแก่เฒ่า คำว่า กลับไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านเถอะ ที่หลายคนเอาไว้พูดกันสนุกปากนั้นช่างเป็นคำพูดเสียดแทงหัวใจคนวัยชราเหลือเกิน ราวกับป่าวประกาศว่าคนๆนั้นไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้กับสังคมหรือคนรอบข้างได้อีกแล้ว พร้อมกับชี้นำให้พวกเขาอยู่บ้านเฉยๆ (หากใช้คำพูดแรงๆหน่อยก็คือนั่งรอวันตาย)

The Intern หยิบประเด็นข้างบนมาเล่น โดยยึดโยงกับแนวคิดของรัฐบาลสหรัฐฯที่เปิดโอกาสให้ผู้อาวุโสเข้ามาทำงานในองค์กรคนรุ่นใหม่ในตำแหน่ง พนักงานฝึกงาน เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณของพวกเขาไม่ว่างเปล่าจนเกินไป ซึ่งผู้ถ่ายทอดคือ โรเบิร์ต เดอ นิโร นักแสดงรุ่นเก๋าที่เคยรับบทคล้ายกันนี้ใน Last Vegas (2013) ส่วนคนที่จะมารับบทเป็นหัวหน้าของเเขาเป็น แอนน์ แฮทธาเวย์ นักแสดงสาวที่เคยแจ้งเกิดจากบทเลขาของบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นหญิงจอมวีนใน The Devil Wears Prada

ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของ เบน วิทเทเกอร์ (โรเบิร์ต เดอ นิโร) พ่อหม้ายวัย70ปี ที่ยังมีไฟอยู่ เขาจึงสมัครโครงการพนักงานฝึกงานอาวุโสในบริษัทเว็บไซต์แฟชั่นของ จูลส์ ออสติน (แอนน์ แฮทธาเวย์) ผู้บริหารสาวสวยสุดมั่น เวิร์คกิ้งวูแมนที่กำลังประสบปัญหาการจัดการชีวิต เบน ได้ทำงานขึ้นตรงกับ จูลส์ จากนั้นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ครั้งใหม่ของเขากับเธอก็เริ่มต้นขึ้น

บทหนังมีความกลมกล่อมลงตัว ถือเป็นภาพยนตร์ตลกดราม่าที่ดีที่สุดในรอบหลายปี จุดเด่นคือเนื้อหาของหนังมีสัดส่วนที่พอดีของความโบราณกับความทันสมัย โดยมีสองตัวละครนำเป็นตัวเทน เปรียบ เบน ได้กับเสื้อสูทวินเทจตัวเก่าที่กลายเป็นไอเท็มของดีมีราคาหายากในสมัยนี้ ส่วน จูลส์ เป็นชุดเดรสนำแฟชั่นสีแดงสดตัวใหม่ สินค้าขายดีในโลกออนไลน์ซึ่งเป็นที่ต้องการของสาวๆยุคไอที

ชอบตรงที่ แนนซี่ เมเยอร์ ผู้กำกับไม่ได้นำเรื่องของวัยวุฒิมาเป็นประเด็นหักหาญ สร้างปมขัดแย้ง ยั่วล้อ หรือเอาชนะกันเหมือนหนังเรื่องอื่น ทว่า The Intern มีความรอมชอมของคนสองเพศที่มีความต่างทางอายุหลายสิบปี เบน เป็นผู้ชายในอุดมคติมากๆ เขาคือสุภาพบุรุษหลงยุค ผู้เป็นมิตร มีมารยาท เอื้อเฟื้อ ใส่ใจคนรอบข้าง ที่สำคัญคือ เข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี คำพูดต่างๆของเขาจึงเป็นคำแนะนำชั้นยอดที่ไม่ก้าวก่ายหรือเกินเลยไปถึงขั้นสั่งสอน

แน่นอนว่าบุคคลิกของ จูลส์ แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เธอคือคนรุ่นใหม่ที่มีปัญหาในการรับมือกับความสำเร็จซึ่งเข้ามารวดเร็วเกินไป การเป็นผู้นำคนหลักร้อยทำให้ จูลส์ กลายเป็นคนนิสัยแย่โดยไม่รู้ตัว เธอสายเป็นประจำ ไม่ระวังคำพูด ขาดความเห็นใจผู้คน ห่างเหินกับครอบครัว เบน เข้ามาถูกจังหวะ เขาจึงเปลี่ยนสถานะจากพนักงานฝึกงานมาเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของ จูลส์

เคมีของ โรเบิร์ต กับ แอนน์ เข้ากันสุดๆ ไม่ใช่ในเชิงชู้สาว แต่เข้าขากันแบบเพื่อนซี้ต่างวัย การรับส่งบทสนทนาและอารมณ์ของทั้งคู่ยอดเยี่ยมมาก นำมาซึ่งการแสดงชั้นเลิศ คนดูจึงตกหลุมรักตัวละครทั้งสองได้ง่ายดาย ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบก็แจ้งเกิดสร้างสีสันให้กับหนังได้ถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็น อดัม เดอวีน , แซ็ค เพิร์ลแมน , เจสัน ออร์ลีย์ และ คริสตินา เชเรอร์

The Intern คล้ายกับ The Devil Wears Prada ตรงที่หน้าหนังเหมือนจะเล่าถึงชีวิตคนทำงาน กระนั้นช่วงท้ายหนังกลับเปลี่ยนโทนเป็นภาพยนตร์ครอบครัวกึ่งชีวิตที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น แถมยังแฝงข้อคิดดีๆไว้มากมาย มันทำให้ผู้ชมหันมาเคารพและให้เกียรติผู้สูงอายุ ไม่ใช่ตรงที่พวกเขาอาบนํ้าร้อนมาก่อนคุณ แต่เป็นคุณค่าจากประสบการณ์ของพวกเขาที่มีมากกว่าคุณ ดังคำโปรยของหนังที่ว่า ประสบการณ์ไม่เคยตกยุค

คะแนน 8/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/210754/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่