กระทู้ ต้นเรื่อง Part 1
http://pantip.com/topic/34123969
Day 1-3 Kawaguchiko Part 2
http://pantip.com/topic/34149466
Day 4
ตื่นมาแต่เช้า เป้าหมายเราคือ ซูชิ!! พระราชวังโบราณ รปปงหงิ เทศกาลดงโอโบริ
เดินเล่นกินซ่า ก่อนเรียกน้ำย่อย เพราะกินซ่า ใกล้กับ ตลาดปลาสึคิจิมาก
ห้าง คาบูกิ มีโรงละคร ราคาไม่แน่ใจ เห็นคนต่อเข้าคิวเล็กน้อย
ตึกSony จุดนัดพบยอดนิยม ของย่านกินซ่า
ผมไม่แน่ใจนี่ตึกอะไรแต่มีคนต่อคิว วนรอบห้างได้พอดี (เป็นระเบียบมาก)
บริเวณนี้มีร้านขายของแบรนด์เนมเยอะ(ซึ่งไม่ได้เหลียวมองเลย เห็นบอกมีร้านหลุยมือสองด้วย)

เดินจนเหนื่อย ก็เดินลัดเลาะจาก สถานีกลับมาที่ส่วนของตลาดปลา แวะเข้าไปไหว้ อะไรสักอย่างก่อนด้วย (ใครรู้เพิ่มเติมให้ด้วยครับ ผมไม่ได้คิดจะไป ตอนแรกนึกว่าตลาดปลา เข้าไปเป็นโบส เฉย

ถึงตลาดปลาแล้วครับ มีปลาดิบ และคนยืน ซื้อของกันเป็นจำนวนมาก มีร้าน Sushi เต็มไปหมด แนะนำว่า ร้านไหนคนเยอะก็ลองร้านนั้น แต่เดินให้ทั่วก่อน

เปาฮื้อเต็มไปหมด
ส่วนผมกลัวพลาด เลยเข้า Sushi zanmai ยอดนิยม ของชาวต่างชาติ (อาจเพราะเมนู เปนภาษาอังกฤษ) ราคาก็กลางๆ ในตลาด 1000-3000 เยน

มาทั้งทีก็ต้องจัดครับ เอาแพงที่สุดนี่ละ
เลยเลือกกับอาคนละชุด แล้วมาตัดแบ่งครึ่งกัน (ผมสั่งชุดทูน่า โอโทโร่ อาสั่งชุดซูชิ 10 อย่าง กุ้งเอบิ ไข่หอยเม่น ปลาไหลทะเล
ชุดโอโทโร่
ชุด รวมปลาดิบ
อ่อมีน้ำซุปมิโซะ ให้ซดคล่องคอด้วยนะ

เอามาแบ่งกัน ชุดของผมแบ่งง่าย มีมาอย่างละ 2 ชิ้น ก็กินคนละชิ้น

แต่ชุดของอาผม ... มาอย่างละชิ้น 555 ตอนแรกก็พยายามเอาตะเกียบเขี่ย มันก็ขาดยาก เละไปเละมา
หลังๆ อาเอามือฉีก 5555
และหลังสุดๆ คนญี่ปุ่นที่นั่งกินข้างๆ สงสารปนหัวเราะ เรียกเชฟ แล้วพูดว่าตัดแบ่งครึ่งให้หน่อย (ตอนแรกผมไม่กล้ากลัวหาว่าเสียมารยาท)
แต่เชฟก็อารมดี หัวเราะ แล้วตัดให้ 555
ออกมาแบบนี้ครับ 55
สรุป อร่อยทุกอย่าง สดจนน่าตกใจ ราคาที่น่ี ก็เหมือนอาหารธรรมดา ทั่วไปไม่ได้แพงเวอร์เหมือนกินที่ไทย
โอโทโร ตกชิ้นละ 400 เยน หรือ 120 บาท บ้านเราน่าจะสัก 300
สด...ละลาย.... หอม ผมชอบอันที่เบิร์นไฟนิดๆนะ ฉ่ำออกมาเลย
ไข่หอยเม่นแบบตัดครึ่ง 55 ผมเคยกินที่ไทยร้านดัง (ไม่เอ่ยชื่อ) กินแล้วมันคาว แต่ที่นี่ไม่เลยนะ หวานนุ่มละมุนลิ้น

เดินเล่นรอบตลาดสักนิด อาบอกอยากลองปูอลาสก้า กินตรงนี้เลย จะได้ไม่ต้องไปหาบุฟเฟ่ต่อ จัดไปครับ ผมว่าอร่อยนะ แต่มันเย็นไปหน่อย
ซื้อแล้วแกะกินเลย
ปลาไหลย่าง(ไม้200 เยน) อาหารทะเล ไข่หวาน ปลาดิบต่างๆ ตรงนี้ผมลอง ice-cream รสเต้าหู้ อร่อยมากกกกก เมืองไทยไม่มีขายเสียดาย
หลังจากอิ่มแล้ว เราก็ตัดสินใจกัน ว่าระหว่างไปโอไดบะ (ย่านห้าง ย่านเมืองใหม่ และมีกันดั้มยัก เป็นจุดสนใจ!!)
คุยๆกัน ไม่ได้อยากซื้อของ นั่งรถไฟก็ไกล มีดีแค่กันดั้ม....... เลยตัดสินใจ ย้ายไป พระราชวัง อิมพีเรียล
(แต่อ่านไปอ่านมา พระราชวัง เข้าได้แค่ 2 วัน แต่ก็ยังจะไป สวนข้างๆวังแทน และถ่ายรูปกับสะพานแว่นตา นิจูบาชิ)
สะพานแว่นตา ยืนถ่ายไกลๆ นักท่องเที่ยวเยอะไม่อยากไปแย่ง + แสงย้อน ถ่ายไม่สวยผมเลยยืนดูพอ

รูปปั้น อะไรสักอย่างตรงสวนนั้น
ตอนนี้ผมแทบตายแล้วครับไม่อยากเดินแล้ว แต่อาผม เดินปร๋อ ข้อดีคือ จุดไหนอาสูบบุหรี่... จุดนั้นผม

นอนตายยยย
เดินยาวมาจนถึง สถานีโตเกียว สถานีรถไฟขนาดยัก เป็นศูนย์รวมของสถานีต่างๆ อีกทั้งภายในสถานี ก็มีที่เดินเล่น อย่างผม เดินไปกด กาชาปองมา
ตอนนี้อาการปวดขาผมเริ่มเกิดแล้ว งอแงไม่อยากเดิน คือเดินเยอะมาก สวนสาธารณะ นั่นก็เป็น 10 กิโล
อาผมก็ทวงถาม เย็นไปไหน? (ในใจผมคิดกลับไปนอนมั้ยยยยยย)
เมื่ออาไม่ยอมกลับ ผมเลยต้องไปตามตารางที่ตั้งไว้คือ “รปปงหงิ” แล้วก็โชคดีจริงๆ ไปตรงกับเทศกาล ดงโอโบริ ทำให้มีการจัดงานยิ่งใหญ่มากๆ
เมื่อถึงรปปงปงิ จุดแรกที่จะต้องถ่าย คือ แมงมุมยักหน้าห้างนี่ละครับ
มีการจัดงาน โดเรม่อนด้วย

มีจัดงานขายกันดั้มตัวล่าสุด (หมดตั้งแต่กลางวัน เจ้าหน้าที่บอก)
มีจัดงาน เหมือนในรายการทีวี แข่งทำน้ำแข็งใส!! ร้านไหนขายดีสุดชนะไป ผมก็ไปแจมด้วย (ราคาก็แพงพอควร 700-1300 เยน) น้ำแข็งใสถ้วย3-400 บาท แง่ม
พลาด.... กดมั่วๆ อยากได้รสมะม่วง ดันไปโดน...... ส้มยูซุ (ส้มที่มันขมๆเปรี้ยวๆละผมไม่กินเปรี้ยว เสียดายเงินมาก)

ของอาผม กันพลาด ดั้งเดิม 55
เสร็จแล้วก็เดินออกมา เจอเทศกาล ดงโอโบริแล้วครับ
ประวัติเทศกาลบงโอโดริ
จุดเริ่มต้นของการไปร่วมงานเทศกาลนี้ก็มาจากชั่วโมงเรียนญี่ปุ่น อาจารย์ก็เอาตั๋วฟรีมาแจก อ.บอกว่าเป็นงานรำวงของคนญี่ปุ่น ตอนแรกก็คิดจะไม่ไป แต่พออาจารย์บอกว่ามีสาวญี่ปุ่นเพียบเท่านั้นแหละ หางจิ้งจอกโผล่ออกมากี่หางก็ไม่รู้ รีบไปเอาตั๋วจากอาจารย์แทบไม่ทัน :fighterm:
บองโอโดริ(Bon Dori, 盆踊り หรือจะเรียกว่าบงโอโดริก็ได้) เป็นเทศกาลรำวงที่ระลึกถึงบรรพบุรุษที่จากไปแล้วซึ่งงานรำวงนี้จัดอยู่ในเทศกาลบอง ในญี่ปุ่นมีจัดทุกๆ หน้าร้อน
https://www.facebook.com/aroundmethailand/videos/vb.1640312909544533/1645419555700535/?type=3&theater
คือดูแล้วสนุกมากๆ ทุกคนจะมาเต้นร่วมกัน มีฝรั่งไปแจมด้วย ท่าเต้นไม่ยากมาก เต้นเป็นวงกลม
หลังจากนั้น อาอยากเห็น Tokyo Tower ซึ่งถามใครๆก็ไม่รู้จัก (เหมือนจะไม่ใช่ที่สำคัญของคนญี่ปุ่น 555)
แต่ก็ถามไปเรื่อยๆ จนเจอ จะเดินจากรปปงหงิไป(ไกลใช่เล่น ขาผมก็ปวดไปหมด )
แต่โชคดี ถนนข้างๆ จัดเทศกาลเช่นกัน อารมเหมือนในการ์ตูนเลย คือมีของกินตลอดทาง มีสาวๆใส่กิโมโน หน้ากากจิ้งจอก
ตรงนี้อาจัดเบียร์อีกยี่ห้อ
ส่วนผมจัด เนื้อวากิวย่าง (ไม้ 500 เยน) แพงพอดู แต่แตะแล้วละลายในปาก

กับอาหารเส้นๆไรสักอย่าง (เห็นคนกินเยอะ แต่ผมเฉยๆ ออกเผ็ดๆ กะเส้นยากิโซบะ)
เดินจนเจอโตเกียว tower อาถ่าย 1 แชะ แล้วกลับ (เอิ่ม คือ .. ขาผมมมมมม อยากดูแค่เนี้ยะะะะ)
ก็ลากสังขาลกลับที่พัก แวะซื้ออาหาร อาติดใจ ปลาดิบ เลยแวะร้านปลาดิบแถวหน้าโรงแรม เปิด 24 ชั่วโมง
สั่งข้าวหน้าปลาทูน่าอีก กะหอยโฮดาเตะ
และได้จัดปลาดุ๊กดิ๊ก
https://www.youtube.com/watch?v=IeCG3bC-yBI&feature=youtu.be
ขนลุก เพิ่งเคยกินเอง ตอนแรกผมก็สงใส โห สดมาก ตาใสปิ๊ง พอพงาบๆ เท่านั้น กรี๊ดตุ๊ดแตก 555
อร่อยสู้ ตลาดปลาไม่ได้ ผมเห็นคนอื่นกินย่างๆ นะ แต่อาบอกอยากกินปลาดิบ
มันเป็นร้านอิซึกายะด้วย
กลับมากินเบียร์ต่อที่พัก กับ 2 หนุ่ม บัส ไรท์เยีย กับ โงกุน? สีแดง Limited ช่วงหน้าใบไม้ผลิของญี่ปุ่น
เจอเพื่อนใหม่ ฝรั่ง นั่งเฮฮาโวยวายอยู่ ร้องเพลง badger song กันตลอด
https://www.youtube.com/watch?v=NL6CDFn2i3I
มันคือเพลงอัลไลลลลลลลลลล ปวดโสดประสาทมาก ฝรั่งพวกนี้อารมดี สักครู่เดินเอาเบียร์มาให้อีก
ดื่มจนพอ แล้วก็แยกย้ายอาบน้ำ ขาปวดมาก เพื่อเตรียมเดินหนักอีก 1 วัน
ฝากเพจ รวมเรื่องรอบๆตัวผม กระทู้อื่นๆ ผมสะสมไว้ในเพจครับ หรืออยากถามข้อมูลเพิ่มเติมในเพจก็ยินดีครับ
กิน เที่ยว backpack review
https://www.facebook.com/aroundmethailand?fref=ts
Day 4-7 เที่ยวญี่ปุ่น อยู่ถูกกินอย่างราชา Part 3 บุกโตเกียว japan sexy idol /ซูชิราชา/ปูอลาสก้า/เนื้อย่างวากิว
http://pantip.com/topic/34123969
Day 1-3 Kawaguchiko Part 2
http://pantip.com/topic/34149466
Day 4
ตื่นมาแต่เช้า เป้าหมายเราคือ ซูชิ!! พระราชวังโบราณ รปปงหงิ เทศกาลดงโอโบริ
เดินเล่นกินซ่า ก่อนเรียกน้ำย่อย เพราะกินซ่า ใกล้กับ ตลาดปลาสึคิจิมาก
ห้าง คาบูกิ มีโรงละคร ราคาไม่แน่ใจ เห็นคนต่อเข้าคิวเล็กน้อย
ตึกSony จุดนัดพบยอดนิยม ของย่านกินซ่า
ผมไม่แน่ใจนี่ตึกอะไรแต่มีคนต่อคิว วนรอบห้างได้พอดี (เป็นระเบียบมาก)
บริเวณนี้มีร้านขายของแบรนด์เนมเยอะ(ซึ่งไม่ได้เหลียวมองเลย เห็นบอกมีร้านหลุยมือสองด้วย)
เดินจนเหนื่อย ก็เดินลัดเลาะจาก สถานีกลับมาที่ส่วนของตลาดปลา แวะเข้าไปไหว้ อะไรสักอย่างก่อนด้วย (ใครรู้เพิ่มเติมให้ด้วยครับ ผมไม่ได้คิดจะไป ตอนแรกนึกว่าตลาดปลา เข้าไปเป็นโบส เฉย
ถึงตลาดปลาแล้วครับ มีปลาดิบ และคนยืน ซื้อของกันเป็นจำนวนมาก มีร้าน Sushi เต็มไปหมด แนะนำว่า ร้านไหนคนเยอะก็ลองร้านนั้น แต่เดินให้ทั่วก่อน
เปาฮื้อเต็มไปหมด
ส่วนผมกลัวพลาด เลยเข้า Sushi zanmai ยอดนิยม ของชาวต่างชาติ (อาจเพราะเมนู เปนภาษาอังกฤษ) ราคาก็กลางๆ ในตลาด 1000-3000 เยน
มาทั้งทีก็ต้องจัดครับ เอาแพงที่สุดนี่ละ
เลยเลือกกับอาคนละชุด แล้วมาตัดแบ่งครึ่งกัน (ผมสั่งชุดทูน่า โอโทโร่ อาสั่งชุดซูชิ 10 อย่าง กุ้งเอบิ ไข่หอยเม่น ปลาไหลทะเล
ชุดโอโทโร่
ชุด รวมปลาดิบ
อ่อมีน้ำซุปมิโซะ ให้ซดคล่องคอด้วยนะ
เอามาแบ่งกัน ชุดของผมแบ่งง่าย มีมาอย่างละ 2 ชิ้น ก็กินคนละชิ้น
แต่ชุดของอาผม ... มาอย่างละชิ้น 555 ตอนแรกก็พยายามเอาตะเกียบเขี่ย มันก็ขาดยาก เละไปเละมา
หลังๆ อาเอามือฉีก 5555
และหลังสุดๆ คนญี่ปุ่นที่นั่งกินข้างๆ สงสารปนหัวเราะ เรียกเชฟ แล้วพูดว่าตัดแบ่งครึ่งให้หน่อย (ตอนแรกผมไม่กล้ากลัวหาว่าเสียมารยาท)
แต่เชฟก็อารมดี หัวเราะ แล้วตัดให้ 555
ออกมาแบบนี้ครับ 55
สรุป อร่อยทุกอย่าง สดจนน่าตกใจ ราคาที่น่ี ก็เหมือนอาหารธรรมดา ทั่วไปไม่ได้แพงเวอร์เหมือนกินที่ไทย
โอโทโร ตกชิ้นละ 400 เยน หรือ 120 บาท บ้านเราน่าจะสัก 300
สด...ละลาย.... หอม ผมชอบอันที่เบิร์นไฟนิดๆนะ ฉ่ำออกมาเลย
ไข่หอยเม่นแบบตัดครึ่ง 55 ผมเคยกินที่ไทยร้านดัง (ไม่เอ่ยชื่อ) กินแล้วมันคาว แต่ที่นี่ไม่เลยนะ หวานนุ่มละมุนลิ้น
เดินเล่นรอบตลาดสักนิด อาบอกอยากลองปูอลาสก้า กินตรงนี้เลย จะได้ไม่ต้องไปหาบุฟเฟ่ต่อ จัดไปครับ ผมว่าอร่อยนะ แต่มันเย็นไปหน่อย
ซื้อแล้วแกะกินเลย
ปลาไหลย่าง(ไม้200 เยน) อาหารทะเล ไข่หวาน ปลาดิบต่างๆ ตรงนี้ผมลอง ice-cream รสเต้าหู้ อร่อยมากกกกก เมืองไทยไม่มีขายเสียดาย
หลังจากอิ่มแล้ว เราก็ตัดสินใจกัน ว่าระหว่างไปโอไดบะ (ย่านห้าง ย่านเมืองใหม่ และมีกันดั้มยัก เป็นจุดสนใจ!!)
คุยๆกัน ไม่ได้อยากซื้อของ นั่งรถไฟก็ไกล มีดีแค่กันดั้ม....... เลยตัดสินใจ ย้ายไป พระราชวัง อิมพีเรียล
(แต่อ่านไปอ่านมา พระราชวัง เข้าได้แค่ 2 วัน แต่ก็ยังจะไป สวนข้างๆวังแทน และถ่ายรูปกับสะพานแว่นตา นิจูบาชิ)
สะพานแว่นตา ยืนถ่ายไกลๆ นักท่องเที่ยวเยอะไม่อยากไปแย่ง + แสงย้อน ถ่ายไม่สวยผมเลยยืนดูพอ
รูปปั้น อะไรสักอย่างตรงสวนนั้น
ตอนนี้ผมแทบตายแล้วครับไม่อยากเดินแล้ว แต่อาผม เดินปร๋อ ข้อดีคือ จุดไหนอาสูบบุหรี่... จุดนั้นผม
นอนตายยยย
เดินยาวมาจนถึง สถานีโตเกียว สถานีรถไฟขนาดยัก เป็นศูนย์รวมของสถานีต่างๆ อีกทั้งภายในสถานี ก็มีที่เดินเล่น อย่างผม เดินไปกด กาชาปองมา
ตอนนี้อาการปวดขาผมเริ่มเกิดแล้ว งอแงไม่อยากเดิน คือเดินเยอะมาก สวนสาธารณะ นั่นก็เป็น 10 กิโล
อาผมก็ทวงถาม เย็นไปไหน? (ในใจผมคิดกลับไปนอนมั้ยยยยยย)
เมื่ออาไม่ยอมกลับ ผมเลยต้องไปตามตารางที่ตั้งไว้คือ “รปปงหงิ” แล้วก็โชคดีจริงๆ ไปตรงกับเทศกาล ดงโอโบริ ทำให้มีการจัดงานยิ่งใหญ่มากๆ
เมื่อถึงรปปงปงิ จุดแรกที่จะต้องถ่าย คือ แมงมุมยักหน้าห้างนี่ละครับ
มีการจัดงาน โดเรม่อนด้วย
มีจัดงานขายกันดั้มตัวล่าสุด (หมดตั้งแต่กลางวัน เจ้าหน้าที่บอก)
มีจัดงาน เหมือนในรายการทีวี แข่งทำน้ำแข็งใส!! ร้านไหนขายดีสุดชนะไป ผมก็ไปแจมด้วย (ราคาก็แพงพอควร 700-1300 เยน) น้ำแข็งใสถ้วย3-400 บาท แง่ม
พลาด.... กดมั่วๆ อยากได้รสมะม่วง ดันไปโดน...... ส้มยูซุ (ส้มที่มันขมๆเปรี้ยวๆละผมไม่กินเปรี้ยว เสียดายเงินมาก)
ของอาผม กันพลาด ดั้งเดิม 55
เสร็จแล้วก็เดินออกมา เจอเทศกาล ดงโอโบริแล้วครับ
ประวัติเทศกาลบงโอโดริ
จุดเริ่มต้นของการไปร่วมงานเทศกาลนี้ก็มาจากชั่วโมงเรียนญี่ปุ่น อาจารย์ก็เอาตั๋วฟรีมาแจก อ.บอกว่าเป็นงานรำวงของคนญี่ปุ่น ตอนแรกก็คิดจะไม่ไป แต่พออาจารย์บอกว่ามีสาวญี่ปุ่นเพียบเท่านั้นแหละ หางจิ้งจอกโผล่ออกมากี่หางก็ไม่รู้ รีบไปเอาตั๋วจากอาจารย์แทบไม่ทัน :fighterm:
บองโอโดริ(Bon Dori, 盆踊り หรือจะเรียกว่าบงโอโดริก็ได้) เป็นเทศกาลรำวงที่ระลึกถึงบรรพบุรุษที่จากไปแล้วซึ่งงานรำวงนี้จัดอยู่ในเทศกาลบอง ในญี่ปุ่นมีจัดทุกๆ หน้าร้อน
https://www.facebook.com/aroundmethailand/videos/vb.1640312909544533/1645419555700535/?type=3&theater
คือดูแล้วสนุกมากๆ ทุกคนจะมาเต้นร่วมกัน มีฝรั่งไปแจมด้วย ท่าเต้นไม่ยากมาก เต้นเป็นวงกลม
หลังจากนั้น อาอยากเห็น Tokyo Tower ซึ่งถามใครๆก็ไม่รู้จัก (เหมือนจะไม่ใช่ที่สำคัญของคนญี่ปุ่น 555)
แต่ก็ถามไปเรื่อยๆ จนเจอ จะเดินจากรปปงหงิไป(ไกลใช่เล่น ขาผมก็ปวดไปหมด )
แต่โชคดี ถนนข้างๆ จัดเทศกาลเช่นกัน อารมเหมือนในการ์ตูนเลย คือมีของกินตลอดทาง มีสาวๆใส่กิโมโน หน้ากากจิ้งจอก
ตรงนี้อาจัดเบียร์อีกยี่ห้อ
ส่วนผมจัด เนื้อวากิวย่าง (ไม้ 500 เยน) แพงพอดู แต่แตะแล้วละลายในปาก
กับอาหารเส้นๆไรสักอย่าง (เห็นคนกินเยอะ แต่ผมเฉยๆ ออกเผ็ดๆ กะเส้นยากิโซบะ)
เดินจนเจอโตเกียว tower อาถ่าย 1 แชะ แล้วกลับ (เอิ่ม คือ .. ขาผมมมมมม อยากดูแค่เนี้ยะะะะ)
ก็ลากสังขาลกลับที่พัก แวะซื้ออาหาร อาติดใจ ปลาดิบ เลยแวะร้านปลาดิบแถวหน้าโรงแรม เปิด 24 ชั่วโมง
สั่งข้าวหน้าปลาทูน่าอีก กะหอยโฮดาเตะ
และได้จัดปลาดุ๊กดิ๊ก
https://www.youtube.com/watch?v=IeCG3bC-yBI&feature=youtu.be
ขนลุก เพิ่งเคยกินเอง ตอนแรกผมก็สงใส โห สดมาก ตาใสปิ๊ง พอพงาบๆ เท่านั้น กรี๊ดตุ๊ดแตก 555
อร่อยสู้ ตลาดปลาไม่ได้ ผมเห็นคนอื่นกินย่างๆ นะ แต่อาบอกอยากกินปลาดิบ
มันเป็นร้านอิซึกายะด้วย
กลับมากินเบียร์ต่อที่พัก กับ 2 หนุ่ม บัส ไรท์เยีย กับ โงกุน? สีแดง Limited ช่วงหน้าใบไม้ผลิของญี่ปุ่น
เจอเพื่อนใหม่ ฝรั่ง นั่งเฮฮาโวยวายอยู่ ร้องเพลง badger song กันตลอด
https://www.youtube.com/watch?v=NL6CDFn2i3I
มันคือเพลงอัลไลลลลลลลลลล ปวดโสดประสาทมาก ฝรั่งพวกนี้อารมดี สักครู่เดินเอาเบียร์มาให้อีก
ดื่มจนพอ แล้วก็แยกย้ายอาบน้ำ ขาปวดมาก เพื่อเตรียมเดินหนักอีก 1 วัน
ฝากเพจ รวมเรื่องรอบๆตัวผม กระทู้อื่นๆ ผมสะสมไว้ในเพจครับ หรืออยากถามข้อมูลเพิ่มเติมในเพจก็ยินดีครับ
กิน เที่ยว backpack review
https://www.facebook.com/aroundmethailand?fref=ts