อะไหล่ไม่ได้มาตรฐาน แพะตัวใหม่มาอีกแล้ว

สืบเนื่องจากวลีเด็ดก่อนหน้า "รถดีแต่ศูนย์ห่วย" เป็นการโยนบาปให้คนไทยตั้งแต่เจ้าของศูนย์ ช่าง ไปจนถึงยามหน้าโชว์รูม ประหนึ่งว่ารถยนต์ถูกผลิตมาจากศูนย์บริการ ทั้งที่จริงๆ คนออกแบบมันก็ไม่ใช่คนไทยเลย พอเสียดันมาโทษว่าคนซ่อมซ่อมไม่เป็น ทั้งๆที่คนซ่อมมันก็ซ่อมตามที่ตัวเองออกแบบนั่นแหละ ไม่เคยโทษตัวเองเลย แต่เอาเถอะวลีเด็ดดังกล่าว เริ่มมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้นแล้วในปัจจุบัน ใครกล่าววลีเด็ดนี้ขึ้นมา ก็ไม่ค่อยจะมีใครเชื่อใครฟังละ

ช่วงหลังๆ เริ่มได้ยินวลีเด็ดใหม่มาอีกแล้ว "อะไหล่ไม่ได้มาตรฐาน" เหมือนเดิม โยนบาปไปให้ซัพพลายเออ ผู้ผลิตอะไหล่ชิ้นนั้นๆ รับผิดชอบไปว่าผลิตไม่ได้เรื่อง ไม่ได้โทษการออกแบบของตัวเองอีกแล้ว แต่วลีนี้มันก็พอมีเหตุผลที่ดีกว่าวลีรถดีศูนย์ห่วย อยู่พอประมาณ กล่าวคือ คงต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป คงเหมารวมไม่ได้ เช่น ถ้าพัดลมหน้าหม้อน้ำไม่หมุนทั้งๆที่ใช้ไปหมื่นโล แบบนี้ เราคงใช้คำว่า อะไหล่ไม่ได้มาตรฐาน ได้อย่างเต็มที่ เพราะเรื่องจริงมันเป็นอย่างนั้น ปฏิเสธไม่ได้  แต่ในบางกรณี  เช่น ใช้รถไปสัก 5 หมื่นโล หม้อน้ำรั่ว อันนี้มันก้ำกึ่ง เพราะบางที่ก็อะไหล่ไม่ดี บางทีคนออกแบบนั่นแหละผิด ออกแบบการปะทะของน้ำร้อนกับหม้อน้ำสูง การไหลในหม้อน้ำกระแทกปั่นป่วน น้ำร้อนมาก แบบนี้ คนออกแบบผิดไม่เก่ง แต่กลับโทษอะไหล่ไม่ดี อะไหล่ดีก็พังครับ  ตัวอย่างสากล เช่น เกียร์พัง หลายคนบอก อะไหล่ห่วย กล่าวคือ ด่าบริษัทผลิตเกียร์ไม่ได้มาตรฐานเป็นแพะ แล้วมีคนแย้ง อ้าว แล้วทำไมเกียร์รุ่นเดียวกัน ไปใส่รถอีกยี่ห้อนึง มันไม่เจ๊งล่ะครับ ก็อึกอักตอบไม่ได้ นั่นเป็นเพราะการออกแบบรถยี่ห้อที่มีปัญหา ออกแบบไม่ดี โหลดเยอะ กระชาก เครื่องร้อนมาก หล่อเย็นน้ำมันไม่ดี นั่นคือสาเหตุที่แท้จริง ไม่ใช่อะไหล่ไม่ได้มาตรฐาน นานมาแล้ว เคยอ่านเทอร์โบยี่ห้อหนึ่ง ใส่รถหลายยี่ห้อไม่เป็นไร พออยู่ในรถยี่ห้อหนึ่ง พังกระจายพังบ่อย ดันมีคนหาว่าผลิตไม่ได้มาตรฐานอีก

ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไปนะครับ ถ้าเหมารวม คนออกแบบรอดตัว โยนบาปให้คนอื่นอีกแล้ว