http://www.dailynews.co.th/economic/354143
ยอดแห่ซื้อที่อยู่ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดทะลุ 3 พันล้าน เอกชนอัดโปรโมชั่นส่งท้ายปีเดือด รอรับมาตรการกระตุ้นอสังหารัฐดันยอดขายหลังงานอีกเท่าตัว
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 เวลา 15:42 น.
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 เปิดเผยว่า ในการจัดงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 8-11 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้รับผลตอบรับดีกว่าที่คาด โดยมีผู้ชมมากกว่า 100,000 คน และมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยในงานครั้งนี้มากกว่า 3,000 ล้านบาท โดยโครงการที่มีผู้จองซื้อมากที่สุด คือคอนโดฯ 80% รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 11% และบ้านเดี่ยว 8% ที่เหลือเป็นบ้านแฝดและอื่นๆ พร้อมทั้งคาดว่าหลังจากที่มาตรการรัฐฯ ออกมาแล้ว จะมียอดขายตามมาอีกเท่าตัว
ส่วนใหญ่พบว่า ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านกว่า 34.% ต้องการที่อยู่อาศัยราคา 1-2 ล้านบาท อีก 25% ราคา 2-3 ล้านบาท 18% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท และ 10% ระดับราคา 4-6 ล้านบาท และมีเพียง 8% เท่านั้น ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และมองว่า สาเหตุที่การจัดงานครั้งนี้ทะลุเป้า เพราะนอกจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมั่นใจกับสภาพตลาด และผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นอย่างแรงแล้ว ประชาชนต่างก็มีความหวังกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่จะออกมา และเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกปีหน้า จะเห็นได้ชัดเจนว่าตลาดอสังหาฯ ขยายตัวมากขึ้น และการจัดงานครั้งที่ 34 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. 59
“ทั้งนี้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่ากลุ่มคนเดินงานในครั้งนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ เป็นนเครื่องบ่งชี้ถึงความมั่นใจต่อ สภาพตลาดและความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูธต่าง แข่งขันกันจัดแคมเปญลดแลกแจกแถมดึงดูดความสนใจของลูกค้ากันอย่างคึกคัก ส่วนสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็งัดกลยุทธ์ด้านการให้บริการสินเชื่อช่วยจูงใจลูกค้าให้เกิดการตัดสินใจซื้ออีกทางหนึ่ง โดยมียอดของสินเชื่อภายในงาน 10,000 กว่าล้านบาท ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการจัดงาน”
ในส่วนข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน ระบุได้ว่าผู้เข้าชมงานกว่า 37% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน และอีก 63% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า 52% มีอาชีพเป็นพนักงานเอกชน รองลงมาอาชีพเจ้าของกิจการ 11% ที่เหลือมีอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและค้าขายอิสระในสัดส่วน ใกล้เคียงกัน ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน 30,000 บาท 40% มีรายได้ ระหว่าง 30,000 – 50,000 บาท 30% และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 12%
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 87% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ โดยต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกทม.กว่า 56% รองลงมา นนทบุรี 12% และ 5 จังหวัดปริมณฑล 32% ประเภทที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 38% หอพัก แฟลต อพาร์ทเม้นท์ 17% ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม 16% ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และอื่น ๆ ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ส่วนประเภทที่อยู่อาศัยที่จะซื้อในอนาคต 87% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ และ 13% เป็นบ้านมือ 2 ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี อยู่ที่ 20% เวลา 6-12 เดือน 17% และระยะ 1-3 เดือน 13%
แห่จองซื้อบ้านและคอนโด ทะลุ 3 พันล้าน - ในเขต กทม.กว่า 56%
ยอดแห่ซื้อที่อยู่ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดทะลุ 3 พันล้าน เอกชนอัดโปรโมชั่นส่งท้ายปีเดือด รอรับมาตรการกระตุ้นอสังหารัฐดันยอดขายหลังงานอีกเท่าตัว
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 เวลา 15:42 น.
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 เปิดเผยว่า ในการจัดงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 8-11 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้รับผลตอบรับดีกว่าที่คาด โดยมีผู้ชมมากกว่า 100,000 คน และมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยในงานครั้งนี้มากกว่า 3,000 ล้านบาท โดยโครงการที่มีผู้จองซื้อมากที่สุด คือคอนโดฯ 80% รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 11% และบ้านเดี่ยว 8% ที่เหลือเป็นบ้านแฝดและอื่นๆ พร้อมทั้งคาดว่าหลังจากที่มาตรการรัฐฯ ออกมาแล้ว จะมียอดขายตามมาอีกเท่าตัว
ส่วนใหญ่พบว่า ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านกว่า 34.% ต้องการที่อยู่อาศัยราคา 1-2 ล้านบาท อีก 25% ราคา 2-3 ล้านบาท 18% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท และ 10% ระดับราคา 4-6 ล้านบาท และมีเพียง 8% เท่านั้น ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และมองว่า สาเหตุที่การจัดงานครั้งนี้ทะลุเป้า เพราะนอกจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมั่นใจกับสภาพตลาด และผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นอย่างแรงแล้ว ประชาชนต่างก็มีความหวังกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่จะออกมา และเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกปีหน้า จะเห็นได้ชัดเจนว่าตลาดอสังหาฯ ขยายตัวมากขึ้น และการจัดงานครั้งที่ 34 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. 59
“ทั้งนี้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่ากลุ่มคนเดินงานในครั้งนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ เป็นนเครื่องบ่งชี้ถึงความมั่นใจต่อ สภาพตลาดและความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูธต่าง แข่งขันกันจัดแคมเปญลดแลกแจกแถมดึงดูดความสนใจของลูกค้ากันอย่างคึกคัก ส่วนสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็งัดกลยุทธ์ด้านการให้บริการสินเชื่อช่วยจูงใจลูกค้าให้เกิดการตัดสินใจซื้ออีกทางหนึ่ง โดยมียอดของสินเชื่อภายในงาน 10,000 กว่าล้านบาท ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการจัดงาน”
ในส่วนข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน ระบุได้ว่าผู้เข้าชมงานกว่า 37% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน และอีก 63% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า 52% มีอาชีพเป็นพนักงานเอกชน รองลงมาอาชีพเจ้าของกิจการ 11% ที่เหลือมีอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและค้าขายอิสระในสัดส่วน ใกล้เคียงกัน ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน 30,000 บาท 40% มีรายได้ ระหว่าง 30,000 – 50,000 บาท 30% และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 12%
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 87% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ โดยต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกทม.กว่า 56% รองลงมา นนทบุรี 12% และ 5 จังหวัดปริมณฑล 32% ประเภทที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 38% หอพัก แฟลต อพาร์ทเม้นท์ 17% ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม 16% ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และอื่น ๆ ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ส่วนประเภทที่อยู่อาศัยที่จะซื้อในอนาคต 87% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ และ 13% เป็นบ้านมือ 2 ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี อยู่ที่ 20% เวลา 6-12 เดือน 17% และระยะ 1-3 เดือน 13%