แปลข่าวจาก ESPN Asia โดย Paul Murphy เจ้าเก่า เกี่ยวกับนัดเวียตนาม 0 ไทย 3

กระทู้ข่าว
พึ่งว่างแปลครับ เริ่มเลยละกัน

ธีรศิลป์และชนาธิปคือสองไพ่ใบสำคัญของไทย

สองคู่ดูโอเล่นอยู่ในระดับคลาสของตัวเองในการเล่นกับเวียตนาม

ประเทศไทยดับฝันในการเข้าสู่รอบสุดท้ายคัดบอลโลกของเวียตนามโดยการบุกไปอัดเพื่อนบ้านถึงถิ่นฮานอย 3 ประตูต่อ 0
เกียรติศักดิ์พาลูกทีมขึ้นไปยอดตารางคะแนน ด้วยคะแนนมากกว่าเจ้าบ้าน 6 คะแนน และนำอิรัก 5 คะแนนโดยที่อิรักยังมีเกมเล่นน้อยกว่า 1 เกม

มันเป็นชัยชนะอย่างง่ายดายเกินคาด หลังจากที่เวียตนามเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในการต้อนรับการมาเยือนของอิรักเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา
แต่สกอร์ 3:0 ก็เป็นสกอร์ที่ไทยสมควรได้จริงๆ จากรูปแบบการเล่น การประสานงาน และระเบียบวินัยในการเล่นของผู้เล่นทีมชาติไทย

ท่ามกลางความกดดันจากเสียงเชียร์แฟนเจ้าถิ่น ทีมเยือนขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 29 จากเกริกฤทธิ์ แต่เจ้าถิ่นแทบไม่ได้โต้ตอบทีมเยือนอย่างเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก และก็ไม่น่าประหลาดใจเมื่อทีมช้างศึกบวกประตูเพิ่มอีกจากการทำเข้าประตูตัวเองของกองหลังเจ้าถิ่น หลังจากพยายามสกัดลูกเปิดเข้ากลางของเกริกฤทธิ์
ช่วงท้ายเป็นช่วงโชว์ของทีมเยือนอย่างแท้จริง หลังจากทำประตูที่สามจากการต่อบอลไปมาหน้ากรอบเขตโทษของเจ้าถิ่นอย่างสวยงาม และเป็นกัปตันทีมที่ซัดบอลเสียบตาข่ายจากระยะ 16 หลา

นี่คือสามสิ่งที่ได้เรียนรู้จากทีมไทยเมื่อคืนวันอังคาร

1) เจ ชนาธิปกลับมาสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม

ในการพบกันแมทช์แรกเดือนพฤษภาคม เจ ชนาธิป ยอดเพลย์เมคเกอร์ของทีมไทย ถูกไล่เตะสกัดจากนักเตะเวียดนาม เพื่อไม่ให้เจได้สร้างสรรค์เกมส์ได้ถนัดนัก

หลังจากตะบันประตูทีมชาติมาเลเซียในรายการ AFF Suzuki cup เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว โลกก็ดูเหมือนจะอยู่แทบเท้าเจ ชนาธิป แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของชนาธิป ทีมบีอีซีเทโรต้นสังกัดของเจ ชนาธิปเปลี่ยนจากทีมท็อป 5 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มาอยู่โซนตกชั้นในฤดูกาลนี้ แถมเจ้าตัวก็ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บเกือบสองเดือน หมดสิทธิ์ช่วยทีมในช่วงที่ทีมกำลังตกระกำลำบาก

แต่การกลับมาหลังจากหายเจ็บในช่วงเดือนที่แล้ว ทีมของเค้าทำได้ดีขึ้น และการเล่นกับเวียตนามครั้งนี้ แสดงให้เห็นความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมของเค้า เมื่อเขาไม่มีบอลอยู่กับตัว เขาสามารถสร้างพื้นที่ให้เพื่อนๆ ในทีม เนื่องจากผู้เล่นเวียดนามต้องไล่ตามประกบเค้า
ชนาธิปผ่านบอลไปพื้นที่ว่างให้เกริกฤทธิ์ ก่อนที่จะเกริกฤทธิ์จะผ่านบอลเข้ากลางและนำไปสู่ประตูที่สองในที่สุด นอกจากนั้นเจยังมีวิศัยทัศน์ที่ดีเยี่ยม คิลเลอร์พาสไปให้ปกเกล้าในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ปกเกล้าจะต่อบอลไปให้กัปตันทีมยิงประตูที่สาม

เจ ชนาธิปทำให้นักเตะเวียตนามวิ่งพล่านไล่กวดตลอดทั้งคืน และเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า เจ้าเจ ได้กลับมาแล้ว

2) การมีส่วนร่วมกับเกมส์ของธีรศิลป์

ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา เราทราบดีว่าบทบาทของธีรศิลป์คือกองหน้าตัวเป้าของทีมชาติไทย มีหน้าที่ยิงๆๆๆ แล้วก็ยิง แต่ศูนย์หน้าจากทีมเมืองทอง ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า นอกจากยิงประตู เค้ายังทำอย่างอื่นได้อีกในเกมส์การแข่งขันฟุตบอล

ทีมเยือนได้โอกาสยิงอย่างจะแจ้งครั้งแรกหลังจากนาทีที่ 18 มงคล ทศไกรผ่านบอลมาจากเส้นหลังให้ธีรศิลป์ แต่บอลเหลื่อมๆ จะย้อนหลังทำให้ธีรศิลป์ซัดได้ไม่เต็มข้อนัก ทำให้ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านสามารถเซฟไว้ได้

แต่ทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากการยิงที่สวยสดงดงาม เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ธีรศิลป์จ่ายบอลให้ปกเกล้ายิง คราวนี้เค้าผ่านบอลจากทางซ้ายเข้ากลางให้เกริกฤทธิ์ที่ยืนว่างอยู่ ปีกจากทีมชลบุรีมองหาเพื่อนจากทางขวาที่เติมขึ้นมา ดึงความสนใจกองหลังเวียตนาม เกริกฤทธิ์วางเท้าอัดบอลพุ่งราวกับจรวดเสียบสามเหลี่ยมมุมบน ผู้รักษาประตูได้แต่บินตามสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ

ประตูที่สองธีรศิลป์ก็มาช่วยต่อบอลกับชนาธิปก่อนที่ชนาธิปจะเปิดบอลไปให้เกริกฤทธิ์ ธีรศิลป์ไม่ได้ยืนค้ำที่แดนหน้าอย่างเดียว เค้าสอดส่ายไปทั่วเพื่อพยายามต่อบอลกับเพื่อนๆ ในแดนหน้า
ทีมเมืองทองก็เริ่มใช้ธีรศิลป์ในบทบาทนี้เมื่อให้เค้ายืนอยู่หลัง Cleiton Silva ในการไล่ล่าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ยิ่งธีรศิลป์มีส่วนร่วมกับเกมมากเท่าไหร่ทีมไทยก็ได้ประโยชน์เจ้าเค้ามากขึ้นเท่านั้น

3) โค้ชเกียรติศักด์สามารถดึงส่วนที่ดีที่สุดจากผู้เล่นของเค้า

แฟนๆ ทีมอาร์มี่กับฉลามชลคงจะสงสัยไม่น้อยที่เกริกฤทธิ์กับมงคลได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริง ปีกทั้งสองคนมีฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ ในการเล่นบอลลีก แต่พอถึงเวลาเล่นให้ทีมชาติทั้งสองกลับทำผลงานได้ดีเยี่ยม

มงคลอาจจะมีฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวากับทีมกลางๆ ตารางอย่างอาร์มี่ ยูไนเต็ด แต่กับทีมชาติไม่ใช่เช่นนั้น แถมยังทำประตูสำคัญในการตีเสมอทีมอิรักในนัดก่อนหน้านี้

เกริกฤทธิ์ก็เช่นเดียวกัน แฟนๆ ชลบุรีได้แต่ส่ายหน้าในฟอร์มของเกริกฤทธิ์ แต่กลับฉายแววโดดเด่นในการเล่นให้ทีมชาติ ประตูเบิกโรงและลูกเปิดที่ทำให้ได้ประตูที่สองยิ่งเน้นย้ำจุดนี้ เกียรติศักดิ์สามารถดึงสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งคู่ หรือทั้งคู่ยกระดับการเล่นขึ้นเมื่อเล่นให้ทีมชาติ แฟนๆ สโมสรของทั้งสองคงจดจ่อเกมส์สุดสัปดาห์นี้ว่าทั้งสองจะยังรักษาฟอร์มที่ดีจากทีมชาติอยู่หรือไม่

ทีมชาติไทยจะพบกับทีมไต้หวันเดือนหน้า ชัยชนะจะสร้างความฮึกเหิมก่อนไปเยือนอิรัก และเพียง 1 คะแนนจากทีมอิรักก็เพียงพอจะทำให้ทีมไทยเป็นแชมป์กลุ่มและจองที่สำหรับ 12ทีมสุดท้ายต่อไป

แหล่งข่าวครับ
http://www.espnfc.com/blog/football-asia/153/post/2660410/messi-j-and-teerasil-are-thailands-trump-cards

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่