ก่อนอื่น เราเพิ่งตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงค่ะ
(เค้าเพิ่งหัดตั้งกระทุ้รีวิวหนังจริงๆ แล้วเค้าก็ไปดูหนังเองจริงๆ ไม่มีใครออกค่าตั๋วให้ ไปคนเดียวเบย)
หลายเดือนก่อนเราได้ไปเจอกับเทรลเลอร์หนังต่างชาติที่เสียงฟิล์มไม่ใช่เสียงภาษาอังกฤษมาค่ะ
ตัวอย่างหนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เมื่อฝูงหมาก่อการกบฏ ไม่อยุ่ใต้คำสั่งของคนต่อไป
สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ดูอันตราย ดูควบคุมไม่ได้ ดูแล้ว มันต้องไม่ธรรมดาแหง่มๆ
ค่ะ ท่านผู้อ่านคะ เปิดตัวมาด้วยตัวโน๊ตอันทรงพลังของ Franz Liszt - Hungarian Rhapsody No.2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เด็กปี 90 ต้องได้ดูและจำได้บ้างแหละ ฮาาาา)

และโน้ตอันทรงพลังเหล่านี้มีบทบาทกับหนังมากมายอยู่เหลือเกิน ด้วยชื่อเพลงก็บอกอยู่แล้วว่าฮังกาเรียน
ถูกแล้วค่ะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังสัญชาติฮังกาเรียนได้รับเกียรติไปฉายที่เมืองคานส์ บลาๆ ได้รับรางวัล บลาๆ เออ เก็บเรื่องพวกนี้ไว้เหอะ
วันนี้เรามา รีวิว? และวิเคราะห์ วิเคาะเบาๆ ป๊อกๆ ในฐานะคนเลี้ยงหมาค่ะ
อนึ่ง หนังเรื่องนี้ใช้สุนัขเข้าฉากทั้งสิ้น 274 ตัว No CG ทำให้ White God เป็นหนังเรื่องที่ใช้สุนัขเยอะที่สุด
ปรบมือให้ทีมงานด้วยค่ะ (ที่บ้านเคยเลี้ยงพร้อมกันสูงสุด 15 ตัว....Ship หายมากค่ะ คุมยากมาก)
และยิ่งไปกว่านั้น
"สุนัขที่เป็น Extra ในเรื่อง เป็นหมาข้างถนนที่ได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิง และกำลังหาบ้านต่อไปค่ะ"
เออ ก็ดีนะ อยู่ข้างถนนไปวันๆ มาเป็นดาราประกอบฉากวิ่งไปวิ่งมา ได้บ้านเฉยเลย ขอให้น้องๆหาบ้านได้ไวๆน๊ะจ๊ะ
เนื้อเรื่องย่อ [ไม่มีสปอยล์]
อย่าโดนเทรลเลอร์หลอกล่อเอานะคะ ดูจากที่โดนฉายจำกัดโรงแถมดีดไปรอบดึกๆ แสดงว่าหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกคอผู้บริโภคตลาดบ้านเราซักเท่าไหร่
หนังกล่าวถึงน้องลิลี่ สาวน้อยวัยทีนที่ต้องมาอยุ่กับพ่อพร้อมเจ้าตัวยุ่ง ฮาเก้น สุนัขพันธุ์ทางที่น้องเลี้ยงเอาไว้ แต่พอมาอยุ่บ้านพ่อปั๊บ ปัญหาเกิดค่ะ
กฏหมายของฮังกาเรียน ระบุไว้ว่า "เลี้ยงหมาพันธุ์ทางต้องไปลงทะเบียน จ่ายภาษีเพิ่มนะจ๊ะ***"
เอาหละสิ พ่อก็เพิ่งจะออกจากงาน ต้องเลี้ยงลูก แถมจ่ายภาษีเพิ่มเพราะหมาอีก
ทำให้น้องลิลี่กับพ่อมีปัญหากัน และ คนที่ต้องรับกรรมคือ ฮาเก้น ผู้ต้องไปผจญโลกภายนอกทั้งที่จริงๆแล้ว
ดูหน้าตาโหงวเฮ้งฮาเก้นนี้แค่ขวบนิดๆเองมั๊ง ยังเด็กอยู่เลย
ตามประสาเด็กวัยรุ่น เตร็ดเตร่ข้างถนนก็ย่อมกร้านโลกเป็นธรรมดา ฮาเก้นก็เริ่มติดยา ค้าประเวณี....เอ้ยย ไม่ใช่เว้ย!!!
จนจับผลัดจับพลูมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์หมา กองกำลัง K-9 พิเศษ ปฏิวัติไปซะอย่างงั้น
หมายเหตุ : ***ถามกูเกิ้ลแล้วก็ลอกคำตอบจากบล๊อคชาวบ้านมาแล้ว ร่างกฏหมายนี้ถูกร่างขึ้นมาจริงๆนะคะ
ใครเลี้ยงหมาพันธุ์ทางต้องเสียภาษีเพิ่ม แต่ร่างกฏหมายก็ตกไป(ไม่รู้ไปทำหล่นที่ไหน เลยไม่ได้ใช้.....ซะเมื่อไหร่)
ให้คะแนน ณ บัดนี้ 6/10
- ภาพ 1 คะแนน (ขอบคุณที่ไม่มีฉากโหดๆ ทำร้ายใจคนรักหมาค่ะ)
- พลอต+บท 1 คะแนน
- การแสดง คน 2 คะแนน
- การแสดง หมา 2 คะแนน
ต่อไปนี้อาจจะมีสปอยล์
ใครจะไปดู ขอให้ข้ามไปค่ะ เพื่อความปลอดภัย
ใครใคร่อ่านละเอียด ขอบคุณค่ะ ^^
ส่วนใครไม่กลัวสปอยล์ ขอให้เชื่อว่าเราพยายามจะสปอยล์น้อยที่สุดแล้วจริงๆ สาบาน
ตัวหนัง พล๊อตหนัง นักแสดง บท
4 อย่างนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าคนแถบยุโรปๆเค้าเป็นอย่างงี้จริงๆเหรอ...เย็นชา แข็งๆ ห้วนๆ ชอบกลๆแหะ
ยิ่งไม่เคยออกไปไหนไกลเกินลาว แถมยังไม่ค่อยดูหนังยุโรปเยอะ
(แต่ The Tribe ก็คน บทไม่ห้วนขนาดนี้นะ //โดนคนที่เคยดูข่วนหน้า พร้อมส่งภาษามือด่า โอโล่)
ตัวพล็อตหนังไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การกบฏของหมา แต่เน้นไปที่ชีวิตของหมาที่ถูกทิ้งในบูดาเปสต์.....
หมาจรจัดยุโรปนี้กร้านโลกโหดสุด อาจจะหนักกว่าหมาไทยด้วยนะครัช เพราะอะไรหนะหรือ เพราะตั้งแต่พระเอกฮาเก้นของเราต้องออกเร่ร่อน
....ฮาเก้นไม่เคยเจอคนที่ใจดีกับมันเพราะเมตตาจริงๆเลยซักคน.....
เมื่อฮาเก้นต้องข้องเกี่ยวกับมนุษย์ ถ้าไม่โดนเค้าไล่ตีเอาก็หวังผลประโยชน์จากความกำยำล่ำสัน หล่อ เข้ม กล้าม (ฟังแล้วเซ็กซี่เนอะ)
เพื่อเอามาแข็งขัน Dog fight การกัดหมาที่เอากันถึงตายเลยทีเดียว การแสดงของหมาที่มีบทในฉาก (ไม่ใช่ extraวิ่งไปวิ่งมา) ถือว่าดีเลยแหละ
แต่อาจจะไม่เก่งเท่าแก๊ง มะมหา สี่ขาครับ ของไทย นี่พูดเลยนะว่าหมาไทยเจ๋งกว่า!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขโมยรูปมาจากกระทู้นี้ค่ะ http://pantip.com/topic/34269191
หมายเหตุ : สปอยล์ Alert
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นักแสดงหมาสมทบ รูปล่างซ้ายตัวซ้าย เอาใจพี่ไปเลย
ถ้าถามว่า แล้วทำไมมัน White God ตรงไหน ก็คงจะเป็นเพราะหมอนี่แหละ พ่อพระสี่ขาสีขาว
ประเด็นรองลงมาก็เป็นเรื่องของสองพ่อลูก ลิลี่ แอนด์ พ่อ
สายสัมพันธ์ของคนกับหมาระหว่างลิลี่กับฮาเก้น แสดงออกมาได้ดี คนรักหมามองออกเลยว่ามันจะประมาณนี้แหละ
แต่ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์ของน้องกับพ่อช่วงต้นเรื่องแรก กับครึ่งเรื่องหลัง ก็ทำออกมาได้เนียนๆ
แต่กระนั้นแหละ ..... นักแสดงคน พี่แสดงดีแต่ก็ยังห้วนๆ ไปหมดเลยคร้าบบบ!!!
(นึกถึงเวลากินมาม่า ไม่ใส่น้ำมันเจียว มันก็มาม่าอร่อยแหละ แต่มันห้วนๆ ไม่หอมอะ)
สรุป ไอ้ที่ดูอ่อนโยนคงเป็นแววตาฮาเก้นตอนอยู่กับลิลี่ แล้วก็เสียงทรัมเปตที่ลิลี่เล่นมั๊ง
เอ้อ ใช่! แล้วไหนจะเสียงทรัมเปตอีก ส่วนตัวไม่เคยได้ยินเสียงทรัมเปตเดี่ยวๆ เพิ่งรู้ว่าก็เพราะใช้ได้เลยนะ
เพลงประกอบแถมให้ 1/1 คะแนนต้องชะตา
อะไรหลายๆอย่างในหนังมันดูแล้วค่อนข้าง wtf แบบทำไมเอ็งพูดยังงั้นว๊ะ คนที่ดูหนังเก่งกว่าเรา อาจจะเข้าใจดีกว่า
บางฉากเรารู้สึกว่า Non sense มาก ทำไมอยู่ๆพูดงี้ฟร๊ะ มันเกี่ยวมั๊ย เถียงได้นิ ทำไมไม่เถียง
ความหมายจริงๆของเพลง tannhauser คืออะไร ของบางอย่างก็ปล่อยให้คนดูตีความไปเองละกันนะ
บทวิเคราะห์ตามประสาคนเลี้ยงหมา
หลักๆที่รู้สึก 2-3 อย่างคือ เรื่องทั้งหมดจะไม่ต้องเกิดขึ้นแบบนี้เลยถ้า "เจ้าของหมามีความรับผิดชอบ"
จริงๆเคยเขียนกระทู้เอาไว้ด้วยแหละ การจะเลี้ยงหมาซักตัวหมายถึงการรับผิดชอบหมาในทุกๆแง่ ต่อสังคม ต่อกฏหมาย ต่อตัวหมา ต่อครอบครัว
เมื่อสุนัขต้องย้ายที่อยู่ ควรมีเอกสารสำคัญของสุนัขให้ครบติดไปด้วย ทะเบียนสุนัข ใบวัคซีน เอกสารไม่โครชิพ เพดดีกรี บลาๆ
ถ้าแม่ของลิลี่ และลิลี่เองใส่ใจกับข้อกฏหมายซักหน่อยน้องน่าจะมีเอกสารพวกนี้ติดตัวพร้อมยื่นต่อเจ้าหน้าที่เมื่อต้องเรียกตรวจ
ข้อสำคัญ ต่อมา"ถ้าน้องตั้งใจฝึกมันซักหน่อย เรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น"
คืนแรกที่ฮาเก้นมาอยู่บ้านพ่อใหม่ๆ มันถูกสปอยล์จากลิลี่เห็นได้จากพฤติกรรมต่างๆ ข้อดีของฮาเก้นคือมันยังเห็นลิลี่เป็นจ่าฝูง
ฉากที่ลิลี่นั่งอยู่กับฮาเก้นบนภูเขา มองดูคนฝึกหมาแล้วบอกว่า "ฉันไม่เคยลองทำอย่างงั้นกับแกเลยนะ" ผมนี่กุมขมับเลยครับ
จะหมาไทย หมาเทศ ต้องมีระเบียบวินัย เชื่อฟัง แล้วพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นเลย
พฤติกรรมของหมาสามารถถูกปรับเปลี่ยนได้ หมาดุ เมื่อรู้วิธีการแก้ที่เหมาะสมสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
ในทางกลับกัน หมาดีๆ แต่ถูกรังแก หรือเลี้ยงดูแบบผิดๆ เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อคนอื่นในสังคม แม้กระทั่งเจ้าของเอง
ไม่ถึงขนาดในหนัง แต่ก็อันตรายค่ะ จำไว้เสมอว่า เขี้ยว 2 คู่ในปากหมา จะหมาตัวเล็กตัวใหญ่ พันธุ์อะไรก็ตาม
ถ้าหมาแยกเขี้ยวใส่คนเมื่อไหร่....ไม่ปลอดภัยเมื่อนั้น สัตว์หน้าขนก็คือสัตว์หน้าขน สัญชาตญาณลึกๆก็นักฆ่าดีๆนั้นแหละ
(ไม่เชื่อลองดูรองเท้า ขาโต๊ะ รีโมท เคสมือถือที่พวกมันฆ่าสิ)
สุดท้ายนี้ ....... กระทุ้นี้ตั้งขึ้นเพื่อความบันเทิง มีการใส่ความเห็นส่วนตัวเยอะแยะแป๊ะไก่
ป.ล. อ้างอิงจากกระทู้ "ฉันไม่ชอบหมา แมวสีดำ" หรืออะไรประมาณนี้แหละ จำกระทุ้ไม่ได้ หาไม่เจอแล้ว
กล่าวไว้ว่า เปอร์เซ็นของหมา แมวสีดำในศูนย์พักพิงมีสูงมากเนื่องจากคนจะเลือกตัวสีอื่น เช่นสีนำตาล ขาว ลายมากกว่า สีดำ
อันนี้อาจจะเป็นที่ความเชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วค่อนข้างเชื่อนะ เพราะทำการหาบ้านให้หมาบ่อย พวกดำๆนี้แหละอยุ่ด้วยกันนานสุด
บางตัวนี้ต้องฝึกมารยา มารยาทพิเศษไว้โฆษณาให้เลย (พี่ ไอ้ตัวดำอะ นั่งได้ หวัดดีได้ กลิ้งได้ พูดได้นะพี่ เอาไปเลี้ยงดิ ฉลาดด)
extra ที่เป็นหมาจรจัดสีดำเยอะมาก
[CR] "white God" เรื่องดราม่าของหมาพันธุ์ทาง และเรื่องที่คนเลี้ยงหมาควรจะรู้
(เค้าเพิ่งหัดตั้งกระทุ้รีวิวหนังจริงๆ แล้วเค้าก็ไปดูหนังเองจริงๆ ไม่มีใครออกค่าตั๋วให้ ไปคนเดียวเบย)
หลายเดือนก่อนเราได้ไปเจอกับเทรลเลอร์หนังต่างชาติที่เสียงฟิล์มไม่ใช่เสียงภาษาอังกฤษมาค่ะ
ตัวอย่างหนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เมื่อฝูงหมาก่อการกบฏ ไม่อยุ่ใต้คำสั่งของคนต่อไป
สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ดูอันตราย ดูควบคุมไม่ได้ ดูแล้ว มันต้องไม่ธรรมดาแหง่มๆ
ค่ะ ท่านผู้อ่านคะ เปิดตัวมาด้วยตัวโน๊ตอันทรงพลังของ Franz Liszt - Hungarian Rhapsody No.2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และโน้ตอันทรงพลังเหล่านี้มีบทบาทกับหนังมากมายอยู่เหลือเกิน ด้วยชื่อเพลงก็บอกอยู่แล้วว่าฮังกาเรียน
ถูกแล้วค่ะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังสัญชาติฮังกาเรียนได้รับเกียรติไปฉายที่เมืองคานส์ บลาๆ ได้รับรางวัล บลาๆ เออ เก็บเรื่องพวกนี้ไว้เหอะ
วันนี้เรามา รีวิว? และวิเคราะห์ วิเคาะเบาๆ ป๊อกๆ ในฐานะคนเลี้ยงหมาค่ะ
อนึ่ง หนังเรื่องนี้ใช้สุนัขเข้าฉากทั้งสิ้น 274 ตัว No CG ทำให้ White God เป็นหนังเรื่องที่ใช้สุนัขเยอะที่สุด
ปรบมือให้ทีมงานด้วยค่ะ (ที่บ้านเคยเลี้ยงพร้อมกันสูงสุด 15 ตัว....Ship หายมากค่ะ คุมยากมาก)
และยิ่งไปกว่านั้น
"สุนัขที่เป็น Extra ในเรื่อง เป็นหมาข้างถนนที่ได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิง และกำลังหาบ้านต่อไปค่ะ"
เออ ก็ดีนะ อยู่ข้างถนนไปวันๆ มาเป็นดาราประกอบฉากวิ่งไปวิ่งมา ได้บ้านเฉยเลย ขอให้น้องๆหาบ้านได้ไวๆน๊ะจ๊ะ
เนื้อเรื่องย่อ [ไม่มีสปอยล์]
อย่าโดนเทรลเลอร์หลอกล่อเอานะคะ ดูจากที่โดนฉายจำกัดโรงแถมดีดไปรอบดึกๆ แสดงว่าหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกคอผู้บริโภคตลาดบ้านเราซักเท่าไหร่
หนังกล่าวถึงน้องลิลี่ สาวน้อยวัยทีนที่ต้องมาอยุ่กับพ่อพร้อมเจ้าตัวยุ่ง ฮาเก้น สุนัขพันธุ์ทางที่น้องเลี้ยงเอาไว้ แต่พอมาอยุ่บ้านพ่อปั๊บ ปัญหาเกิดค่ะ
กฏหมายของฮังกาเรียน ระบุไว้ว่า "เลี้ยงหมาพันธุ์ทางต้องไปลงทะเบียน จ่ายภาษีเพิ่มนะจ๊ะ***"
เอาหละสิ พ่อก็เพิ่งจะออกจากงาน ต้องเลี้ยงลูก แถมจ่ายภาษีเพิ่มเพราะหมาอีก
ทำให้น้องลิลี่กับพ่อมีปัญหากัน และ คนที่ต้องรับกรรมคือ ฮาเก้น ผู้ต้องไปผจญโลกภายนอกทั้งที่จริงๆแล้ว
ดูหน้าตาโหงวเฮ้งฮาเก้นนี้แค่ขวบนิดๆเองมั๊ง ยังเด็กอยู่เลย
ตามประสาเด็กวัยรุ่น เตร็ดเตร่ข้างถนนก็ย่อมกร้านโลกเป็นธรรมดา ฮาเก้นก็เริ่มติดยา ค้าประเวณี....เอ้ยย ไม่ใช่เว้ย!!!
จนจับผลัดจับพลูมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์หมา กองกำลัง K-9 พิเศษ ปฏิวัติไปซะอย่างงั้น
หมายเหตุ : ***ถามกูเกิ้ลแล้วก็ลอกคำตอบจากบล๊อคชาวบ้านมาแล้ว ร่างกฏหมายนี้ถูกร่างขึ้นมาจริงๆนะคะ
ใครเลี้ยงหมาพันธุ์ทางต้องเสียภาษีเพิ่ม แต่ร่างกฏหมายก็ตกไป(ไม่รู้ไปทำหล่นที่ไหน เลยไม่ได้ใช้.....ซะเมื่อไหร่)
ให้คะแนน ณ บัดนี้ 6/10
- ภาพ 1 คะแนน (ขอบคุณที่ไม่มีฉากโหดๆ ทำร้ายใจคนรักหมาค่ะ)
- พลอต+บท 1 คะแนน
- การแสดง คน 2 คะแนน
- การแสดง หมา 2 คะแนน
ต่อไปนี้อาจจะมีสปอยล์
ใครจะไปดู ขอให้ข้ามไปค่ะ เพื่อความปลอดภัย
ใครใคร่อ่านละเอียด ขอบคุณค่ะ ^^
ส่วนใครไม่กลัวสปอยล์ ขอให้เชื่อว่าเราพยายามจะสปอยล์น้อยที่สุดแล้วจริงๆ สาบาน
ตัวหนัง พล๊อตหนัง นักแสดง บท
4 อย่างนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าคนแถบยุโรปๆเค้าเป็นอย่างงี้จริงๆเหรอ...เย็นชา แข็งๆ ห้วนๆ ชอบกลๆแหะ
ยิ่งไม่เคยออกไปไหนไกลเกินลาว แถมยังไม่ค่อยดูหนังยุโรปเยอะ
(แต่ The Tribe ก็คน บทไม่ห้วนขนาดนี้นะ //โดนคนที่เคยดูข่วนหน้า พร้อมส่งภาษามือด่า โอโล่)
ตัวพล็อตหนังไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การกบฏของหมา แต่เน้นไปที่ชีวิตของหมาที่ถูกทิ้งในบูดาเปสต์.....
หมาจรจัดยุโรปนี้กร้านโลกโหดสุด อาจจะหนักกว่าหมาไทยด้วยนะครัช เพราะอะไรหนะหรือ เพราะตั้งแต่พระเอกฮาเก้นของเราต้องออกเร่ร่อน
....ฮาเก้นไม่เคยเจอคนที่ใจดีกับมันเพราะเมตตาจริงๆเลยซักคน.....
เมื่อฮาเก้นต้องข้องเกี่ยวกับมนุษย์ ถ้าไม่โดนเค้าไล่ตีเอาก็หวังผลประโยชน์จากความกำยำล่ำสัน หล่อ เข้ม กล้าม (ฟังแล้วเซ็กซี่เนอะ)
เพื่อเอามาแข็งขัน Dog fight การกัดหมาที่เอากันถึงตายเลยทีเดียว การแสดงของหมาที่มีบทในฉาก (ไม่ใช่ extraวิ่งไปวิ่งมา) ถือว่าดีเลยแหละ
แต่อาจจะไม่เก่งเท่าแก๊ง มะมหา สี่ขาครับ ของไทย นี่พูดเลยนะว่าหมาไทยเจ๋งกว่า!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ : สปอยล์ Alert
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเด็นรองลงมาก็เป็นเรื่องของสองพ่อลูก ลิลี่ แอนด์ พ่อ
สายสัมพันธ์ของคนกับหมาระหว่างลิลี่กับฮาเก้น แสดงออกมาได้ดี คนรักหมามองออกเลยว่ามันจะประมาณนี้แหละ
แต่ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์ของน้องกับพ่อช่วงต้นเรื่องแรก กับครึ่งเรื่องหลัง ก็ทำออกมาได้เนียนๆ
แต่กระนั้นแหละ ..... นักแสดงคน พี่แสดงดีแต่ก็ยังห้วนๆ ไปหมดเลยคร้าบบบ!!!
(นึกถึงเวลากินมาม่า ไม่ใส่น้ำมันเจียว มันก็มาม่าอร่อยแหละ แต่มันห้วนๆ ไม่หอมอะ)
สรุป ไอ้ที่ดูอ่อนโยนคงเป็นแววตาฮาเก้นตอนอยู่กับลิลี่ แล้วก็เสียงทรัมเปตที่ลิลี่เล่นมั๊ง
เอ้อ ใช่! แล้วไหนจะเสียงทรัมเปตอีก ส่วนตัวไม่เคยได้ยินเสียงทรัมเปตเดี่ยวๆ เพิ่งรู้ว่าก็เพราะใช้ได้เลยนะ
เพลงประกอบแถมให้ 1/1 คะแนนต้องชะตา
อะไรหลายๆอย่างในหนังมันดูแล้วค่อนข้าง wtf แบบทำไมเอ็งพูดยังงั้นว๊ะ คนที่ดูหนังเก่งกว่าเรา อาจจะเข้าใจดีกว่า
บางฉากเรารู้สึกว่า Non sense มาก ทำไมอยู่ๆพูดงี้ฟร๊ะ มันเกี่ยวมั๊ย เถียงได้นิ ทำไมไม่เถียง
ความหมายจริงๆของเพลง tannhauser คืออะไร ของบางอย่างก็ปล่อยให้คนดูตีความไปเองละกันนะ
บทวิเคราะห์ตามประสาคนเลี้ยงหมา
หลักๆที่รู้สึก 2-3 อย่างคือ เรื่องทั้งหมดจะไม่ต้องเกิดขึ้นแบบนี้เลยถ้า "เจ้าของหมามีความรับผิดชอบ"
จริงๆเคยเขียนกระทู้เอาไว้ด้วยแหละ การจะเลี้ยงหมาซักตัวหมายถึงการรับผิดชอบหมาในทุกๆแง่ ต่อสังคม ต่อกฏหมาย ต่อตัวหมา ต่อครอบครัว
เมื่อสุนัขต้องย้ายที่อยู่ ควรมีเอกสารสำคัญของสุนัขให้ครบติดไปด้วย ทะเบียนสุนัข ใบวัคซีน เอกสารไม่โครชิพ เพดดีกรี บลาๆ
ถ้าแม่ของลิลี่ และลิลี่เองใส่ใจกับข้อกฏหมายซักหน่อยน้องน่าจะมีเอกสารพวกนี้ติดตัวพร้อมยื่นต่อเจ้าหน้าที่เมื่อต้องเรียกตรวจ
ข้อสำคัญ ต่อมา"ถ้าน้องตั้งใจฝึกมันซักหน่อย เรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น"
คืนแรกที่ฮาเก้นมาอยู่บ้านพ่อใหม่ๆ มันถูกสปอยล์จากลิลี่เห็นได้จากพฤติกรรมต่างๆ ข้อดีของฮาเก้นคือมันยังเห็นลิลี่เป็นจ่าฝูง
ฉากที่ลิลี่นั่งอยู่กับฮาเก้นบนภูเขา มองดูคนฝึกหมาแล้วบอกว่า "ฉันไม่เคยลองทำอย่างงั้นกับแกเลยนะ" ผมนี่กุมขมับเลยครับ
จะหมาไทย หมาเทศ ต้องมีระเบียบวินัย เชื่อฟัง แล้วพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นเลย
พฤติกรรมของหมาสามารถถูกปรับเปลี่ยนได้ หมาดุ เมื่อรู้วิธีการแก้ที่เหมาะสมสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
ในทางกลับกัน หมาดีๆ แต่ถูกรังแก หรือเลี้ยงดูแบบผิดๆ เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อคนอื่นในสังคม แม้กระทั่งเจ้าของเอง
ไม่ถึงขนาดในหนัง แต่ก็อันตรายค่ะ จำไว้เสมอว่า เขี้ยว 2 คู่ในปากหมา จะหมาตัวเล็กตัวใหญ่ พันธุ์อะไรก็ตาม
ถ้าหมาแยกเขี้ยวใส่คนเมื่อไหร่....ไม่ปลอดภัยเมื่อนั้น สัตว์หน้าขนก็คือสัตว์หน้าขน สัญชาตญาณลึกๆก็นักฆ่าดีๆนั้นแหละ
(ไม่เชื่อลองดูรองเท้า ขาโต๊ะ รีโมท เคสมือถือที่พวกมันฆ่าสิ)
สุดท้ายนี้ ....... กระทุ้นี้ตั้งขึ้นเพื่อความบันเทิง มีการใส่ความเห็นส่วนตัวเยอะแยะแป๊ะไก่
ป.ล. อ้างอิงจากกระทู้ "ฉันไม่ชอบหมา แมวสีดำ" หรืออะไรประมาณนี้แหละ จำกระทุ้ไม่ได้ หาไม่เจอแล้ว
กล่าวไว้ว่า เปอร์เซ็นของหมา แมวสีดำในศูนย์พักพิงมีสูงมากเนื่องจากคนจะเลือกตัวสีอื่น เช่นสีนำตาล ขาว ลายมากกว่า สีดำ
อันนี้อาจจะเป็นที่ความเชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วค่อนข้างเชื่อนะ เพราะทำการหาบ้านให้หมาบ่อย พวกดำๆนี้แหละอยุ่ด้วยกันนานสุด
บางตัวนี้ต้องฝึกมารยา มารยาทพิเศษไว้โฆษณาให้เลย (พี่ ไอ้ตัวดำอะ นั่งได้ หวัดดีได้ กลิ้งได้ พูดได้นะพี่ เอาไปเลี้ยงดิ ฉลาดด)
extra ที่เป็นหมาจรจัดสีดำเยอะมาก