เรื่องมีอยู่ว่ารถ DTX 250 ผมคอมีปัญหา วันจันทร์ที่ 5 ผมไปธุระในตัว กทม. เลยคิดว่าเลยเข้าไปศุนย์พระราม 9 หน่อย
เผื่อเค้าจะตรวจเช็คให้ได้ว่ามีปัญหาอะไรอีกอย่างนู๋ดีก็ 24000 พอดี คิดว่าจะได้ทีเดียวเลย เนื่องจากผมต้องนำรถเข้าป่าเพื่อไปฝึกภาคสนาม ทั้งที่ไม่เคยไปก็ยังอุตส่าห์ดั้นด้นถามทางไปตลอดทาง จนไปถึง เวลา 10 โมงนิด ๆ ความประทับใจเเรกเลยคือเข้าไปแล้วเป็นมนุษย์ล่องหน ไม่มีใครมองเห็นเราเลย (พนักงานนั่งอยู่ 3 คน) ยืนเอ๋ออยู่สักพัก ก่อนจะหน้าด้านคุยกับพนักงานก่อนว่ามาเช็คระยะครับ พนักงานคนนึงหันมาสบตาก่อนจะชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ขวามือผม ทำนองว่าไปนั่งรอตรงนั้นนะโดยไม่พูดอะไรเลย นี่คือความประทับใจที่สอง นั่งรออยู่พักใหญ่ ใหญ่มาก แทบจะลุกออกจากศูนย์(ต้องรอพี่แว่นคนนึงคุยโทรศัพท์เสร็จ) ก่อนจะหันมาสบตาผมแล้วก็ถามว่านัดไว้หรือเปล่า เอาแล้วไง ใน กทม. ต้องนัดด้วยหรอวะเนี่ย คิดว่ายังไงก็คงไม่ได้ ทำใจก่อนจะตอบว่า "ไม่ได้นัดครับ" พี่แว่น บอกถ้าไม่ได้นัดเราก็ทำให้ไม่ได้นะครับ แล้วนี่ก็มาเลยเวลาแล้ว คุณต้องมา 8 โมงนะครับเราถึงจะทำให้ได้ต้องโทรมานัดก่อนนะครับ เอาอย่างนี้ ผมจะนัดให้คุณเลย เป็นวันที่ 20 แล้วกัน โอเคนะครับ ขอชื่อเบอร์โทรหน่อยครับ หลังจากแจ้งชื่อเบอร์โทรเสร็จ ในใจก็คิดว่าคงมาไม่ได้ เพราะมันเป็นวันธรรมดา รถมันก็ต้องใช้ทุกวัน กว่าจะถึงวันที่ 20 ไม่ปาไปเกือบ 30000 โลแล้วเรอะ เลยคิดว่าเอาแค่คอก่อนก็ได้ เลยหันไปเล่าอาการก่อนถามว่าซ่อมได้มั้ย คำตอบเป็นความประทับใจที่สามเลย "ไม่ได้ครับ ต้องใช้เวลาทั้งวันในการซ่อม ต้องทิ้งรถไว้แล้วพรุ่งนี้มารับได้มั้ยครับ" (แล้วกูจะกลับยังไง) ใจผมก็คิดนะว่าเพิ่ง 10 โมงกว่า ๆ มันซ่อมนานขนาดนั้นเลยหรอแค่คอรถเนี่ย จึงต้องกล่าวขอบคุณแบบเซ็ง ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากศูนย์
พอเดินไปถึงรถผมก็นึกถึงศูนย์อีกแห่งที่ใช้บริการอยู่ประจำเรียกได้ว่าศูนย์ในดวงใจเลยก็ว่าได้ (ภัทรลพบุรี) แต่มันอยู่ห่างจากที่ ๆ ผมยืนอยู่ ประมาณ เกือบ 180 โล เชื่อมั้ย แค่ผมโทรไปเล่าอาการให้ฟัง แล้วก็บอกว่าจะเช็คระยะด้วยที่ลพบุรีถามทันทีว่าจะมากี่โมงพร้อมกับบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาเนื่องจาก 24000 โลต้องตั้งวาล์วด้วย ผมจึงขอเวลา ไปถึงที่นั่น ก่อนบ่ายสอง เค้าตอบตกลงทันที ทั้ง ๆ ที่ศูนย์ปิด 4 โมงเย็น มีเวลาทำแค่ 2 ชม.บวกลบไม่น่าเกิน 1 ชม. เค้ายังให้ผมเข้าไปดู ไม่มีการปฎิเสธหรืออ้างนู่นนี่ แต่ผมก็ต้องโทรไปยกเลิกเค้าเนื่องจากระหว่างทางฝนตกหนักมาก ไปไม่ทันแน่นอน
ก่อนจะนัดเป็นวันเสาร์ที่ 10
สิ่งแรกที่ผมเข้าใจคือ การดูแลของศูนย์แตกต่างกัน เนื่องจากศูนย์ในกทม.ลูกค้าอาจจะเยอะดูแลไม่ทั่วถึง หรือไม่มีความใส่ใจกันแน่ ทั้ง ๆ ที่ลูกค้าอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ กลับไม่สนใจที่จะให้บริการ ทั้ง ๆ ที่พนักงานก็มีอยู่ เปรียบเทียบกับที่ลพบุรีคือรถยังจอดไม่สนิท ช่างหรือพนักงานก็จะเข้ามาสอบถามทันที หรือยืนรอข้าง ๆ รถจนกว่าเราจะลงจากรถแล้วจึงสอบถาม
สิ่งที่สองคืออาการของรถ แค่ฟังจากคนใช้งาน ไม่คิดจะตรวจสอบซักนิดก่อนที่จะให้คำตอบหน่อยหรือยังไง ว่าอาการเป็นหนักขนาดไหน ไม่ใช่ฟังปุ๊ปรู้ปั๊ป ว่ามันอาการสาหัสถึงขั้นใช้เวลาซ่อมเป็นวัน ๆ หรือคิดว่างานกูเยอะแล้ว ปัด ๆ ไปซักเคสสองเคส คงไม่ใช่ปัญหา
ปล.อยากถามพี่ ๆ เพื่อน ๆ นิดนึงว่าเคยเจอเคสแบบผมบ้างหรือเปล่า หรือว่าผมเป็นผู้โชคดีคนนึงที่บังเอิญเจอแจ๊คพ็อตแบบนี้พอดี
นี่คือค่ารักษานู๋ดีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ขอพื้นที่ระบายความรู้สึกเกี่ยวกับศูนย์Kawaพระราม 9 หน่อยครับ
เผื่อเค้าจะตรวจเช็คให้ได้ว่ามีปัญหาอะไรอีกอย่างนู๋ดีก็ 24000 พอดี คิดว่าจะได้ทีเดียวเลย เนื่องจากผมต้องนำรถเข้าป่าเพื่อไปฝึกภาคสนาม ทั้งที่ไม่เคยไปก็ยังอุตส่าห์ดั้นด้นถามทางไปตลอดทาง จนไปถึง เวลา 10 โมงนิด ๆ ความประทับใจเเรกเลยคือเข้าไปแล้วเป็นมนุษย์ล่องหน ไม่มีใครมองเห็นเราเลย (พนักงานนั่งอยู่ 3 คน) ยืนเอ๋ออยู่สักพัก ก่อนจะหน้าด้านคุยกับพนักงานก่อนว่ามาเช็คระยะครับ พนักงานคนนึงหันมาสบตาก่อนจะชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ขวามือผม ทำนองว่าไปนั่งรอตรงนั้นนะโดยไม่พูดอะไรเลย นี่คือความประทับใจที่สอง นั่งรออยู่พักใหญ่ ใหญ่มาก แทบจะลุกออกจากศูนย์(ต้องรอพี่แว่นคนนึงคุยโทรศัพท์เสร็จ) ก่อนจะหันมาสบตาผมแล้วก็ถามว่านัดไว้หรือเปล่า เอาแล้วไง ใน กทม. ต้องนัดด้วยหรอวะเนี่ย คิดว่ายังไงก็คงไม่ได้ ทำใจก่อนจะตอบว่า "ไม่ได้นัดครับ" พี่แว่น บอกถ้าไม่ได้นัดเราก็ทำให้ไม่ได้นะครับ แล้วนี่ก็มาเลยเวลาแล้ว คุณต้องมา 8 โมงนะครับเราถึงจะทำให้ได้ต้องโทรมานัดก่อนนะครับ เอาอย่างนี้ ผมจะนัดให้คุณเลย เป็นวันที่ 20 แล้วกัน โอเคนะครับ ขอชื่อเบอร์โทรหน่อยครับ หลังจากแจ้งชื่อเบอร์โทรเสร็จ ในใจก็คิดว่าคงมาไม่ได้ เพราะมันเป็นวันธรรมดา รถมันก็ต้องใช้ทุกวัน กว่าจะถึงวันที่ 20 ไม่ปาไปเกือบ 30000 โลแล้วเรอะ เลยคิดว่าเอาแค่คอก่อนก็ได้ เลยหันไปเล่าอาการก่อนถามว่าซ่อมได้มั้ย คำตอบเป็นความประทับใจที่สามเลย "ไม่ได้ครับ ต้องใช้เวลาทั้งวันในการซ่อม ต้องทิ้งรถไว้แล้วพรุ่งนี้มารับได้มั้ยครับ" (แล้วกูจะกลับยังไง) ใจผมก็คิดนะว่าเพิ่ง 10 โมงกว่า ๆ มันซ่อมนานขนาดนั้นเลยหรอแค่คอรถเนี่ย จึงต้องกล่าวขอบคุณแบบเซ็ง ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากศูนย์
พอเดินไปถึงรถผมก็นึกถึงศูนย์อีกแห่งที่ใช้บริการอยู่ประจำเรียกได้ว่าศูนย์ในดวงใจเลยก็ว่าได้ (ภัทรลพบุรี) แต่มันอยู่ห่างจากที่ ๆ ผมยืนอยู่ ประมาณ เกือบ 180 โล เชื่อมั้ย แค่ผมโทรไปเล่าอาการให้ฟัง แล้วก็บอกว่าจะเช็คระยะด้วยที่ลพบุรีถามทันทีว่าจะมากี่โมงพร้อมกับบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาเนื่องจาก 24000 โลต้องตั้งวาล์วด้วย ผมจึงขอเวลา ไปถึงที่นั่น ก่อนบ่ายสอง เค้าตอบตกลงทันที ทั้ง ๆ ที่ศูนย์ปิด 4 โมงเย็น มีเวลาทำแค่ 2 ชม.บวกลบไม่น่าเกิน 1 ชม. เค้ายังให้ผมเข้าไปดู ไม่มีการปฎิเสธหรืออ้างนู่นนี่ แต่ผมก็ต้องโทรไปยกเลิกเค้าเนื่องจากระหว่างทางฝนตกหนักมาก ไปไม่ทันแน่นอน
ก่อนจะนัดเป็นวันเสาร์ที่ 10
สิ่งแรกที่ผมเข้าใจคือ การดูแลของศูนย์แตกต่างกัน เนื่องจากศูนย์ในกทม.ลูกค้าอาจจะเยอะดูแลไม่ทั่วถึง หรือไม่มีความใส่ใจกันแน่ ทั้ง ๆ ที่ลูกค้าอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ กลับไม่สนใจที่จะให้บริการ ทั้ง ๆ ที่พนักงานก็มีอยู่ เปรียบเทียบกับที่ลพบุรีคือรถยังจอดไม่สนิท ช่างหรือพนักงานก็จะเข้ามาสอบถามทันที หรือยืนรอข้าง ๆ รถจนกว่าเราจะลงจากรถแล้วจึงสอบถาม
สิ่งที่สองคืออาการของรถ แค่ฟังจากคนใช้งาน ไม่คิดจะตรวจสอบซักนิดก่อนที่จะให้คำตอบหน่อยหรือยังไง ว่าอาการเป็นหนักขนาดไหน ไม่ใช่ฟังปุ๊ปรู้ปั๊ป ว่ามันอาการสาหัสถึงขั้นใช้เวลาซ่อมเป็นวัน ๆ หรือคิดว่างานกูเยอะแล้ว ปัด ๆ ไปซักเคสสองเคส คงไม่ใช่ปัญหา
ปล.อยากถามพี่ ๆ เพื่อน ๆ นิดนึงว่าเคยเจอเคสแบบผมบ้างหรือเปล่า หรือว่าผมเป็นผู้โชคดีคนนึงที่บังเอิญเจอแจ๊คพ็อตแบบนี้พอดี
นี่คือค่ารักษานู๋ดีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา