เราเคยตั้งกระทู้นี้แล้วเมื่อวันอาทิตย์ มีคนเข้ามาตอบบ้าง อยากได้แนวคิดดี ๆ เยอะ ๆ ค่ะ เพราะตอนนี้เราไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดีค่ะ
จากหัวข้อกระทู้เลยนะคะ คือเราอยากได้กำลังใจมากตอนนี้ เพราะรู้สึกเหนื่อยและท้อมากค่ะ
ขอเกริ่นเลยนะคะ เราเหนื่อยกับปัญหาที่เราเจอมากตอนนี้ เหมือนเขาเรียกว่ามรสุมเข้ามาในชีวิต เชื่อว่าทุกคนก็เคยเจอแต่แตกต่างกันออกไป
และวิธีแก้ไขเราก็แตกต่างกันออกไป วิธีแก้ปัญหาของเราก็คือก้มหน้ารับชะตากรรม และสู้กับมัน ปัญหาที่ว่าคือปัญหาการเงิน
ขอเล่าเลยนะคะ ปัญหานี่มันเกิดขึ้นตอนเราอยู่มหาวิทยาลัยค่ะ ตอนขึ้นปีสี่ค่ะ ใกล้จะจบแล้วทางบ้านเรามีปัญหาการเงิน ปกติทางบ้านเราไม่ได้ส่งเงินให้นะคะ เราทำงานส่งตัวเองเรียน และใช้กยศ ค่ะ เราก็อยู่ได้แต่พอครอบครัวมีปัญหา เราเริ่มต้องส่งเงินให้ครอบครัวตั้งแต่ เดือนมกราคม 2558 เราต้องแบ่งเงินที่ได้จากทำงานพาร์ทไทมให้ครอบครัวค่ะ เงินที่เราได้ต่อเดือน รวมกยศ เราก็ประมาณ 5000-6000 บาท แต่ละเดือนเราใช้จ่ายจะเหลือประมาณ 1000 นึง ใครเรียนมหาลัยจะเข้าใจค่ะ ว่าค่าใช้จ่ายมีเยอะมาก พอบ้านเรามีปัญหาการเงินเราก็แบ่งเงินที่เราได้จากการทำงานไปให้ ครอบครัวของเรามีแม่คนเดียวนะคะ ส่วนพ่อเราทิ้งแม่เราไปตั้งแต่เรายัง 11 เดือน แม่บอกเราไว้อย่างนั้น แม่เรามีปัญหาการเงินเพราะ ไปค้ำประกันเงินกู้ให้ญาติที่ไว้ใจแล้วเขาหนีไปแม่เราต้องเป็นคนจ่าย หลังจากนั้นแม่เราก็ป่วยทำงานไม่ได้ เราสงสารแม่มาก เพราะเรามีกันแค่สองคน เราจึงส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 3000 ใคร ๆ อาจมองว่าน้อยแต่เยอะสำหรับเรานะคะ จากเราเคยกินพออิ่มตอนนั้นเรากินมาม่าทุกเดือนเลยค่ะ วันไหนที่เบื่อ เราก็จะสั่งข้าวไข่ดาวที่หอขาย 12 บาทค่ะ เราประหยัดมากแต่เงินไม่พอเลยค่ะ เพราะเราเรียนปีสี่ ต้องทำวิจัยค่าเอกสารเยอะมากเลยค่ะ บางเดือนเราไม่ได้กินข้าวสามวันติดกันเลยค่ะ กินแต่น้ำ เราก็ไม่บอกแม่นะคะ เพราะสงสารแม่ แค่นี้ก็เครียดพอแล้ว ที่เราให้แม่แม่ก็แทบไม่พอใช้เเล้วค่ะ เราก็อดทนเรียนจนจบแต่ปัญหาไม่หยุดเท่านั้นค่ะ เจ้าหนี้เริ่มตามทวงเงินแล้ว
เนื่องจากแม่เราไปค้ำประกันให้ญาติ แล้วญาติคนนั้นเชาก็หนีไปค่ะ เจ้าหนี้ก็เริ่มมาทวงที่แม่เรา ซึ่งเป็นช่วงจังหวะ เราเรียนจบพอดี เราจบพฤษภาคม เราก็เริ่มหางานเลยค่ะ เราหางานได้และทำช่วงมิถุนายน แต่แม่เราตัดสินใจผิดครั้งยิ่งใหญ่เลยค่ะ ไม่ได้ปรึกษาเราก่อนเพราะกลัวเราเครียดมั้งค่ะ แม่เราไปยืมเงินกับคนรู้จักคนนึงค่ะ เพราะรู้จักมั้งค่ะ เลยกล้ายืม เอาไปใช้หนี้ให้เจ้าหนี้เงินกู้จากที่ญาติคนนั้นเป็นหนี้ กลายเป็นว่าหมดหนี้แล้วแม่เราเป็นหนี้แทน แล้วสุดท้ายหน้าที่หาเงินใช้หนี้กลายเป็นเราค่ะ เพราะเราเห็นแม่ทุกข์ไม่ได้ หลังจากที่แม่ยืม เงินคนรู้จักคนนั้น ตอนแรกเขาก็ดีนะคะ บอกว่าคืนเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้ามีแล้วค่อยคืน เขาก็คิดดอกนะคะ แต่คิดถูก แต่หลังจากนั้น เชาก็เริ่มใช้แม่เรา เขาทำร้านอาหารค่ะ แม่เราเป็นหนี้เขาเขาก็ให้แม่เราทำงานสารพัดเลยค่ะ แม่เราสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นหนี้เขา สิ่งที่ผิดปกติคือแม่เราทำงานไม่ได้เงินนะคะ ทำเพราะเป็นหนี้เขา เกรงใจเขา ข้าวเขายังไม่ให้กินฟรีเลยค่ะ เงินที่เป็นหนี้เท่าเดิมพร้อมดอก เราสงสารแม่มาก เราทำงานทุกวันเลยค่ะ วันจันทร์ถึงอาทิตย์ทำพาร์ทไทมเสริม จันทร์ถึงศุกร์ เราเลิกสองทุ่ม เสาร์ อาทิตย์เลิก ห้าโมงเย็นค่ะ ทำงานรวม ๆ เดือนละ 16000 แต่ร่างกายไม่ไหวมากค่ะ เดือนนึงเราส่งให้แม่ใช้หนี้ 12500 + ค่าใช้จ่ายให้แม่ 1500 เป็น 14000 บาท เราก็เหลือ เดือนละ 2000 บาท ค่าเช่าบ้านที่เราอยู่รวมน้ำไฟ 1300 เดือนนึงเราเหลือเงิน ใช้กินแค่ 700 บาทต่อเดือน ซึ่งมันไม่พอทั้งแม่และเรา แม่เราก็ หาทางช่วยเราเอาของในบ้านมาขาย ในแต่ละเดือน ขายของในบ้านจนที่บ้านไม่เหลืออะไรแล้วค่ะ เพื่อประทังชีวิต ถ้าที่ดินบ้านแม่เราเอามาทำธุรกรรมทางการเงินได้แม่เราคงทำ แต่ที่ดินบ้านเราที่แม่เราซื้อสมัยก่อนนั้น ยังได้โอนเจ้าของที่ขายดันมาเสียชีวิต แม่เราก็ปล่อยให้ล่วงเลยมา เจ้าของที่ดินบ้านก็ไม่ใช่ของแม่เราต้องไปทำเรื่องอะไรเราก็ไม่รู้จึงสามารถโอนได้เราก็ไม่แน่ใจ แต่พักไว้ก่อน แต่สวรรค์เข้าข้างคนดีมั้ง ให้แต่ละเดือนเราเเทบจะไม่ค่อยได้กินอะไร เราเลยขอยืมเพื่อน บ้างเพื่อนเราก็ใจดีนะ ให้ยืม จนเราเป็นหนี้ เยอะมาก เราอยากจะคืนให้เพื่อนนะ แต่เราก็ไม่มีปัญญาหาแล้ว เรายืมคนนู้นคนนี้ จนเป็นหนี้ เป็นหมื่นเหมือนกัน เดือนละ 2000 ที่เรายืม เราก็แบ่งให้แม่เราใช้ด้วย หนี้เก่าในส่วนของแม่ก็ลดลง แต่เราก็เริ่มเป็นหนี้เพื่อน ๆ เพื่อนเราก็ยังเป็นนักศึกษา เราเรียนสี่ปี เพื่อนเราเรียนห้าปี ส่วนใหญ่เรียนครู เราก็เกรงใจ อยากคืนแต่ก็หาคืนไม่ได้ เพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่ทวงเรานะ แต่ก็ไปโพสบน facebook ว่าไม่มีเงินใช้เราก็รู้สึกละอายมาก เพราะรู้สึกเหมือนเขาทวงเรานั่นแหล่ะ แบบอ้อม ๆ เราก็ไม่รู้จะทำไงดี ตอนนี้เราเริ่มเหนื่อย ๆ ท้อ ๆ จากคนน้ำหนัก 52 เหลือ 43 ลด 9 กิโล แล้วเดือนที่แล้วบ้านยายเราเลี้ยงหมาไว้ดันไปกัดเขากลางถนน เขาเรียกร้องค่าเสียหาย 10000 นึงเราไม่รู้จะไปหาที่ไหน เราเลยต้องขอยืมเพื่อนคนนึงเพื่อนเราคนนี้มีเงิน แต่ไม่มากแต่เขาใจดีกับเรานะ ให้ยืม ตอนนี้เขาก็เหมือนต้องใช้เงินเหมือนกัน หนี้เราประมาณ 20000 ส่วนหนี้แม่เราลดลง เราก็ดีใจนะ เราพยายามมาตลอด อดทนมาตลอด ลืมบอกแม่เราเป็นหนี้ 50000 ไม่ดอก ตอนนี้เราพยายามปลดเหลือ 12500 เดือนหน้า แม่เราจะหมดหนี้ แต่หนี้ส่วนของเราก็ยังไม่รู้จะหาที่ไหน เหนื่อยและท้อ ๆ ตอนนี้ขนาดต้นเดือน เรามีเงินติดตัว ไม่ถึง 500 เลยค่ะ จะอยู่ถึงเดือนหรือป่าวไม่รู้ ตอนนี้เริ่มท้อมากๆค่ะ อยากได้กำลังใจ หรือแนวทางดี ๆ ค่ะ อยากใช้หนี้เพื่อน สงสารเพื่อนค่ะ แต่ก็สงสารตัวเองด้วย เราทนแบกรับความรู้สึกนี้ ตั้งแต่มกราคม เรารู้สึกแย่ ๆ ไปหมด นอนร้องไห้ทุกคืน ยอมรับว่าเหนื่อยบางทีเราก็อยากตายนะคะ แต่ว่าแม่มีเราคนเดียวถ้าเราตายใครจะอยู่กับแม่ เรานี่รูซึ้งถึงคำว่าไม่เจอกับตัวไม่มีทางรู้หรอกเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ และตอบกลับเรามีแนวทางดี ๆให้กับเรามาก ๆ ค่ะ
ขอกำลังใจหรือแรงบันดาลใจดี ๆ ให้มีชีวิตสู้ต่อไปหน่อยค่ะ
จากหัวข้อกระทู้เลยนะคะ คือเราอยากได้กำลังใจมากตอนนี้ เพราะรู้สึกเหนื่อยและท้อมากค่ะ
ขอเกริ่นเลยนะคะ เราเหนื่อยกับปัญหาที่เราเจอมากตอนนี้ เหมือนเขาเรียกว่ามรสุมเข้ามาในชีวิต เชื่อว่าทุกคนก็เคยเจอแต่แตกต่างกันออกไป
และวิธีแก้ไขเราก็แตกต่างกันออกไป วิธีแก้ปัญหาของเราก็คือก้มหน้ารับชะตากรรม และสู้กับมัน ปัญหาที่ว่าคือปัญหาการเงิน
ขอเล่าเลยนะคะ ปัญหานี่มันเกิดขึ้นตอนเราอยู่มหาวิทยาลัยค่ะ ตอนขึ้นปีสี่ค่ะ ใกล้จะจบแล้วทางบ้านเรามีปัญหาการเงิน ปกติทางบ้านเราไม่ได้ส่งเงินให้นะคะ เราทำงานส่งตัวเองเรียน และใช้กยศ ค่ะ เราก็อยู่ได้แต่พอครอบครัวมีปัญหา เราเริ่มต้องส่งเงินให้ครอบครัวตั้งแต่ เดือนมกราคม 2558 เราต้องแบ่งเงินที่ได้จากทำงานพาร์ทไทมให้ครอบครัวค่ะ เงินที่เราได้ต่อเดือน รวมกยศ เราก็ประมาณ 5000-6000 บาท แต่ละเดือนเราใช้จ่ายจะเหลือประมาณ 1000 นึง ใครเรียนมหาลัยจะเข้าใจค่ะ ว่าค่าใช้จ่ายมีเยอะมาก พอบ้านเรามีปัญหาการเงินเราก็แบ่งเงินที่เราได้จากการทำงานไปให้ ครอบครัวของเรามีแม่คนเดียวนะคะ ส่วนพ่อเราทิ้งแม่เราไปตั้งแต่เรายัง 11 เดือน แม่บอกเราไว้อย่างนั้น แม่เรามีปัญหาการเงินเพราะ ไปค้ำประกันเงินกู้ให้ญาติที่ไว้ใจแล้วเขาหนีไปแม่เราต้องเป็นคนจ่าย หลังจากนั้นแม่เราก็ป่วยทำงานไม่ได้ เราสงสารแม่มาก เพราะเรามีกันแค่สองคน เราจึงส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 3000 ใคร ๆ อาจมองว่าน้อยแต่เยอะสำหรับเรานะคะ จากเราเคยกินพออิ่มตอนนั้นเรากินมาม่าทุกเดือนเลยค่ะ วันไหนที่เบื่อ เราก็จะสั่งข้าวไข่ดาวที่หอขาย 12 บาทค่ะ เราประหยัดมากแต่เงินไม่พอเลยค่ะ เพราะเราเรียนปีสี่ ต้องทำวิจัยค่าเอกสารเยอะมากเลยค่ะ บางเดือนเราไม่ได้กินข้าวสามวันติดกันเลยค่ะ กินแต่น้ำ เราก็ไม่บอกแม่นะคะ เพราะสงสารแม่ แค่นี้ก็เครียดพอแล้ว ที่เราให้แม่แม่ก็แทบไม่พอใช้เเล้วค่ะ เราก็อดทนเรียนจนจบแต่ปัญหาไม่หยุดเท่านั้นค่ะ เจ้าหนี้เริ่มตามทวงเงินแล้ว
เนื่องจากแม่เราไปค้ำประกันให้ญาติ แล้วญาติคนนั้นเชาก็หนีไปค่ะ เจ้าหนี้ก็เริ่มมาทวงที่แม่เรา ซึ่งเป็นช่วงจังหวะ เราเรียนจบพอดี เราจบพฤษภาคม เราก็เริ่มหางานเลยค่ะ เราหางานได้และทำช่วงมิถุนายน แต่แม่เราตัดสินใจผิดครั้งยิ่งใหญ่เลยค่ะ ไม่ได้ปรึกษาเราก่อนเพราะกลัวเราเครียดมั้งค่ะ แม่เราไปยืมเงินกับคนรู้จักคนนึงค่ะ เพราะรู้จักมั้งค่ะ เลยกล้ายืม เอาไปใช้หนี้ให้เจ้าหนี้เงินกู้จากที่ญาติคนนั้นเป็นหนี้ กลายเป็นว่าหมดหนี้แล้วแม่เราเป็นหนี้แทน แล้วสุดท้ายหน้าที่หาเงินใช้หนี้กลายเป็นเราค่ะ เพราะเราเห็นแม่ทุกข์ไม่ได้ หลังจากที่แม่ยืม เงินคนรู้จักคนนั้น ตอนแรกเขาก็ดีนะคะ บอกว่าคืนเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้ามีแล้วค่อยคืน เขาก็คิดดอกนะคะ แต่คิดถูก แต่หลังจากนั้น เชาก็เริ่มใช้แม่เรา เขาทำร้านอาหารค่ะ แม่เราเป็นหนี้เขาเขาก็ให้แม่เราทำงานสารพัดเลยค่ะ แม่เราสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นหนี้เขา สิ่งที่ผิดปกติคือแม่เราทำงานไม่ได้เงินนะคะ ทำเพราะเป็นหนี้เขา เกรงใจเขา ข้าวเขายังไม่ให้กินฟรีเลยค่ะ เงินที่เป็นหนี้เท่าเดิมพร้อมดอก เราสงสารแม่มาก เราทำงานทุกวันเลยค่ะ วันจันทร์ถึงอาทิตย์ทำพาร์ทไทมเสริม จันทร์ถึงศุกร์ เราเลิกสองทุ่ม เสาร์ อาทิตย์เลิก ห้าโมงเย็นค่ะ ทำงานรวม ๆ เดือนละ 16000 แต่ร่างกายไม่ไหวมากค่ะ เดือนนึงเราส่งให้แม่ใช้หนี้ 12500 + ค่าใช้จ่ายให้แม่ 1500 เป็น 14000 บาท เราก็เหลือ เดือนละ 2000 บาท ค่าเช่าบ้านที่เราอยู่รวมน้ำไฟ 1300 เดือนนึงเราเหลือเงิน ใช้กินแค่ 700 บาทต่อเดือน ซึ่งมันไม่พอทั้งแม่และเรา แม่เราก็ หาทางช่วยเราเอาของในบ้านมาขาย ในแต่ละเดือน ขายของในบ้านจนที่บ้านไม่เหลืออะไรแล้วค่ะ เพื่อประทังชีวิต ถ้าที่ดินบ้านแม่เราเอามาทำธุรกรรมทางการเงินได้แม่เราคงทำ แต่ที่ดินบ้านเราที่แม่เราซื้อสมัยก่อนนั้น ยังได้โอนเจ้าของที่ขายดันมาเสียชีวิต แม่เราก็ปล่อยให้ล่วงเลยมา เจ้าของที่ดินบ้านก็ไม่ใช่ของแม่เราต้องไปทำเรื่องอะไรเราก็ไม่รู้จึงสามารถโอนได้เราก็ไม่แน่ใจ แต่พักไว้ก่อน แต่สวรรค์เข้าข้างคนดีมั้ง ให้แต่ละเดือนเราเเทบจะไม่ค่อยได้กินอะไร เราเลยขอยืมเพื่อน บ้างเพื่อนเราก็ใจดีนะ ให้ยืม จนเราเป็นหนี้ เยอะมาก เราอยากจะคืนให้เพื่อนนะ แต่เราก็ไม่มีปัญญาหาแล้ว เรายืมคนนู้นคนนี้ จนเป็นหนี้ เป็นหมื่นเหมือนกัน เดือนละ 2000 ที่เรายืม เราก็แบ่งให้แม่เราใช้ด้วย หนี้เก่าในส่วนของแม่ก็ลดลง แต่เราก็เริ่มเป็นหนี้เพื่อน ๆ เพื่อนเราก็ยังเป็นนักศึกษา เราเรียนสี่ปี เพื่อนเราเรียนห้าปี ส่วนใหญ่เรียนครู เราก็เกรงใจ อยากคืนแต่ก็หาคืนไม่ได้ เพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่ทวงเรานะ แต่ก็ไปโพสบน facebook ว่าไม่มีเงินใช้เราก็รู้สึกละอายมาก เพราะรู้สึกเหมือนเขาทวงเรานั่นแหล่ะ แบบอ้อม ๆ เราก็ไม่รู้จะทำไงดี ตอนนี้เราเริ่มเหนื่อย ๆ ท้อ ๆ จากคนน้ำหนัก 52 เหลือ 43 ลด 9 กิโล แล้วเดือนที่แล้วบ้านยายเราเลี้ยงหมาไว้ดันไปกัดเขากลางถนน เขาเรียกร้องค่าเสียหาย 10000 นึงเราไม่รู้จะไปหาที่ไหน เราเลยต้องขอยืมเพื่อนคนนึงเพื่อนเราคนนี้มีเงิน แต่ไม่มากแต่เขาใจดีกับเรานะ ให้ยืม ตอนนี้เขาก็เหมือนต้องใช้เงินเหมือนกัน หนี้เราประมาณ 20000 ส่วนหนี้แม่เราลดลง เราก็ดีใจนะ เราพยายามมาตลอด อดทนมาตลอด ลืมบอกแม่เราเป็นหนี้ 50000 ไม่ดอก ตอนนี้เราพยายามปลดเหลือ 12500 เดือนหน้า แม่เราจะหมดหนี้ แต่หนี้ส่วนของเราก็ยังไม่รู้จะหาที่ไหน เหนื่อยและท้อ ๆ ตอนนี้ขนาดต้นเดือน เรามีเงินติดตัว ไม่ถึง 500 เลยค่ะ จะอยู่ถึงเดือนหรือป่าวไม่รู้ ตอนนี้เริ่มท้อมากๆค่ะ อยากได้กำลังใจ หรือแนวทางดี ๆ ค่ะ อยากใช้หนี้เพื่อน สงสารเพื่อนค่ะ แต่ก็สงสารตัวเองด้วย เราทนแบกรับความรู้สึกนี้ ตั้งแต่มกราคม เรารู้สึกแย่ ๆ ไปหมด นอนร้องไห้ทุกคืน ยอมรับว่าเหนื่อยบางทีเราก็อยากตายนะคะ แต่ว่าแม่มีเราคนเดียวถ้าเราตายใครจะอยู่กับแม่ เรานี่รูซึ้งถึงคำว่าไม่เจอกับตัวไม่มีทางรู้หรอกเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ และตอบกลับเรามีแนวทางดี ๆให้กับเรามาก ๆ ค่ะ