ขอเล่าก่อนนะคะ
วันนี้เราเข้าไปรับ บริการ frazel laser
ที่ สถาบันความงาม SK clinic สาขา สีลม (คลีนิคนี้มีหลายสาขา)
สอบถามแล้วที่จริงเป็น เลเซอร์ Fractional co2
ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่า ไม่ใช่ Frazel เพราะของจริงทำครั้งนึงน่าจะเป็นหมื่น แต่ที่นี่ 3ครั้ง 2499 ซึ่งคือว่าถูกมาก
เราก็เลยไปทำ เพราะมีปัญหาหลุมสิว
หลังจากกรอกประวัติเสร็จเขาก็เรียกเราให้ขึ้นไป ข้างบนเพื่อ พบคุณหมอ ตอนเข้าไปคำถามแรกที่หมอถามเลยก็คือ "สนใจ ตัวไหน(คงหมายถึงโปรแกรม ที่จะทำ) " ทั้งที่ควรจะถามปรึกษาเรื่องอะไร คือ คุณหมอแกสวยนะคะ ผิวขาวดีมาก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นคุณหมอจริงๆรึเปล่า เพราะไม่มีการเข้ามามองหน้าเราใกล้ๆ แบบตรวจสภาพผิวจริงๆ แต่จะนั่งแบบห่างกันประมาณ 2ฟุต เราก็ถามคำถามที่เราสงสัย ประมาณทำตัวนี้ดีไหมทำแล้วหลังทำเป็นยังไง มีสะเก็ดนานไหม ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล และถามคุณหมอว่า ใครเป็นคนยิงให้ คุณหมอตอบ "พี่พนักงานยิงให้ เพราะพี่เขายิงเก่งกว่าหมออีก" ในใจเราก็แบบ " อะไรนะ พนักงานยิงเลเซอร์เก่งกว่าหมอเนี่ยนะ" แต่ถ้าเราจะให้หมอยิงเองจะต้องจ่ายเพิ่ม 1000 เราก็เอาวะ เค้าคงเทรนด์มาดี (ในส่วนนี้เราว่าเราก็ผิดที่ตกลงทำกับพี่พนักงาน )
หลังจากพบหมอเสร็จก็ออกไปล้างหน้าทายาชา 30นาทีค่ะ ตอนระหว่างรอยาชาก็มีพนักงานคนนึงเดินมาบอกว่าหลังทำ "จะมียาให้นะคะ" แต่ไม่ใช่คุณหมอเป็นบอกว่าจะจ่ายยาอะไรให้ตอนในห้องตรวจ เราก็ตอบ"ค่ะ" เพราะคิดว่าคงเป็นพวก ครีมกันแดด ขี้ผึ้ง หรือครีมทาฆ่าเชื้อโรคหลังยิงเลเซอร์
ที่นี้ล่ะเรื่องมันเริ่มตรงนี้ค่ะ พอ 30นาที พนักงานก็เรียกเราเข้าไปทำเลเซอร์ เราก็ขึ้นไปนอนบนเตียง พนักงานที่เป็นคนทำเลเซอร์ก็แจ้งอีกครั้งค่ะว่า หลังทำจะมียาให้นะคะ เป็นครีมกันแดด ตัวนึงเราก็บอกไปว่า ขอไม่เอาได้ไหมคะ เพราะเรามีครีมกันแดดที่ใช้ปกติทุกวันอยู่แล้ว บอกไปว่ามี biore , la roche posay ซึ่งถือว่าเป็นกันแดดที่ดี มีคุณภาพนะคะ แต่พนักงานบอว่า ไม่ได้นะคะ ต้องเป็นกันแดด ของคลีนิคเท่านั้นก็ บรรยายสรรพคุณ กันแดดตัวนั้นว่าประมาณ มาจากญี่ปุ่น เป็นธรรมชาติมาก ถ้าไม่ทาตัวนี้ ไปใช้ตัวอื่น หน้าต้องไหม้ ต้องเบิร์น อย่างแน่นอน เราก็ถามราคาเท่าไร พี่พนักงานก็บอก 1490 แต่ถ้าซื้อวันนี้ ลดเหลือ 700 คือเราก็จะไม่เอาอยู่ดีค่ะ แต่พนักงานนี่แบบทำหน้าตกใจเหมือนว่าถ้าไม่เอานี่ไม่สามารถยิงเลเซอร์ให้เลยนะคะ เพราะหลังทำแล้วต้องทาเลย (ซึ่งความจริงหลังทำเสร็จก็ 6โมงกว่า(เย็น)แล้วไม่มีแดด แล้วความจริงมันทาแค่ครีมบำรุงมันๆหน่อยแค่นั้นก็จบ)
พี่พนักงานแกบอกว่า ลูกค้าที่ไม่ซื้อ ไม่ใช้กันแดดตัวนี้หลังทำนี่ หน้าเบิร์น หน้าไหม้กันหมดทุกคนเลย แล้วถ้าหน้าพังกับมา ไม่มีการรับผิดชอบนะคะ ถ้าคุณลูกค้าไม่เอากันแดด ต้องเซ็นยินยอมว่า ถ้าหากหน้าพังขึ้นมา พนักงานจะไม่รับผิดชอบ เราก็คิดเลยค่ะ "คือตูต้องซื้อให้ได้ใช่มั๊ยย"
เพราะถ้าเราไม่ซื้อ แล้วเราเซ็นยินยอมว่าหน้าพังขึ้นมาจะไม่มีการรับผิดชอบ
"สิ่งแรกที่เราคิดเลย คือถ้าไม่ซื้อ พนักงานจะยิงเราให้หน้าพังแน่ โดยการใช้ความถี่สูงขึ้นเพราะ เลเซอร์ fractional co2 มันรุนแรงมากค่ะ ยิงทีหน้าจะแดง จะแสบมาก แล้วเป็นสะเก็ดเต็มหน้า แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นจริงก็จะไม่รับผิดชอบ เพราะเราเซ็นยินยอมว่า ไม่เอากันแดด ให้ยิงได้เลย "
เราก็ตัดปัญหาโดยการบอก อ่อพกเงินมาไม่พอค่ะ (คือไม่พอจริงๆถ้ารวมค่ากันแดดไปอีก 700 ซึ่งจริงๆตอนแรกก่อนมาที่คลีนิคเรามีการโทรสอบถามแล้วนะคะ ว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติมมั๊ย เขาก็บอกว่า มีค่ายา แต่
ไม่ได้บังคับค่ะคือจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แล้วแต่คุณลูกค้า เราก็เลยพกไปค่าคอร์สเลเซอร์ +เงินอีกนิดหน่อย ค่าเดินทางอะไรประมาณนี้)พนักงานก็บอกให้เซ็นไว้ก่อนมั๊ย ครั้งหน้ามาจ่าย เราเลยบอก ไม่เป็นไร เอาก็ได้เดี๋ยวไปกดเงินมาเพิ่ม หลังจากนั้นพนักงานก็โอเคตกลง เริ่มยิงเลเซอร์ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
พอยิงเสร็จ ให้เราไปส่องกระจกว่ามันแดงขนาดไหน เราก็ดูตกใจเล็กน้อยว่าแดงเต็มหน้าเลย แล้วก็เอาครีมอะไรไม่รู้ค่ะมาบีบใส่นิ้วเรา ให้เราทาเอง เป็นครีมที่ทาแล้วมันๆ ทาแล้วประมาณ physiogel cream แต่ไม่มันขนาดนั้น จากนั้นก็ลงไปจ่ายตัง + กดเงิน เรียบร้อย รวม 3199 บาท เราก็ออกจากคลีนิค
แล้วก็เช็คดูว่าครีมกันแดดเป็นแบบไหน มันน่าใช้ขนาดไหนกันเชียว ปรากฎในถุงมี ที่กล่องเขียนว่า ANYA PRINCESS
POWDER
อยู่ชิ้นเดียว ไม่มี ยาอะไรอื่นๆเลย

เราก็ สงสัยให้มาผิด เดินกลับไปที่ร้าน ไปถามเคาท์เตอร์ว่า ให้ยามาผิดรึเปล่าคะ อันนี้มันเป็นแป้ง ไม่ใช่กันแดด มีตัวอื่นไหมคะ พนักงานที่นั่น (ประมาณ3คน ) พากันบอกว่า ไม่มีค่ะ มีแค่ตัวนี้ตัวเดียว เราก็แจ้งไปว่า พี่ที่ทำเลเซอร์บอกเป็นครีมกันแดด ทีนี้พนักงานที่เคาท์เตอร์แกก็ตะโกนเรียกพี่ที่ทำเลเซอร์เราให้ลงมาเคลียร์ พอลงมาแกก็บอกว่า มันแป้งค่ะไม่ใช่ครีม เราก็คิดในใจ(อีกแล้ว) "อ่าว ไหงตอนก่อนยิงเลเซอร์ไม่บอกล่ะว่าเป็นแป้งพัฟ เพราะใครมันจะใช้แป้งพัฟหลังจาทำเลเซอร์วะ พูดตลอดว่าต้องทานะคะ ไม่ทาไม่ได้ ตัวเราก็คิดสิว่าเป็นครีม ใครมันจะไปคิดว่าเป็นแป้งพัฟ " แถม แบรนด์ยี่ห้อ ก็ไม่ใช่ของทาง คลีนิคด้วยนะคะ เราเสิร์ชดูใน google ก็มีขายตามเน็ต ,instagram, facebook ก็มีค่ะ
หลังจากนั้นก็ โอเคชั่งมัน ออกจากร้านมา inbox ทาง facebook ไปถาม ว่า พนักงานให้ตัวนี้มาใช่กันแดด หรือแป้งพัฟ ทางนั้นตอบมาว่าแป้งพัฟ เหมือนว่าพนักงานที่ตอบจะไม่ใช่พนักงาน ที่สาขา สีลม แต่เป็นสาขาอื่นค่ะ เราถามแล้วปกติสาขาอื่น จ่ายแป้งพัฟอะไรแบบนี้เหมือนกันไหม ทางนั้นบอก " ไม่แน่ใจค่ะ แล้วแต่เคส " (เป็นเคสที่สวยและเริ่ดมาก ได้แป้งพัฟ) เหมือนพนักงานเขาก็ไม่มีความรู้ด้านยาเลยค่ะ ถามไปก็ต้องรอให้ทางนั้นหาคำตอบสักพักถึงจะตอบกลับค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ไม่ได้อะไรนะคะ เรื่องยิงเลเซอร์ก็ดีค่ะเขายิงให้ทั่วหน้า แต่เราแค่สงสัยทำไม จ่ายยาเป็นแป้งพัฟ ??ใช้แป้งพัฟ ตอนหลังเลเซอร์เนี่ยนะ ?? มันใช่หรอ เพราะจากที่หาข้อมูล คนอื่นที่ทำเลเซอร์ชนิดนี้ จะมีการทาพวกวาสลีน ครีมบำรุงที่เน้นความชุ่มชื้น ให้กับผิวมากกว่า ไม่มีใครได้ยาเป็นแป้งพัฟ SPF 15 เหมือนเราเลย
อันนี้รูปเพิ่มเติมนะคะ
จากสรรพคุณ ก็ไม่เห็นจะบอกว่าใช้ทาหลังทำเลเซอร์เลยนะคะ บอกเหมือนกับแป้งพัฟ ตามท้องตลาดทั่วไป ใช้ปปิด หน้าเนียน แค่นั้น
นี่ยังเหลือคอร์สอีก 2ครั้งทำเดือนหน้า ยังคิดเล่นๆว่า ครั้งหน้าจะมี พวกรองพื้น หรือ บลัชออน อะไร จ่ายมาให้อีก จะได้ครบเซ็ต 555555
ขอบคุณเพื่อนๆที่ทนฟังเรื่องของเรานะคะ ยังไงแนะนำ หรือมีคำถามเพิ่มเติมสอบถามได้นะคะ
SK clinic จ่ายยาหลังเลเซอร์ frazel เป็น ' ' แป้งพัฟ ' '
วันนี้เราเข้าไปรับ บริการ frazel laser
ที่ สถาบันความงาม SK clinic สาขา สีลม (คลีนิคนี้มีหลายสาขา)
สอบถามแล้วที่จริงเป็น เลเซอร์ Fractional co2
ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่า ไม่ใช่ Frazel เพราะของจริงทำครั้งนึงน่าจะเป็นหมื่น แต่ที่นี่ 3ครั้ง 2499 ซึ่งคือว่าถูกมาก
เราก็เลยไปทำ เพราะมีปัญหาหลุมสิว
หลังจากกรอกประวัติเสร็จเขาก็เรียกเราให้ขึ้นไป ข้างบนเพื่อ พบคุณหมอ ตอนเข้าไปคำถามแรกที่หมอถามเลยก็คือ "สนใจ ตัวไหน(คงหมายถึงโปรแกรม ที่จะทำ) " ทั้งที่ควรจะถามปรึกษาเรื่องอะไร คือ คุณหมอแกสวยนะคะ ผิวขาวดีมาก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นคุณหมอจริงๆรึเปล่า เพราะไม่มีการเข้ามามองหน้าเราใกล้ๆ แบบตรวจสภาพผิวจริงๆ แต่จะนั่งแบบห่างกันประมาณ 2ฟุต เราก็ถามคำถามที่เราสงสัย ประมาณทำตัวนี้ดีไหมทำแล้วหลังทำเป็นยังไง มีสะเก็ดนานไหม ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล และถามคุณหมอว่า ใครเป็นคนยิงให้ คุณหมอตอบ "พี่พนักงานยิงให้ เพราะพี่เขายิงเก่งกว่าหมออีก" ในใจเราก็แบบ " อะไรนะ พนักงานยิงเลเซอร์เก่งกว่าหมอเนี่ยนะ" แต่ถ้าเราจะให้หมอยิงเองจะต้องจ่ายเพิ่ม 1000 เราก็เอาวะ เค้าคงเทรนด์มาดี (ในส่วนนี้เราว่าเราก็ผิดที่ตกลงทำกับพี่พนักงาน )
หลังจากพบหมอเสร็จก็ออกไปล้างหน้าทายาชา 30นาทีค่ะ ตอนระหว่างรอยาชาก็มีพนักงานคนนึงเดินมาบอกว่าหลังทำ "จะมียาให้นะคะ" แต่ไม่ใช่คุณหมอเป็นบอกว่าจะจ่ายยาอะไรให้ตอนในห้องตรวจ เราก็ตอบ"ค่ะ" เพราะคิดว่าคงเป็นพวก ครีมกันแดด ขี้ผึ้ง หรือครีมทาฆ่าเชื้อโรคหลังยิงเลเซอร์
ที่นี้ล่ะเรื่องมันเริ่มตรงนี้ค่ะ พอ 30นาที พนักงานก็เรียกเราเข้าไปทำเลเซอร์ เราก็ขึ้นไปนอนบนเตียง พนักงานที่เป็นคนทำเลเซอร์ก็แจ้งอีกครั้งค่ะว่า หลังทำจะมียาให้นะคะ เป็นครีมกันแดด ตัวนึงเราก็บอกไปว่า ขอไม่เอาได้ไหมคะ เพราะเรามีครีมกันแดดที่ใช้ปกติทุกวันอยู่แล้ว บอกไปว่ามี biore , la roche posay ซึ่งถือว่าเป็นกันแดดที่ดี มีคุณภาพนะคะ แต่พนักงานบอว่า ไม่ได้นะคะ ต้องเป็นกันแดด ของคลีนิคเท่านั้นก็ บรรยายสรรพคุณ กันแดดตัวนั้นว่าประมาณ มาจากญี่ปุ่น เป็นธรรมชาติมาก ถ้าไม่ทาตัวนี้ ไปใช้ตัวอื่น หน้าต้องไหม้ ต้องเบิร์น อย่างแน่นอน เราก็ถามราคาเท่าไร พี่พนักงานก็บอก 1490 แต่ถ้าซื้อวันนี้ ลดเหลือ 700 คือเราก็จะไม่เอาอยู่ดีค่ะ แต่พนักงานนี่แบบทำหน้าตกใจเหมือนว่าถ้าไม่เอานี่ไม่สามารถยิงเลเซอร์ให้เลยนะคะ เพราะหลังทำแล้วต้องทาเลย (ซึ่งความจริงหลังทำเสร็จก็ 6โมงกว่า(เย็น)แล้วไม่มีแดด แล้วความจริงมันทาแค่ครีมบำรุงมันๆหน่อยแค่นั้นก็จบ)
พี่พนักงานแกบอกว่า ลูกค้าที่ไม่ซื้อ ไม่ใช้กันแดดตัวนี้หลังทำนี่ หน้าเบิร์น หน้าไหม้กันหมดทุกคนเลย แล้วถ้าหน้าพังกับมา ไม่มีการรับผิดชอบนะคะ ถ้าคุณลูกค้าไม่เอากันแดด ต้องเซ็นยินยอมว่า ถ้าหากหน้าพังขึ้นมา พนักงานจะไม่รับผิดชอบ เราก็คิดเลยค่ะ "คือตูต้องซื้อให้ได้ใช่มั๊ยย"
เพราะถ้าเราไม่ซื้อ แล้วเราเซ็นยินยอมว่าหน้าพังขึ้นมาจะไม่มีการรับผิดชอบ
"สิ่งแรกที่เราคิดเลย คือถ้าไม่ซื้อ พนักงานจะยิงเราให้หน้าพังแน่ โดยการใช้ความถี่สูงขึ้นเพราะ เลเซอร์ fractional co2 มันรุนแรงมากค่ะ ยิงทีหน้าจะแดง จะแสบมาก แล้วเป็นสะเก็ดเต็มหน้า แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นจริงก็จะไม่รับผิดชอบ เพราะเราเซ็นยินยอมว่า ไม่เอากันแดด ให้ยิงได้เลย "
เราก็ตัดปัญหาโดยการบอก อ่อพกเงินมาไม่พอค่ะ (คือไม่พอจริงๆถ้ารวมค่ากันแดดไปอีก 700 ซึ่งจริงๆตอนแรกก่อนมาที่คลีนิคเรามีการโทรสอบถามแล้วนะคะ ว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติมมั๊ย เขาก็บอกว่า มีค่ายา แต่ ไม่ได้บังคับค่ะคือจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แล้วแต่คุณลูกค้า เราก็เลยพกไปค่าคอร์สเลเซอร์ +เงินอีกนิดหน่อย ค่าเดินทางอะไรประมาณนี้)พนักงานก็บอกให้เซ็นไว้ก่อนมั๊ย ครั้งหน้ามาจ่าย เราเลยบอก ไม่เป็นไร เอาก็ได้เดี๋ยวไปกดเงินมาเพิ่ม หลังจากนั้นพนักงานก็โอเคตกลง เริ่มยิงเลเซอร์ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
พอยิงเสร็จ ให้เราไปส่องกระจกว่ามันแดงขนาดไหน เราก็ดูตกใจเล็กน้อยว่าแดงเต็มหน้าเลย แล้วก็เอาครีมอะไรไม่รู้ค่ะมาบีบใส่นิ้วเรา ให้เราทาเอง เป็นครีมที่ทาแล้วมันๆ ทาแล้วประมาณ physiogel cream แต่ไม่มันขนาดนั้น จากนั้นก็ลงไปจ่ายตัง + กดเงิน เรียบร้อย รวม 3199 บาท เราก็ออกจากคลีนิค
แล้วก็เช็คดูว่าครีมกันแดดเป็นแบบไหน มันน่าใช้ขนาดไหนกันเชียว ปรากฎในถุงมี ที่กล่องเขียนว่า ANYA PRINCESS POWDER
อยู่ชิ้นเดียว ไม่มี ยาอะไรอื่นๆเลย
เราก็ สงสัยให้มาผิด เดินกลับไปที่ร้าน ไปถามเคาท์เตอร์ว่า ให้ยามาผิดรึเปล่าคะ อันนี้มันเป็นแป้ง ไม่ใช่กันแดด มีตัวอื่นไหมคะ พนักงานที่นั่น (ประมาณ3คน ) พากันบอกว่า ไม่มีค่ะ มีแค่ตัวนี้ตัวเดียว เราก็แจ้งไปว่า พี่ที่ทำเลเซอร์บอกเป็นครีมกันแดด ทีนี้พนักงานที่เคาท์เตอร์แกก็ตะโกนเรียกพี่ที่ทำเลเซอร์เราให้ลงมาเคลียร์ พอลงมาแกก็บอกว่า มันแป้งค่ะไม่ใช่ครีม เราก็คิดในใจ(อีกแล้ว) "อ่าว ไหงตอนก่อนยิงเลเซอร์ไม่บอกล่ะว่าเป็นแป้งพัฟ เพราะใครมันจะใช้แป้งพัฟหลังจาทำเลเซอร์วะ พูดตลอดว่าต้องทานะคะ ไม่ทาไม่ได้ ตัวเราก็คิดสิว่าเป็นครีม ใครมันจะไปคิดว่าเป็นแป้งพัฟ " แถม แบรนด์ยี่ห้อ ก็ไม่ใช่ของทาง คลีนิคด้วยนะคะ เราเสิร์ชดูใน google ก็มีขายตามเน็ต ,instagram, facebook ก็มีค่ะ
หลังจากนั้นก็ โอเคชั่งมัน ออกจากร้านมา inbox ทาง facebook ไปถาม ว่า พนักงานให้ตัวนี้มาใช่กันแดด หรือแป้งพัฟ ทางนั้นตอบมาว่าแป้งพัฟ เหมือนว่าพนักงานที่ตอบจะไม่ใช่พนักงาน ที่สาขา สีลม แต่เป็นสาขาอื่นค่ะ เราถามแล้วปกติสาขาอื่น จ่ายแป้งพัฟอะไรแบบนี้เหมือนกันไหม ทางนั้นบอก " ไม่แน่ใจค่ะ แล้วแต่เคส " (เป็นเคสที่สวยและเริ่ดมาก ได้แป้งพัฟ) เหมือนพนักงานเขาก็ไม่มีความรู้ด้านยาเลยค่ะ ถามไปก็ต้องรอให้ทางนั้นหาคำตอบสักพักถึงจะตอบกลับค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ไม่ได้อะไรนะคะ เรื่องยิงเลเซอร์ก็ดีค่ะเขายิงให้ทั่วหน้า แต่เราแค่สงสัยทำไม จ่ายยาเป็นแป้งพัฟ ??ใช้แป้งพัฟ ตอนหลังเลเซอร์เนี่ยนะ ?? มันใช่หรอ เพราะจากที่หาข้อมูล คนอื่นที่ทำเลเซอร์ชนิดนี้ จะมีการทาพวกวาสลีน ครีมบำรุงที่เน้นความชุ่มชื้น ให้กับผิวมากกว่า ไม่มีใครได้ยาเป็นแป้งพัฟ SPF 15 เหมือนเราเลย
อันนี้รูปเพิ่มเติมนะคะ
จากสรรพคุณ ก็ไม่เห็นจะบอกว่าใช้ทาหลังทำเลเซอร์เลยนะคะ บอกเหมือนกับแป้งพัฟ ตามท้องตลาดทั่วไป ใช้ปปิด หน้าเนียน แค่นั้น
นี่ยังเหลือคอร์สอีก 2ครั้งทำเดือนหน้า ยังคิดเล่นๆว่า ครั้งหน้าจะมี พวกรองพื้น หรือ บลัชออน อะไร จ่ายมาให้อีก จะได้ครบเซ็ต 555555
ขอบคุณเพื่อนๆที่ทนฟังเรื่องของเรานะคะ ยังไงแนะนำ หรือมีคำถามเพิ่มเติมสอบถามได้นะคะ