สวัสดีคะนี่เป็นกระทู้แรกของดิฉัน ซึ่งจริงๆแล้วดิฉันเล่นพันทิปมานานมากแล้วแต่ไม่ขอใช้ไอดีตัวเองนะคะดิฉันไม่อยากให้ใครขุดคุ้ยประวัติ เคยขอใช้ไอดีนี้ของรุ่นน้องคะ ยังไงถ้ามีกระทู้อื่นจากไอพีนี้ก็อย่าเพิ่งไปว่าน้องนะคะ
เริ่มกันเลยดีกว่าคะ คือก็ไม่รู้จะเริ่มเรื่องอย่างไรดีนะคะ ย้อนหลังไป2ปีก่อน ดิฉันอกหักเสียกับแฟนที่ดิฉับคบอยู่เรียกได้ว่าเสียศูนย์ไปพักใหญ่จนพี่ที่รู้จักกันเข้ามาปลอบใจ(ปัจจุบันเขากลายเป็นสามีดิฉันคะ) ตอนนั้นดิฉันก็คุยๆกับเขาไปจนคบหากัน แต่เขายังหางานไม่ได้ก็มาเบียดเบียนเงินดิฉันประจำเพราะดิฉันทำงานแล้ว แรกๆก็ไม่คิดอะไรหรอกคะหลังๆ แม่ดิฉันเริ่มรู้แกก็สั่งให้ห่างๆ แต่แกก็ไม่ได้บอกให้เลิกอะไรนะเพราะ
แฟนดิฉันดีดับแม่ดิฉันมาก จริงๆมันก็มีหลายเหตุการณ์ละคะที่จะทำให้ดิฉันจะเลิกกับเขา (ซึ่งขอตัดไปละกันเน้อมันยาว)
ช่วงก่อนที่ดิฉันจะเลิกกับเขา ดิฉันก็ตัดสินใจให้เงินเขาไปซื้อใบสมัครสอบเข้าราชการ(ขอไม่บอกนะคะว่าเป็นราชการอะไร) พาไปสอบเช็คผลคือดิฉันดำเนินการทำให้หมด
จนเขาสอบผ่านได้บรรจุ ซึ่งดิฉันก็สบายใจละเห็นว่าเขาได้ดีแล้ว ดิฉันจะได้หมดห่วงเลยคิดจะกลับไปหางานที่ต่างจังหวัดแถวบ้านดิฉันทำ
(ดิฉันเรียนจบด้านภาษามาคะ ซึ่งทางนิคมต้องการมาก งานเลยหาง่าย) เพราะดิฉันคิดว่าถ้ากลับมาต่างจังหวัดคงเลิกกับเขาได้แน่ๆ เพราะดิฉันไม่อยากทนกับกับคนอารมณ์สูงคะ เพราะตอนเขาโมโหหรือทะเลาะกับดิฉันเขาเคยทำร้ายร่างกายดิฉัน ดิฉันเลยเก็บมาตลอดแล้วรอจังหวะเลิก
แต่จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ห่วยๆก็เริ่มแล้วคะนั่นคือ ”ดิฉันท้อง” ช่วงนั้นดิฉันเปลี่ยนงานใหม่คะซึ่งไม่รู้ตัวว่าท้องตอนนั้นท้องได้3เดือน เรา2คนสับสนไปหมดโดยเฉพาะดิฉันที่คิดจะเลิก100%อยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจจะทำแท้งเพราะไม่อยากให้แม่เสียใจผิดหวัง เพราะยังไงเขาก็ไม่มีเงินมาแต่งดิฉันแน่ๆ แต่สุดท้ายเหตุการณ์หลายๆอย่างก็ทำให้ดิฉันเก็บลูกเอาไว้ พร้อมกับน้ำตาของแม่ดิฉัน จากนั้นดิฉันก็เลยย้ายมาอยู่กับเขาถาวร ดิฉันก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดทุกอาทิตย์แต่พอย่างเข้าเดือนที่4 แม่ก็บอกดิฉันว่าไม่ต้องกลับบ้านแล้วนะ ตัวหนูเริ่มขยายแล้วลูกเดี๋ยวคนแถวนี้เขาจะรู้ว่าหนูท้องนะ
แม่อดทนได้ไว้คลอดแล้วค่อยกลับนะ ตอนนั้นดิฉันสงสารแม่มากทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย
ดิฉันท้องได้6เดือนสุขภาพก็เริ่มแย่ซึ่งตอนนั้นสามีดิฉันก็เข้าไปทำงานราชการตามที่เขาสอบได้เช้าไปเย็นกับ ไม่นานดิฉันก็ลาออกจากงานเพราะดิฉันป่วยไปทำงานไม่ไหว ช่วงนั้นเครียดคะ คิดถึงแม่มากจากคนที่ได้เงินเดือนเกือบ3หมื่น เหลือเดือนละ7พัน (เงินจากประกันสังคมคะ)
ก็ได้แต่กัดฟันทนไป ช่วง7-9เดือนก่อนคลอดดิฉันป่วยหนักมาก ถึงขั้นเป็นหอบตอนกลางคืนต้องไปพ่นยาที่โรงพยาบาลตอนตี2ตี3 สามีก็ด่าดิฉัน ทะเลาะกัน จนลูกคลอดคะ หลังจากนี้ชีวิตคู่ห่วยๆเริ่มแบบจริงจังละคะ
คือเราไม่มีเงินกันเลยคะ แต่เขาบอกดิฉันว่าเดี๋ยวจะไปกู้สหกรณ์ของข้าราชการแหละคะ ดิฉันเลยไปนอนห้องพิเศษเดี่ยว แต่พอใกล้จะออกจากโรงพยาบาลกลับยังกู้สหกรณ์ไม่ได้สุดท้ายดิฉันต้องไปกดบัตรเครดิตดิฉันมา แต่เขาเป็นข้าราชการพอตอนจ่ายเงินให้โรงพยาบาล ก็เบิกได้หมด
เขาเลยเอาเงินดิฉันมาใช้ซื้อของให้ลูกจนหมด เชื่อใหมคะออกจากโรงพยาบาลมาวันรุ่งขึ้นดิฉันก็ต้องนั่งรถเมล์ไปประกันสังคมคนเดียว คือแผลยังไม่หายเลยแต่ก็อดทนเอา เดินทั้งวันจนแผลฉีกก็ต้องทนคะ หลังจากนั้นแฟนดิฉันกู้เงินผ่านได้มาก้อนใหญ่ๆเลยคะ อย่างว่าละคะคนไม่เคยมีเงิน เขาใช้เงินไม่ฟังดิฉันเลย เอาเงินไปดาวน์มอไซร์ราคาแพงๆ ไม่ถามดิฉันสักคำญาติพี่น้องก็มากันเต็ม ตั้งแต่คลอดลูกมานิสัยเขาแย่ลงไปทุกวัน
แต่เขาก็ยังดีคะ ยังให้เงินแม่ดิฉันไปหมื่นกว่าบาท
แทนที่เขากู้เงินมาต่อยอดเขากลับละเลงเงินจนหมดเงินเดือนเขาก็น้อยอยู่แล้วพอโดนหักค่าเงินกู้มันแทบไม่เหลือเลยคะ ดิฉันเลยต้องเดินสัมภาษณ์งานตั้งแต่ลูกอายุไม่ถึงเดือน (ปัญหาเยอะมากคะโดนเฉพาะญาติพี่น้องของเขาสกปรก ชอบขโมยของ) จนดิฉันได้งานคะ เราเลยไปจ้างแม่เขามาเลี้ยงลูกให้ดิฉันแม่สามีเขาก็ขอมอเตอร์ไซร์(ที่เป็นชื่อดิฉัน)ไปใช้เพราะเขาจะได้ขับมาดูหลานได้ แต่มอเตอร์ไซคันนั้นก็ยังผ่อนไม่หมดนะคะ เขาเลยให้ดิฉันจ่ายค่าจ้างเป็นเงินครึ่งนึงอีกครึ่งนึงผ่อนมอเตอร์ไซให้เขา แม่สามีดิฉันอยู่บ้านเขาคือ
เขาเลิกกับพ่อสามีดิฉันนานแล้ว สุดท้ายเงินก้อนก็หมด เงินเดือนเขาแทนที่จะเอาไปผ่อนมอเตอร์ที่เขาเพิ่งดาวมาแต่เขากลับเอาไปใช้อย่างอื่น ซึ่งดิฉันไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้ผ่อน ค่าทุกอย่างในบ้านดิฉันออกคนเดียวหมด ใหนจะต้องส่งให้แม่อีกเกือบหมื่น ท้อคะบอกตรงๆเงินที่หามาได้ก็หมดไปกับการจ่ายในบ้านคนเดียว ทั้งหนี้บัตรเครดิตที่เขาเป็นคนก่อดิฉันก็ต้องใช้ จนสุดท้ายเขาก็จะยึดมอเตอร์ไซร์คันใหญ่ไปดิฉันก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาให้เขาโดยการขายคืนไปถูกๆ
โดยที่ดิฉันทำเองหมดทุกอย่างเพราะเขาไม่กล้าทำอะไรเลย ได้เงินก้อนนึงก็ไปดาวsuvมือ2มาหวังว่าจะมาขายของ ลูกโตขึ้นรายจ่ายก็เยอะ
ลืมบอกไปเราทะเลาะกันประจำคะ เพราะเขาไม่ค่อยช่วยดิฉันสักเท่าไหร่เขาเลิกงานก็มาเล่นแต่คอม ทะเลาะกันทีไรก็ไม่พ้นความรุนแรง
เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนคะมีอยู่ครั้งนึงดิฉันเพลอทำลูกตกเตียง เขาโมโหมากมาบีบคอดิฉันตบหลังดิฉันเห้อชีวิต
เชื่อใหมคะรถยนต์ที่ออกมาดิฉันเป็นคนผ่อนแท้ๆไม่เคยได้ใช้เป็นส่วนตัวเขาขับไปทำงานตลอด เสาร์-อาทิตย์แม่เขาก็ไม่ค่อยมาคือจริงๆแกหยุดแค่วันเสาร์ ดิฉันเอางานมานั่งทำที่บ้านด้วย ก็ไม่ได้ทำเลยยุ่งมาก แฟนก็ไม่ค่อยช่วย จนดิฉันวีนเขาแรงเพราะตอนนั้นลูกไม่สบาย เขาโมโหมากมาตบดิฉันทั้งๆที่ดิฉันยังอุ้มลูกอยู่
ชีวิตมันแย่นะคะ ดิฉันฟิวขาดคะเลยโทรบอกแม่ แม่เสียใจมาก วันรุ่งขึ้นแม่ดิฉันขึ้นมากรุงเทพ มาคุยกับผู้ใหญ่ของเขาว่าทำเกินไป ลูกฉันทนมาตลอด แต่งก็ไม่ได้แต่ง คือสุดท้ายผู้ใหญ่ทางสามีดิฉันเขาก็บอกว่างั้นครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ถ้าสามีดิฉันทำร้ายร่างกายดิฉันอีกก็เลิกได้เลย ดิฉันเลยบอกว่างั้นลูกเป็นของดิฉัน รวมทั้งรถด้วย
และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ทำอะไรดิฉันอีก แต่นิสัยขี้เกียจก็เหมือนๆเดิม ปากไม่ดี ที่ดิฉันไม่พอใจมากๆคือเขาชอบว่าดิฉันต่อหน้าแม่ดิฉัน คือน่าจะให้เกียรติแม่ดิฉันบ้าง
ดิฉันก็สู้ต่อไปคะ ใช้หนี้ไปเรื่อยๆ จนได้เงินสักก้อนนึงก็คงรับของมาขายคะ หัวดิฉันมีแต่เรื่องหาเงิน
จบแล้วคะ ชีวิตก็ต้องดินต่อไป ดิฉันสาบานจากใจเลยคะว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขานานแล้ว อยู่เพื่อลูก เพราะความจริงแล้วดิฉันกับเขาเป็นแค่สามีภรรยาแค่ในนาม ตั้งแต่ดิฉันท้องจนน้องโตแล้ว ดิฉันไม่ยอมมีสัมพันธ์ทางร่างกายเขาเลย มันหมดแล้วคะความรู้สึกใดๆ สมมุติเลิกกับเขาไปได้ ดิฉันสาบานกับตัวเองเลยว่าคงใช้ชีวิตอยู่กับลูก และแม่ไม่คิดมีใครแล้ว หรือไม่ก็คงมองหาผู้ใหญ่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็แค่ให้คำปรึกษานะคะ แค่นั้นจริงๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ แค่อยากมาแชร์เป็นอุทานหรชีวิตคู่ขอความกรุณาอย่าแชร์ในfacebookเลยนะคะ กลัวที่บ้านจะทราบ แค่อยากระบาย+แชร์อุทาหรให้ชาวพันทิปทราบเฉยๆคะ
ชีวิตคู่ห่วยๆ
เริ่มกันเลยดีกว่าคะ คือก็ไม่รู้จะเริ่มเรื่องอย่างไรดีนะคะ ย้อนหลังไป2ปีก่อน ดิฉันอกหักเสียกับแฟนที่ดิฉับคบอยู่เรียกได้ว่าเสียศูนย์ไปพักใหญ่จนพี่ที่รู้จักกันเข้ามาปลอบใจ(ปัจจุบันเขากลายเป็นสามีดิฉันคะ) ตอนนั้นดิฉันก็คุยๆกับเขาไปจนคบหากัน แต่เขายังหางานไม่ได้ก็มาเบียดเบียนเงินดิฉันประจำเพราะดิฉันทำงานแล้ว แรกๆก็ไม่คิดอะไรหรอกคะหลังๆ แม่ดิฉันเริ่มรู้แกก็สั่งให้ห่างๆ แต่แกก็ไม่ได้บอกให้เลิกอะไรนะเพราะ
แฟนดิฉันดีดับแม่ดิฉันมาก จริงๆมันก็มีหลายเหตุการณ์ละคะที่จะทำให้ดิฉันจะเลิกกับเขา (ซึ่งขอตัดไปละกันเน้อมันยาว)
ช่วงก่อนที่ดิฉันจะเลิกกับเขา ดิฉันก็ตัดสินใจให้เงินเขาไปซื้อใบสมัครสอบเข้าราชการ(ขอไม่บอกนะคะว่าเป็นราชการอะไร) พาไปสอบเช็คผลคือดิฉันดำเนินการทำให้หมด
จนเขาสอบผ่านได้บรรจุ ซึ่งดิฉันก็สบายใจละเห็นว่าเขาได้ดีแล้ว ดิฉันจะได้หมดห่วงเลยคิดจะกลับไปหางานที่ต่างจังหวัดแถวบ้านดิฉันทำ
(ดิฉันเรียนจบด้านภาษามาคะ ซึ่งทางนิคมต้องการมาก งานเลยหาง่าย) เพราะดิฉันคิดว่าถ้ากลับมาต่างจังหวัดคงเลิกกับเขาได้แน่ๆ เพราะดิฉันไม่อยากทนกับกับคนอารมณ์สูงคะ เพราะตอนเขาโมโหหรือทะเลาะกับดิฉันเขาเคยทำร้ายร่างกายดิฉัน ดิฉันเลยเก็บมาตลอดแล้วรอจังหวะเลิก
แต่จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ห่วยๆก็เริ่มแล้วคะนั่นคือ ”ดิฉันท้อง” ช่วงนั้นดิฉันเปลี่ยนงานใหม่คะซึ่งไม่รู้ตัวว่าท้องตอนนั้นท้องได้3เดือน เรา2คนสับสนไปหมดโดยเฉพาะดิฉันที่คิดจะเลิก100%อยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจจะทำแท้งเพราะไม่อยากให้แม่เสียใจผิดหวัง เพราะยังไงเขาก็ไม่มีเงินมาแต่งดิฉันแน่ๆ แต่สุดท้ายเหตุการณ์หลายๆอย่างก็ทำให้ดิฉันเก็บลูกเอาไว้ พร้อมกับน้ำตาของแม่ดิฉัน จากนั้นดิฉันก็เลยย้ายมาอยู่กับเขาถาวร ดิฉันก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดทุกอาทิตย์แต่พอย่างเข้าเดือนที่4 แม่ก็บอกดิฉันว่าไม่ต้องกลับบ้านแล้วนะ ตัวหนูเริ่มขยายแล้วลูกเดี๋ยวคนแถวนี้เขาจะรู้ว่าหนูท้องนะ
แม่อดทนได้ไว้คลอดแล้วค่อยกลับนะ ตอนนั้นดิฉันสงสารแม่มากทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย
ดิฉันท้องได้6เดือนสุขภาพก็เริ่มแย่ซึ่งตอนนั้นสามีดิฉันก็เข้าไปทำงานราชการตามที่เขาสอบได้เช้าไปเย็นกับ ไม่นานดิฉันก็ลาออกจากงานเพราะดิฉันป่วยไปทำงานไม่ไหว ช่วงนั้นเครียดคะ คิดถึงแม่มากจากคนที่ได้เงินเดือนเกือบ3หมื่น เหลือเดือนละ7พัน (เงินจากประกันสังคมคะ)
ก็ได้แต่กัดฟันทนไป ช่วง7-9เดือนก่อนคลอดดิฉันป่วยหนักมาก ถึงขั้นเป็นหอบตอนกลางคืนต้องไปพ่นยาที่โรงพยาบาลตอนตี2ตี3 สามีก็ด่าดิฉัน ทะเลาะกัน จนลูกคลอดคะ หลังจากนี้ชีวิตคู่ห่วยๆเริ่มแบบจริงจังละคะ
คือเราไม่มีเงินกันเลยคะ แต่เขาบอกดิฉันว่าเดี๋ยวจะไปกู้สหกรณ์ของข้าราชการแหละคะ ดิฉันเลยไปนอนห้องพิเศษเดี่ยว แต่พอใกล้จะออกจากโรงพยาบาลกลับยังกู้สหกรณ์ไม่ได้สุดท้ายดิฉันต้องไปกดบัตรเครดิตดิฉันมา แต่เขาเป็นข้าราชการพอตอนจ่ายเงินให้โรงพยาบาล ก็เบิกได้หมด
เขาเลยเอาเงินดิฉันมาใช้ซื้อของให้ลูกจนหมด เชื่อใหมคะออกจากโรงพยาบาลมาวันรุ่งขึ้นดิฉันก็ต้องนั่งรถเมล์ไปประกันสังคมคนเดียว คือแผลยังไม่หายเลยแต่ก็อดทนเอา เดินทั้งวันจนแผลฉีกก็ต้องทนคะ หลังจากนั้นแฟนดิฉันกู้เงินผ่านได้มาก้อนใหญ่ๆเลยคะ อย่างว่าละคะคนไม่เคยมีเงิน เขาใช้เงินไม่ฟังดิฉันเลย เอาเงินไปดาวน์มอไซร์ราคาแพงๆ ไม่ถามดิฉันสักคำญาติพี่น้องก็มากันเต็ม ตั้งแต่คลอดลูกมานิสัยเขาแย่ลงไปทุกวัน
แต่เขาก็ยังดีคะ ยังให้เงินแม่ดิฉันไปหมื่นกว่าบาท
แทนที่เขากู้เงินมาต่อยอดเขากลับละเลงเงินจนหมดเงินเดือนเขาก็น้อยอยู่แล้วพอโดนหักค่าเงินกู้มันแทบไม่เหลือเลยคะ ดิฉันเลยต้องเดินสัมภาษณ์งานตั้งแต่ลูกอายุไม่ถึงเดือน (ปัญหาเยอะมากคะโดนเฉพาะญาติพี่น้องของเขาสกปรก ชอบขโมยของ) จนดิฉันได้งานคะ เราเลยไปจ้างแม่เขามาเลี้ยงลูกให้ดิฉันแม่สามีเขาก็ขอมอเตอร์ไซร์(ที่เป็นชื่อดิฉัน)ไปใช้เพราะเขาจะได้ขับมาดูหลานได้ แต่มอเตอร์ไซคันนั้นก็ยังผ่อนไม่หมดนะคะ เขาเลยให้ดิฉันจ่ายค่าจ้างเป็นเงินครึ่งนึงอีกครึ่งนึงผ่อนมอเตอร์ไซให้เขา แม่สามีดิฉันอยู่บ้านเขาคือ
เขาเลิกกับพ่อสามีดิฉันนานแล้ว สุดท้ายเงินก้อนก็หมด เงินเดือนเขาแทนที่จะเอาไปผ่อนมอเตอร์ที่เขาเพิ่งดาวมาแต่เขากลับเอาไปใช้อย่างอื่น ซึ่งดิฉันไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้ผ่อน ค่าทุกอย่างในบ้านดิฉันออกคนเดียวหมด ใหนจะต้องส่งให้แม่อีกเกือบหมื่น ท้อคะบอกตรงๆเงินที่หามาได้ก็หมดไปกับการจ่ายในบ้านคนเดียว ทั้งหนี้บัตรเครดิตที่เขาเป็นคนก่อดิฉันก็ต้องใช้ จนสุดท้ายเขาก็จะยึดมอเตอร์ไซร์คันใหญ่ไปดิฉันก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาให้เขาโดยการขายคืนไปถูกๆ
โดยที่ดิฉันทำเองหมดทุกอย่างเพราะเขาไม่กล้าทำอะไรเลย ได้เงินก้อนนึงก็ไปดาวsuvมือ2มาหวังว่าจะมาขายของ ลูกโตขึ้นรายจ่ายก็เยอะ
ลืมบอกไปเราทะเลาะกันประจำคะ เพราะเขาไม่ค่อยช่วยดิฉันสักเท่าไหร่เขาเลิกงานก็มาเล่นแต่คอม ทะเลาะกันทีไรก็ไม่พ้นความรุนแรง
เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนคะมีอยู่ครั้งนึงดิฉันเพลอทำลูกตกเตียง เขาโมโหมากมาบีบคอดิฉันตบหลังดิฉันเห้อชีวิต
เชื่อใหมคะรถยนต์ที่ออกมาดิฉันเป็นคนผ่อนแท้ๆไม่เคยได้ใช้เป็นส่วนตัวเขาขับไปทำงานตลอด เสาร์-อาทิตย์แม่เขาก็ไม่ค่อยมาคือจริงๆแกหยุดแค่วันเสาร์ ดิฉันเอางานมานั่งทำที่บ้านด้วย ก็ไม่ได้ทำเลยยุ่งมาก แฟนก็ไม่ค่อยช่วย จนดิฉันวีนเขาแรงเพราะตอนนั้นลูกไม่สบาย เขาโมโหมากมาตบดิฉันทั้งๆที่ดิฉันยังอุ้มลูกอยู่
ชีวิตมันแย่นะคะ ดิฉันฟิวขาดคะเลยโทรบอกแม่ แม่เสียใจมาก วันรุ่งขึ้นแม่ดิฉันขึ้นมากรุงเทพ มาคุยกับผู้ใหญ่ของเขาว่าทำเกินไป ลูกฉันทนมาตลอด แต่งก็ไม่ได้แต่ง คือสุดท้ายผู้ใหญ่ทางสามีดิฉันเขาก็บอกว่างั้นครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ถ้าสามีดิฉันทำร้ายร่างกายดิฉันอีกก็เลิกได้เลย ดิฉันเลยบอกว่างั้นลูกเป็นของดิฉัน รวมทั้งรถด้วย
และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ทำอะไรดิฉันอีก แต่นิสัยขี้เกียจก็เหมือนๆเดิม ปากไม่ดี ที่ดิฉันไม่พอใจมากๆคือเขาชอบว่าดิฉันต่อหน้าแม่ดิฉัน คือน่าจะให้เกียรติแม่ดิฉันบ้าง
ดิฉันก็สู้ต่อไปคะ ใช้หนี้ไปเรื่อยๆ จนได้เงินสักก้อนนึงก็คงรับของมาขายคะ หัวดิฉันมีแต่เรื่องหาเงิน
จบแล้วคะ ชีวิตก็ต้องดินต่อไป ดิฉันสาบานจากใจเลยคะว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขานานแล้ว อยู่เพื่อลูก เพราะความจริงแล้วดิฉันกับเขาเป็นแค่สามีภรรยาแค่ในนาม ตั้งแต่ดิฉันท้องจนน้องโตแล้ว ดิฉันไม่ยอมมีสัมพันธ์ทางร่างกายเขาเลย มันหมดแล้วคะความรู้สึกใดๆ สมมุติเลิกกับเขาไปได้ ดิฉันสาบานกับตัวเองเลยว่าคงใช้ชีวิตอยู่กับลูก และแม่ไม่คิดมีใครแล้ว หรือไม่ก็คงมองหาผู้ใหญ่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็แค่ให้คำปรึกษานะคะ แค่นั้นจริงๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ แค่อยากมาแชร์เป็นอุทานหรชีวิตคู่ขอความกรุณาอย่าแชร์ในfacebookเลยนะคะ กลัวที่บ้านจะทราบ แค่อยากระบาย+แชร์อุทาหรให้ชาวพันทิปทราบเฉยๆคะ