คุณเคยรู้สึกดีกับใครบางคนโดยใช้เวลาไม่นานหรือเปล่าคะ?

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ   นี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ถ้าผิดพลาดประการต้องใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย    นี่คือเรื่องราวของเราค่ะ เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณเดือนกันยา ตุลา ปีที่แล้ว เราก็เป็นคนนึงที่อยู่ในโลกโซเชียลมีเดียซึ่งทำให้คนรู้จักและจากกันได้ง่ายขึ้น เราคงไม่โทษเทคโนโลยีหรอกค่ะเพราะมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  เฟสบุ๊คก็เป็นหนึ่งในนั้นซึ่งได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันและเป็นสื่อกลางที่ทำให้เรารู้จักกับคนๆนึง  ขอเรียกเขาว่า คุณชายแล้วกันนะคะ ถึงหน้าตาบุคลิกจะไม่มีเค้าของคุณชายเลยก็ตาม 555555   ช่วงนั้นเราเป็นนักศึกษาพอมีเวลาว่างก็เล่นเฟสส่องคนไปเรื่อยๆซึ่งเราก็ได้ไปเจอกับเฟสของคุณชาย ซึ่งหน้าตาผิวพรรณตรงสเป็คมักมาก เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมแต่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคุยเพราะอยู่คนละห้อง ก็เลยเข้าไปส่อง รูปคู่ไม่เห็น อะไรหวานๆกับใครแท็กอะไรไม่มี เราเลยแอดเพื่อนไป  สักพักเขาก็รับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดไรนะเฉยๆ เพราะปกติก็ไม่มีใครคุยด้วยอยู่แล้ว  เขาก็ทักมาถามชื่อไร เรียนไร ที่ไหน ก็ตอบไปปกติ ไม่มีการจีบ คุยกันไปตามประสาเพื่อนใหม่  เขาก็รู้ว่าเราอยู่โรงเรียนเดียวกันแต่ไม่เคยเห็นหน้า  เราก็เริ่มรู้สึกดีนะคอยเข้าไปส่องเฟสอยู่บ่อยๆไปเจอรูปกับผู้หญิงคนนึงน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นแฟน เราลองถามหยั่งเชิงว่า แฟนน่ารักดีนะ เขาก็หัวเราะแต่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ  แล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ เราเลยถามเขาว่าคนแถวนั้น (แถวที่ทำงานเขา)ไม่มีคนโสดมั่งหรอ เขาบอกว่าไม่มีหรอกมีแต่เขาคนเดียวนี่แหละ เราเคยได้ยินประโยคนึงที่ว่าถ้าเราจริงใจกับใครแล้วเราจะได้ความจริงใจนั้นกลับมาเพราะประโยคนี้แหละจึงทำให้เราเชื่อ (ซึ่งในโลกความเป็นจริงนั้นมีน้อยคนมากที่จะคิดแบบนี้หรือไม่มีเลย จะว่าเราซื่อก็ได้นะ อันนี้ยอมรับ)  จนกระทั่งมีการขอเบอร์  เราก็ให้ไป จากนั้นก็โทรมาคุยเรื่อยๆ จนเราเริ่มสนิทกัน ก็มีร้องเพลงให้ฟังบ้าง (เป็นคนชอบร้องเพลงฟังได้ฟังไม่ได้นั้นอีกเรื่อง)  เราก็เปลี่ยนจากแชทเฟสมาเป็นไลน์ ช่วงนั้นเราปิดเฟสเลย เพราะเราคิดว่ามันมีช่องทางการติดต่อกันเยอะและง่ายเกินไปแล้วอีกอย่างเราไม่อยากรับรู้เรื่องราวของเพื่อนหรือเพื่อนรับรู้เรื่องราวของเรา อยากให้คิดถึงกันแล้วโทรหากันมากกว่าเพราะมันได้ยินเสียงได้แสดงความรู้สึกออกทางน้ำเสียง  เขาก็ถามทำไมถึงปิดเฟส เราก็บอกไปว่าอยากให้คิดถึงโทรหามากกว่า จริงๆก็อยากให้เขาโทรมานั่นแหละ  จากนั้นเราเริ่มสังเกตว่าเวลาที่เขาโทรมาจะคุยแค่สั้นๆไม่ถึง 5 นาที จนวันนึงไม่โทรมา ไลน์มาแค่ประโยคเดียว เพราะความสงสัย เราเลยเปิดเฟสดูความเคลื่อนไหว   ทายสิว่าเกิดอะไรขึ้นคะ?......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................แจ๊คพอตแตก เกือบได้เป็นมือที่สามแล้วไหมละ   เราไปเจอข้อความนึงซึ่งโพสไว้ในเฟสเขา ประมาณว่าเขาทะเลาะกับแฟนไปเที่ยวกันแล้วเขาลงรูปแต่แฟนไปลบรูปพวกนั้น เขาเลยดราม่าขึ้นเฟส ''เหตุการณ์เดิมๆ มันกลับมาอีกครั้งให้โอกาสแล้วนะ...เลิกแล้วนะสุดท้ายความเจ็บปวดมันก็กลับมาเหมือนเดิม บอกแล้ว เตือนแล้ว ว่าอย่าทำให้เสียใจ รู้นะว่าอย่าทำให้แค้นคนๆนี้มันทำได้มากกว่านี้อีกได้มากกว่าที่เคยกระทำมา มันเป็นเรื่องที่ไม่ใหญ่หรอกแค่รูปภาพแต่สิ่งที่ใหญ่ที่สุดก็คือเหตุผลของการลบมันคือะไรลบทำไมเพื่ออะไร มันต้องมีแรงจูงใจในการกระทำ ถ้าฉันรักแล้วเธออย่าเลว'' เรารู้สึกว่า เฮ้ย ดึงเราเข้าไปเกี่ยวเพราะประชดแฟน  ด้วยอารมณ์โมโห เราเลยโพสต์สเตตัส '' หลอกก็ไม่เคยหลอกใครทำไมถึงเจอแต่คนเ..ยๆคะ''   สักพักเลยลบออกทั้งสเตตัสทั้งไลน์ทั้งคนเฮียๆนั้นแหละค่ะ.....เรากลับมาเล่นเฟสตามปกติ จนกระทั่ง 4 เดือนผ่านไป มีผู้ชายคนนึงแอดเพื่อนมาค่ะ คงรู้นะคะว่าใคร ก็อีตาคุณชายนั่นแหละค่ะ เราไม่เคยคิดนะว่าเขาจะแอดมา ตอนแรกเราไม่รับค่ะ  แต่เพราะความอยากรู้ที่เขาแอดมามีจุดประสงค์อะไรอีก
วันแรกที่รับ
คุณชาย: ทำไร
เรา:ไม่ตอบ

วันที่2
คุณชาย: ทำไร
เรา:ไม่ตอบ

เราก็ไม่รู้นะคะ ที่เราไม่ตอบเพราะเล่นตัว5555 หรือเพราะเกลียดมันเป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน แต่ก็จะลองดูว่าเขาจะทักมาได้สักกี่วัน

วันที่3
คุณชาย: ........X..............ชื่อเรา ขอถามไรหน่อยดิ
เรา:.......................
คุณชาย: น้องจะไปเรียนที่ม. A เขาบังคับให้อยู่หอในไหม
เรา:ไม่รู้ ไม่ได้เรียนป.ตรีที่นี่
แล้วเราก็ใจอ่อนค่ะ คุยกับเขาเรื่องหอน้องแต่เป็นคำตอบที่สั้นๆห้วนๆ เราทนไม่ได้ละอึดอัด จนในที่สุดก็ถามว่าตอนนั้นทำแบบนั้นทำไม

เรา: ถามจริงๆเถอะตอนนั้นทำแบบนั้นทำไม โกหกกันทำไม
คุณชาย:มีปัญหากับแฟน เราไม่เคยมีความสุขเลยที่คบกัน ตอนนี้เลิกกันแล้ว
เรา: ขอด่าทีเหอะ เลว  สมน้ำหน้า
คุณชาย: อยากด่าก็ด่ามาเหอะ
เรา: อย่าฆ่าตัวตายนะ กลัวบาป
คุณชาย:เราคิดว่าแกจะไม่คุยกับเราแล้ว
เรา: โกรธไปก็เสียสุขภาพจิตไปเปล่าๆ
คุณชาย:ขอโทษ ไม่ต้องยกโทษให้ก็ได้นะ
เรา:ไม่หายต้องมีของให้ก่อน
เราเลยส่งรูปปกหนังสือนิยายที่เราอยากได้ตอนนั้นบอกว่าถ้าซื้อให้ถึงจะหาย เขาเลยบอกถ้าเข้าเมืองจะไปดูให้ เราคุยกันประมาณตี 1 เขาก็ขอเบอร์ใหม่บอกว่าตอนนั้นหายไปละ เราเปลี่ยนมาคุยโทรศัพท์ แอดไลน์ใหม่เพราะเราลบไปแล้ว เราก็คุยกันเรื่อยๆทั้งในไลน์ และโทรศัพท์  เดือนกุมภาพันธ์เพื่อนเราเสีย เพื่อนรักด้วย เราเสียใจมากแต่ยังกลับบ้านไม่ได้ เพราะต้องทำแลปให้เสร็จก่อน เราคิดถึงเพื่อนเลยโพสต์รูปเพื่อนตอนรับปริญญาพร้อมกับเนื้อเพลง กาลครั้งหนึ่ง

คุณชาย:ทำไร
เรา:เศร้าอยู่

เขาก็ปลอบเราจนเราหายเศร้า เรากลับบ้านมางานศพเพื่อน เขาก็โทรมาตอนกลางคืนถามว่าเป็นไงบ้าง หายเศร้ายังไปบ้านเพื่อนยังไง บลาๆๆๆๆๆๆๆ เรารู้สึกว่าครั้งนี้ที่เขากลับมามันอาจจะดี เราเลยลองเสี่ยงดูอีกครั้งซึ่งเราไม่สามารถรู้เลยว่ามันจะดีหรืออาจจะเจ็บจนทำให้เราเกลียดความรักไปเลยก็ได้ เดือนนี้คือเดือนเกิดของเราสามวันถัดไปจากวันที่เพื่อนเสีย เขาเข้ามาอวยพรในเฟส เราก็ไลค์กับเม้นท์ขอบคุณปกติ แต่ก็ไม่มีไรพิเศษ   จู่ๆเขาก็บอกว่าเดือนนี้ก็เป็นวันเกิดเขาเหมือนกัน เราเกิดก่อนเขา 17 วัน เขาชอบว่าเราแก่ มันก็แค่ 17 วันละเนอะไม่คิด เรามักจะตอบกลับไปแบบนี้ พอถึงวันเกิดเขาเราซื้อเค้กให้แต่เป็นชิ้นเล็กๆส่งวิดีโอปักเทียนส่งไปให้ในไลน์ แล้วเราก็เป็นคนเป่ากับกินเองนั่นแหละ เขาก็ส่งรูปที่ไปกินข้าวกับครอบครัวที่ร้านอาหารให้ดู เราเลยบอกอยากมีแบบนี้บ้างจัง ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวพามานี่คือสิ่งที่เขาพูดกับเราในวันนั้น เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ เขาก็เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เศร้าๆอัพสเตตัสดราม่า แฟนเก่าแคปหน้าจอที่คุยกันแท็กในเฟส ส่งเพลงทำไมไม่คิดดีๆให้  เรารู้ว่าเขายังไม่ลืมแฟนกว่าก็คบกับมาตั้ง 4 ปีจะลืมง่ายๆคงไม่ได้หรอก  เขาเคยเล่าเรื่องแฟนเก่าให้ฟัง ว่าผู้หญิงไปทำงานห่างกัน ไปเจอผู้ชายที่ทำงานใกล้ชิดและอีกอย่างผู้หญิงก็ทำงานได้เงินเดือนเยอะกว่าเขาเลยเป็นเหตุให้เลิกกัน เขาบอกว่าแฟนเก่าเจ้าชู้ ที่เราเห็นหน้าจอแคปมาจากผู้หญิงคนนั้น เราคิดว่าเขาคงเลิกกันจริงๆ เขาก็ยืนยันว่าจริง จนมีวันนึงที่เราไม่แน่ใจ

เรา:เราจะสามารถเชื่อคนที่เขาเคยหลอกเราได้หรอ?
คุณชาย:เลิกกันแล้วจริงๆ แกไม่ต้องรักฉันหรอกแต่อยู่ด้วยกันไปนานๆก็พอ
นี่คือสิ่งที่เราพูดกันในวันนั้น  ช่วงเดือนมีนาคมเป็นเดือนที่เราปิดแลปตั้งใจว่าจะพักร่างพร้อมสมองลัลล้า  ไปหาเพื่อนที่จังหวัดนึงแถวภาคตะวันออก เราเคยพูดไว้ เขาบอกว่างั้นไปด้วย ก่อนวันที่จะไปเที่ยวกันเป็นวันแต่งงานของพี่ชายเรา  เขาก็ทักไลน์มา



คุณชาย: ทำไรคนสวย
เรา: มางานแต่งพี่
คุณชาย:ส่งรูปมาดูสิ
เราก็ส่งรูปไปให้ดู ช่วงนี้ทำไรเขาชอบส่งรูปมาให้ดูตลอดจนเราคอยเบรคว่าจะส่งมาอะไรหนักหนา เขายังงอน บอกว่าไม่ส่งแล้วก็ได้ เราก็เลยว่ามันเยอะเกินวันละรูปก็ได้  คืนก่อนไปเขาไม่โทรมาไม่ถามว่าจะไปตอนไหนอะไรยังไง จนเราทนไม่ได้

คุณชาย:ฮัลโหล
เรา:ตกลงจะไปไม่ไป
คุณชาย:ไป
เรา:เจอกันตอน 9.00 ที่ X นะ
คุณชาย:ได้ๆ นอนซะพรุ่งนี้เจอกัน
เราคุยกันแค่นี้ก็วางสาย เอาละค่ะ พรุ่งนี้จะได้เจอหน้าผู้ชายครั้งแรก ต้องสวยจะใส่ชุดนี้แต่งหน้าแบบนี้ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ     ตอนเช้าเขาไลน์บอกว่าออกมาแล้วละก็เงียบไป เราคุยโทรศัพท์กับเพื่อน เล่าให้เพื่อนฟังว่าจะมีผช ไปด้วยนะ นางตกใจ ว่าเฮ้ยอะไรยังไง พูดจริงดิ ไหนเล่ามาเป็นลูกเต้าเหล่าใครบ้านอยู่ไหน ทำอาชีพอะไร ไว้ใจได้หรือเปล่า เพื่อนสาวนางเป็นห่วงนะคะ เพราะชะนีน้อยนางนี้ไม่เคยพาผช ไปแนะนำ ก็เล่าคร่าวๆ สรุปให้ฟัง เพื่อนสาวก็เออ ออ ตาม การกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสมนะคะ เพราะเพิ่งรู้จักกันเขาอาจจะเป็นคนไม่ดี พาไปทำมิดีมิร้ายเราอาจจะโชคดีที่เขาไม่ทำไรเรา เราก็แอบพกอาวุธนะคะ55555555555555 อันเล็กนิดเดียว คงทำไรเขาไม่ได้หรอก  รอประมาณ 30 นาที เขาก็มาถึงวินาทีที่เห็นครั้งแรก  เฮ้ยเข้มกว่าในรูปอีก5555 แล้วเราก็ออกเดินทางกัน  เราคุยอะไรกันบนรถไม่มีรายละเอียดไรมากเพราะจำไม่ได้ ตัวจริงเขากับในโทรศัพท์นี่ทักษะการพูดต่างกันมาก ในโทรศัพท์นี่อ่อยจัง ตัวจริงอะหรอ  เงียบมากจนเราอึดอัดเหมือนอยู่ในป่าช้า เราเลยถามเขาว่าเป็นคนเงียบๆแบบนี้หรอ  เขาเลยบอกว่าใช่ ชอบฟังมากกว่า ทั้งเราและเขาเป็นคนคล้ายๆกันมั้ง เราไม่ชอบพูดกับคนแปลกหน้าแต่กับคนสนิทจะพูดมาก    ใช้เวลาเดินทางสัก 4 ชั่วโมง เราก็ถึง หาข้าวกินกันเขาก็ยังไม่มองหน้าเรานะ ไม่รู้เขินหรืออะไร เราเลยถามว่าเขินหรอ มองหน้ากันหน่อยสิเวลาพูด เขาก็ไม่รับบอกไม่เห็นเขินเลย ไม่มีอะไรหน้าเขิน  เราก็แล้วไป  กินข้าวเสร็จเราก็ไปหาที่พักเพื่อรอเพื่อนกลับจากที่ทำงาน   ที่พักอยู่ใกล้ๆกับห้องเพื่อนเรา เขาก็จัดแจงเปิดห้อง พนักงานก็ถามว่าเตียงเดี่ยว เตียงคู่  เราเกือบตอบว่าเตียงเดี่ยว เขาตอบก่อนว่าเตียงคู่  เราก็ไม่อะไรนะ เพราะเราไม่อยู่กับเขาอยู่แล้ว ตั้งใจจะไปนอนกะเพื่อนสาว  จองห้องเสร็จสรรพก็เข้าห้อง เราก็รีรอให้เขาเข้าไปก่อนตอนนั้นกลัวนะเพราะผู้ชายร้อยทั้งร้อยไว้ใจไม่ได้ เขาบอกปิดประตูด้วยเรานี่แบบ เอาละเว้ย ถ้าทำไรตูขึ้นมานี่จะกล้าแทงเขาหรือเปล่า ตอนนั้นโทรศัพท์แบตเหลือ 1 % เราหนีเข้าห้องน้ำโทรศัพท์หาเพื่อนให้นางรีบกลับมา กลัวจะบ้าตายละ เราออกจากห้องน้ำชาร์ตแบต เขานอนบนเตียงเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยไม่สนใจเราหรอก โลกส่วนตัวสูงคนละมุมทั้งคู่ สักพักเรียกเราไปนอนบนเตียงด้วยกัน เราก็ไม่ไปหรอกถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายมันไม่งาม (โธ่แม่กุลสตรีไม่งามตั้งแต่ไปกันสองคนแล้วยะ)  แล้วเพื่อนเราโทรมาว่ามาถึงแล้วเราก็ออกไปเหลือไว้เพียงคุณชายโลกส่วนตัวสูงคนนั้นเพียงลำพัง เราบอกเขาว่าเดี๋ยวไปกินข้าวจะโทรหา เราไปพักกับเพื่อนเราค่ะ นางมีสามีแล้วแต่สามีนางจะไปนอนห้องเพื่อนให้สาวๆนอนด้วยกัน ต่อไปนี้มีคนเพิ่มมา 3 คนค่ะ มีเพื่อนสาว ขอเรียกว่า ป สามีเพื่อน พท แล้วเพื่อนสามีเพื่อน พย    เราก็ไปหาซื้อของกินกับเสื้อผ้ากับ ป จนเริ่มหิว เราเลยโทรชวนคุณชายไปกินหมูกะทะที่เพื่อน ป คุยนักคุยหนาว่าอร่อยมากกกกกก เราขับมอไซต์ไปรับเขาให้มาเล่นด้วยที่ห้องเพื่อน ขากลับเขาเป็นคนขับระยะทางนิดเดียวแต่เราฟินค่ะ55555555555 เพราะลมพัดมีกลิ่มหอมอ่อนๆลอยมาเข้าจมูก (ดูโรคจิตนิดๆอิอิ)   สมาชิกกินหมูกะทะมีทั้งหมด 4 คน เรา คุณชาย  ป   พท  ผู้ชายเขาก็กินเบียร์ ผญ อย่างเราก็กินน้ำเปล่าถูกต้องสุดละ ในวงสนทนาก็คุยกันเรื่องเรา  ป เล่าว่าเราเป็นคนยังไงมีเผาด้วยเล็กน้อย เรื่องสมัยเรียนเรากับ ป ทำอะไรไว้ สนุกสนาน ตอนนั้นเป็นอะไรที่มีความสุขซึ่งมันผ่านไปเร็วมากจนตั้งตัวเตรียมใจรับมันแทบไม่ทัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่