ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ว่างมาก จะปล่อยเวลาให้เสียเปล่าก็น่าเสียดาย
ในแต่ละสัปดาห์จึงพยายามคิดหาสถานที่ซึ่งจะช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้กับยัยหน้าแป้นแล้นอย่างสม่ำเสมอ
สัปดาห์นี้เลือกเดินทางไปเที่ยวใกล้ๆ ที่ 'พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน' (SAM SEN NAI PHILATELIC MUSEUM)
โดยมีจุดประสงค์ให้ได้รู้จักกับรูปแบบการสื่อสารอย่างไปรษณีย์ นอกเหนือไปจากการติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ตที่เด็กๆยุคนี้คุ้นเคยกันเป็นหลัก
การเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์ฯ ไม่ยากอะไรนัก เพราะพิพิธภัณฑ์ฯ ตั้งอยู่ติดกับ BTS สะพานควาย เดินลงบันไดมาถึงก็เจอเลย
บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ฯ จะเป็นที่ทำการไปรษณีย์สามเสนใน ให้เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง
พอเข้ามาถึงข้างในก็จะพบกับตู้ไปรษณีย์ยักษ์ใหญ่ตระหง่านต้อนรับอยู่ข้างบันไดที่ต้องใช้เดินขึ้นไปยังชั้น 2 อันเป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ฯ
พอขึ้นมาถึงก็จะเจอกับตู้ไปรษณีย์ตู้แรกของประเทศไทย
สำหรับประวัติ ตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวเป็นตู้ที่ได้รับมอบเป็นของขวัญจากรัฐบาลเยอรมนี ในโอกาสที่ไทยได้เปิดกิจการไปรษณีย์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2426 ตู้มีลักษณะสี่เหลี่ยม ทำด้วยเหล็กหล่อทั้งชิ้น และเป็นศิลปะแบบวิกตอเรียน (ลอกมาจากสูจิบัตรที่เขาแจกมาทั้งดุ้นเลย ^^")
ชื่นชมกับตู้ไปรษณีย์ตู้แรกของไทยไปแล้วก็เตรียมเข้าไปชมสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆต่อกันข้างใน
ภายในของพิพิธภัณฑ์จัดขึ้นอย่างเป็นระเบียบ สถานที่ไม่กว้างขวางนักแต่ก็ครบถ้วนและละเอียดในทุกเรื่องเกี่ยวกับไปรษณียากรไทย
ส่วนหลักๆของพิพิธภัณฑ์ฯ แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนของสิ่งต่างๆที่นำมาโชว์จัดแสดง ส่วนของร้านขายของที่ระลึก และส่วนของห้องสมุดสำหรับค้นหาข้อมูลแบบเอฟวี่ติงจิงกาเบล
ภายในนี้จะได้พบกับแสตมป์ไทยจากชุดแรกจนถึงปัจจุบันกว่า 1,000 ชุด และแสตมป์ต่างประเทศกว่า 200 ประเทศจากทั่วทุกมุมโลก
สนใจอยากดูแบบไหนก็มาเปิดชมได้ตามอัธยาศัย
และพบกับหุ่นจำลองบุรุษไปรษณีย์ที่มากับเครื่องแบบในยุคต่างๆ
พร้อมชื่นชมสิ่งที่นำมาวางโชว์ที่เกี่ยวเนื่องกับไปรษณียากรไทย
เช่นเครื่องชั่งไปรษณียภัณฑ์
ส่วนตุ๊กตาญี่ปุ่นอันนี้วางในตู้โชว์ ซึ่ง...ลืมไปแล้วว่าเกี่ยวอะไรยังไง
ผลงานแสตมป์ที่ชนะการประกวดระดับโลกต่างๆ
ผลงานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพฯ
มีมุมให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
หรือใครจะถ่ายรูปทำเป็นโปสการ์ดถวายพระพรสมเด็จพระเทพฯ ก็มีจัดไว้ให้
จากรูปข้างบน ด้านหลังยัยหน้าแป้นแล้นจะเป็นคอมพิวเตอร์ให้เรากดถ่ายรูปจากเว็บแคมของคอมพิวเตอร์จากนั้นออกแบบโปสการ์ดถวายพระพร
เสร็จแล้วพิมพ์อีเมล์ของเรา โปสการ์ดที่มีรูปของเราพร้อมคำถวายพระพรจะถูกจัดส่งมาที่อีเมล์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ขากลับ เจ้าหน้าที่ใจดีก็ได้มอบโปสการ์ดต่างๆ และแสตมป์ให้เป็นที่ระลึกก่อนโบกมือลา
นอกเหนือจากที่เล่ามา ยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้ดูอีกเยอะ ซึ่งผมอาจทำได้ไม่ค่อยละเอียดนัก ยังไงก็คงต้องลองไปดูกันเอาเองครับ
และนี่ก็คือ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งใจกลางกรุงเทพฯ
หากวันหยุดไม่รู้จะไปไหน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจดี
ลืมบอกไปอีกอย่างว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เสียค่าเข้าชมครับ
รีบไปเที่ยว เดี๋ยวเปิดเทอม : พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน
ในแต่ละสัปดาห์จึงพยายามคิดหาสถานที่ซึ่งจะช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้กับยัยหน้าแป้นแล้นอย่างสม่ำเสมอ
สัปดาห์นี้เลือกเดินทางไปเที่ยวใกล้ๆ ที่ 'พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน' (SAM SEN NAI PHILATELIC MUSEUM)
โดยมีจุดประสงค์ให้ได้รู้จักกับรูปแบบการสื่อสารอย่างไปรษณีย์ นอกเหนือไปจากการติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ตที่เด็กๆยุคนี้คุ้นเคยกันเป็นหลัก
การเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์ฯ ไม่ยากอะไรนัก เพราะพิพิธภัณฑ์ฯ ตั้งอยู่ติดกับ BTS สะพานควาย เดินลงบันไดมาถึงก็เจอเลย
บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ฯ จะเป็นที่ทำการไปรษณีย์สามเสนใน ให้เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง
พอเข้ามาถึงข้างในก็จะพบกับตู้ไปรษณีย์ยักษ์ใหญ่ตระหง่านต้อนรับอยู่ข้างบันไดที่ต้องใช้เดินขึ้นไปยังชั้น 2 อันเป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ฯ
พอขึ้นมาถึงก็จะเจอกับตู้ไปรษณีย์ตู้แรกของประเทศไทย
สำหรับประวัติ ตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวเป็นตู้ที่ได้รับมอบเป็นของขวัญจากรัฐบาลเยอรมนี ในโอกาสที่ไทยได้เปิดกิจการไปรษณีย์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2426 ตู้มีลักษณะสี่เหลี่ยม ทำด้วยเหล็กหล่อทั้งชิ้น และเป็นศิลปะแบบวิกตอเรียน (ลอกมาจากสูจิบัตรที่เขาแจกมาทั้งดุ้นเลย ^^")
ชื่นชมกับตู้ไปรษณีย์ตู้แรกของไทยไปแล้วก็เตรียมเข้าไปชมสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆต่อกันข้างใน
ภายในของพิพิธภัณฑ์จัดขึ้นอย่างเป็นระเบียบ สถานที่ไม่กว้างขวางนักแต่ก็ครบถ้วนและละเอียดในทุกเรื่องเกี่ยวกับไปรษณียากรไทย
ส่วนหลักๆของพิพิธภัณฑ์ฯ แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนของสิ่งต่างๆที่นำมาโชว์จัดแสดง ส่วนของร้านขายของที่ระลึก และส่วนของห้องสมุดสำหรับค้นหาข้อมูลแบบเอฟวี่ติงจิงกาเบล
ภายในนี้จะได้พบกับแสตมป์ไทยจากชุดแรกจนถึงปัจจุบันกว่า 1,000 ชุด และแสตมป์ต่างประเทศกว่า 200 ประเทศจากทั่วทุกมุมโลก
สนใจอยากดูแบบไหนก็มาเปิดชมได้ตามอัธยาศัย
และพบกับหุ่นจำลองบุรุษไปรษณีย์ที่มากับเครื่องแบบในยุคต่างๆ
พร้อมชื่นชมสิ่งที่นำมาวางโชว์ที่เกี่ยวเนื่องกับไปรษณียากรไทย
เช่นเครื่องชั่งไปรษณียภัณฑ์
ส่วนตุ๊กตาญี่ปุ่นอันนี้วางในตู้โชว์ ซึ่ง...ลืมไปแล้วว่าเกี่ยวอะไรยังไง
ผลงานแสตมป์ที่ชนะการประกวดระดับโลกต่างๆ
ผลงานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพฯ
มีมุมให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
หรือใครจะถ่ายรูปทำเป็นโปสการ์ดถวายพระพรสมเด็จพระเทพฯ ก็มีจัดไว้ให้
จากรูปข้างบน ด้านหลังยัยหน้าแป้นแล้นจะเป็นคอมพิวเตอร์ให้เรากดถ่ายรูปจากเว็บแคมของคอมพิวเตอร์จากนั้นออกแบบโปสการ์ดถวายพระพร
เสร็จแล้วพิมพ์อีเมล์ของเรา โปสการ์ดที่มีรูปของเราพร้อมคำถวายพระพรจะถูกจัดส่งมาที่อีเมล์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ขากลับ เจ้าหน้าที่ใจดีก็ได้มอบโปสการ์ดต่างๆ และแสตมป์ให้เป็นที่ระลึกก่อนโบกมือลา
นอกเหนือจากที่เล่ามา ยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้ดูอีกเยอะ ซึ่งผมอาจทำได้ไม่ค่อยละเอียดนัก ยังไงก็คงต้องลองไปดูกันเอาเองครับ
และนี่ก็คือ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งใจกลางกรุงเทพฯ
หากวันหยุดไม่รู้จะไปไหน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจดี
ลืมบอกไปอีกอย่างว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เสียค่าเข้าชมครับ