สวัสดีครับ ไม่เวิ่นเว้ออะไรมาก เล่าเลยละกัน
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานละ ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น (ปัจจุบันเรียนจบทำงานแล้วครับ) ก็สมัยนั้นผมมีกลุ่มเพื่อนอยู่กลุ่มนึง เป็นแก๊งผู้ชายทั้งหมด สมัยนั้นกิจกรรมที่ชอบเล่นกันที่ผมจำได้ก็มี ลิงชิงบอล โบรานเรียกชื่อ ตีแบต บ่ารูนด่านก็เล่นนะ 555 เล่นกะพวกผู้หญิง จำได้ว่าสนุกมาก และแน่นอนกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ของเด็กวัยนี้ ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ที่ประจำของพวกเราเลยคือร้านเกม ไปแม่มทุกวัน วันไหนไม่ได้ไปนี่แทบลงแดง ถึงไม่ได้ไปเล่นก็ขอให้ได้ยืนดู
ในกลุ่มแก๊งผู้ชาย ผมก็จะมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง สมมติว่าชื่อไอตี๋ ไอตี๋เนี่ยมันแบบ ไม่รู้มันเป็นไร ชอบกวนทรีน ชอบแหย่ผม ชวนคุยนุ่นนี่ไปเรื่อย หาสาระไม่ได้ หรือบางทีในแก๊งคุยนั่นคุยนี่กัน มันก็ชอบชี้เป้ามาที่ผม คือบางทีก็รำคาญนะ แบบเมิงเป็นไรมากปะว้าไอสึส เพื่อนคนอื่นก็ไม่เป็นขนาดมันนะ แล้วมันก็ไม่เป็นกับคนอื่น แต่ผมก็ไม่ได้อะไร ก็เพื่อนกัน
เราก็ใช้ชีวิตกันไป เรียนๆเล่นๆ จนถึงช่วงใกล้จะจบม.ต้น มันเป็นช่วงเวลาของการหาที่เรียนต่อ ช่วงนั้นก็จะมีพวก สถาบันศึกษาที่เป็นสายอาชีพเข้ามาแนะแนวไม่ขาดสาย แล้วก็มีสถาบันนึงที่ไอตี๋มันสนใจ อยากเรียนต่อที่นี่ มันเลยมาชวนผมให้กรอกใบสมัครกับมัน ซึ่งผมก็โอเค เพราะทางบ้านผมอยากให้เรียนต่อสายอาชีพมากกว่า
ช่วงที่เรียนจบม.ต้น เราก็ตกลงกันว่าปิดเทอมจะไปเที่ยวทะเลด้วยกัน นัดวันอะไรเสร็จสรรพ พอถึงวันนัดเรานัดเจอกันที่โรงเรียน เหมารถไปให้รถมารับที่โรงเรียนเลย ขณะที่ผมกำลังเดินข้ามสะพานลอยเพื่อข้ามไปฝั่งโรงเรียน ก็บังเอิญเจอไอตี๋เนี่ยแหละกำลังเดินอยู่บนสะพาน ที่เด่นมาแต่ไกลเลยคือสีกางเกง มันใส่กางเกงสีแดงแปร๊ดดด ผมคิดในใจ

ช่างกล้า ผมก็เข้าไปทักทายมันปกติ และมันก็กวนทรีนผมเหมือนปกติเช่นเดียวกัน พอเพื่อนๆมากันครบ ก็ออกเดินทาง ถึงที่หมายก็เข้าที่พักที่จองไว้ วางของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็วิ่งลงทะเลเลยจ้าาาา
ข้ามมาที่ช่วงกลางคืน พออาบน้ำอาบท่า กินข้าวเสร็จ พวกเราก็เตรียมตัวจะนอนกัน แต่ว่าที่นอนมันไม่พอ ก็เลยแบ่งกัน ส่วนนึงนอนบนเตียง อีกส่วนนอนพื้น และหนึ่งในผู้เสียสละนอนพื้นก็คือ ข้ากระผมเอง - -" คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากในห้องนอนมีเรือหางยาววิ่งทั้งคืน ครืดดดดๆๆๆๆๆ คร่อกกกกกกกกก~ เพื่อนคนนึงที่นอนบนเตียง แหม้มกรนเสียงดังชิฟฮ๋าย กรูนอนม่ายยยหลับบบ แต่มรุงหลับสบายเลยนะไอสึส แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวนะที่นอนไม่หลับ มีไอตี๋อีกคนนึง ซึ่งมันนอนอยู่บนเตียงข้างๆคนที่กรน ผมลืมตาขึ้นมาเห็นไอตี๋มันกำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างกับหมาโดนน้ำร้อน ไอตี๋มันเห็นผมนอนไม่หลับเหมือนกัน มันเลยลุกจากเตียง แล้วลงมานอนข้างๆผม สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือ อยู่ดีๆมันก็มานอนซบที่อกผม ผมก็หึ้ยยยย คิดในใจไอเฮีย มืงทำไรเนี่ย อยู่ดีๆมาซบเฉย แล้วมันก็เอาหูมาแนบตรงอกข้างซ้ายของผม มันบอกผมว่า หัวใจมืงเต้นด้วย (อ่าว ไม่เต้นก็ตายดิ บ้าปะ) แล้วมันก็กวนผม ชวนคุยนู่นนี่นั่นไม่ยอมให้ผมนอน สักพักมันชวนผมออกไปนั่งข้างนอกกัน แต่ผมบอกมันว่า ไม่ปายยย กรูจานอน มันก็เลยขอยืมโทรศัพท์ผมเล่นเกมงู ตอนนั้นฮิตมาก มันก็นอนเล่น ทั้งๆที่ซบอกผมอยู่นั่นแหละครับท่านผู้ชม สักพักมันก็เริ่มแกล้งผมต่อ โดยการเอาแสงไฟจากโทรศัพท์มาส่องหน้า ไม่ยอมให้ผมนอน มันจะชวนผมออกไปข้างนอกให้ได้ แต่ตอนนั้นคือผมไม่อยากไป ผมอยากนอน แล้วก็มีเพื่อนคนนึงที่นอนอยู่ใต้เตียง มันลุกออกมา ไอตี๋มันเห็นมันเลยชวนออกไปนั่งข้างนอกดูทีวี ละก็ปล่อยผมนอนอย่างสงบ... ซะที่ไหนเล่า
เรือหางยาวแม่มก็ยังวิ่งไม่เลิก ครืดๆๆๆ ผมเลยลุกตามมันสองคนออกมานั่งข้างนอก แต่ผมไปนั่งอยู่ตรงบันได แล้วเอาผ้าคลุมหัวไว้ ไอตี๋มันเห็น มันก็เรียกให้ลงไปนั่งที่โซฟากับมัน แต่ผมไม่ได้ลงไป เล่นตัว ผมนั่งอยู่สักพักก็กลับเข้าไปนอนต่อ แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้
พอตอนเช้าขากลับ เราก็วางแผนกันว่าจะไปแวะทีนี้ๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังขนสัมภาระขึ้นรถ ผมก็เก็บของผมเรียบร้อย และกำลังจะมานั่งที่ ก็เห็นไอตี๋มันมานั่งที่ข้างๆผม จองไว้เรียบร้อยเลยนะ คือตอนขามา ผมนั่งคู่กับเพื่อนอีกคนนึง แต่ขากลับไอตี๋มันมาแย่งที่เพื่อนผม ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันถัมเพื่อครายยยย ผมก็นั่งคู่กับมันไปแบบงงๆนั่นแหละ
ช่วงขากลับเราก็แวะนู่นนี่กันตามแผน เสร็จแล้วก็บึ่งรถกลับยาวๆ ทุกคนเหนื่อยกับการเดินทางก็เลยพากันหลับ ผมกับไอตี๋ก็เช่นกัน แต่ที่แปลกก็คือ อยู่ดีๆไอตี๋ก็มานอนซบไหล่ผม เอาอีกและไอนี่ คือผมก็งงๆนะ แบบว่ามืงต้องการอะไรจากกรูว บวกกับรำคาญเพราะผมมันมาทิ่มคอ คนเฮียไรไม่รู้หัวแหลมเฟี้ยว ผมเลยปัดๆหัวมันออก ไม่ให้ซบ มันก็ยกหัวขึ้น ทีนี้เว้ยยย แม่มมานอนหนุนตักผมแทน ไอเห้ยยยย มันเริ่มไม่ใช่และ (หรือว่ามันเริ่มไม่ใช่นานละวะ) คือแบบรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เอ้อลืมบอก ตอนนั้นผมเป็นผู้ชายแท้ๆนะ ชอบผู้หญิง ส่วนไอตี๋ก็น่าจะแท้นะ เพราะมันชอบดูหนังav 555
ผมก็ปล่อยให้มันนอนอยู่อย่างนั้น จนรถกลับมาส่งที่โรงเรียน พวกเราชาวแก๊งก็ไปต่อกันที่ร้านเกมหลังโรงเรียน คือพวกมืงนี่ติดเกมสถานหนักนะ ผมก็ไปด้วยแต่ผมไม่ได้เล่น ผมไปนั่งเฉยๆ นั่งดูพวกมันเล่น แล้วอยู่ดีๆผมก็มีความรู้สึกแปลกๆวูบขึ้นมา เมื่อได้มองหน้าไอเชี่ยตี๋ เหมือนสมองมันประมวลผลเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และตอนอยู่บนรถขากลับ
สมองมันถามหัวใจว่า
"เห๊ย หัวใจ มืงคิดเหมือนกรูปะวะ ว่าสิ่งที่ไอเชี่ยตี๋นี่ทำ มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลและ"
หัวใจก็บอกว่า
"เออกูก็คิดเหมือนมืงแหละ แต่ไอตี๋มันเป็นผู้ชายนะ มันจะใช่หรอวะ"
สมองก็บอกว่า
"งั้นเดี๋ยวกูลองประมวลผลย้อนกลับไปถึงเรื่องที่ผ่านๆมาดู รอกรูแปล๊บบบ"
เสร็จแล้วผมก็นั่งคิดย้อนกลับไปถึงหลายๆสิ่งที่ไอตี๋มันเคยทำกับผม คือ อย่างที่เล่าไปตอนแรกๆ ที่ไอตี๋มันจะชอบแกล้งชอบแหย่ชอบกวนทรีนผมเป็นพิเศษ อะไรๆก็ผม ตามใจผม เวลามีอะไรมันก็ชอบนึกถึงผมนะ ขนาดตอนจะไปเรียนต่อมันยังมาชวนผมไปเรียนกับมัน เอ้อ แล้วก็มีเหตุการณ์นึงที่จำได้ขึ้นใจ ตอนนั้นเราเล่นโบราณเรียกชื่อกัน แล้วไอตี๋เป็นคนเรียกชื่อ มันก็โยนลูกปิงปองขึ้นฟ้า แล้วก็เรียกชื่อผม ขณะที่มันกำลังวิ่งหนี ละผมก็กำลังวิ่งไปเอาลูกปิงปอง มันก็วิ่งมาสะดุดเข่าผม ล้มกลิ้งคลุกฝุ่น ส่วนผมไม่เป็นอะไร แค่เจ็บเข่า มันเห็นผมร้องโอ๊ยๆ มันก็รีบลุกมาดู มาถามว่าเจ็บมั้ยเป็นอะไรมากเปล่า พอนึกถึงตอนนั้นแล้วแบบ เห้ยนี่มืงเป็นห่วงกรูมากกว่าตัวเองอีกหรอ นี่แหละ หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่สมองประมวลผลย้อนกลับไป ส่งผลให้หัวใจเริ่มสั่นไหวแปลกๆ
หรือว่าเราจะชอบมันวะ เอ๊ะ หรือมันชอบเรา เอ๊ะ นี่กรูชอบผู้ชายหรอเนี่ย เห้ย ใช่หรอวะ ตอนนั้นคือมึนงงสับสน ไม่เห็นหนทาง
หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอมันอีก แต่เริ่มเข้าใจหัวใจตัวเองแล้ว ว่ารู้สึกดีกับมัน ช่วงที่ปิดเทอม ไม่ได้เจอมัน มันมีความรู้สึกคิดถึงไอเชี่ยตี๋นี่ ตลอดเลย มันทรมานแปลกๆ ผมจำไม่ได้ว่าช่วงปิดเทอม เราได้ไปเที่ยวไหนกับแก๊งเพื่อนอีกมั้ย จำไม่ได้ว่าผมได้เจอไอตี๋อีกรึเปล่า แต่สิ่งนึงที่ผมรู้เลยคือ นี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่า ความรัก
มาถึงช่วงเปิดเทอม สรุปแล้วผมก็เรียนต่อม.ปลาย ที่โรงเรียนเดิมนั่นแหละ และผมก็รู้มาว่า ไอตี๋ก็เรียนต่อที่เดิมเหมือนกัน (เพื่อนในกลุ่มส่วนใหญ่ก็เรียนต่อที่เดิมกันหมด) พอผมรู้ผมก็ภาวนาให้ได้เรียนห้องเดียวกับไอตี๋ทีเถิด จะได้มีเพื่อน สุดท้ายแล้วก็ได้อยู่คนละห้อง เพราะเรียนกันคนละแผน ซะอย่างงั้น 555
ช่วงชีวิตของม.ปลาย ตอนช่วงม.4 พวกเราก็กระจัดกระจายกันไปอยู่คนละห้อง แต่ก็จะนัดกินข้าว นัดเจอกัน ไปเที่ยว ไปเล่นเกมด้วยกันอยู่เหมือนเดิม ไอตี๋มันก็ยังดีกับผมและก็ยังคงกวนทรีนเหมือนเดิม เวลาเจอหน้ามันผมจะรู้สึกเขิน ไม่รู้เป็นเห๊ะอะไร เวลาไปร้องคาราโอเกะหรือไปดูหนังกับกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็จะพยายามทำไงก็ได้ให้ได้นั่งใกล้ๆมัน มีครั้งนึงไปดูหนังกัน ระหว่างที่กำลังเดินเข้าโรงหนัง ไอตี๋มันก็เดินอยู่ข้างหน้าผม กำลังก้าวขึ้นบันได แล้วผมก็สะดุดบันได มือผมก็ไปคว้าแหมะ จับมือไอตี๋พอดิบพอดี ไอตี๋มันก็จับไว้ แต่ไม่ได้เหลียวมามองนะ ผมก็เลยลองแกล้งเนียนๆจับมือมันไว้ไม่ปล่อย มันก็ไม่ยอมปล่อย ไม่ขัดขืนหรืออะไรเลย เราก็เลยเดินจูงมือกันเข้าโรงหนัง แล้วก็นั่งข้างๆกัน เป็นอะไรที่ฟินเชรี่ยๆๆๆๆ 555 >///< แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นมันเห็นป่าว
แล้วก็มีอีกครั้ง เหตุเกิดในโรงเหมือนกัน จำได้ว่าวันนั้นไปดูหนังผี ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเรื่องที่มันบอกว่า "มืงอยากดูกรูตายนักใช่มั้ยย" วันนั้นผมก็ได้นั่งข้างไอตี๋อีกและ ช่างโชคดีเหลือเกิน 555 แต่วันนี้ไม่ได้จูงมือเข้าโรงนะ แต่เป็นอะไรที่ฟินกว่านั้น คือในขณะที่กำลังนั่งดูหนังอยู่ มันมีฉากน่ากลัว ไอตี๋มันก็กลัวมันหันไปหาเพื่อนที่นั่งข้างซ้ายมือ มันบอกขอจับมือหน่อย เพื่อนที่นั่งข้างๆมันก็ด่า บอกว่าจับเห้ไรมืงบ้าป่าว แล้วมันก็หันมาหาผม ขอผมจับมือหน่อยมันกลัว ผมก็ให้จับ มันดีใจใหญ่ หันมามองหน้า หารู้ไม่ว่าในใจกรูนี่ดีใจแทบจะบินอยู่ละ แต่ต้องนิ่งๆไว้ แล้ววันนั้นก็นั่งจับมือกันดูหนังจนจบ เป็นอะไรที่มีความสุขมาก
มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกกับมันมากขึ้น อยากทำทุกอย่างเพื่อมัน มีอยู่ครั้งนึงวิชาภาษาอังกฤษ คืออาจารย์สั่งการบ้านเหมือนกัน ซึ่งผมอะทำของตัวเองเสร็จแล้ว แต่ไอตี๋มันยังไม่ทำ มันมาขอให้ช่วยสอน ผมขรี้เกียจ ผมก็เลยเอาที่ผมทำเสร็จให้มันไป ส่วนผมก็ทำใหม่ มันอาจจะไม่ดี แต่ความรู้สึกตอนนั้น ก็แค่อยากทำเพื่อมัน มันจะได้สบาย
เอ้อ ช่วงม.4เนี้ย ไอตี๋มันดูดีขึ้นมาก เพราะเริ่มไว้ผมรองทรงได้ หน้าตามันก็ขาวๆตี๋ๆ เรียกว่าฮอตมากเลยช่วงนั้น (ส่วนผมก็หน้าตาบ้านๆทั่วไปหาได้ตามป้ายรถเมล์) ผมก็จะได้ยินข่าวมันบ่อยๆ ว่ามีหญิงมาติดพัน แต่พอเจอหน้ามัน ผมก็แซวว่า เห้ยเดี๋ยวนี้ฮอตหรอวะ หญิงเยอะหรอมืง มันก็จะบ่ายเบี่ยงตลอดว่า ฮอตhaไร ไม่มีโว้ย
แต่มีครั้งนึง เราก็นัดกันไปเล่นเกมดูหนังกับกลุ่มเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่วันนั้นไอตี๋มันพาหญิงมาด้วยคนนึง เพื่อนๆก็แซวกันใหญ่ แต่ไอตี๋ก็ปฏิเสธบอกว่าเป็นแค่เพื่อน แต่ผมนี่ดิ เห็นแล้วไม่สบอารมณ์ว่ะ วันนั้นผมเลยไม่คุยกับมันเลย เรียกว่างอนก็ได้มั้ง 555 ไอ่สราสหยามกรูชัดๆ ไม่ได้เป็นไรกัน แล้วพามาทำเชี่ยไร มีกรูอยู่แล้วทั้งคนไม่พอหรอสึส เอ้ยไม่ใช่และ
แต่พอเล่นเกมเสร็จจะไปดูหนัง ผู้หญิงคนนั้นก็ขอแยกทาง สงสัยต้องสับรางมั้ง อิอิ ผมก็เริงร่าสิครับ ไปซะได้ก็ดี พอถึงห้างที่จะไปดูหนังกัน ไอตี๋มันคงสังเกตเห็นว่าผมเงียบๆไป มันก็เลยมากระแซะๆ เหย้าแหย่ กวนทรีนผมเหมือนเดิม ไอตี๋คนเดิมของข้ากลับมาแล้ววว วะฮะฮ่า ด้วยความดีใจผมก็เลยหายงอนมัน วันนั้นก็คุยกับมันเหมือนเดิม แต่เพราะเหตุการณ์วันนั้น มันเหมือนเตือนสติผมว่า เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด อาจจะแค่เราคิดไปเองฝ่ายเดียวรึป่าว จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรรึป่าว ไอตี๋มันคงไม่ได้ชอบเรา มันก็แค่เล่นไปตามประสา
เมื่อผมเกิดรักเพื่อนสนิท แต่เพื่อนสนิทผมดันเป็น......... เอเลี่ยน!! ซะเมื่อไหร่ล่ะ
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานละ ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น (ปัจจุบันเรียนจบทำงานแล้วครับ) ก็สมัยนั้นผมมีกลุ่มเพื่อนอยู่กลุ่มนึง เป็นแก๊งผู้ชายทั้งหมด สมัยนั้นกิจกรรมที่ชอบเล่นกันที่ผมจำได้ก็มี ลิงชิงบอล โบรานเรียกชื่อ ตีแบต บ่ารูนด่านก็เล่นนะ 555 เล่นกะพวกผู้หญิง จำได้ว่าสนุกมาก และแน่นอนกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ของเด็กวัยนี้ ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ที่ประจำของพวกเราเลยคือร้านเกม ไปแม่มทุกวัน วันไหนไม่ได้ไปนี่แทบลงแดง ถึงไม่ได้ไปเล่นก็ขอให้ได้ยืนดู
ในกลุ่มแก๊งผู้ชาย ผมก็จะมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง สมมติว่าชื่อไอตี๋ ไอตี๋เนี่ยมันแบบ ไม่รู้มันเป็นไร ชอบกวนทรีน ชอบแหย่ผม ชวนคุยนุ่นนี่ไปเรื่อย หาสาระไม่ได้ หรือบางทีในแก๊งคุยนั่นคุยนี่กัน มันก็ชอบชี้เป้ามาที่ผม คือบางทีก็รำคาญนะ แบบเมิงเป็นไรมากปะว้าไอสึส เพื่อนคนอื่นก็ไม่เป็นขนาดมันนะ แล้วมันก็ไม่เป็นกับคนอื่น แต่ผมก็ไม่ได้อะไร ก็เพื่อนกัน
เราก็ใช้ชีวิตกันไป เรียนๆเล่นๆ จนถึงช่วงใกล้จะจบม.ต้น มันเป็นช่วงเวลาของการหาที่เรียนต่อ ช่วงนั้นก็จะมีพวก สถาบันศึกษาที่เป็นสายอาชีพเข้ามาแนะแนวไม่ขาดสาย แล้วก็มีสถาบันนึงที่ไอตี๋มันสนใจ อยากเรียนต่อที่นี่ มันเลยมาชวนผมให้กรอกใบสมัครกับมัน ซึ่งผมก็โอเค เพราะทางบ้านผมอยากให้เรียนต่อสายอาชีพมากกว่า
ช่วงที่เรียนจบม.ต้น เราก็ตกลงกันว่าปิดเทอมจะไปเที่ยวทะเลด้วยกัน นัดวันอะไรเสร็จสรรพ พอถึงวันนัดเรานัดเจอกันที่โรงเรียน เหมารถไปให้รถมารับที่โรงเรียนเลย ขณะที่ผมกำลังเดินข้ามสะพานลอยเพื่อข้ามไปฝั่งโรงเรียน ก็บังเอิญเจอไอตี๋เนี่ยแหละกำลังเดินอยู่บนสะพาน ที่เด่นมาแต่ไกลเลยคือสีกางเกง มันใส่กางเกงสีแดงแปร๊ดดด ผมคิดในใจ
ข้ามมาที่ช่วงกลางคืน พออาบน้ำอาบท่า กินข้าวเสร็จ พวกเราก็เตรียมตัวจะนอนกัน แต่ว่าที่นอนมันไม่พอ ก็เลยแบ่งกัน ส่วนนึงนอนบนเตียง อีกส่วนนอนพื้น และหนึ่งในผู้เสียสละนอนพื้นก็คือ ข้ากระผมเอง - -" คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากในห้องนอนมีเรือหางยาววิ่งทั้งคืน ครืดดดดๆๆๆๆๆ คร่อกกกกกกกกก~ เพื่อนคนนึงที่นอนบนเตียง แหม้มกรนเสียงดังชิฟฮ๋าย กรูนอนม่ายยยหลับบบ แต่มรุงหลับสบายเลยนะไอสึส แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวนะที่นอนไม่หลับ มีไอตี๋อีกคนนึง ซึ่งมันนอนอยู่บนเตียงข้างๆคนที่กรน ผมลืมตาขึ้นมาเห็นไอตี๋มันกำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างกับหมาโดนน้ำร้อน ไอตี๋มันเห็นผมนอนไม่หลับเหมือนกัน มันเลยลุกจากเตียง แล้วลงมานอนข้างๆผม สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือ อยู่ดีๆมันก็มานอนซบที่อกผม ผมก็หึ้ยยยย คิดในใจไอเฮีย มืงทำไรเนี่ย อยู่ดีๆมาซบเฉย แล้วมันก็เอาหูมาแนบตรงอกข้างซ้ายของผม มันบอกผมว่า หัวใจมืงเต้นด้วย (อ่าว ไม่เต้นก็ตายดิ บ้าปะ) แล้วมันก็กวนผม ชวนคุยนู่นนี่นั่นไม่ยอมให้ผมนอน สักพักมันชวนผมออกไปนั่งข้างนอกกัน แต่ผมบอกมันว่า ไม่ปายยย กรูจานอน มันก็เลยขอยืมโทรศัพท์ผมเล่นเกมงู ตอนนั้นฮิตมาก มันก็นอนเล่น ทั้งๆที่ซบอกผมอยู่นั่นแหละครับท่านผู้ชม สักพักมันก็เริ่มแกล้งผมต่อ โดยการเอาแสงไฟจากโทรศัพท์มาส่องหน้า ไม่ยอมให้ผมนอน มันจะชวนผมออกไปข้างนอกให้ได้ แต่ตอนนั้นคือผมไม่อยากไป ผมอยากนอน แล้วก็มีเพื่อนคนนึงที่นอนอยู่ใต้เตียง มันลุกออกมา ไอตี๋มันเห็นมันเลยชวนออกไปนั่งข้างนอกดูทีวี ละก็ปล่อยผมนอนอย่างสงบ... ซะที่ไหนเล่า
เรือหางยาวแม่มก็ยังวิ่งไม่เลิก ครืดๆๆๆ ผมเลยลุกตามมันสองคนออกมานั่งข้างนอก แต่ผมไปนั่งอยู่ตรงบันได แล้วเอาผ้าคลุมหัวไว้ ไอตี๋มันเห็น มันก็เรียกให้ลงไปนั่งที่โซฟากับมัน แต่ผมไม่ได้ลงไป เล่นตัว ผมนั่งอยู่สักพักก็กลับเข้าไปนอนต่อ แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้
พอตอนเช้าขากลับ เราก็วางแผนกันว่าจะไปแวะทีนี้ๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังขนสัมภาระขึ้นรถ ผมก็เก็บของผมเรียบร้อย และกำลังจะมานั่งที่ ก็เห็นไอตี๋มันมานั่งที่ข้างๆผม จองไว้เรียบร้อยเลยนะ คือตอนขามา ผมนั่งคู่กับเพื่อนอีกคนนึง แต่ขากลับไอตี๋มันมาแย่งที่เพื่อนผม ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันถัมเพื่อครายยยย ผมก็นั่งคู่กับมันไปแบบงงๆนั่นแหละ
ช่วงขากลับเราก็แวะนู่นนี่กันตามแผน เสร็จแล้วก็บึ่งรถกลับยาวๆ ทุกคนเหนื่อยกับการเดินทางก็เลยพากันหลับ ผมกับไอตี๋ก็เช่นกัน แต่ที่แปลกก็คือ อยู่ดีๆไอตี๋ก็มานอนซบไหล่ผม เอาอีกและไอนี่ คือผมก็งงๆนะ แบบว่ามืงต้องการอะไรจากกรูว บวกกับรำคาญเพราะผมมันมาทิ่มคอ คนเฮียไรไม่รู้หัวแหลมเฟี้ยว ผมเลยปัดๆหัวมันออก ไม่ให้ซบ มันก็ยกหัวขึ้น ทีนี้เว้ยยย แม่มมานอนหนุนตักผมแทน ไอเห้ยยยย มันเริ่มไม่ใช่และ (หรือว่ามันเริ่มไม่ใช่นานละวะ) คือแบบรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เอ้อลืมบอก ตอนนั้นผมเป็นผู้ชายแท้ๆนะ ชอบผู้หญิง ส่วนไอตี๋ก็น่าจะแท้นะ เพราะมันชอบดูหนังav 555
ผมก็ปล่อยให้มันนอนอยู่อย่างนั้น จนรถกลับมาส่งที่โรงเรียน พวกเราชาวแก๊งก็ไปต่อกันที่ร้านเกมหลังโรงเรียน คือพวกมืงนี่ติดเกมสถานหนักนะ ผมก็ไปด้วยแต่ผมไม่ได้เล่น ผมไปนั่งเฉยๆ นั่งดูพวกมันเล่น แล้วอยู่ดีๆผมก็มีความรู้สึกแปลกๆวูบขึ้นมา เมื่อได้มองหน้าไอเชี่ยตี๋ เหมือนสมองมันประมวลผลเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และตอนอยู่บนรถขากลับ
สมองมันถามหัวใจว่า
"เห๊ย หัวใจ มืงคิดเหมือนกรูปะวะ ว่าสิ่งที่ไอเชี่ยตี๋นี่ทำ มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลและ"
หัวใจก็บอกว่า
"เออกูก็คิดเหมือนมืงแหละ แต่ไอตี๋มันเป็นผู้ชายนะ มันจะใช่หรอวะ"
สมองก็บอกว่า
"งั้นเดี๋ยวกูลองประมวลผลย้อนกลับไปถึงเรื่องที่ผ่านๆมาดู รอกรูแปล๊บบบ"
เสร็จแล้วผมก็นั่งคิดย้อนกลับไปถึงหลายๆสิ่งที่ไอตี๋มันเคยทำกับผม คือ อย่างที่เล่าไปตอนแรกๆ ที่ไอตี๋มันจะชอบแกล้งชอบแหย่ชอบกวนทรีนผมเป็นพิเศษ อะไรๆก็ผม ตามใจผม เวลามีอะไรมันก็ชอบนึกถึงผมนะ ขนาดตอนจะไปเรียนต่อมันยังมาชวนผมไปเรียนกับมัน เอ้อ แล้วก็มีเหตุการณ์นึงที่จำได้ขึ้นใจ ตอนนั้นเราเล่นโบราณเรียกชื่อกัน แล้วไอตี๋เป็นคนเรียกชื่อ มันก็โยนลูกปิงปองขึ้นฟ้า แล้วก็เรียกชื่อผม ขณะที่มันกำลังวิ่งหนี ละผมก็กำลังวิ่งไปเอาลูกปิงปอง มันก็วิ่งมาสะดุดเข่าผม ล้มกลิ้งคลุกฝุ่น ส่วนผมไม่เป็นอะไร แค่เจ็บเข่า มันเห็นผมร้องโอ๊ยๆ มันก็รีบลุกมาดู มาถามว่าเจ็บมั้ยเป็นอะไรมากเปล่า พอนึกถึงตอนนั้นแล้วแบบ เห้ยนี่มืงเป็นห่วงกรูมากกว่าตัวเองอีกหรอ นี่แหละ หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่สมองประมวลผลย้อนกลับไป ส่งผลให้หัวใจเริ่มสั่นไหวแปลกๆ
หรือว่าเราจะชอบมันวะ เอ๊ะ หรือมันชอบเรา เอ๊ะ นี่กรูชอบผู้ชายหรอเนี่ย เห้ย ใช่หรอวะ ตอนนั้นคือมึนงงสับสน ไม่เห็นหนทาง
หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอมันอีก แต่เริ่มเข้าใจหัวใจตัวเองแล้ว ว่ารู้สึกดีกับมัน ช่วงที่ปิดเทอม ไม่ได้เจอมัน มันมีความรู้สึกคิดถึงไอเชี่ยตี๋นี่ ตลอดเลย มันทรมานแปลกๆ ผมจำไม่ได้ว่าช่วงปิดเทอม เราได้ไปเที่ยวไหนกับแก๊งเพื่อนอีกมั้ย จำไม่ได้ว่าผมได้เจอไอตี๋อีกรึเปล่า แต่สิ่งนึงที่ผมรู้เลยคือ นี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่า ความรัก
มาถึงช่วงเปิดเทอม สรุปแล้วผมก็เรียนต่อม.ปลาย ที่โรงเรียนเดิมนั่นแหละ และผมก็รู้มาว่า ไอตี๋ก็เรียนต่อที่เดิมเหมือนกัน (เพื่อนในกลุ่มส่วนใหญ่ก็เรียนต่อที่เดิมกันหมด) พอผมรู้ผมก็ภาวนาให้ได้เรียนห้องเดียวกับไอตี๋ทีเถิด จะได้มีเพื่อน สุดท้ายแล้วก็ได้อยู่คนละห้อง เพราะเรียนกันคนละแผน ซะอย่างงั้น 555
ช่วงชีวิตของม.ปลาย ตอนช่วงม.4 พวกเราก็กระจัดกระจายกันไปอยู่คนละห้อง แต่ก็จะนัดกินข้าว นัดเจอกัน ไปเที่ยว ไปเล่นเกมด้วยกันอยู่เหมือนเดิม ไอตี๋มันก็ยังดีกับผมและก็ยังคงกวนทรีนเหมือนเดิม เวลาเจอหน้ามันผมจะรู้สึกเขิน ไม่รู้เป็นเห๊ะอะไร เวลาไปร้องคาราโอเกะหรือไปดูหนังกับกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็จะพยายามทำไงก็ได้ให้ได้นั่งใกล้ๆมัน มีครั้งนึงไปดูหนังกัน ระหว่างที่กำลังเดินเข้าโรงหนัง ไอตี๋มันก็เดินอยู่ข้างหน้าผม กำลังก้าวขึ้นบันได แล้วผมก็สะดุดบันได มือผมก็ไปคว้าแหมะ จับมือไอตี๋พอดิบพอดี ไอตี๋มันก็จับไว้ แต่ไม่ได้เหลียวมามองนะ ผมก็เลยลองแกล้งเนียนๆจับมือมันไว้ไม่ปล่อย มันก็ไม่ยอมปล่อย ไม่ขัดขืนหรืออะไรเลย เราก็เลยเดินจูงมือกันเข้าโรงหนัง แล้วก็นั่งข้างๆกัน เป็นอะไรที่ฟินเชรี่ยๆๆๆๆ 555 >///< แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นมันเห็นป่าว
แล้วก็มีอีกครั้ง เหตุเกิดในโรงเหมือนกัน จำได้ว่าวันนั้นไปดูหนังผี ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเรื่องที่มันบอกว่า "มืงอยากดูกรูตายนักใช่มั้ยย" วันนั้นผมก็ได้นั่งข้างไอตี๋อีกและ ช่างโชคดีเหลือเกิน 555 แต่วันนี้ไม่ได้จูงมือเข้าโรงนะ แต่เป็นอะไรที่ฟินกว่านั้น คือในขณะที่กำลังนั่งดูหนังอยู่ มันมีฉากน่ากลัว ไอตี๋มันก็กลัวมันหันไปหาเพื่อนที่นั่งข้างซ้ายมือ มันบอกขอจับมือหน่อย เพื่อนที่นั่งข้างๆมันก็ด่า บอกว่าจับเห้ไรมืงบ้าป่าว แล้วมันก็หันมาหาผม ขอผมจับมือหน่อยมันกลัว ผมก็ให้จับ มันดีใจใหญ่ หันมามองหน้า หารู้ไม่ว่าในใจกรูนี่ดีใจแทบจะบินอยู่ละ แต่ต้องนิ่งๆไว้ แล้ววันนั้นก็นั่งจับมือกันดูหนังจนจบ เป็นอะไรที่มีความสุขมาก
มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกกับมันมากขึ้น อยากทำทุกอย่างเพื่อมัน มีอยู่ครั้งนึงวิชาภาษาอังกฤษ คืออาจารย์สั่งการบ้านเหมือนกัน ซึ่งผมอะทำของตัวเองเสร็จแล้ว แต่ไอตี๋มันยังไม่ทำ มันมาขอให้ช่วยสอน ผมขรี้เกียจ ผมก็เลยเอาที่ผมทำเสร็จให้มันไป ส่วนผมก็ทำใหม่ มันอาจจะไม่ดี แต่ความรู้สึกตอนนั้น ก็แค่อยากทำเพื่อมัน มันจะได้สบาย
เอ้อ ช่วงม.4เนี้ย ไอตี๋มันดูดีขึ้นมาก เพราะเริ่มไว้ผมรองทรงได้ หน้าตามันก็ขาวๆตี๋ๆ เรียกว่าฮอตมากเลยช่วงนั้น (ส่วนผมก็หน้าตาบ้านๆทั่วไปหาได้ตามป้ายรถเมล์) ผมก็จะได้ยินข่าวมันบ่อยๆ ว่ามีหญิงมาติดพัน แต่พอเจอหน้ามัน ผมก็แซวว่า เห้ยเดี๋ยวนี้ฮอตหรอวะ หญิงเยอะหรอมืง มันก็จะบ่ายเบี่ยงตลอดว่า ฮอตhaไร ไม่มีโว้ย
แต่มีครั้งนึง เราก็นัดกันไปเล่นเกมดูหนังกับกลุ่มเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่วันนั้นไอตี๋มันพาหญิงมาด้วยคนนึง เพื่อนๆก็แซวกันใหญ่ แต่ไอตี๋ก็ปฏิเสธบอกว่าเป็นแค่เพื่อน แต่ผมนี่ดิ เห็นแล้วไม่สบอารมณ์ว่ะ วันนั้นผมเลยไม่คุยกับมันเลย เรียกว่างอนก็ได้มั้ง 555 ไอ่สราสหยามกรูชัดๆ ไม่ได้เป็นไรกัน แล้วพามาทำเชี่ยไร มีกรูอยู่แล้วทั้งคนไม่พอหรอสึส เอ้ยไม่ใช่และ
แต่พอเล่นเกมเสร็จจะไปดูหนัง ผู้หญิงคนนั้นก็ขอแยกทาง สงสัยต้องสับรางมั้ง อิอิ ผมก็เริงร่าสิครับ ไปซะได้ก็ดี พอถึงห้างที่จะไปดูหนังกัน ไอตี๋มันคงสังเกตเห็นว่าผมเงียบๆไป มันก็เลยมากระแซะๆ เหย้าแหย่ กวนทรีนผมเหมือนเดิม ไอตี๋คนเดิมของข้ากลับมาแล้ววว วะฮะฮ่า ด้วยความดีใจผมก็เลยหายงอนมัน วันนั้นก็คุยกับมันเหมือนเดิม แต่เพราะเหตุการณ์วันนั้น มันเหมือนเตือนสติผมว่า เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด อาจจะแค่เราคิดไปเองฝ่ายเดียวรึป่าว จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรรึป่าว ไอตี๋มันคงไม่ได้ชอบเรา มันก็แค่เล่นไปตามประสา