
Thursday, October 15, 2015 - 00:04
“
ทนายเสื้อแดง”
ชำแหละพวกเดียวกัน ยัน นปช.เหลือแต่ชื่อ ไม่เป็นภัยความมั่นคง เพราะไม่มีโอกาสรวมตัวอีกแล้ว ชาวบ้านรับแกนนำไม่ได้ เหตุ อุดมการณ์ไม่ชัด แค่คนเคยรักกัน แนะ "ประยุทธ์" เอาเสื้อแดงเป็นพวก นิรโทษฯ ให้ชาวบ้าน ทำเศรษฐกิจให้ดี จบ!
นายคารม พลพรกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ "ไทยโพสต์" ถึงแนวทางการต่อสู้คดีของคนเสื้อแดงที่ยังค้างคาในชั้นศาลว่า ไม่ว่าจะเป็นคดีเสื้อแดงหรือคนเสื้อเหลือง ศาลต้องให้โอกาสทุกฝ่ายต่อสู้อย่างเต็มที่ มีมาตรฐานเดียวกัน ขณะนี้นายกฯ มีอำนาจทั้งสถานะทางบริหารและหัวหน้า คสช. ชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุมไม่ว่าข้อหาใดข้อหาหนึ่ง เช่น ข้อหามั่วสุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืน พ.ร.บ.มั่นคง มีวัตถุระเบิดแต่ไม่ใช่ในฐานะผู้ครอบครอง ดคีอื่นๆ ที่ไม่ใช่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุมต้องนิรโทษกรรมให้เขา แต่แกนนำไม่ว่าจะเป็นนายวีระกานต์และคณะ นายสุเทพและคณะ ก็ไปสู้กันในชั้นศาล
“เสื้อแดงวันนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องแยกกัน อันนี้อยากพูด นปช.คงเหลือแต่ชื่อ หมายความว่าจะมารวมกลุ่มแบบเดิม น่าจะเกิดขึ้นยาก แต่คำว่า นปช.ลบไม่ได้ ก็ยังติดเหมือนเดิม เพียงแต่จะเป็นตำนานไปแล้ว การเกิดมวลชนรูปแบบนี้น่าจะไม่มี"
เมื่อถามว่า ด้วยเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่เหมือนเดิม นายคารมกล่าวว่า 1.บางอย่างแกนนำพยายามทำแล้วทำไม่ได้ วิธีคิดที่รวมคนจำนวนมาก ไม่มีอะไร พอมีจำนวนมาก คนจะบอกไม่มีอาวุธจะชนะได้อย่างไร ซึ่งจริงๆ มีไม่ได้ เพราะขัดกับกฎหมาย แต่มีคนใส่ความให้มีชายชุดดำ ทำให้ นปช.แตก โดยยุทธวิธีสู้ไม่ได้ นปช.มีคนมากเหมือนการรวมตัวเมื่อ 12 มี.ค.53 ที่คนมาจากทั่วประเทศ เมื่อก่อนกฎหมายไม่มี วันนี้มีพ.ร.บ.ชุมนุม เมื่อรวมกันมาก ถูกดำเนินคดี ใครช่วย ช่วยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถูกขัง บางคนพูดไม่เป็น ไปผิดมาตราสำคัญยิ่งหนักเลย ยิ่งมีอาวุธ ยิ่งผิดอีก อาวุธ เกิดจากคนอื่นมาไว้ให้หรือไม่ ก็ผิดอีก
“มี พ.ร.บ.ชุมนุม สภาพของ นปช.คงกลับยาก โดยหลายปัจจัยทำให้กลับยาก ที่ไหนก็แล้วแต่เกิดไม่ได้” นายคารมกล่าว
ถามอีกว่า ชาวบ้านรู้แล้วว่าจุดหมายปลายทางในแง่อุดมการณ์ รวมทั้งผู้นำตอบโจทย์ไม่ชัด นายคารมกล่าวว่า ถูกต้อง เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อรวมเยอะสุดไปแล้วจะได้อย่างที่เขาต้องการหรือไม่ จะได้ประชาธิปไตยหรือไม่ แต่กลายเป็นได้ทหารออกมา สุดท้ายก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ไม่ใช่เจอบ้านหลังสวยๆ ไปเจอหุบเหว ตกเหว บอกจะไล่อำมาตย์ สุดท้ายทหารออกมาเลย ถามว่าแกนนำรู้ตัวหรือไม่ คิดว่าแกนนำก็งง เข้าใจว่าทำอย่างนี้จะได้เหมือน 10 เม.ย.53 คนตายหนึ่งคน รัฐบาลก็ไม่ลาออก ทฤษฎีเก่าใช้ไม่ได้ ยุคนี้จะเข้าป่าหรือ ป่าที่ไหนมี ไม่เหมือนกับยุค 2516 วันนี้ต้องมองไปข้างหน้า วันนี้ถ้านายกฯ มองไปข้างหน้าต้องนิรโทษกรรม นายกฯ เข้ามา มีไม่กี่เรื่อง เพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน อยากให้ปรองดอง ปูพื้นให้ประเทศ อยากได้นักการเมืองที่ดี เมื่ออยากได้แบบนี้ก็ต้องวางรูปใหม่
"ยุคนี้เป็นยุคของแป๊ะ ก็ว่ามาแล้วกัน แต่นานๆแล้วไม่แก้ คนที่คิดเห็นเยอะๆ จิตวิทยามวลชนของม็อบถ้าเกิดขึ้น คุมยาก ในช่วงที่ทหารคุมอยู่ เบ็ดเสร็จ นปช.ไม่เป็นภัย เป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ใช่เรื่องอำนาจเบ็ดเสร็จ อยู่ที่จิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ เห็นสิ่งไม่ดี ทุกคนต้องช่วยกัน เมื่อบอกว่าไม่ดี ไม่อยากให้นักการเมืองโกงกิน ก็กำหนดมา อยากได้นักการเมืองรุ่นใหม่ หากติกาการเข้าสู่ที่เป็นธรรมมา แต่ถ้าไปวางรูปแบบอยากจะเข้าสู่อำนาจเหมือนสมัยพรรคสามัคคีธรรม วันไหนหมดอำนาจจะรู้สึก ก็จะเป็นเหมือน พล.อ.สุจินดา แต่ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะจบสวยที่สุดก็ได้ แค่วางให้ประเทศแล้วไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว"
ถามว่า เท่าที่สัมผัสชาวบ้านและคนเสื้อแดง เขามีรู้สึกยังไงกับรัฐบาลและแกนนำ นปช. นายคารมกล่าวว่า คนส่วนใหญ่ เวลาไปต่างจังหวัด ยังมองเศรษฐกิจเป็นเรื่องหลัก ถ้าเอาอยู่ก็อยู่สบาย แม้จะเลือกตั้งช้า ก็เป็นการอมโรคไป ไม่ก่อปะทุ ทหารเข้ามา แรกๆ คนอาจช็อก ส่วนหลังเริ่มชิน แล้วก็มาของจริง ตอนนี้เป็นแบบนี้ ทหารอยู่ก็ไม่เป็นอะไร ก็มีเพื่อน แต่เรื่องเศรษฐกิจที่มีปัญหา การมาลงทุนน้อย บริโภคในประเทศลดลง ท่องเที่ยวเวลามีกฎอัยการศึก นักท่องเที่ยวหายหมด ไม่รู้ว่านายสมคิด รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะทำได้ขนาดไหน ก็อยากให้ทำได้ เพราะบ้านเมืองดี ตนดีด้วย
ส่วนแกนนำ นปช. เขาบอกว่าไม่อยากพูด แต่บอกได้เลยว่าเขาก็เอาตัวไม่รอด เพราะคดีก็อ่วมแล้ว ถ้าถามว่าคนยังเฮกับแกนนำ นปช.หรือไม่ ก็ไม่แล้ว เป็นอดีตคนเคยรักกัน ถ้าเป็นแฟนก็คงเหมือนคนเคยรักกัน ความรู้สึกดีๆ ก็จำไว้ แต่คงไม่กลับมาหาอีกแล้ว เพราะเป็นอดีตคนเคยรักกัน อันนี้เป็นในส่วนของแกนนำ หลายคนก็พูดถึงแกนนำไม่ดี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเวลารบมันแพ้ ก็มีปัญหา เหมือนสงคราม หัวหน้าพารบแพ้ก็ตำหนิหัวหน้า แต่จริงๆ มีปัจจัยหลายอย่าง ว่าเป็นตำนานไปแล้ว นปช.ไม่ใช่ภัยมั่นคง นปช.บางคนกลัวถึงขั้นไม่ใส่เสื้อแดงก็มี แต่ตนยังเหมือนเดิม เป็นทนายช่วยคน ไม่ได้แสดงบทบาทอะไรที่เป็นอุปสรรค ไม่ได้จะมาทำให้เป็นอุปสรรค.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD
...อดีตที่หวาน ให้มันผ่านลอย ลับไป จวบถึงวันใหม่ มิมีเสียใจหมองหม่น
วันนี้เราสิ้นสุดกัน ถ้านับจากวันเริ่มต้น แค่เพียงผ่านพ้นไม่กี่ราตรี...........
เสื้อแดง ไม่เหมือน พธม. หรือ กปปส. เสื้อแดงเป็นการรวมกันเฉพาะกิจ ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
ส่วน พธม. กปปส. มีเป้าที่แจ่มชัด คือ การปฏิรูปบ้านเมืองไทยให้ดีขึ้นและดีขึ้น ไทยเข้มแข็ง ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง
"ชำแหละนปช.เหลือแต่ชื่อ" ไม่ได้เสี้ยมนะ แต่นี่มันเรื่องจริง (โจ ขิง)
Thursday, October 15, 2015 - 00:04
“ทนายเสื้อแดง” ชำแหละพวกเดียวกัน ยัน นปช.เหลือแต่ชื่อ ไม่เป็นภัยความมั่นคง เพราะไม่มีโอกาสรวมตัวอีกแล้ว ชาวบ้านรับแกนนำไม่ได้ เหตุ อุดมการณ์ไม่ชัด แค่คนเคยรักกัน แนะ "ประยุทธ์" เอาเสื้อแดงเป็นพวก นิรโทษฯ ให้ชาวบ้าน ทำเศรษฐกิจให้ดี จบ!
นายคารม พลพรกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ "ไทยโพสต์" ถึงแนวทางการต่อสู้คดีของคนเสื้อแดงที่ยังค้างคาในชั้นศาลว่า ไม่ว่าจะเป็นคดีเสื้อแดงหรือคนเสื้อเหลือง ศาลต้องให้โอกาสทุกฝ่ายต่อสู้อย่างเต็มที่ มีมาตรฐานเดียวกัน ขณะนี้นายกฯ มีอำนาจทั้งสถานะทางบริหารและหัวหน้า คสช. ชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุมไม่ว่าข้อหาใดข้อหาหนึ่ง เช่น ข้อหามั่วสุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืน พ.ร.บ.มั่นคง มีวัตถุระเบิดแต่ไม่ใช่ในฐานะผู้ครอบครอง ดคีอื่นๆ ที่ไม่ใช่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุมต้องนิรโทษกรรมให้เขา แต่แกนนำไม่ว่าจะเป็นนายวีระกานต์และคณะ นายสุเทพและคณะ ก็ไปสู้กันในชั้นศาล
“เสื้อแดงวันนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องแยกกัน อันนี้อยากพูด นปช.คงเหลือแต่ชื่อ หมายความว่าจะมารวมกลุ่มแบบเดิม น่าจะเกิดขึ้นยาก แต่คำว่า นปช.ลบไม่ได้ ก็ยังติดเหมือนเดิม เพียงแต่จะเป็นตำนานไปแล้ว การเกิดมวลชนรูปแบบนี้น่าจะไม่มี"
เมื่อถามว่า ด้วยเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่เหมือนเดิม นายคารมกล่าวว่า 1.บางอย่างแกนนำพยายามทำแล้วทำไม่ได้ วิธีคิดที่รวมคนจำนวนมาก ไม่มีอะไร พอมีจำนวนมาก คนจะบอกไม่มีอาวุธจะชนะได้อย่างไร ซึ่งจริงๆ มีไม่ได้ เพราะขัดกับกฎหมาย แต่มีคนใส่ความให้มีชายชุดดำ ทำให้ นปช.แตก โดยยุทธวิธีสู้ไม่ได้ นปช.มีคนมากเหมือนการรวมตัวเมื่อ 12 มี.ค.53 ที่คนมาจากทั่วประเทศ เมื่อก่อนกฎหมายไม่มี วันนี้มีพ.ร.บ.ชุมนุม เมื่อรวมกันมาก ถูกดำเนินคดี ใครช่วย ช่วยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถูกขัง บางคนพูดไม่เป็น ไปผิดมาตราสำคัญยิ่งหนักเลย ยิ่งมีอาวุธ ยิ่งผิดอีก อาวุธ เกิดจากคนอื่นมาไว้ให้หรือไม่ ก็ผิดอีก
“มี พ.ร.บ.ชุมนุม สภาพของ นปช.คงกลับยาก โดยหลายปัจจัยทำให้กลับยาก ที่ไหนก็แล้วแต่เกิดไม่ได้” นายคารมกล่าว
ถามอีกว่า ชาวบ้านรู้แล้วว่าจุดหมายปลายทางในแง่อุดมการณ์ รวมทั้งผู้นำตอบโจทย์ไม่ชัด นายคารมกล่าวว่า ถูกต้อง เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อรวมเยอะสุดไปแล้วจะได้อย่างที่เขาต้องการหรือไม่ จะได้ประชาธิปไตยหรือไม่ แต่กลายเป็นได้ทหารออกมา สุดท้ายก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ไม่ใช่เจอบ้านหลังสวยๆ ไปเจอหุบเหว ตกเหว บอกจะไล่อำมาตย์ สุดท้ายทหารออกมาเลย ถามว่าแกนนำรู้ตัวหรือไม่ คิดว่าแกนนำก็งง เข้าใจว่าทำอย่างนี้จะได้เหมือน 10 เม.ย.53 คนตายหนึ่งคน รัฐบาลก็ไม่ลาออก ทฤษฎีเก่าใช้ไม่ได้ ยุคนี้จะเข้าป่าหรือ ป่าที่ไหนมี ไม่เหมือนกับยุค 2516 วันนี้ต้องมองไปข้างหน้า วันนี้ถ้านายกฯ มองไปข้างหน้าต้องนิรโทษกรรม นายกฯ เข้ามา มีไม่กี่เรื่อง เพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน อยากให้ปรองดอง ปูพื้นให้ประเทศ อยากได้นักการเมืองที่ดี เมื่ออยากได้แบบนี้ก็ต้องวางรูปใหม่
"ยุคนี้เป็นยุคของแป๊ะ ก็ว่ามาแล้วกัน แต่นานๆแล้วไม่แก้ คนที่คิดเห็นเยอะๆ จิตวิทยามวลชนของม็อบถ้าเกิดขึ้น คุมยาก ในช่วงที่ทหารคุมอยู่ เบ็ดเสร็จ นปช.ไม่เป็นภัย เป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ใช่เรื่องอำนาจเบ็ดเสร็จ อยู่ที่จิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ เห็นสิ่งไม่ดี ทุกคนต้องช่วยกัน เมื่อบอกว่าไม่ดี ไม่อยากให้นักการเมืองโกงกิน ก็กำหนดมา อยากได้นักการเมืองรุ่นใหม่ หากติกาการเข้าสู่ที่เป็นธรรมมา แต่ถ้าไปวางรูปแบบอยากจะเข้าสู่อำนาจเหมือนสมัยพรรคสามัคคีธรรม วันไหนหมดอำนาจจะรู้สึก ก็จะเป็นเหมือน พล.อ.สุจินดา แต่ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะจบสวยที่สุดก็ได้ แค่วางให้ประเทศแล้วไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว"
ถามว่า เท่าที่สัมผัสชาวบ้านและคนเสื้อแดง เขามีรู้สึกยังไงกับรัฐบาลและแกนนำ นปช. นายคารมกล่าวว่า คนส่วนใหญ่ เวลาไปต่างจังหวัด ยังมองเศรษฐกิจเป็นเรื่องหลัก ถ้าเอาอยู่ก็อยู่สบาย แม้จะเลือกตั้งช้า ก็เป็นการอมโรคไป ไม่ก่อปะทุ ทหารเข้ามา แรกๆ คนอาจช็อก ส่วนหลังเริ่มชิน แล้วก็มาของจริง ตอนนี้เป็นแบบนี้ ทหารอยู่ก็ไม่เป็นอะไร ก็มีเพื่อน แต่เรื่องเศรษฐกิจที่มีปัญหา การมาลงทุนน้อย บริโภคในประเทศลดลง ท่องเที่ยวเวลามีกฎอัยการศึก นักท่องเที่ยวหายหมด ไม่รู้ว่านายสมคิด รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะทำได้ขนาดไหน ก็อยากให้ทำได้ เพราะบ้านเมืองดี ตนดีด้วย
ส่วนแกนนำ นปช. เขาบอกว่าไม่อยากพูด แต่บอกได้เลยว่าเขาก็เอาตัวไม่รอด เพราะคดีก็อ่วมแล้ว ถ้าถามว่าคนยังเฮกับแกนนำ นปช.หรือไม่ ก็ไม่แล้ว เป็นอดีตคนเคยรักกัน ถ้าเป็นแฟนก็คงเหมือนคนเคยรักกัน ความรู้สึกดีๆ ก็จำไว้ แต่คงไม่กลับมาหาอีกแล้ว เพราะเป็นอดีตคนเคยรักกัน อันนี้เป็นในส่วนของแกนนำ หลายคนก็พูดถึงแกนนำไม่ดี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเวลารบมันแพ้ ก็มีปัญหา เหมือนสงคราม หัวหน้าพารบแพ้ก็ตำหนิหัวหน้า แต่จริงๆ มีปัจจัยหลายอย่าง ว่าเป็นตำนานไปแล้ว นปช.ไม่ใช่ภัยมั่นคง นปช.บางคนกลัวถึงขั้นไม่ใส่เสื้อแดงก็มี แต่ตนยังเหมือนเดิม เป็นทนายช่วยคน ไม่ได้แสดงบทบาทอะไรที่เป็นอุปสรรค ไม่ได้จะมาทำให้เป็นอุปสรรค.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
...อดีตที่หวาน ให้มันผ่านลอย ลับไป จวบถึงวันใหม่ มิมีเสียใจหมองหม่น
วันนี้เราสิ้นสุดกัน ถ้านับจากวันเริ่มต้น แค่เพียงผ่านพ้นไม่กี่ราตรี...........
เสื้อแดง ไม่เหมือน พธม. หรือ กปปส. เสื้อแดงเป็นการรวมกันเฉพาะกิจ ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
ส่วน พธม. กปปส. มีเป้าที่แจ่มชัด คือ การปฏิรูปบ้านเมืองไทยให้ดีขึ้นและดีขึ้น ไทยเข้มแข็ง ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง