รางวัลทีมนักแสดงยอดเยี่ยม คก. รางวัลนาฏราชต้องพิจารณา 'รอยรักแรงแค้น'

หากเปรียบว่าโลกนี้คือละครก็คงไม่ไกลห่างจากความเป็นจริงนัก นับตั้งแต่สมัยกรีกโบราณเป็นต้นมา บทละครถูกประพันธ์ขึ้นจากการจำลองนาฏกรรมแห่งชีวิตของมนุษย์ที่พบเห็นอยู่ในกาลสมัยนั้น แล้วแต่งแต้มเติมสีสันให้หวือหวาท้าทายต่อมสำนึกของผู้คน ทั้งยังควรค่าแก่การรับชมด้วยความเพลิดเพลินจำเริญใจ ทั้งสุขนาฏกรรม-โศกนาฏกรรม หรือทั้งสองปะปนกัน แม้กระทั่งในยุคหนึ่งก็ต้องใช้ 'สัญลักษณ์' เข้ามาใช้ในการนำเสนอแก่นสารเพื่อป้องกันภยันตรายจากผู้มีอำนาจ กระนั้น 'ละคร' ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันต่างก็เปรียบเหมือนเงาสะท้อนบนผืนน้ำที่วูบไหวไปตามแรงสะเทือนของสังคม ละครไม่ใช่ 'กระจก' ที่สามารถสะท้อนสภาวะความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อย่างไร้ที่ติด ราวกับจำลองโลกทั้งใบมาวางไว้ดังเช่นสารคดี หากศิลปะของละครคือการสรรสร้างเรื่องราวขึ้นมาบนฐานของความเป็นจริงที่เห็นกันจนชินตา ดังการจรดพู่กันร่างภาพทิวทัศน์ตรงหน้าและระบายสีแต่งแต้มลงไปจนกลายเป็นงานชิ้นใหม่ที่ไม่ใช่ภาพถ่ายหรือภาพบันทึกของทิวทัศน์ ความคลุมเครือและซ้อนทับของละครกับความเป็นจริงจึงต้องการการถ่ายทอดที่ดีเพื่อรักษา 'ความสมจริง' ไว้มิให้เรื่องราวโดดออกมาจนเหนือจริงหรือสัจนิยมเข้มข้นเกินไปจนไม่สนุก

การถ่ายทอดลักษณะนิสัยของตัวละครที่มีมิติ ตัวละครที่ไม่แบนราบจนมีด้านเดียว ตัวละครที่ต่างส่องแสงในตนเอง แม้กระทั่งตัวละครคนใช้ (ก็เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวละครโปกฮาหรือนินทาเจ้านาย คุณตั้วเคารพตัวละครทุกตัวเสมอ) หากจะให้รางวัลแก่ตัวละครตัวหนึ่งก็เป็นที่ยอมรับได้ แต่หากจะให้รางวัลแก่ทีมนักแสดงทั้งหมดย่อมมีความชอบธรรมในตัวมันเองดังประจักษ์แก่สายตาหมู่เราทุกคน

คิมหันต์ มุกริน ธาดา พัตรา ตัวละครเหล่านี้ล้วนเป็น 'Lost Children' ใน Neverland ที่ซ้อนทับอยู่กับโลกของเรา คุณตั้วใช้การกระทำของตัวละครต่างๆ นานาบีบให้เราสำรวจสำนึกทางศีลธรรมของตัวเอง การตัดสินต่างๆ ของตัวละครสร้างความว้าวุ่นใจให้กับผู้ชมจนต้องหันกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่าหากเป็นเราจะตัดสินใจเช่นไร หากเราเป็นคิมหันต์ที่มีพี่สาวเหมือนเป็นแม่ มุกรินที่มีแค่พี่ชายสองคนพี่น้องที่เติบโตเลี้ยงดูกันมา พัตราที่ขาดความอบอุ่น ขาดการอบรมการวางตัวหรือการตัดสินใจในแบบที่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะสอนกันได้ ตัวละครทุกตัวล้วนแล้วแต่แหว่งวิ่น ไม่สมบูรณ์ ขาดแคลนเสมอ พวกเขาทุกคนต่างเพรียกหาความรัก และเมื่อความรักไม่ได้ดั่งใจ เมื่อความรักถูกพรากหรือความรักโผบินจากไปอ้อมแขนไปอย่างไม่มีวันกลับ

ความรักจึงกลายเป็นความริษยาและความแค้นไม่รู้จบ รักจึงกลายเป็นร่องรอยของความหวานชื่นในอดีต และแรงแค้นคือเปลวเพลิงที่สุมอกอยู่ในปัจจุบัน

ตัวละครที่ทำให้เราสงสัยไม่ไว้ใจ ตัวละครที่ทำให้เรารักและเกลียดในขณะเดียวกัน หรือตัวละครที่เราเคยเกลียดเข้าไส้แต่ตอนนี้กลับสงสารจนแทบเสียน้ำตาให้

'อารมรณ์ร่วม' เหล่านี้มิอาจเกิดได้หากขาดการถ่ายทอดที่ยอดเยี่ยมของทีมนักแสดงทุกคนที่ร่วมกันฉายภาพนาฏกรรมแห่งชีวิตที่บรรเลงไปบนท่วงทำนองของความรัก ความริษยา ความแค้น ที่ถูกนำมาทำซ้ำแล้วซ้ำอีกตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ แต่ทำไมเราถึงยังติดตามสนใจอย่างใกล้ชิด

นั่นก็เพราะเราต่างมีความ 'เชื่อ' บางอย่างต่อเรื่องราวเหล่านั้น เราต่างมีความรู้สึก 'ร่วม' กับตัวละครเหล่านั้น หรือบางครั้ง บางจังหวะก็อดหวั่นใจมิได้ว่าเรื่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นกับตัวเราในวันใดวันหนึ่ง แล้วเราจะตัดสินใจอย่างไร เมื่อเห็นชะตากรรมในบั้นท้ายของตัวละครแต่ละคน

ละครที่ทรงพลังไม่ควรขับเคลื่อนโดยคู่พระคู่นางเพียงสองคน แต่คือการสร้างสรรค์ศิลปะที่มีคุณค่าในตัวเอง มีลายเซ็นของตัวเอง และที่สำคัญคือการให้ความหวังกับวงการละครไทยที่หลายครั้งก็วนอยู่กับการ Remake ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย, หัวใจเถื่อน, รอยรัก แรงแค้น ละครสามเรื่องนี้ ความสนุกอาจลืมหายไปเมื่อเวลาผ่านไป

แต่น่าประหลาดใจที่บางคนยังคิดถึงตัวละครบางตัวอยู่ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีบทใหญ่โตอะไรมากมาย เช่น ก้อยและแก้มจากสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย และเชื่อว่าหลายคนคงไม่ลืมตัวละครในรอยรัก แรงแค้นไปอีกนาน หลายคนเมื่อนึกถึงผู้ชายโรแมนติก มีฐษนะ แต่เผยธาตุแท้แล้วว่าพบว่าเห็นแก่ตัวอย่างยิ่งก็อาจจะนึกถึงคิมหันต์ หรือเมื่อเจอสาวที่มีนิสัย 'อยากครอบครองเป็นเจ้าของ' หรือ 'อยากได้ต้องได้' โดยธรรมชาติ-ไม่ได้เสแสร้างใดๆ ทั้งสิ้นก็อาจจะประหวัดนึกถึงพัตรา และนี่น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการสร้างตัวละครที่น่าจดจำซึ่งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งในโลกที่มีตัวละครเกิดใหม่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

และบางครั้งพวกเขาก็อยู่รอบๆ ตัวเรานี่เอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่