หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] REVIEW :* F R I 3 N D S T R I P * เที่ยวเชียงราย..ปลายฝนต้นหนาว ไม่ง้อวันลา 3วัน2คืน ทริปแบบเกือบแน่น กับงบปานกลาง
กระทู้รีวิว
เที่ยวไทย
>>หวัดดีคับ เป็นกระทู้แรกเลยที่ลองเขียน ปกติเวลาไปเท่วก็มาหาข้อมูลใน Pantip ตลอด ครั้งนี้เลยอยากลองแชร์ข้อมูลบ้าง เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่น ยังไงถ้าข้อมูลผิดพลาดตงไหนก็ขออภัยด้วยนะคับ
..ทริปนี้เกิดขึ้นจากอยากรวมตัวเพื่อนสมัยมหาลัยไปเท่ว ตจว. กัน แต่ว่าแต่ละคนก็คิวแน่นกันเหลือเกิน คนนั้นว่างวันนั้น คนนี้ไม่ว่างวันนี้ เลยพยายามหาวันที่ทุกคนไปได้โดยไม่ต้องลา นั่นก็คือเสาร์-อาทิตย์ เลยจัดแจงหาตั๋วเครื่องบิน และในที่สุด Lion Air ก็ออกโปรมาพอดี เลยเลือกหาจังหวัดที่น่าสนใจ และก็มาตกที่เชียงราย ว่าแต่ไปเชียงรายแค่เสาร์-อาทิตย์ เนี่ยนะ?จะไปดอย?มานจะได้เท่วทันหรอ?ลองมาดูกันคับ -)
..เราได้ตั๋ว กทม.-เชียงราย มาในราคา(ไป-กลับ) 990 บาท ออกเดินทางวันแรก(เย็นวันศุกร์ที่ 25กย.58) เวลา 17.15 น. (เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลางาน) ดังนั้นหลังจากเลิกงานทุกคนก็รีบมาเจอกันที่ดอนเมือง ทริปนี้ไปกันทั้งหมดรวม 9 คน ออกเดินทางจากดอนเมืองใช้เวลาเพียง 1.20 นาที ก็มาถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เวลาประมาน 18.35 น.
..เราจองรถตู้ไว้ 1 คัน ตอนแรกจะเช่ารถยนต์ขับกันเอง 2 คัน แต่พอบวกลบคูณหารแล้ว เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย เช่ารถตู้ดีกว่า เพราะมีคนขับให้ด้วย อีกอย่างเราแพลนไว้ว่าจะต้องไปพักที่ตีนภูชี้ฟ้าเลยในคืนแรก ซึ่งเป็นเวลากลางคืนอาจอันตรายถ้าขับกันไปเอง เราจองรถตู้ไว้กับ "เชียงรายเอกชัยรถเช่า"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เบอร์ติดต่อ 089-8515127 www.chiangraiEkkachai.com
ราคาวันละ 1900 บาท พร้อมคบขับ แต่ถ้าขึ้นดอยคิดเพิ่มที่ละ 500 บาท รถตู้แนะนำให้นั่งไม่เกิน 10 คน (ราคาต่อรองได้นิดหน่อย เราได้รถมาในราคา 5600 บาท ตลอดทริปไม่รวมน้ำมัน ต้องโอนมัดจำ 50% ส่วนที่เหลือจ่ายที่สนามบินวันกลับ)
..ถึงสนามบินเชียงราย เดินออกมา พี่คนขับรถชูป้ายรอรับ ชอบตรงนี้แหละ 55 ออกจากสนามบินมาแวะหาไรกินรองท้องในเมือง และมุ่งหน้าเพื่อจะไปที่พักที่จองไว้คืนแรกชื่อว่า "ภูชี้ฟ้า โฮมสเตย์ บ้านออย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
082-8934001
ราคาเหมาคนละ 500 บาท พร้อมอาหารเย็นและเช้า ห้องพักนอนได้ห้องละ 2 คน ใช้เวลาจากสนามบินมาถึงที่พักประมาน 2 ชั่วโมงนิดๆ
ถึงที่พักประมาณ 21.30 น. ทางที่พักเตรียมอาหารรอไว้ให้ ไปถึงก็กินได้เลย ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะไม่ทัน 55 รสชาติและปริมาณโอเคเลย เสดแล้วก็แยกย้ายอาบน้ำนอนพักผ่อนเอาแรง
..วันที่ 2 (เสาร์ 26 กย. 58) เรานัดพี่คนขับรถไว้ ตอน 04.30 น. เพื่อจะขึ้นไปให้ทันดูดาวและพระอาทิตย์ขึ้น ใช้เวลาขับรถจากที่พักไปถึงทางเดินไปภูชี้ฟ้าแค่ประมาณ 15 นาที (นี่คือเหตุผลที่มาพักที่นี่เลย เนื่องจากจะได้ไม่ต้องรีบในตอนเช้า) พอถึงก็จอดรถไว้และลงเดิน จะมีเด็กน้อยมารอต้อนรับและอาสาเป็นไกด์นำทาง ระยะทางจากต้นทางจนไปถึงปลายภูชี้ฟ้าประมาณ 700 เมตร เนื่องจากเราขึ้นมาที่ภูชี้ฟ้าตอนเช้ามืดระหว่างทางเดินพอแหงนหน้ามองท้องฟ้า ทำให้เห็นดาวชัดมาก เป็นครั้งแรกที่เห็นดาวชัดขนาดนี้ เดินมาได้แบบเกือบเหนื่อยก็ถึงแล้ว "ภูชี้ฟ้า"
ประมาณ 7 โมงกว่า เราก็เดินกลับ ทางเดินลื่นนิดหน่อย
ไกด์ตัวน้อยของเรา น้องอั๊ว
..กลับมาถึงที่พักก็กินข้าวเช้า เมนูคือข้าวต้มหมูใส่เห็ด รสชาติพอกินได้ กินเสดก็กลับไปนอนเล่นพักผ่อน เก็บของ นัดกันไว้ว่าจะออกจากที่พักเวลา 10.30 น. ถ่ายรูปวิวจากระเบียงที่พักไว้เป็นที่ระลึก
..เป้าหมายต่อไปของเรา คือ "ดอยผาตั้ง" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้ามากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที สิ่งที่ประทับใจระหว่างการเดินทาง คือวิวข้างทางระหว่างไปดอยผาตั้ง
..ถึงดอยผาตั้ง เวลาประมาณ 11.30 น. จอดรถไว้ที่ข้างๆดอยได้เลย และบันไดทางขึ้นก็อยู่ติดถนน ถ้าอยากเห็นภาพ ดอยผาตั้ง ให้นึกถึง ภูเขาทุ่งหญ้าสีเขียวๆ เหลืองๆ ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบภูเขาแบบนี้มาก ดอยผาตั้งมีหลายจุดชมวิว แต่เนื่องจากมีเวลาไม่มากนัก จึงเลือกที่จะเดินไปจุดชมวิวที่พีคสุด นั่นก็คือ "เนิน 103" ระยะทางประมาน 1 กิโลเมตร ทางเดินจะดินและเป็นช่องทางเล็กๆ ที่ทำไว้ให้เดิน ทางเดินเดินได้ไม่ลำบาก ไม่มีเนินชันมากนัก แต่ที่ลำบากคือตอนที่เราไปฝนเพิ่งตกลงมา ทำให้ทางเดินลื่นมาก ต้องเดินแบบระวังมาก แต่ก็ไม่วายลื่นล้มจนได้ ตกใจนิดหน่อยนึกว่าจะตกเขาดีที่จับหญ้าไว้ทัน สุดท้ายก็ปลอดภัยดี ถือเป็นความทรงจำที่เกิดจากที่นี่ "ดอยผาตั้ง"
..ออกจากดอยผาตั้ง ประมาณเวลาเกือบ 13.00 น. ระหว่างทางลงก็แวะพักกินข้าวกลางวัน ที่ "ร้านบ้านดิน" นั่งกินอาหารยูนนาน มีวิวภูเขา ถ่ายอาหารไม่ทันอีกแล้ว มาถึงก็ต้องกินขาหมู-หมั่นโถว แต่เมนูเด็ดที่ชอบ คือ เห็ดหอมทอดซีอิ๊ว กินได้เรื่อยๆ เพลินๆ
..กินข้าวกลางวันเสด มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงราย
ประมาณ 16.30 น. ก็ถึงที่หมายต่อไป คือ "บ้านดำ" ของ อ.ถวัลย์ ถ่ายรูป เดินเล่น กินไอติม
..จากบ้านดำ ก็เข้ามาในเมืองเชียงราย เพื่อเช็คอินเข้าที่พักคืนที่สองของเราที่ "B2 Hotel"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
053-717515
ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะเคยพักที่บีทู ตอนไปเชียงใหม่ แล้วชอบ เพราะราคาไม่แพงและห้องก็โอเค ถึงจะไม่มีอาหารเช้า และไม่ใหญ่มาก แต่เราไม่ได้ซีเรียสเพราะมันเหมาะสมกับการมาพักแบบไม่ได้อยู่ห้องตลอดเวลา ราคาห้องพักคืนละ 650 บาท 1 ห้องพักได้ 2 คน เลยตกราคาคนละ 325 บาท เราว่าถูกมากนะ แนะนำเลยโรงแรมนี้เดี่ยวนี้มีอยู่หลายจังหวัดแล้ว
...ตอนเย็นเราออกไปกินข้าวเย็นกันที่ "ร้านสลุงคำ" ญาติของเพื่อนแนะนำมาว่าอร่อย ซึ่งพอไปกินก็อร่อยจิงๆ ร้านเน้นขายอาหารเหนือ เมนูเด็ด คือ น้ำพริกอีเก๋ (เป็นน้ำพริกหนุ่มผสมปลาร้า) จิงๆเราไม่กินปลาร้าแต่พอกินกะแคปหมูก็อร่อยดี เราชอบเมนูที่คล้ายๆซี่โครงหมูย่าง
..เสดจากกินข้าวเราก็เดินมาเดินเล่นกันที่ถนนคนเดิน วันเสาร์ของเมืองเชียงราย จากโรงแรมสามารถเดินไปที่ถนนคนเดินได้เลย เดินเรื่อยๆประมาน 10 นาที ก็ถึงแล้ว ไม่ไกลเลย เดินหาไรกินเล่นๆ เพลินๆ มีชาวบ้านมาเต้นกันที่ลานกิจกรรมด้วย เดินเล่นเสดก็เดินกลับที่พัก
...วันที่ 3 (อาทิตย์ 27 กย. 58) เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เวลา 07.30 น. เดินทางไป "ไร่ชาฉุยฟง" ก่อนไปแวะ 7-11 เพื่อซื้อของรองท้องนั่งกินกันในรถ ใช้เวลาเดินทางประมาน 1 ชม. เราก็ถึงไร่ชาฉุยฟง มาที่นี่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการถ่ายรูป ถ่ายรูปเสดก็มาพักกินชาเขียวหอมๆ กะเค้ก นั่งเขียนโปสการ์ด
..09.00 ออกจากไร่ชาฉุยฟง กลับเข้ามาในเมืองไปยังสะพานแม่ฟ้าหลวง เพื่อมาสู่กิจกรรมต่อไป คือ "นั่งเรือล่องแม่น้ำกก ไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร" ถึงท่าเรือซีอาร์ประมาณเกือบ 10.00 น. เรือที่นี่ไม่ต้องจองก็ได้สามารถมาแล้วติดต่อขึ้นเรือไปได้เลย ค่าเหมาเรือลำละ 800 บาท 1 ลำ นั่งได้ไม่เกิน 6 คน (คนละ 133 บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
053-750009
ใช้เวลานั่งเรือไป 1 ชม. กลับ อีก 1 ชม.
..ขาไปเรือจะล่องทวนแม่น้ำกก อากาศหน้าฝนสดชื่นดี วิวข้างทางจะเป็นเนินหญ้า ภูเขาลูกเล็กๆ และก็มีบ้านคนที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ไม่หนาแน่น เห็นแล้วก็อยากมีบ้านอยู่ริมน้ำสงบๆ แบบนี้บ้าง
...นั่งเรือมาเพลินๆ ไม่นานก็ถึงท่าเรือของหมู่บ้านกะเกรี่ยงรวมมิตร กิจกรรมของที่นี่ก็คือ "การนั่งช้างชมหมู่บ้าน" ขึ้นมาจากเรือก็จะเจอจุดที่ขึ้นช้างเลย ราคาการนั่งช้างคนละประมาน 100 กว่าบาท (จำราคาแน่นอนไม่ได้) ใช้เวลานั่งประมาน 30 นาที วิวในหมู่บ้านก็จะเป็นทุ่งนาเขียวขจีและภูเขา ช้างจะไปส่งเราที่อีกจุดโดยเรือที่เรานั่งมาก็จะมารอรับเรากลับที่นี่ได้เลย
..ประมาน 13.00 น. เราก็กลับมาถึงท่าเรือซีอาร์ที่สะพานแม่ฟ้าหลวง ท้องเริ่มร้องเลยไปหาไรกินกันที่ "ร้านป้านวล" ไม่ไกลจากท่าเรือเท่าไหร่ เมนูขึ้นชื่อจะเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยวและอาหารเวียดนามต่างๆ (น้ำเงี้ยวค่อนข้างเผ็ด) หลังจากอิ่มก็ไปลุยกันต่อที่ "วัดร่องขุ่น"
..ตอนเย็นมากันที่แลนด์มาร์คสุดท้าย "ไร่บุญรอด" มาแวะถ่ายรูปตามธรรมเนียม นั่งพักจิบเบียร์ที่ร้านของไร่เพลินๆ นั่งมองอาทิตย์ตกดิน
..ออกจากไร่เวลาเกือบ 18.00 น. เพื่อไปสนามบินเชียงราย เครื่องออก 19.20 น. พร้อมกลับเมืองกรุง โบกมือ บ๊าย บาย..บอกลาเมืองเชียงราย แล้วพบกันใหม่นะ
ชื่อสินค้า:
เที่ยวเชียงราย..ปลายฝนต้นหนาว ไม่ง้อวันลา 3วัน2คืน ทริปแบบเกือบแน่น กับงบปานกลาง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] REVIEW :* F R I 3 N D S T R I P * เที่ยวเชียงราย..ปลายฝนต้นหนาว ไม่ง้อวันลา 3วัน2คืน ทริปแบบเกือบแน่น กับงบปานกลาง
>>หวัดดีคับ เป็นกระทู้แรกเลยที่ลองเขียน ปกติเวลาไปเท่วก็มาหาข้อมูลใน Pantip ตลอด ครั้งนี้เลยอยากลองแชร์ข้อมูลบ้าง เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่น ยังไงถ้าข้อมูลผิดพลาดตงไหนก็ขออภัยด้วยนะคับ
..ทริปนี้เกิดขึ้นจากอยากรวมตัวเพื่อนสมัยมหาลัยไปเท่ว ตจว. กัน แต่ว่าแต่ละคนก็คิวแน่นกันเหลือเกิน คนนั้นว่างวันนั้น คนนี้ไม่ว่างวันนี้ เลยพยายามหาวันที่ทุกคนไปได้โดยไม่ต้องลา นั่นก็คือเสาร์-อาทิตย์ เลยจัดแจงหาตั๋วเครื่องบิน และในที่สุด Lion Air ก็ออกโปรมาพอดี เลยเลือกหาจังหวัดที่น่าสนใจ และก็มาตกที่เชียงราย ว่าแต่ไปเชียงรายแค่เสาร์-อาทิตย์ เนี่ยนะ?จะไปดอย?มานจะได้เท่วทันหรอ?ลองมาดูกันคับ -)
..เราได้ตั๋ว กทม.-เชียงราย มาในราคา(ไป-กลับ) 990 บาท ออกเดินทางวันแรก(เย็นวันศุกร์ที่ 25กย.58) เวลา 17.15 น. (เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลางาน) ดังนั้นหลังจากเลิกงานทุกคนก็รีบมาเจอกันที่ดอนเมือง ทริปนี้ไปกันทั้งหมดรวม 9 คน ออกเดินทางจากดอนเมืองใช้เวลาเพียง 1.20 นาที ก็มาถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เวลาประมาน 18.35 น.
..เราจองรถตู้ไว้ 1 คัน ตอนแรกจะเช่ารถยนต์ขับกันเอง 2 คัน แต่พอบวกลบคูณหารแล้ว เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย เช่ารถตู้ดีกว่า เพราะมีคนขับให้ด้วย อีกอย่างเราแพลนไว้ว่าจะต้องไปพักที่ตีนภูชี้ฟ้าเลยในคืนแรก ซึ่งเป็นเวลากลางคืนอาจอันตรายถ้าขับกันไปเอง เราจองรถตู้ไว้กับ "เชียงรายเอกชัยรถเช่า" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ราคาวันละ 1900 บาท พร้อมคบขับ แต่ถ้าขึ้นดอยคิดเพิ่มที่ละ 500 บาท รถตู้แนะนำให้นั่งไม่เกิน 10 คน (ราคาต่อรองได้นิดหน่อย เราได้รถมาในราคา 5600 บาท ตลอดทริปไม่รวมน้ำมัน ต้องโอนมัดจำ 50% ส่วนที่เหลือจ่ายที่สนามบินวันกลับ)
..ถึงสนามบินเชียงราย เดินออกมา พี่คนขับรถชูป้ายรอรับ ชอบตรงนี้แหละ 55 ออกจากสนามบินมาแวะหาไรกินรองท้องในเมือง และมุ่งหน้าเพื่อจะไปที่พักที่จองไว้คืนแรกชื่อว่า "ภูชี้ฟ้า โฮมสเตย์ บ้านออย" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ราคาเหมาคนละ 500 บาท พร้อมอาหารเย็นและเช้า ห้องพักนอนได้ห้องละ 2 คน ใช้เวลาจากสนามบินมาถึงที่พักประมาน 2 ชั่วโมงนิดๆ
ถึงที่พักประมาณ 21.30 น. ทางที่พักเตรียมอาหารรอไว้ให้ ไปถึงก็กินได้เลย ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะไม่ทัน 55 รสชาติและปริมาณโอเคเลย เสดแล้วก็แยกย้ายอาบน้ำนอนพักผ่อนเอาแรง
..วันที่ 2 (เสาร์ 26 กย. 58) เรานัดพี่คนขับรถไว้ ตอน 04.30 น. เพื่อจะขึ้นไปให้ทันดูดาวและพระอาทิตย์ขึ้น ใช้เวลาขับรถจากที่พักไปถึงทางเดินไปภูชี้ฟ้าแค่ประมาณ 15 นาที (นี่คือเหตุผลที่มาพักที่นี่เลย เนื่องจากจะได้ไม่ต้องรีบในตอนเช้า) พอถึงก็จอดรถไว้และลงเดิน จะมีเด็กน้อยมารอต้อนรับและอาสาเป็นไกด์นำทาง ระยะทางจากต้นทางจนไปถึงปลายภูชี้ฟ้าประมาณ 700 เมตร เนื่องจากเราขึ้นมาที่ภูชี้ฟ้าตอนเช้ามืดระหว่างทางเดินพอแหงนหน้ามองท้องฟ้า ทำให้เห็นดาวชัดมาก เป็นครั้งแรกที่เห็นดาวชัดขนาดนี้ เดินมาได้แบบเกือบเหนื่อยก็ถึงแล้ว "ภูชี้ฟ้า"
ประมาณ 7 โมงกว่า เราก็เดินกลับ ทางเดินลื่นนิดหน่อย
ไกด์ตัวน้อยของเรา น้องอั๊ว
..กลับมาถึงที่พักก็กินข้าวเช้า เมนูคือข้าวต้มหมูใส่เห็ด รสชาติพอกินได้ กินเสดก็กลับไปนอนเล่นพักผ่อน เก็บของ นัดกันไว้ว่าจะออกจากที่พักเวลา 10.30 น. ถ่ายรูปวิวจากระเบียงที่พักไว้เป็นที่ระลึก
..เป้าหมายต่อไปของเรา คือ "ดอยผาตั้ง" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้ามากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที สิ่งที่ประทับใจระหว่างการเดินทาง คือวิวข้างทางระหว่างไปดอยผาตั้ง
..ถึงดอยผาตั้ง เวลาประมาณ 11.30 น. จอดรถไว้ที่ข้างๆดอยได้เลย และบันไดทางขึ้นก็อยู่ติดถนน ถ้าอยากเห็นภาพ ดอยผาตั้ง ให้นึกถึง ภูเขาทุ่งหญ้าสีเขียวๆ เหลืองๆ ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบภูเขาแบบนี้มาก ดอยผาตั้งมีหลายจุดชมวิว แต่เนื่องจากมีเวลาไม่มากนัก จึงเลือกที่จะเดินไปจุดชมวิวที่พีคสุด นั่นก็คือ "เนิน 103" ระยะทางประมาน 1 กิโลเมตร ทางเดินจะดินและเป็นช่องทางเล็กๆ ที่ทำไว้ให้เดิน ทางเดินเดินได้ไม่ลำบาก ไม่มีเนินชันมากนัก แต่ที่ลำบากคือตอนที่เราไปฝนเพิ่งตกลงมา ทำให้ทางเดินลื่นมาก ต้องเดินแบบระวังมาก แต่ก็ไม่วายลื่นล้มจนได้ ตกใจนิดหน่อยนึกว่าจะตกเขาดีที่จับหญ้าไว้ทัน สุดท้ายก็ปลอดภัยดี ถือเป็นความทรงจำที่เกิดจากที่นี่ "ดอยผาตั้ง"
..ออกจากดอยผาตั้ง ประมาณเวลาเกือบ 13.00 น. ระหว่างทางลงก็แวะพักกินข้าวกลางวัน ที่ "ร้านบ้านดิน" นั่งกินอาหารยูนนาน มีวิวภูเขา ถ่ายอาหารไม่ทันอีกแล้ว มาถึงก็ต้องกินขาหมู-หมั่นโถว แต่เมนูเด็ดที่ชอบ คือ เห็ดหอมทอดซีอิ๊ว กินได้เรื่อยๆ เพลินๆ
..กินข้าวกลางวันเสด มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงราย
ประมาณ 16.30 น. ก็ถึงที่หมายต่อไป คือ "บ้านดำ" ของ อ.ถวัลย์ ถ่ายรูป เดินเล่น กินไอติม
..จากบ้านดำ ก็เข้ามาในเมืองเชียงราย เพื่อเช็คอินเข้าที่พักคืนที่สองของเราที่ "B2 Hotel" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะเคยพักที่บีทู ตอนไปเชียงใหม่ แล้วชอบ เพราะราคาไม่แพงและห้องก็โอเค ถึงจะไม่มีอาหารเช้า และไม่ใหญ่มาก แต่เราไม่ได้ซีเรียสเพราะมันเหมาะสมกับการมาพักแบบไม่ได้อยู่ห้องตลอดเวลา ราคาห้องพักคืนละ 650 บาท 1 ห้องพักได้ 2 คน เลยตกราคาคนละ 325 บาท เราว่าถูกมากนะ แนะนำเลยโรงแรมนี้เดี่ยวนี้มีอยู่หลายจังหวัดแล้ว
...ตอนเย็นเราออกไปกินข้าวเย็นกันที่ "ร้านสลุงคำ" ญาติของเพื่อนแนะนำมาว่าอร่อย ซึ่งพอไปกินก็อร่อยจิงๆ ร้านเน้นขายอาหารเหนือ เมนูเด็ด คือ น้ำพริกอีเก๋ (เป็นน้ำพริกหนุ่มผสมปลาร้า) จิงๆเราไม่กินปลาร้าแต่พอกินกะแคปหมูก็อร่อยดี เราชอบเมนูที่คล้ายๆซี่โครงหมูย่าง
..เสดจากกินข้าวเราก็เดินมาเดินเล่นกันที่ถนนคนเดิน วันเสาร์ของเมืองเชียงราย จากโรงแรมสามารถเดินไปที่ถนนคนเดินได้เลย เดินเรื่อยๆประมาน 10 นาที ก็ถึงแล้ว ไม่ไกลเลย เดินหาไรกินเล่นๆ เพลินๆ มีชาวบ้านมาเต้นกันที่ลานกิจกรรมด้วย เดินเล่นเสดก็เดินกลับที่พัก
...วันที่ 3 (อาทิตย์ 27 กย. 58) เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เวลา 07.30 น. เดินทางไป "ไร่ชาฉุยฟง" ก่อนไปแวะ 7-11 เพื่อซื้อของรองท้องนั่งกินกันในรถ ใช้เวลาเดินทางประมาน 1 ชม. เราก็ถึงไร่ชาฉุยฟง มาที่นี่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการถ่ายรูป ถ่ายรูปเสดก็มาพักกินชาเขียวหอมๆ กะเค้ก นั่งเขียนโปสการ์ด
..09.00 ออกจากไร่ชาฉุยฟง กลับเข้ามาในเมืองไปยังสะพานแม่ฟ้าหลวง เพื่อมาสู่กิจกรรมต่อไป คือ "นั่งเรือล่องแม่น้ำกก ไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร" ถึงท่าเรือซีอาร์ประมาณเกือบ 10.00 น. เรือที่นี่ไม่ต้องจองก็ได้สามารถมาแล้วติดต่อขึ้นเรือไปได้เลย ค่าเหมาเรือลำละ 800 บาท 1 ลำ นั่งได้ไม่เกิน 6 คน (คนละ 133 บาท) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ใช้เวลานั่งเรือไป 1 ชม. กลับ อีก 1 ชม.
..ขาไปเรือจะล่องทวนแม่น้ำกก อากาศหน้าฝนสดชื่นดี วิวข้างทางจะเป็นเนินหญ้า ภูเขาลูกเล็กๆ และก็มีบ้านคนที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ไม่หนาแน่น เห็นแล้วก็อยากมีบ้านอยู่ริมน้ำสงบๆ แบบนี้บ้าง
...นั่งเรือมาเพลินๆ ไม่นานก็ถึงท่าเรือของหมู่บ้านกะเกรี่ยงรวมมิตร กิจกรรมของที่นี่ก็คือ "การนั่งช้างชมหมู่บ้าน" ขึ้นมาจากเรือก็จะเจอจุดที่ขึ้นช้างเลย ราคาการนั่งช้างคนละประมาน 100 กว่าบาท (จำราคาแน่นอนไม่ได้) ใช้เวลานั่งประมาน 30 นาที วิวในหมู่บ้านก็จะเป็นทุ่งนาเขียวขจีและภูเขา ช้างจะไปส่งเราที่อีกจุดโดยเรือที่เรานั่งมาก็จะมารอรับเรากลับที่นี่ได้เลย
..ประมาน 13.00 น. เราก็กลับมาถึงท่าเรือซีอาร์ที่สะพานแม่ฟ้าหลวง ท้องเริ่มร้องเลยไปหาไรกินกันที่ "ร้านป้านวล" ไม่ไกลจากท่าเรือเท่าไหร่ เมนูขึ้นชื่อจะเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยวและอาหารเวียดนามต่างๆ (น้ำเงี้ยวค่อนข้างเผ็ด) หลังจากอิ่มก็ไปลุยกันต่อที่ "วัดร่องขุ่น"
..ตอนเย็นมากันที่แลนด์มาร์คสุดท้าย "ไร่บุญรอด" มาแวะถ่ายรูปตามธรรมเนียม นั่งพักจิบเบียร์ที่ร้านของไร่เพลินๆ นั่งมองอาทิตย์ตกดิน
..ออกจากไร่เวลาเกือบ 18.00 น. เพื่อไปสนามบินเชียงราย เครื่องออก 19.20 น. พร้อมกลับเมืองกรุง โบกมือ บ๊าย บาย..บอกลาเมืองเชียงราย แล้วพบกันใหม่นะ