‘ทรูโฟร์ยู’ ทุ่มงบกว่า 500 ล. ทำละคร

‘ทรูโฟร์ยู’ ทุ่มงบกว่า 500 ล. ทำละคร
‘เนตร’ ใช้นโยบายตอบโจทย์งานคุณภาพ : สกู๊ปบันเทิง


          สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวผู้จัดละครหน้าใหม่ให้ช่อง “ทรูโฟร์ยู” อย่าง “นัท” มีเรีย กับซีรีส์ฟอร์มยักษ์ “เจ้าเวหา” โดยมี “อั้ม” อธิชาติ ชุมนานนท์ เป็นพระเอกในตอนแรก “ฝั่งน้ำจรดฝั่งฟ้า” ส่วนอีก 2 ตอนที่เหลือคือ “พิชิตแดนใจ” พระเอกเป็น แอนดริว เกร้กสัน และ “ผู้ครองฟ้า” เป็น “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี ส่วนนางเอกอีก 2 คน อย่าง “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ และ “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่ ยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจน “คม ชัด ลึก” มีโอกาสนัดสัมภาษณ์พิเศษกับ “เนตร” เนตรชนก วิภาตะศิลปิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางของการบริหารงาน และภาพรวมปี 2016 ดังนี้

          ภาพรวมในปี 2016 ช่องทรูฟอร์ยู จะเป็นอย่างไร
          จุดยืนของ “ทรูฟอร์ยู” ตอนนี้เราชัดเจนกับคำว่า iSports &Entertainment กีฬาสดบันเทิงเด่นครบที่เดียว ทรูโฟร์ยูเรายังยืนหลักเกณฑ์นี้อยู่ จุดที่จะเพิ่มขึ้นคือในระยะเวลา 1 ปี เราสามารถรวบรวมคอนเทนต์เต็มอัตตราศึก ในส่วนของกีฬา ผู้ชมเตรียมรอดูกีฬาถ่ายทอดสด ทั้งไทยและต่างประเทศ เรื่องกีฬามีทุกช่วงเลย เช้าถึงเย็น ในส่วนของบันเทิงจะแบ่งเป็น 3 ส่วน หนึ่งคือเกมโชว์ระดับโลกเราซื้อรูปแบบรายการจากต่างประเทศ The Price is Right Thailand ยังต้องมีอยู่เพราะเรตติ้งดีมาก นอกจากนี้ยังมี The big picture กับ The Line และอื่นๆ อีก

          บันเทิงประเภทที่สองคือ Movie และ Series ซึ่งเราได้ทำธุรกรรมร่วมกับต่างประเทศ มีหนังและซีรีส์ต่างประเทศมาลงที่ช่องเราหมด ไม่ว่าจะเป็น จูมง ซอนต๊อก หรือหนังระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ เราซื้อไว้หมดแล้ว ในขณะเดียวกัน บันเทิงในส่วนของเรื่องละครปีหน้า ทุกคนคงติดตามกันอยู่ อย่างที่เราเคยบอกไปว่า ทรูโฟร์ยู เราให้ความบันเทิง แต่สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับกลับไปคือเรื่องของคุณภาพและคุณค่า ซึ่งเป็นแนวทางของเรา ปีหน้าทุกแพลตฟอร์มจะอัดเต็มที่ ให้ผู้ชมสามารถสื่อสารกับเรากลับมาได้ ไม่ว่าจะทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือบนเว็บไซต์ บนแอพพลิเคชั่น และบนหน้าจอทีวี นอกนั้นอีก 15 เปอร์เซ็นต์จะเป็นข่าวและรายการเด็ก ผังในปี 2016 เราวางแผนไว้เรียบร้อย

          ซีรีส์ที่ซื้อมา นับรวมในส่วนซีรีส์รีเมกของ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ที่เอามาทำด้วย
          ใช่ เรามีการซื้อบทประพันธ์มาทั้งหมด แล้วรีเมกใหม่ ในขณะเดียวกันซีรีส์ที่จะทำใหม่ เราต้องเน้นที่ผู้กำกับ และนักแสดงต้องโดน ถ้าไม่โดนเราจะไม่ทำ โปรเจกท์อนันดา มี 5 เรื่อง คือ kiss me ทั้ง 2 ภาค My girls, Princess Hours และ Secret garden

          ทรูโฟร์ยู รุกเรื่องละครหนักมาก คนจับตามองที่ “อั้ม” อธิชาติ และ “นัท” มีเรีย
          คุณนัทมาเป็นผู้จัดละครให้เรา ซึ่งเราติดต่อกันผ่านทางคุณนัท และในขณะเดียวกัน เขาคงต้องเอาแฟนเขามาเล่น นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้อั้มมาเล่นกับเราด้วย และจะมีทั้งคุณนุ่น (วรนุช ภิรมย์ภักดี) คุณติ๊ก และคุณแอนดริว ซึ่งทั้งหมดคือนักแสดงระดับพระกาฬ ฉะนั้นทุกคนน่าจะรู้สึกว่าทำไมเราถึงลงทุนขนาดนั้น เพราะเราต้องการให้คุณภาพเกิดขึ้น และยังได้ผู้กำกับมือทองอย่างคุณอ๊อด (บัณฑิต ทองดี) ลงมากำกับเอง

          โปรเจกท์นี้พูดคุยกับนัท นานหรือไม่ กว่าจะตกลง
          โปรเจกท์นี้เรากับคุณนัทพูดคุยกันนาน เพราะเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ เกี่ยวกับทหาร 3 เหล่าทัพ ถ้าเราสามารถสื่อสารในเรื่องของความจงรักภักดี ให้คนดูเห็นได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทรูโฟร์ยูต้องการ คือคุณภาพและคุณค่าต้องมาคู่กัน ถามว่าเราตัดสินใจยังไง เพราะนัทเป็นผู้จัดหน้าใหม่ กับโปรเจกท์ที่ก้อนเงินที่สูงขนาดนี้ เราตัดสินใจค่อนข้างนาน เพราะเป็นก้อนเงินที่สูง ในตอนต้นเราอาจจะยังไม่รู้ว่าเขาจะทำงานออกมา เป็นงานคุณภาพหรือไม่ แต่สิ่งที่เราจะรู้ได้คือ “บทละคร” ถ้าเขาส่งบท ผู้กำกับ รวมถึงนักแสดง มาครบ หมายถึงว่าเขาทำการบ้านมาดี ซึ่งก็คือเขาสามารถเป็นผู้จัดได้ นั่นแสดงว่าเขามองภาพเห็น ไม่ใช่มาแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย

          งบประมาณสูงถึง 150 ล้านบาท กับซีรีส์ 3 เรื่อง
          เราอย่าเพิ่งพูดถึงทั้ง 3 เรื่อง เราไม่อยากเอาตัวเลขมาบอกว่าลงทุนแต่ละเรื่องเท่าไหร่ เพราะอาจจะเป็น 50 ล้าน 100 ล้าน หรือ 150 ล้าน แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะผกผันไปตามสถานการณ์ ยอมรับว่าลงทุนเยอะ ซึ่งยังไม่ได้รวมงบโปรโมท มันอาจจะมากกว่า 150 ล้านก็ได้ เพราะปีหน้าเราคาดหวังกับละครทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่ซีรีส์ 3 เรื่องนี้

          นักแสดงที่ถูกจับตามมองคือ แพนเค้ก กับ ใหม่ คอนเฟิร์มหรือยัง
          ตอนนี้เขายังฮือฮากันอยู่ รอหายฮือฮาแล้วเราจะพูด เดี๋ยวไม่สนุก ช่วงก่อนสิ้นปี หรือปีใหม่จะได้มีเรื่องให้ทุกคนติดตาม บอกได้อย่างเดียวว่าสุดท้ายเราจะเป็นคนออกมาพูดเองว่าใช่ หรือไม่ใช่ ส่วนที่คนมองว่านักแสดงยังติดสังกัดอยู่แบบมีคาบเกี่ยว ก็แล้วแต่มุมมอง ทุกวันนี้กระแสของโลก การบอกต่อบนโซเชียลมีเยอะมาก จนบางครั้งเราไม่รู้ว่าอะไรคือจริง อะไรคือเท็จ อยากให้รอเจ้าตัว และทางเราเป็นคนออกมาพูดเอง

          คนมองว่า ทรูโฟร์ยู ดูดทัพนักแสดงและผู้จัดเข้ามามากมาย
          ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือผู้จัด เวลาที่เราคุยงาน เอาเร่ื่องคุณภาพมาคุยกัน ทุกคนที่เข้ามาต้องรู้ว่าทิศทางของช่องเป็นแบบไหน ถ้าเป็นละครแซบตบจูบ มีคนมาเสนอว่า ถ้าทำแล้วเรตติ้งจะมาแน่ แต่เราไม่ทำ ฉะนั้นกลุ่มพวกนี้จะไม่มาทางเรา ไม่ใช่ว่าของคนอื่นไม่ดีนะ แต่เรามีแนวคนละทาง การใช้เวลาสร้างงานคุณภาพ อาจจะไม่ได้มาซึ่งเรตติ้ง แต่เราเชื่อว่าในระยะยาว มันจะกลับมา

          ผู้จัดและนักแสดงจากช่องอื่นมาร่วมงานเยอะขึ้น มองเรื่องความขัดแย้งระหว่างช่องไหม
          ไม่เลย เรายังสวัสดีคุณอาประวิทย์ (ประวิทย์ มาลีนนท์) อยู่เลย เราต่างมีวิถีทางของตัวเอง เราต้องไม่โทษทั้งผู้จัดและนักแสดง เราต้องไม่โทษช่องและแนวคิดช่อง เพราะทุกคนมีสิทธิ์ ทุกคนมีโอกาสที่จะไปในทางของตัวเอง    

          ละครลอตหน้าของ “ทรูโฟร์ยู” จะมีเรื่องอะไรบ้าง
          โปรเจกท์ต่อไปจะเป็น  “เถียนมีมี่ รักนี้ชั่วนิรันดร์” ได้หญิง (รฐา โพธิ์งาม) มาเป็นนางเอก และ ตู่ (ภพธร สุนทรญาณกิจ) เป็นพระเอก “เวลาในขวดแก้ว” ของ น็อต (นุติ เขมะโยธิน) ได้เต๋า (เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) มาเล่น มีโปรเจกท์ของ แดน (วรเวช ดานุวงศ์) เป็นซีรีส์ที่เขาจะเอามาทำต่อจากหนังของเขา ที่เราจะได้ดู และยังมีเรื่อง “ส้มตำแฮมเบอร์เกอร์” ซึ่งได้พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เป็นคนเขียนพล็อตขึ้นมา เป็นละครคอมเมดี้ น่ารักมาก เรื่องนี้เราให้พี่อ๊อดเป็นที่ปรึกษา เป็นคนพิจารณา แต่เดี๋ยวเร็วๆ นี้จะได้รู้ว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้จัด คุมเรื่องนี้ ซึ่งปีหน้าเราได้ “อ๊อด” บันฑิต มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องละคร เขาจะอยู่กับเราที่เดียวเลย มาช่วยดูเต็มที่ทุกโปรเจกท์ของทรูโฟร์ยู ดูทั้งบท ผู้กำกับ นักแสดง เรียกว่าเขาเป็นกำลังหลักของเราคนหนึ่ง มีอีกหลายเรื่อง แต่เดี๋ยวเราจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวให้ทราบอีกทีหนึ่ง

          งบประมาณละครปีหน้าวางไว้ประมาณเท่าไหร่
          หลายร้อยล้าน ไม่รู้กี่ร้อยล้านเลย เพราะเราวางละครยาวไปถึงปี 2017 แล้ว ซึ่งงบจริงๆ ต้องเกินหลัก 500 ล้านอยู่แล้ว มันคำนวณไม่ได้ โดยทั่วไปละคร 1 เรื่อง งบประมาณ 20-30 ล้าน เฉลี่ยใช้งบตอนละล้าน แต่ถ้ามีเรื่องของนักแสดงและผู้กำกับและนักแสดงดังๆ เข้ามา ทุกอย่างมันแปรผันไปอีก ฉะนั้นอย่าไปกำหนดตายตัว งบแล้วแต่โปรเจกท์ไป

          ศึกละครทีวีเข้มข้นและน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง

          .........................................

(หมายเหตุ ‘ทรูโฟร์ยู’ทุ่มงบกว่า 500ล.ทำละคร‘เนตร’ใช้นโยบายตอบโจทย์งานคุณภาพ : สกู๊ปบันเทิง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่