สวัสดีคะ ชาวพันทิบทุกคน ต่อจากกระทู้นี้นะคะ
http://pantip.com/topic/32441971
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่เราได้มาแชร์เรื่องราวของผู้หญิงคนนึงที่ทำงานหนักเลี้ยงลูกคนดียวเพื่อที่จะให้ลูกๆได้มีชีวิต และการศึกษาที่ดี
หลังจากนั้นเราก็ได้ให้สัญญากับตัวเอง ว่าเรียนจบหนูจะเลี้ยงแม่กับน้องเอง แต่เวลานั้น มันก็ยังมาไม่ถึง เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว
แม่เราบ่นกับเราว่าปวดท้องอยู่บ่อยๆ แกก็ซื้อยามากินก็ไม่หาย ไปหาหมอที่คลีนิคหมอก็เเนะนำให้ไปโรงพยาบาล คือตอนนั้นอยู่กรุงเทพแม่เป็นคนต่างจังหวัด แม่บอกว่าไปโรงบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะซึ่งจะไม่มีเงินส่งมาให้เราและน้องเรียนและใช้ แม่ก็ทำได้แต่ไปฉีดยาแก้ปวดที่คลีนิคเพื่อบรรเทาอาการ(เรื่องนี้เรามารู้ทีหลังถึงกับช็อคแม่ยอมทนเจ็บปวดเพื่อลูกได้ขนาดนี้)
จนปีใหม่แม่กลับบ้าน เราเลยตัดสินใจพาแม่ไปตรวจ ผลปรากฎกว่า แม่เราเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย (หมอบอกอยู่ได้ไม่เกิน6เดือน)
ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา แม่เราก็กลับมาอยู่บ้าน เพื่อรักษาตัวเอง ชีวิตเราจากเคยลำบากอยู่แล้ว ยิ่งดิ่งลงเลย เรียนก็ยังไม่จบ เราก็ยังเรียนอยู่คนละจังหวัดกับแม่ทำได้คือโทรหาแม่ทุกวัน ให้กำลังใจ ทุกครั้งที่คุยกับแม่ แม่ชอบบอกว่าเมื่อไหร่จะจบสักที รีบๆกลับมาหาแม่นะ
และทุกครั้งที่เรากลับบ้านชุดที่แม่บอกว่าจะใส่ไปงานรับปริญญาของเรา ยังห้อยอยู่ในตู้เสื้อผ้า ที่เดิม รอวันที่แม่เราจะใส่มัน (หมอบอก6เดือนแต่แม่หนูสู้มาได้เกือบปีสู้ๆนะแม่)
แม่จ๋าสิ้นปีนี้หนูก็จะทำสำเร็จแล้วนะแม่อีกนิดเดียว สู้ๆนะคะ
คือที่เล่ามาทั้งหมดนี้อยากให้ทุกคนพึงสำนึกไว้เสมอนะคะ ว่าการที่จะเราตอบแทนพระคุณพ่อแม่นั้น มันไม่จำเป็นต้องรอให้เราเรียนจบ
หรือหรือให้มีการงานดี รอมีเงินเดือนเยอะๆ ถึงจะทำ ถึงตอนนี้เราไม่มีอะไรเราก็ทำได้นะคะ ทำให้ท่านภูมิใจ พูดคุย อย่าละเลยท่าน และรักท่านให้มากๆ
ดีกว่าไปแสดงความรักในวันที่ท่านไม่ได้รับรู้แล้วนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างเราก็คุยกับท่านให้กำลังใจท่านทุกวันเลยคะ
กระทู้เตือนสติ อย่าทำดีในวันที่สายเกิน (แม่)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่เราได้มาแชร์เรื่องราวของผู้หญิงคนนึงที่ทำงานหนักเลี้ยงลูกคนดียวเพื่อที่จะให้ลูกๆได้มีชีวิต และการศึกษาที่ดี
หลังจากนั้นเราก็ได้ให้สัญญากับตัวเอง ว่าเรียนจบหนูจะเลี้ยงแม่กับน้องเอง แต่เวลานั้น มันก็ยังมาไม่ถึง เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว
แม่เราบ่นกับเราว่าปวดท้องอยู่บ่อยๆ แกก็ซื้อยามากินก็ไม่หาย ไปหาหมอที่คลีนิคหมอก็เเนะนำให้ไปโรงพยาบาล คือตอนนั้นอยู่กรุงเทพแม่เป็นคนต่างจังหวัด แม่บอกว่าไปโรงบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะซึ่งจะไม่มีเงินส่งมาให้เราและน้องเรียนและใช้ แม่ก็ทำได้แต่ไปฉีดยาแก้ปวดที่คลีนิคเพื่อบรรเทาอาการ(เรื่องนี้เรามารู้ทีหลังถึงกับช็อคแม่ยอมทนเจ็บปวดเพื่อลูกได้ขนาดนี้)
จนปีใหม่แม่กลับบ้าน เราเลยตัดสินใจพาแม่ไปตรวจ ผลปรากฎกว่า แม่เราเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย (หมอบอกอยู่ได้ไม่เกิน6เดือน)
ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา แม่เราก็กลับมาอยู่บ้าน เพื่อรักษาตัวเอง ชีวิตเราจากเคยลำบากอยู่แล้ว ยิ่งดิ่งลงเลย เรียนก็ยังไม่จบ เราก็ยังเรียนอยู่คนละจังหวัดกับแม่ทำได้คือโทรหาแม่ทุกวัน ให้กำลังใจ ทุกครั้งที่คุยกับแม่ แม่ชอบบอกว่าเมื่อไหร่จะจบสักที รีบๆกลับมาหาแม่นะ
และทุกครั้งที่เรากลับบ้านชุดที่แม่บอกว่าจะใส่ไปงานรับปริญญาของเรา ยังห้อยอยู่ในตู้เสื้อผ้า ที่เดิม รอวันที่แม่เราจะใส่มัน (หมอบอก6เดือนแต่แม่หนูสู้มาได้เกือบปีสู้ๆนะแม่)
แม่จ๋าสิ้นปีนี้หนูก็จะทำสำเร็จแล้วนะแม่อีกนิดเดียว สู้ๆนะคะ
คือที่เล่ามาทั้งหมดนี้อยากให้ทุกคนพึงสำนึกไว้เสมอนะคะ ว่าการที่จะเราตอบแทนพระคุณพ่อแม่นั้น มันไม่จำเป็นต้องรอให้เราเรียนจบ
หรือหรือให้มีการงานดี รอมีเงินเดือนเยอะๆ ถึงจะทำ ถึงตอนนี้เราไม่มีอะไรเราก็ทำได้นะคะ ทำให้ท่านภูมิใจ พูดคุย อย่าละเลยท่าน และรักท่านให้มากๆ
ดีกว่าไปแสดงความรักในวันที่ท่านไม่ได้รับรู้แล้วนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้