ย้อนไปวันวานวันที่ไทยลีกยังไม่อยู่ในกระแส ยังไม่ได้รับความนิยม มีทีมสโมสรราชประชาซึ่งเป็นทีมระดับD2ได้สร้างนักเตะดาวรุ่งในตำแหน่งแบ๊คซ้ายขึ้นมาคนหนึ่ง เด็กคนนั้นคืออุ้ม ธีราทร บุญมาทัน และเด็กคนนี้โดดเด่นฉายแววความเป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถจนทีมระดับไทยลีกอย่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทีมแชมป์ไทยลีกปี2551 ได้ตัดสินใจยืมตัวอุ้มมาเล่น1ฤดูกาล นี้คือจุดเริ่มต้นของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่ได้มาลงเล่นในสังเวียนที่สูงที่สุดของทีมสโมสรในประเทศไทย และเขาก็ตอบแทนความไว้วางใจของสโมสรด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม
แต่ทว่าก่อนที่เขาจะหมดสัญญายืมตัวกับการไฟฟ้า ก็มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสร เมื่อนักการเมืองชื่อดังอย่าง เนวิน ชิดชอบ ได้ตัดสินใจซื้อกิจการสโมสรการไฟฟ้ามาจัดการบริหารด้วยตัวเองและเปลี่ยนชื่อจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็น บุรีรัมย์ PEA พร้อมย้ายทุกสิ่งทุกอย่างจากอยุธยามาตั้งหลักปักฐาน ณ จังหวัดบุรีรัมย์ ในความเปลี่ยนแปลงนักเตะเก่าการไฟฟ้าหลายคนต้องเดินออกไปจากสโมสร แต่มีคนหนึ่งที่ นายหัวเนวินยังเชื่อใจและคิดว่าจะนักเตะที่สามารถสร้างความสำเร็จให้กับบุรีรัมย์ได้ นั้นก็คือธีราธร บุญมาทัน
จากเขากระโดง สเตเดี้ยม สู่ ไอโมบาย สเตเดี้ยม ธีรธรคือนักเตะที่ยืนหยัดอยู่ได้ไม่ว่าบุรีรัมย์จะมีการเปลี่ยนแปลงแค่ไหนก็ตาม และอุ้มก็ตอบแทนความไว้ใจของสโมสรด้วยการมีส่วนทำให้บุรีรัมย์กวาดแชมป์มามากหมายหลายรายการ แต่ก่อนหน้านั้นอุ้มก็คือวัยรุ่นใจร้อนคนหนึ่งด้วยความเป็นวัยรุ่นยังเป็นวัยที่มีไฟในการเตะฟุตบอล พฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กหนุ่มคนนี้มักจะใจร้อนอยู่ในสนาม เล่นฟุตบอลชอบมีอะไรแถม เล่นรุนแรง จนทำให้เกิดความอคติและความไม่พอใจต่อนักเตะคนนี้เป็นอย่างมาก ถ้าหากใครเคยดูบอลไทยลีกและมีบุรีรัมย์มาเยือน อุ้มจะเป็นเป้าของแฟนบอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำว่าคำด่าไม่ว่าจะ HER อุ้ม SAS อุ้มประเดประดังเข้ามาตลอดเวลาที่ชายคนนี้ได้บอล จนเกิดข้อสงสัยอยู่เสมอว่า เขาควรติดทีมชาติไทยหรือไม่!!
และวันนั้นก็มาถึงวันที่ อุ้มได้ขึ้นมามีธงไตรรงค์ ติดอกข้างซ้าย แน่นอนนี้คือความฝันและจุดสูงสุดของการเป็นนักฟุตบอลของไทยทุกคนและอุ้มก็เดินขึ้นมาได้ถึงจุดนี้แล้ว แต่คำถามของแฟนบอลก็ยังไม่จางหายไป ความสงสัยในตัวอุ้มยังมีอยู่ในหัวใจคนไทย คนไทยไม่สงสัยเรื่องฝีเท้าของอุ้ม แต่สงสัยพฤติกรรมมากกว่า และข้อสงสัยนี้ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่เมื่อ บอลโลกรอบคัดเลือก ไทยบุกไปเยือนซาอุ อุ้มมีโอกาสลงสนามแต่ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไป ซึ่งแน่นอนเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นมาแล้วก็แล้วไป ต่อมาอุ้มรีบบินตรงจากซาอุมาอินโดเพื่อมาช่วยทีมชาติไทยอีกชุดซึ่งเป็นชุดซีเกมส์โดยที่เขาแทบไม่ได้พักเลยแม้แต่น้อยนี้คงเป็นสิ่งที่อุ้มเริ่มแสดงความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้อุ้มพัฒนาตัวเองไปสู่นักกีฬาที่ดีได้
เมื่อเท้าอุ้มเดินเข้าสู่สังเวียนเสนายันในนัดเจออินโดกับสักขีพยานนับแสนชีวิต อุ้มคงไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเจออะไรคนแสนคนทำอะไรเขาไม่ได้ ในหัวของเขาคงคิดเพียงอย่างเดียวคือต้องช่วยทีมชาติให้เข้ารอบให้ได้ จนมาสู่จุดหักเหของชีวิตนักบอลจุดที่อุ้มเคยบอกว่าเขาจะเลิกเล่นฟุตบอล เลิกเล่นให้กับทีมชาติ เหตุการณ์นั้นคงจำได้ดีเป็นจังหวะช่วงต้นเกมส์ อุ้มมีใบเหลืองติดตัวมาแล้วหนึ่งใบ และจังหวะนั้นอุ้มใช้มือปัดนักเตะอินโดเป็นจังหวะที่กรรมการทั้งโลกคงไม่มีทางให้ใบเหลืองยกเว้นกรรมการนัดนี้ ที่เดินเข้ามาด้วยความมั่นใจ ชูใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงให้กับอุ้ม เป็นการฟาร์วสองครั้งสองเหลืองของอุ้ม และเป็นใบแดงสองนัดติดของ อุ้มในนามทีมชาติเป็นฝันร้ายในการค้าแข้งของเขาอย่างแท้จริง
จากเหตุการณ์ร้ายๆที่อุ้มได้เจอมา เขาไม่เอามาใส่ใจแต่เขาเอามาเป็นบทเรียน เป็นบทเรียนที่แสนล้ำค่าของชีวิตเขา เป็นบทเรียนที่ทำให้เขาจะนำมาเป็นแนวทางที่จะพัฒนาทั้งฝีเท้าและเรื่องการวางตัว ถึงแม้อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยในการลบความคิดอคติต่อตัวอุ้ม แต่อุ้มใช้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขาคือคนๆใหม่คนที่แฟนบอลไทยทุกๆต่างยอมรับในตัวเขา คนที่เคยด่าเคยว่าอุ้ม กลายมาเป็นคำชื่นชมในตัวของเขา ผมอยากให้คนที่อ่านกระทู้นี้ คนที่เจอเรื่องร้ายๆ เจอเรื่องที่ทำให้ตัวเองตกต่ำที่สุดในชีวิต ให้เอา อุ้ม ธีราธรเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิต เป็นตัวอย่างของการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ไม่ย่อท้อต่อคำติฉินนินทา ไม่ย่อท้อต่อชะตาชีวิตของตัวเอง และลุกขึ้นมาสู้ใหม่ สู้ให้ผ่านพ้นสิ่งที่เลวร้ายและนำพาตัวเองไปสู่สิ่งใหม่ๆที่มีแต่สิ่งที่ดีๆที่จะรอเราในวันข้างหน้า ที่จะเป็นรางวัลตอบแทนให้กับคนที่อดทนต่ออุปสรรคต่อไป ขอบคุณ ธีราธร บุญมาทัน ผู้ชายที่เป็นแบบอย่างของการพัฒนาตนเอง ขอบคุณครับ
ความเจ็บปวดที่ทำให้เกิดคนๆใหม่กัปตัน อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน
แต่ทว่าก่อนที่เขาจะหมดสัญญายืมตัวกับการไฟฟ้า ก็มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสร เมื่อนักการเมืองชื่อดังอย่าง เนวิน ชิดชอบ ได้ตัดสินใจซื้อกิจการสโมสรการไฟฟ้ามาจัดการบริหารด้วยตัวเองและเปลี่ยนชื่อจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็น บุรีรัมย์ PEA พร้อมย้ายทุกสิ่งทุกอย่างจากอยุธยามาตั้งหลักปักฐาน ณ จังหวัดบุรีรัมย์ ในความเปลี่ยนแปลงนักเตะเก่าการไฟฟ้าหลายคนต้องเดินออกไปจากสโมสร แต่มีคนหนึ่งที่ นายหัวเนวินยังเชื่อใจและคิดว่าจะนักเตะที่สามารถสร้างความสำเร็จให้กับบุรีรัมย์ได้ นั้นก็คือธีราธร บุญมาทัน
จากเขากระโดง สเตเดี้ยม สู่ ไอโมบาย สเตเดี้ยม ธีรธรคือนักเตะที่ยืนหยัดอยู่ได้ไม่ว่าบุรีรัมย์จะมีการเปลี่ยนแปลงแค่ไหนก็ตาม และอุ้มก็ตอบแทนความไว้ใจของสโมสรด้วยการมีส่วนทำให้บุรีรัมย์กวาดแชมป์มามากหมายหลายรายการ แต่ก่อนหน้านั้นอุ้มก็คือวัยรุ่นใจร้อนคนหนึ่งด้วยความเป็นวัยรุ่นยังเป็นวัยที่มีไฟในการเตะฟุตบอล พฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กหนุ่มคนนี้มักจะใจร้อนอยู่ในสนาม เล่นฟุตบอลชอบมีอะไรแถม เล่นรุนแรง จนทำให้เกิดความอคติและความไม่พอใจต่อนักเตะคนนี้เป็นอย่างมาก ถ้าหากใครเคยดูบอลไทยลีกและมีบุรีรัมย์มาเยือน อุ้มจะเป็นเป้าของแฟนบอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำว่าคำด่าไม่ว่าจะ HER อุ้ม SAS อุ้มประเดประดังเข้ามาตลอดเวลาที่ชายคนนี้ได้บอล จนเกิดข้อสงสัยอยู่เสมอว่า เขาควรติดทีมชาติไทยหรือไม่!!
และวันนั้นก็มาถึงวันที่ อุ้มได้ขึ้นมามีธงไตรรงค์ ติดอกข้างซ้าย แน่นอนนี้คือความฝันและจุดสูงสุดของการเป็นนักฟุตบอลของไทยทุกคนและอุ้มก็เดินขึ้นมาได้ถึงจุดนี้แล้ว แต่คำถามของแฟนบอลก็ยังไม่จางหายไป ความสงสัยในตัวอุ้มยังมีอยู่ในหัวใจคนไทย คนไทยไม่สงสัยเรื่องฝีเท้าของอุ้ม แต่สงสัยพฤติกรรมมากกว่า และข้อสงสัยนี้ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่เมื่อ บอลโลกรอบคัดเลือก ไทยบุกไปเยือนซาอุ อุ้มมีโอกาสลงสนามแต่ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไป ซึ่งแน่นอนเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นมาแล้วก็แล้วไป ต่อมาอุ้มรีบบินตรงจากซาอุมาอินโดเพื่อมาช่วยทีมชาติไทยอีกชุดซึ่งเป็นชุดซีเกมส์โดยที่เขาแทบไม่ได้พักเลยแม้แต่น้อยนี้คงเป็นสิ่งที่อุ้มเริ่มแสดงความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้อุ้มพัฒนาตัวเองไปสู่นักกีฬาที่ดีได้
เมื่อเท้าอุ้มเดินเข้าสู่สังเวียนเสนายันในนัดเจออินโดกับสักขีพยานนับแสนชีวิต อุ้มคงไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเจออะไรคนแสนคนทำอะไรเขาไม่ได้ ในหัวของเขาคงคิดเพียงอย่างเดียวคือต้องช่วยทีมชาติให้เข้ารอบให้ได้ จนมาสู่จุดหักเหของชีวิตนักบอลจุดที่อุ้มเคยบอกว่าเขาจะเลิกเล่นฟุตบอล เลิกเล่นให้กับทีมชาติ เหตุการณ์นั้นคงจำได้ดีเป็นจังหวะช่วงต้นเกมส์ อุ้มมีใบเหลืองติดตัวมาแล้วหนึ่งใบ และจังหวะนั้นอุ้มใช้มือปัดนักเตะอินโดเป็นจังหวะที่กรรมการทั้งโลกคงไม่มีทางให้ใบเหลืองยกเว้นกรรมการนัดนี้ ที่เดินเข้ามาด้วยความมั่นใจ ชูใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงให้กับอุ้ม เป็นการฟาร์วสองครั้งสองเหลืองของอุ้ม และเป็นใบแดงสองนัดติดของ อุ้มในนามทีมชาติเป็นฝันร้ายในการค้าแข้งของเขาอย่างแท้จริง
จากเหตุการณ์ร้ายๆที่อุ้มได้เจอมา เขาไม่เอามาใส่ใจแต่เขาเอามาเป็นบทเรียน เป็นบทเรียนที่แสนล้ำค่าของชีวิตเขา เป็นบทเรียนที่ทำให้เขาจะนำมาเป็นแนวทางที่จะพัฒนาทั้งฝีเท้าและเรื่องการวางตัว ถึงแม้อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยในการลบความคิดอคติต่อตัวอุ้ม แต่อุ้มใช้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขาคือคนๆใหม่คนที่แฟนบอลไทยทุกๆต่างยอมรับในตัวเขา คนที่เคยด่าเคยว่าอุ้ม กลายมาเป็นคำชื่นชมในตัวของเขา ผมอยากให้คนที่อ่านกระทู้นี้ คนที่เจอเรื่องร้ายๆ เจอเรื่องที่ทำให้ตัวเองตกต่ำที่สุดในชีวิต ให้เอา อุ้ม ธีราธรเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิต เป็นตัวอย่างของการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ไม่ย่อท้อต่อคำติฉินนินทา ไม่ย่อท้อต่อชะตาชีวิตของตัวเอง และลุกขึ้นมาสู้ใหม่ สู้ให้ผ่านพ้นสิ่งที่เลวร้ายและนำพาตัวเองไปสู่สิ่งใหม่ๆที่มีแต่สิ่งที่ดีๆที่จะรอเราในวันข้างหน้า ที่จะเป็นรางวัลตอบแทนให้กับคนที่อดทนต่ออุปสรรคต่อไป ขอบคุณ ธีราธร บุญมาทัน ผู้ชายที่เป็นแบบอย่างของการพัฒนาตนเอง ขอบคุณครับ