ไม่เคยโดนด่า,ดูถูก,ทำกิริยาลับหลังขนาดนี้เลย อีกแล้วกับพนง.จากบูธสถาบันเสริมความงาม

หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าเราไปเจออะไรมา  ถือว่าแชร์ประสบการณ์แล้วกันค่ะ
ไม่คิดเลยว่ากระทู้แรกที่ตัวเองจะได้มาตั้งในพันทิปจะเป็นเรื่องอะไรแบบนี้
ไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ ขึ้นเลยแล้วกัน
คำพูดของพี่เขาเป็นคำพูดที่เราพอจะจำได้นะคะ คงไม่สามารถจำได้ละเอียดถี่ยิบจริงๆ

เราเชื่อว่าคงมีชาวพันทิปไม่น้อยที่โดนพนง.สถาบันความงามเรียกเข้าบูธเวลาไปเดินตามห้างสรรพสินค้า

ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า

วันนี้(12 ต.ค. 58)ดูหนังเสร็จเวลาประมาณสัก 15:00 น. เราก็เดินไปที่ fitness first อยู่ชั้นเดียวกับโรงหนังนี่แหละ ชั้น 5
เราก็ไปยืนอยู่หน้าร้านนั่นแหละ เห็นพนง.ในร้านมีลูกค้าอยู่ด้วย เลยยังไม่ได้เข้าไป ก็ยืนตัดสินใจอยู่
เล่นมือถือไปด้วย ดู facebook line ไปเรื่อยๆ ร่วมๆ 5 นาทีได้

ตอนยืนก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีบูธของสถาบันความงามอยู่ตรงข้ามร้าน Fitness First ชื่อสถาบันนั้นก็คือ Si_p_y cl_n_c ค่ะ อ่านชัดๆ อีกครั้ง Si_p_y c_in_c นะคะ (ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย เอาเป็นตัวอักษรใบ้ไปแล้วกัน เดี๋ยวจะซวย -๐-) ของดาราด้วยค่ะแบรนด์นี้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแสดงละครแล้ว คงไปทำอย่างอื่นมากกว่า ไปหากันเอาเองนะคะว่าใคร

มีพี่ผญ.เดินเข้ามาทักในขณะที่เรายืนเล่นมือถืออยู่หน้าร้าน (ขอเล่าแบบรวบยอดเลยนะ) พี่ผญ.พูดดีมาก ยกมือไหว้แทบจะกราบ มีทดลองทำหน้า มีวอยเชอร์ให้ลอง 1 ครั้งอะไรประมาณนี้ แต่ช่วยเขียนชื่อ เขียนเบอร์โทรไว้ให้หน่อย ไม่โทรไปกวนแน่นอน นะคะ (พนมมือไปด้วย) อ้อนวอนสุดฤทธิ์ ยกมือขึ้นไหว้แล้วไหว้อีก จนเราต้องบอกว่า "พี่ไม่ต้องไหว้ค่ะ หนูเด็กกว่า"

เราเห็นว่าเราเคยโดนเรียกให้เขียนแบบนี้แล้วกับสถาบันความงามอื่น แล้วก็ไม่เคยโดนโทรตาม
ก็เลยบอกว่า "ก็ได้ๆค่ะ" ( คิดในใจว่าเค้าคงอยากได้ยอดรายชื่อมั้ง อันนี้บอกตามตรงว่าเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเอาไปทำอะไร )

คราวนี้เป็นใบกรอกประวัติ A4 ใหญ่โต จริงจัง ไม่ใช่แค่เขียนชื่อกับเบอร์โทรที่เคยเจอ
พี่ผญ.ก็ชวนคุยดี จะมาสมัคร fitness first เหรอ ทำไมไม่ไปวีล่ะ (อยู่ฝั่งเมเจอร์) ชวนคุยกันดีมาก ถามว่าเรารักษาหน้าที่ไหนอยู่ ใช้ยาตัวไหน คือคุยดีมาก แล้วพี่ผญ.ก็พูดขึ้นมาว่า งั้นให้พี่แนะนำสินค้ามั้ยย ระหว่างรอเขียน เดี๋ยวพี่ไปตามอีกคนให้

เราก็ "ได้ค่ะ" แบบด้วยความเต็มใจเลย เพราะพี่แกดีมาก เราก็ไม่ได้รีบอะไร
นี่เป็นคนให้โอกาสคนพูด คนขายของตลอดนะ เพราะคิดว่าวันๆนึงคงไม่มีใครมาสนใจบูธนางมากเท่าไหร่หรอก สงสารและเห็นใจ การที่เรามาช่วยฟังก็คงเป็นกำลังใจของคนกลุ่มนี้อย่างหนึ่ง เคยมีบ.ประกันโทรมา เราก็ให้เค้าพูดให้ฟัง เกือบชั่วโมงก็มี

..ต่อ..

พี่ผญ.ก็ไปเรียกอีกคนมา เป็นเกย์ ดูเป็นคนมั่นใจ กล้าพูด กล้าขาย และมีฝีปากที่ดีไม่ใช่น้อย
พี่เกย์เห็นหน้าเราที่มีสิวอยู่ 2-3 เม็ด และรอยสิว พี่แกก็บอกว่า อย่างนี้ต้อง detox แนะนำ detox เลย มันจะไล่ของเสียใต้ผิวหนังเราออก...แกก็พูดไปเรื่อย
พอมาถึงราคาคอร์ส

(พี่เกย์เปิดโบชัวร์ให้ดู)
Detox
ปกตินะ 4500/1 ครั้ง แต่พี่เกย์แกเห็นว่าเป็นนศ.อยู่ เลยให้ 3 ครั้งเลย ในราคา 4500 เท่าเดิม (บ๊ะ! ใจดีแท้)
เราก็ถามมีตัวไหนลดรอยสิวบ้าง
พี่แกก็ชี้ไปที่ตัวนี้ 5000 /1 ครั้ง
"แต่เห็นผลเลยนะ ครั้งแรกเห็นผลเลยจริงๆ" พี่แกว่างี้
แล้วก็พูดต่อว่า จะจองเลยมั้ยล่ะ พี่ขอจอง 2000 ไม่ต้องจ่ายเต็มก็ได้ (เต็ม 4500) (อีนี่ก็ไม่ได้ตั้งใจมาซื้อไง พี่ผญ.แกเข้ามาเรียกให้นั่ง ก็นั่งช่วย)

เราก็อึกอัก เพราะไม่ได้จะมาซื้อแต่แรกเลย (นี่จะมาซื้อคอร์สออกกำลังกานค่ะ มิใช่คอร์สเสริมความงาม)
พี่เกย์ก็ งั้นพี่แถมคอร์สอันนี้ให้ฟรี!!!!!เลย (ชี้ไปคอร์สที่ลดรอยสิวที่เราถาม แม่เจ้าโว้ยยยย!!! ให้คอร์สฟรี 5000!!! โอ้โห อยู่ๆก็ให้ง่ายๆซะงั้น)
เราก็บอกไปว่า "ขอไปคิดดูก่อนได้มั้ยคะ" ยิ้มแหยๆ
พี่เกย์ก็ชักกระดาษที่เรากำลังกรอกอยู่ออกไปเลย "อะ นี่ไม่ได้ขายนะๆ เนี่ยย พวกออกไป ขอออกไปข้างนอก เอาเบอร์พี่ไป พี่ก็รู้ว่าไม่กลับมาหรอก ไม่โทรมาหาพี่ด้วย พี่ก็รู้" นี่คำพูดแบบรวบยอด ประมาณนี้ จริงๆแกพูดประมาณนี้หลายช่วงมาก"

..เราลำดับเหตุการณ์คำพูดไม่ค่อยถูกนะ..

"หนูไม่มีเงินหรอกพี่ ต้องถามแม่ก่อน" (เราเป็นนศ.ยังไม่มีงานทำ ไม่มีเงินของเรานี่คือไม่มีจริงๆ เงินที่พ่อให้แต่ละเดือน ต้องใช้อย่าให้เกินวันนึง 233 บาท ด้วยซ้ำ นี่คือไม่เหลือเก็บเลยนะ ไม่ต้องพูดเรื่องค่าน้ำมันรถเลย)
เราก็บอกว่าเราไม่ได้พกเงินขนาดนั้น ไม่ถึง 2000 (เราพกมาพันนิดๆได้ ปกติไม่พกขนาดถึงพันด้วยซ้ำ เมื่อเช้าไปหาหมอเลยติดตังค์ไปเผื่อ)
"นี่พี่ไม่ได้ยอดอะไรเลยนะ 2000 เนี่ย พี่ได้ 1000 พี่ผญ.คนนั้นได้อีก 1000 เอง พี่อยากแนะนำให้เราจริงๆ (หวังดี หรือหวังเงิน?)

..นี่เริ่มอึดอัด หาทางออกไม่ได้..

งั้นพี่ขอ 1500 มีมั้ย เราก็บอก "ไม่ถึงอยู่ดีค่ะ"  พี่แกก็ชักสีหน้าและ จริงๆก็เริ่มแสดงอาการตั้งแต่บอกว่ามีไม่ถึงสองพันละ
พี่แกก็โน้มน้าวไปเรื่อย พูดนั่นนี่ไปเรื่อย
จ๊นนน 1000นึงล่ะ (ลดค่าจองกระหน่ำซัมเมอร์เซล) นี่หนูบอกสองพันก็ไม่มี พันห้าก็ไม่มี หนูจะมาถามจริงๆหรือเปล่า หนูรักษาที่ไหนอยู่หรือเปล่า ถ้างั้นหนูก็กลับไปที่นั่นเลยนะ (พี่เกย์เริ่มใส่อารมณ์)

นี่พี่จะโชว์อะไรให้ดู (หยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนๆ หาภาพอะไรสักอย่าง นิ้วเลื่อนไปด้วย พูดไปด้วย ไม่สบตาเราสักนิดเดียว)
นี่คือคำพูดของพี่แก ตอนที่เลื่อนดูรูปไปด้วยนะ "น้องรู้มั้ยย พี่ไม่ได้อะไรเลยนะ พัน สองพันเนี่ย รู้มั้ยปกติพี่ขายได้เท่าไหร่ (โชว์ภาพบิลเงินสดในมือถือ รูปแรก หลักหมื่นได้มั้ง จำไม่ได้)
"นี่รู้มั้ยพี่เคยขายได้เท่าไหร่ พี่เคยขายได้ถึงแปดแสนเลยนะ" (โชว์ภาพบิลอีกอันให้ดู บิลใบนึงห้าแสน อีกอันสามแสน ประมาณนี้)  (อารมณ์แบบเงินพัน สองพันนี่กูไม่หวังจากเท่าไหร่หรอก ไม่แคร์ ถ้าไม่ได้)
พี่แกก็ถามว่า "นี่รักษาอยู่ที่ไหนหรือเปล่า ถ้าหนูอยากทำที่เดิม หนูก็ไปที่เดิมก็ได้" เราก็ตอบว่า จริงๆก็มีที่รักษาอยู่แล้ว (มีรักษาอยู่จริงๆ กับหมอเลย อยู่ที่นฐ. บอกพี่ผญ.คนแรกไปแล้วด้วย) พอบอกไปเท่านั้นแหละ "อะงั้นหนูก็กลับไปรักษาที่เดิมได้เลย พี่ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูดด้วย ที่พูดเนี่ยพี่ก็เหนื่อย ได้ก็ไม่ได้ด้วย" (โอ้โหหหเว้ยยย เกิดมาไม่เคยโดนใครตอกหน้าขนาดนี้ นี่กูมาอ้อนวอนเมิงให้มาพูดให้ฟังเปล่าวะ กูกราบให้เมิงมาพูดให้กูฟังมั้ยยย) คำพูดไม่เป๊ะ แต่ประมาณนี้เลยค่ะ

ตอนนั้นโมโหมาก จะตอกกลับไปอยู่แล้วเชียวว่า //หนูไม่ได้ตั้งใจจะมานะคะ หนูยืนอยู่หน้า fitness first อยู่ดีๆพี่ผญ.ก็เรียกเข้ามา ให้มาช่วยกรอก หนูก็กรอก แล้วพี่มาพูดแบบนี้ได้ไง เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า// โกรธจนมือสั่น ตอนนั้นหน้าเราเริ่มนิ่งแล้วแหละ ไม่สบอารมณ์และ แต่อีกใจก็คิดไว้ว่า อย่าดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าได้ด่ากันกลางห้าง เราคิดว่าถ้าเราต่อ พี่แกสวนกลับแน่ๆ เดี๋ยวจะเหมือนด่ากันไปกันมาเหมือนในละคร
เลยได้แต่เก็บไว้ ..ว๊าาาาา

เหมือนพี่เกย์เริ่มคิดได้มั้งว่าที่แกพูดไปมันเป็นมารยาทที่ไม่ดี ช่างเป็นการดูถูกที่แยบยล เหมือนพี่แกก็เลยเริ่มเย็นขึ้น (อิชั้นรู้..ในใจยังกรุ่นอยู่ใช่มั้ยล่ะ กูจะไม่ยอมควักเงินให้เมิงสักบาทเลย มาทำกิริยาแบบนี้)
"หนูบอก สองพันไม่มี พันนึงก็ไม่มี 500แล้วกัน นี่ไม่ได้อะไรเลยนะ" (พูดไรอีกก็ไม่รู้ เหมือนดูถูกที่เราไม่มีเงินจ่าย จำรายละเอียดไม่ได้)
500นี่ แถมมาร์คให้ด้วย กดสิวให้ฟรีด้วย แต่ไม่ได้กดเองนะ 555 (พี่เกย์หัวเราะ)
พี่แกก็ยืนยัน ว่า 500 (จ้องตาเราชนิดที่ว่าสะกดจิตกันรัวๆ) พี่ขอจอง 500 เอาปะ สนใจมะ
(ยังไงเราก็จะไม่เอา ไม่ซื้อเด็ดขาด)

สุดท้ายดูท่าแล้ว ชะนีน้อยคนนี้ยังไงก็คงไม่ควักเงินให้ + พี่แกเหนื่อยที่จะพูดแล้ว ขอเล่าข้ามช็อต ตัดบท "ถ้าน้องไม่เอาก็เชิญได้เลยครับ/ค่ะ(ไม่แน่ใจ)"
เราก็ "ค่ะ" พร้อมพยักหน้า ยกมือไหว้ "ขอบคุณค่ะ" พร้อมลุกขึ้นจะกลับ
ก็แกก็พยักหน้าตอบ "จ่ะ" พยักหน้า แล้วลุกขึ้นออกจากโต๊ะ

*พอเราหันหลัง จะเดินลงบันไดเลื่อนที่อยู่ใกล้ๆกันเพื่อลงไปชั้น 4 เอะใจอะไรไม่รู้หันกลับไปที่บูธ
เห็นพี่เกย์ แกกำลังทำหน้าด่าอย่างเมามัน กับพี่ผญ.คนที่เรียกเรามานั่งตอนแรก ด่าเราแบบสีหน้าออกมา เข้าใจเกย์สาวหน่อยๆด่าคนปะคะ สีหน้าท่าทางจะออกมาหมดเลย ดูชัดมาก
เราก็จ้องพี่เค้าเขม็งเลย พี่เกย์แกหันหน้ามาป๊ะกับเราที่จ้องนางอยู่พอดี แกก็หุบปากที่กำลังอ้ากว้างๆด่าเรา แล้วก็พยายามเก็บสีหน้า
เราก็หันหลังกลับกำลังจะลงบันไดเลื่อนไป
มีกลุ่มน้อง ร.ด.ผู้ชาย 5-6 คนอยู่ข้างหน้าเรา หันหน้ามาทางเรา เพราะฉะนั้นน้องๆจะเห็นหมดเลยว่าพี่เกย์ทำกิริยาอะไรลับหลังเราบ้าง
เราได้ยิน 1 ในกลุ่มน้องนั้นพูดว่า "เห้ย อะไรวะ" (ประมาณนั้นค่ะ เสียงน้องเบามาก แต่เราจับสังเกตน้างได้) คิดว่าพี่เกย์คงจะกำลังด่าเราอยู่ลับหลัง ตอนที่เราหันหลังให้ เสี้ยววินาทีพี่เกย์แกก็พูดเสียงไล่หลังขึ้นมาว่า "น้องจ้ะ อันนั้นพี่ให้สำหรับลูกค้านะจ้ะ" (ในมือเราถือโบชัวร์ของนางอยู่ ที่พี่ผญ.คนแรกให้เราไว้ คิดว่าน่าเป็นวอยเชอร์ให้ไปแลกทำคอร์สฟรีหนึ่งครั้ง ตามที่พี่ผญ.คนแรกบอกมั้ง)
เราก็ "อ๋อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ" (เราคิดว่าเป็นโบชัวร์ธรรมดาเฉยๆ ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเล้ยยย ลืมไปแล้วไอ้เรื่องวอยเชอร์ให้ไปทำ คือไม่คิดจะย่างกายเข้าไปในร้านคุณอีกแล้วตลอดชีวิต) แล้วเราก็เดินลงบันไดเลื่อนตามกลุ่มน้องร.ด.ไป

ตอนนั้นใจสั่น โกรธ โมโห มันเป็นอารมณ์หลายอารมณ์ปนกัน ที่บอกไม่ถูก เกิดมาไม่เคยโดนพูดดูถูกขนาดนี้ ไหนจะกิริยาลับหลัง
พี่คงคิดว่า สมัยนี้สถาบันไม่ได้ง้อลูกค้าแล้วนะ อะไรแบบนี้รึเปล่า แต่พี่ก็ไม่ควรแสดงกิริยาแบบนี้ออกมาปะ อย่างน้อยมันก็เป็นกิริยามารยาททางสังคม
คือหนูแค่ปฏิเสธไม่รับบริการ ซึ่งมันเป็นสิทธิ์การตัดสินใจของผู้บริโภคออยู่แล้วว่าจะรับหรือไม่รับ

หนูไปว่าอะไรพี่ ว่าอะไรครอบครัวพี่รึเปล่า ถึงต้องมาแสดงกิริยาลับหลัง เหมือนโกรธแค้นกันปานฉนี้

จำไว้นะ ถ้าพี่ได้มาอ่านกระทู้ของหนู คนที่เค้าไม่ได้พกเงินสด ไม่ได้แปลว่าไม่มีเงินอยู่ในบัญชี และไม่ได้แปลว่าจน ต่อให้คนที่เค้าตั้งใจอยากมาทำจริงๆ หรือหนูอยากมาทำจริงๆ เป็นหมื่น เป็นแสนก็จ่าย บ้านมีฐานะค่ะ แต่แค่ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น แต่มาบังคับกันแบบนี้ ด้วยความไม่เต็มใจ ยังไงก็ไม่ควักเงินให้เด็ดขาด (บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า จะไม่เสียเงินให้กับถูกบังคับหรือการหลอกขายอะไรแบบนี้เด็ดขาด ยังไงก็จะไม่ให้)

คืนนี้ขอให้พี่นอนอมทุกข์ รู้สึกแย่ รู้สึกหงุดหงิดอะไรของพี่ก็แล้วแต่ ไปทั้งคืน ให้สมกับที่พี่ทำให้สุขภาพจิตหนูเสีย

ปล. ตลอดเวลาที่พี่ผญ.ส่งต่อเราให้พี่เกย์ไม่มีมารยาทคนนี้แล้ว พี่ผญ.ก็ไม่เดินมาหาเราอีกเลย ไปยืนอยู่อีกตรงมุมนึงแทน ตอนเรารู้สึกอีดอัดเราพยายามหันไปหาพี่เค้า ให้พี่เค้าเดินมาหา แต่พี่ผญ.ไม่หันมาเลย
ปล.2 ไม่เคยดูถูกอาชีพแบบนี้เลยนะ กลับคิดว่าอยากช่วย เห็นใจด้วยซ้ำ พนง.ยืนกันเต็มหน้าร้าน แต่ไม่มีลูกค้าเข้าสักคน
ปล.3 เรามีเพื่อน มีรุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่เป็นเกย์ ตุ๊ด กะเทย อยู่ก็ไม่น้อยนะ เข้าใจว่าเพศนี้อาจจะแรงๆหน่อย เวลาด่าก็ด่าแรง แต่ก็ไม่เคยมีใครแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมทั้งคำพูด และการกระทำแบบนี้เลยถึงจะแรง แต่ก็น่ารัก และมีขอบเขต ไม่ล่วงเกิน ก้าวก่ายชีวิตคนอื่น จริงๆจะว่าอยู่ที่เพศก็ไม่ถูก ต้องอยู่ที่คนมากกว่า แต่ก็แอบคิดนะ ว่าถ้าเราเป็นผช.พี่แกจะยังพูดแบบนี้กับเรามั้ย แล้วก็ไม่อยากเหมารวมสถาบันความงามด้วย มันเป็นที่คนจริงๆ

ถ้าโพสนี้ทำให้ใครไม่พอใจ หรือกระทบใครต้องขอโทษด้วยนะคะ
อยากให้พี่เกย์มาอ่านจัง แน่นอนคงมีคนสงสัยว่าเราทำไมเราไม่ตอกกลับไปบ้าน เราไปคนเดียว และสถานการณ์ที่อึดอัดแบบนั้น  ทำให้เรารู้สึกประหม่า และพี่เกย์ก็พูดเร็ว เราหาช่องลำบาก (เข้าใจ ใช่มั้ยคะว่า เวลาคนขายของ เค้าพูดเร็วแค่ไหน)

หรือคอมเพลนตรงนั้นเลย จะมาตั้งกระทู้ทำไม พนง.จะเห็นเปล่าก็ไม่รู้ เราบอกเลยว่าตอนนั้นที่เรายังยืนอยู่ที่บูธ เรายังไม่คิดจะมาตั้งกระทู้ด้วยซ้ำ คิดแค่ว่าจะโทรไป call center หรือแจ้งไปทางเว็บไซต์ แบบเป็นส่วนตัวแค่นั้น แต่พอเห็นกิริยาที่พี่เกย์ทำลับหลังกับเราแล้ว มันทำให้เราคิดใหม่+มีพี่ๆเพื่อนๆหลายคนที่เราเล่าให้ฟัง แล้วเค้าอยากให้เรามาตั้งกระทู้ในนี้

ขอบคุณที่สละเวลาค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศัลยกรรมความงาม สิว คลินิกความงาม ความงาม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่