คำเตือน
เนื้อหาในกระทู้อาจมีการสปอยภาพยนต์บางส่วน
สวัสดีครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปชมภาพยนต์เรื่อง "เดอะ ดาวน์" ซึ่งตัวภาพยนต์นั้น ค่อนข้างมีข้อจำกัดหลายๆอย่าง ทั้งจำนวนโรงฯที่เข้า(อาทิ พารากอนนี่ไม่ได้เข้าครับ แต่มีที่ CTW) และจำนวนรอบที่บางสาขาฉายเพียงแค่รอบเดียว แต่ถึงกระนั้น ผมก็สามารถเข้าชมจนได้!!
เรื่องย่อ - เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการตามติด ชีวิตเด็กดาวน์(ซินโดรม) เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันต่างๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยถ่ายทอดผ่านตัวละครทั้งหมด 4+1 คน ประกอบด้วย แพน พนง.บริษัท AIS / เบียร์ พนง.Starbuck coffee / แบงค์ พนง.Uniqlo / ออม-อัน นักเรียนและนักกีฬา(คู่นี้เด็กสุด น่าจะประมาณ 14-15) ซึ่งภาพยนต์แสดงให้เห้นว่า นักแสดงทุกคนสามารถใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติทั่วไป ดูแล-ช่วยเหลือตัวเอง, หารายได้ด้วยตนเอง, มีเพื่อน มีสังคม และมีความฝันดั่งเช่นพวกเราทุกๆคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากเปรียบเด็กเหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์
หญิงสาวเหมือนผ้าพับไว้ แต่แฝงไว้ด้วยค้วยวิธีการพับ(ความคิด)อันซับซ้อน
คนที่เป็นดาวน์ซินโดรม คงเหมือนเสื้อกล้ามสีขาวตัวเก่ง ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใส่อยู่บ้านได้ แต่คงไม่เหมาะถ้าจะใส่แค่ชิ้นเดียวแล้วออกไปเจอสังคม จนกว่าคุณจะฟิตหุ่นจนมั่นใจพอ ที่จะเดินออกไปพร้อมกับเสื้อกล้ามตัวนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพยนต์ใช้การดำเนินเรื่องแบบภาพยนต์กึ่งสารคดี โดยมีคุณเดี่ยวเป็นผู้เล่าเรื่อง ซึ่งไม่ค่อยมีพบเห็นได้บ่อยในแวดวงภาพยนต์ไทย ดำเนินเรื่องโดยการแบ่งเป็น Chapter สั้นๆ ทั้งหมด 12(มั้ง)หัวข้อ หลักๆเท่าที่ผมจับใจความได้จะมีทั้งหมด 4 ส่วน
1.ส่วนของการแนะนำตัวละครทั้งหมด 4 Chapter
2.ส่วนของความรู้ ว่าอาการดาวน์ฯเกิดขึ้นได้อย่างไร 1 Chapter [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กล่าวคือ ดาวน์ซินโดรมคืออุบัติเหตุทางชีวภาพ ไม่มีฝ่ายใดผิด
3.ส่วนของนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของแต่ละตัวละครประมาณ 5 Chapter เฉลี่ยๆกันไป
4.ส่วนที่ให้นักแสดงทั้งหมดมาทำกิจกรรมร่วมกัน 2 Chapter
เนื้อเรื่อง - เปิดเรื่องมาที่นักแสดงอายุน้อยสุด คือออม-อัน ทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่เติบโตมากับคุณแม่ที่หาเช้ากินค่ำ ฐานะไม่ได้ร่ำรวย ทั้งคู่กำลังศึกษาอยุ่ที่ร.ร.เพชรบุรีปัญญานุกูล จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นร.ร.ประจำ เป้าหมายหลักของร.ร.คือฝึกให้เด็กพิเศษเหล่านี้ สามารถออกไปใช้ชีวิตร่วมกับสังคมปัจจุบันได้ ซึ่งออม-อันนอกจากจะเป็นนักเรียนของที่นี่แล้ว ทั้งคู่ยังเป็นนักกีฬา"บ็อคเซีย"อีกด้วย(คล้ายเปตอง) ทั้งคู่ถือว่าช่วยเหลือตัวเองและช่วยทำงานบ้านต่างๆได้ โดยผ่านการดุแลอย่างเอาใจใส่ ทั้งตัวคุณแม่และคุณครูที่ร.ร. แต่ยังสื่อสารไม่ค่อย 100% ยังต้องมีการพูดย้ำไปย้ำมาอยุ่เนื่องๆ อุปนิสัยเหมือนเด็กอายุ 4-5ปี ไม่มีทั้งมารยาและมารยาท ซึ่งยังคงต้องผ่านการเคี่ยวเข็ญอีกเยอะพอสมควร
- แพน หญิงสาว Office บ.ยักษ์ใหญ่ชื่อดัง ถ้าฟังโปรไฟล์เธอ จะพบว่าเธอคือคนปกติทั่วไป เธอสำเร็จการศึกษาในระดับป.ตรีที่ ม.กรุงเทพ(สาขามนุษยศาสตร์) จบมาก็ได้เข้าทำงานบริษัทตามปกติ หน้าที่ของเธอในองค์กร อยู่ในฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และในที่ทำงานเธอมีพี่สาวคนสนิทอยู่ 1 คน ในตอนแรกเป็นเพียงแค่พี่เลี้ยงในตอนเด็ก แต่ด้วยความรักและความผูกพัน ทำให้เธอกับแพนดำเนินความสัมพันกันมาจนเกือบ 20 ปี เรียกได้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของแพน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน นอกจากครอบครัวที่อบอุ่นของเธอแล้ว ก็มีพี่สาวคนสนิทคนนี้เป็นแรงผลักดันเช่นกัน
แพนคือคนปกติ ที่ออกจะ Enjoy Eating มากเกินไปหน่อย เธอเป็นที่รักทั้งในสังคมเพื่อนร่วมงาน และมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนจบ อารมณ์ดีร่าเริง ซึ่งอาจจะมีสื่อสารติดๆขัดๆบ้าง เป้นคนพูดเร็ว เมหือนร่างกายตอบสนองไม่ทันสมอง แต่เธอเข้าใจทุกอย่างแน่นอน 100%
- แบงค์ ชายหนุ่ม พนง.ร้านเสื้อผ้าในห้าง ชื่นชอบการร้อง-เต้นเป็นชีวิตจิตใจ กล้าแสดงออก ร่าเริง มีความฝันในวัยเด็ก ว่าอยากเป็น"นางแบบ" ถูกต้อง แบงค์มีบุคคลิกที่ค่อนข้างจะคล้ายผู้หญิงด้วย แบงค์เป็นลูกคนเดียวของครอบครัวที่อบอุ่น พ่อ-แม่เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่แบงค์เป็นทุกอย่าง แบงค์รักแม่มาก เพราะตอนเด็กๆ คุรแม่ต้องดูแลแบงค์เกือบจะตลอด 24ช.ม. ตอนแบงค์ไปร.ร.(ปกติ) คุณแม่ก็ต้องไปเฝ้า ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้คุณแม่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นครูผู้ช่วย ณ โรงเรียนที่แบงค์เรียนอยู่ พอเริ่มทำงานหาเงิน แบงค์ก็มีความฝันอยากจะเก้บเงินสร้างบ้านให้พ่อ-แม่ เหมือนดั่งความฝันที่ใครหลายๆคนมีอยู่
-เบียร์ สาวร้านกาแฟ ที่ส่วนตัวผมคิดว่าเธอคือคนปกติจริงๆ ความคิดความอ่านและอุปนิสัยของเธอ ใกล้เคียงกับคนปกติมาก เธอรักสวยรักงาม มีการแต่งหน้าก่อนทำงานด้วย เธอซื่อสัตย์ เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามา เธอกล้าที่จะกล่าวทักทายกับลูกค้าต่างชาติ แน่อนเธอเองก็พอสื่อสารได้ในระดับหนึ่ง และด้วยหน้าที่ของพี่สาวคนโต เธอจึงเปรียบเสมือนเป็นเสาหลักอีกต้น ที่ต้องคอยจุนเจือค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะเธอยังมีน้องชาย(ปกติ) 2 คน ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนทั้งคู่
ความเห็นส่วนตัว - ภาพยนต์กึ่งสารคดีเรื่องนี้(ที่ผมค่อนข้างให้น้ำหนักไปทางสารคดีมากกว่า) สร้างจากเรื่องจริงในสังคม จากคำถามเพียงประโยคสั้นๆว่า"คนเป็นดาวน์ซินโดรมจะอยู่กันยังไง" ตัวหนังถ่ายทอดออกมาค่อนข้างน่าสนใจ ผู้ชมสามารถมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้ไม่ยาก ทั้งสนุก เศร้า และตื้นตัน เหมือนภาพยนต์เป็นสื่อที่ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ทั้ง 5 คนนี้ ดำเนินเรื่องแบบเรียบๆ ไม่หวือหวามาก ดูได้เรื่อยๆ บางช่วงมีเบื่อมีหลุด แต่ก็สามารถดึงกลับมาได้ด้วยความ real ของนักแสดง ตอนจบทำได้ค่อนข้างกินใจ และก่อให้เกิดการตกตะกอน ต่อยอดทางความคิดเกี่ยวกับเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อต่อไป ซึ่งตีความได้หลากหลาย อาทิ การให้กำลังใจ / การเรียนรู้และเปิดใจยอมรับ / ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคนที่เป็นดาวน์ซินโดรม และสำหรับผมที่ได้รับมากที่สุดคือ"บทบาทและความสำคัญในครอบครัว"
สิ่งที่ประทับใจ - เหมือนเรามารู้จักเพื่อนใหม่(ที่เป็นดาวน์) มากกว่ามาดูภาพยนต์ คือรู้สึกอยากรู้จักพวกเค้ามาขึ้น คือตอนผมดูหนังเสร็จที่ CTW ผมรีบเดินลงมาที่ Uniqlo เลย เผื่อจะเจอแบงค์ ฮ่าๆๆๆ ส่วนมุกใส่มาได้ค่อนข้าง real(ก็มัน real จริงๆ ไม่มีบท ฮ่าๆๆๆ) มีปล่อยฮาได้หลายช็อตอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตาแบงค์นี่หลายดอกเลย ตอนจบถือว่าพีคในระดับที่สามารถสะกดคนดู(กว่าครึ่งโรง)ให้นั่งดูเครดิตต่อได้หลังหนังจบจนจบจริงๆ ส่วนน้อยที่ลุกขึ้นทันทีเมื่อหนังจบ
สิ่งที่ได้
- ครอบครัว คำนี้คำเดียวเลยจริงๆ สังเกตุได้ว่าตัวหลักหลักทั้งหมด สามารถใช้ชีวิตร่วมอยู่ในสังคมได้อย่างคนปกติ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครอบครัวมีบทบาทสำคัญมากๆต่อพวกเค้า ทุกตัวละครมีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ว่าจะรวยหรือจน ก็สามารถดูแลเอาใจใส่พวกเค้าได้ไม่แตกต่างกัน มีสภาพสังคมและแวดล้อมที่ดี แน่นอน ว่าคนรอบข้างอาจจะเหนื่อยกับพวกเค้าหน่อย แต่มันก็แค่ช่วงแรก เมื่อเค้าเรียนรู้และเติบโตขึ้น เค้าก้จะสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยตัวของเค้าเอง เฉกเช่นคนปกติธรรมดาทั่วไป
แต่อย่าลืม จากข้อมูลทางสถิติ ยังมีครอบครัวอีกจำนวนไม่น้อย เมื่อรู้ว่าลูกที่เกิดมาเป็นดาวน์ฯ กลับเลือกที่จะทอดทิ้งพวกเค้า และคิดว่าพวกเค้าคือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บวกกับค่านิยมเดิมๆ ที่เข้าใจผิด คิดว่าพวกเค้าคือภาระ ไม่มีใครบนโลกนี้อยากเป็นภาระ เค้าจะเป็นภาระก็ต่อเมื่อคุณทำให้เค้าเป็น!! หากคุณปฏิบัติต่อเค้าเยี่ยงคนธรรมดาปกติ เค้าก้จะเป็นคนธรรมดาปกติ
- อุปนิสัยของคนที่เป็นดาวน์(อ้างอิงจากตัวละคร) แม้ทุกคนจะมีนิสัยที่ต่างกัน แต่ทุกคนมีบางสิ่งที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น
1.ขี้ลืม/ความจำสั้น ไม่สามารถจำอะไรนานๆได้ อาทิ ฉากสัมภาษณ์ที่แบงค์บอกว่ามีเพื่อนสนิท แต่จำชื่อไม่ได้(ฮา) / ตอนแพนกลับไปเยี่ยมมหาวิทยาลัย แล้วจำชื่อหลายคนไม่ได้ แต่รู้ว่ารัก(ฮา)
2.ทุกสิ่งคือเรื่องจริง ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรกับเค้า เค้าจะคิดว่าเป็นเรื่องจริงหมด ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าไหนจริง ไหนล้อเล่น จนทำให้บ้างครั้งเค้าก้เข้าใจผิดไปไกลเหมือนกัน(อันนี้ต้องระวัง)
3.ร่าเริง,โกรธแล้วหายเร็ว ไม่มีจริต,มารยา
4.พูดค่อยข้างเร็ว แสดงให้เห้นถึงสมองทำงานเร็วเกินกว่าที่ร่างกายจะตอบสนองทัน หรืออีกแง่นึงคือพูดช้าไปเลย เช่นถามไปแล้วต้องนึกก่อน 5วิ แล้วค่อยตอบ
5.อ้วน(ฮ่าๆๆๆๆๆ)
ในส่วนของเพลง ถ้าไม่กล่าวถึงคงจะรู้สึกผิดไม่น้อย เพราะทำออกมาได้โครต Impact บอกเลยว่าเพลงแนวนี้ให้ศิลปินแนวตลาดทำไม่ได้นะ มันไม่อิน ต้องอินดี้แบบนี้นี่แหละ โครตโดน การันตีได้จากการสะกดคนดูไว้ในช่วงท้ายเครดิตกว่าครึ่งโรง!!
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะขอบคุณ
- คุณครูและบุคคลากร โรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูล จ.เพชรบุรี(ร.ร.ที่น้องออม-อันเรียน) กับความทุ่มเทและความเข้าใจ ที่ยากจะหาใครมาเสมอเหมือนพวกคุณ
- AIS, Starbuck, Uniqlo และองค์กรหรือบุคคลอื่นๆที่เปิดกว้างและมอบโอกาสให้แก่ผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรม ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รู้สึกดีใจที่ใช้ AIS มา 11 ปี และ ซื้อกกน.จาก Uniqlo ใส่ประจำ ส่วน Starbuck ผมจะหัดดื่มกาแฟเพื่อเข้าไปใช้บริการนะครับ
- ทีมงานและผู้สร้างฯ อยากขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้จริงๆ เพราะด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง(ทั้งจำนวนโรงและจำนวนรอบ) อาจจะทำให้หนังดีๆเรื่องนี้ คงไม่ค่อยทำเงินเท่าไร แค่ถึง 10 ล้านก็บุญมากแล้ว แต่ยังไงซะ สิ่งที่คุณต้องการสื่อสารผ่านแผ่นฟิล์มออกมา เชื่อเถอะ! ว่าคนดูได้รับกลับไปเต็มๆแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอฝากคลิปสัมภาษณ์ผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรมในตปท. People with Down syndrome can live a happy life 
รีวิว+วิจารณ์ แบบจัดเต็ม!! "เดอะ ดาวน์" เพราะเป็นหนังธรรมดา มันง่ายไป!!
เนื้อหาในกระทู้อาจมีการสปอยภาพยนต์บางส่วน
สวัสดีครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปชมภาพยนต์เรื่อง "เดอะ ดาวน์" ซึ่งตัวภาพยนต์นั้น ค่อนข้างมีข้อจำกัดหลายๆอย่าง ทั้งจำนวนโรงฯที่เข้า(อาทิ พารากอนนี่ไม่ได้เข้าครับ แต่มีที่ CTW) และจำนวนรอบที่บางสาขาฉายเพียงแค่รอบเดียว แต่ถึงกระนั้น ผมก็สามารถเข้าชมจนได้!!
เรื่องย่อ - เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการตามติด ชีวิตเด็กดาวน์(ซินโดรม) เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันต่างๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยถ่ายทอดผ่านตัวละครทั้งหมด 4+1 คน ประกอบด้วย แพน พนง.บริษัท AIS / เบียร์ พนง.Starbuck coffee / แบงค์ พนง.Uniqlo / ออม-อัน นักเรียนและนักกีฬา(คู่นี้เด็กสุด น่าจะประมาณ 14-15) ซึ่งภาพยนต์แสดงให้เห้นว่า นักแสดงทุกคนสามารถใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติทั่วไป ดูแล-ช่วยเหลือตัวเอง, หารายได้ด้วยตนเอง, มีเพื่อน มีสังคม และมีความฝันดั่งเช่นพวกเราทุกๆคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความเห็นส่วนตัว - ภาพยนต์กึ่งสารคดีเรื่องนี้(ที่ผมค่อนข้างให้น้ำหนักไปทางสารคดีมากกว่า) สร้างจากเรื่องจริงในสังคม จากคำถามเพียงประโยคสั้นๆว่า"คนเป็นดาวน์ซินโดรมจะอยู่กันยังไง" ตัวหนังถ่ายทอดออกมาค่อนข้างน่าสนใจ ผู้ชมสามารถมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้ไม่ยาก ทั้งสนุก เศร้า และตื้นตัน เหมือนภาพยนต์เป็นสื่อที่ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ทั้ง 5 คนนี้ ดำเนินเรื่องแบบเรียบๆ ไม่หวือหวามาก ดูได้เรื่อยๆ บางช่วงมีเบื่อมีหลุด แต่ก็สามารถดึงกลับมาได้ด้วยความ real ของนักแสดง ตอนจบทำได้ค่อนข้างกินใจ และก่อให้เกิดการตกตะกอน ต่อยอดทางความคิดเกี่ยวกับเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อต่อไป ซึ่งตีความได้หลากหลาย อาทิ การให้กำลังใจ / การเรียนรู้และเปิดใจยอมรับ / ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคนที่เป็นดาวน์ซินโดรม และสำหรับผมที่ได้รับมากที่สุดคือ"บทบาทและความสำคัญในครอบครัว"
สิ่งที่ประทับใจ - เหมือนเรามารู้จักเพื่อนใหม่(ที่เป็นดาวน์) มากกว่ามาดูภาพยนต์ คือรู้สึกอยากรู้จักพวกเค้ามาขึ้น คือตอนผมดูหนังเสร็จที่ CTW ผมรีบเดินลงมาที่ Uniqlo เลย เผื่อจะเจอแบงค์ ฮ่าๆๆๆ ส่วนมุกใส่มาได้ค่อนข้าง real(ก็มัน real จริงๆ ไม่มีบท ฮ่าๆๆๆ) มีปล่อยฮาได้หลายช็อตอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตาแบงค์นี่หลายดอกเลย ตอนจบถือว่าพีคในระดับที่สามารถสะกดคนดู(กว่าครึ่งโรง)ให้นั่งดูเครดิตต่อได้หลังหนังจบจนจบจริงๆ ส่วนน้อยที่ลุกขึ้นทันทีเมื่อหนังจบ
สิ่งที่ได้
- ครอบครัว คำนี้คำเดียวเลยจริงๆ สังเกตุได้ว่าตัวหลักหลักทั้งหมด สามารถใช้ชีวิตร่วมอยู่ในสังคมได้อย่างคนปกติ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครอบครัวมีบทบาทสำคัญมากๆต่อพวกเค้า ทุกตัวละครมีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ว่าจะรวยหรือจน ก็สามารถดูแลเอาใจใส่พวกเค้าได้ไม่แตกต่างกัน มีสภาพสังคมและแวดล้อมที่ดี แน่นอน ว่าคนรอบข้างอาจจะเหนื่อยกับพวกเค้าหน่อย แต่มันก็แค่ช่วงแรก เมื่อเค้าเรียนรู้และเติบโตขึ้น เค้าก้จะสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยตัวของเค้าเอง เฉกเช่นคนปกติธรรมดาทั่วไป
แต่อย่าลืม จากข้อมูลทางสถิติ ยังมีครอบครัวอีกจำนวนไม่น้อย เมื่อรู้ว่าลูกที่เกิดมาเป็นดาวน์ฯ กลับเลือกที่จะทอดทิ้งพวกเค้า และคิดว่าพวกเค้าคือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บวกกับค่านิยมเดิมๆ ที่เข้าใจผิด คิดว่าพวกเค้าคือภาระ ไม่มีใครบนโลกนี้อยากเป็นภาระ เค้าจะเป็นภาระก็ต่อเมื่อคุณทำให้เค้าเป็น!! หากคุณปฏิบัติต่อเค้าเยี่ยงคนธรรมดาปกติ เค้าก้จะเป็นคนธรรมดาปกติ
- อุปนิสัยของคนที่เป็นดาวน์(อ้างอิงจากตัวละคร) แม้ทุกคนจะมีนิสัยที่ต่างกัน แต่ทุกคนมีบางสิ่งที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น
1.ขี้ลืม/ความจำสั้น ไม่สามารถจำอะไรนานๆได้ อาทิ ฉากสัมภาษณ์ที่แบงค์บอกว่ามีเพื่อนสนิท แต่จำชื่อไม่ได้(ฮา) / ตอนแพนกลับไปเยี่ยมมหาวิทยาลัย แล้วจำชื่อหลายคนไม่ได้ แต่รู้ว่ารัก(ฮา)
2.ทุกสิ่งคือเรื่องจริง ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรกับเค้า เค้าจะคิดว่าเป็นเรื่องจริงหมด ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าไหนจริง ไหนล้อเล่น จนทำให้บ้างครั้งเค้าก้เข้าใจผิดไปไกลเหมือนกัน(อันนี้ต้องระวัง)
3.ร่าเริง,โกรธแล้วหายเร็ว ไม่มีจริต,มารยา
4.พูดค่อยข้างเร็ว แสดงให้เห้นถึงสมองทำงานเร็วเกินกว่าที่ร่างกายจะตอบสนองทัน หรืออีกแง่นึงคือพูดช้าไปเลย เช่นถามไปแล้วต้องนึกก่อน 5วิ แล้วค่อยตอบ
5.อ้วน(ฮ่าๆๆๆๆๆ)
ในส่วนของเพลง ถ้าไม่กล่าวถึงคงจะรู้สึกผิดไม่น้อย เพราะทำออกมาได้โครต Impact บอกเลยว่าเพลงแนวนี้ให้ศิลปินแนวตลาดทำไม่ได้นะ มันไม่อิน ต้องอินดี้แบบนี้นี่แหละ โครตโดน การันตีได้จากการสะกดคนดูไว้ในช่วงท้ายเครดิตกว่าครึ่งโรง!!
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะขอบคุณ
- คุณครูและบุคคลากร โรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูล จ.เพชรบุรี(ร.ร.ที่น้องออม-อันเรียน) กับความทุ่มเทและความเข้าใจ ที่ยากจะหาใครมาเสมอเหมือนพวกคุณ
- AIS, Starbuck, Uniqlo และองค์กรหรือบุคคลอื่นๆที่เปิดกว้างและมอบโอกาสให้แก่ผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรม ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ทีมงานและผู้สร้างฯ อยากขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้จริงๆ เพราะด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง(ทั้งจำนวนโรงและจำนวนรอบ) อาจจะทำให้หนังดีๆเรื่องนี้ คงไม่ค่อยทำเงินเท่าไร แค่ถึง 10 ล้านก็บุญมากแล้ว แต่ยังไงซะ สิ่งที่คุณต้องการสื่อสารผ่านแผ่นฟิล์มออกมา เชื่อเถอะ! ว่าคนดูได้รับกลับไปเต็มๆแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้