การรอรักทางไกลกับแฟนต่างชาติ ทำสิ่งที่ดีในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ได้ถึงฝั่งฝันกันอย่างไรน๊า !?
ขอแชร์ และขอเชิญพี่ๆน้องๆ และเพื่อนๆ ที่กำลังรอรักทางไกลกับแฟนชาวต่างชาติ หรือได้ผ่านการรอคอยไปได้ จนสมหวังในความรักแล้ว มาร่วมพูดคุย แบ่งปันความคิดเห็นกันน๊า ! มาให้กำลังใจกัน แนะนำการทำสิ่งที่ดีในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ "การรอคอย" ผ่านไปได้ "อย่างสบายๆ" ไม่ทรมานเพราะความคิดถึง และไม่คิดฟุ้งสร้านจนจิตตก และในช่วงความสัมพันธ์ก็ต้องมีปัญหากันเป็นธรรมดาโน๊ะ ! เรามาพูดคุยปรึกษาหาทางแก้ไขกัน จนกระทั่งในที่สุดก็ได้ลงเอย ได้ร่วมเรียงเคียงหมอนได้อยู่ด้วยกัน ได้แต่งงาน และหรือได้จดทะเบียนสมรสกัน
ก็ถือว่าได้จบขั้นตอนแรก คือ "การถึงฝั่งฝันสมหวังในชีวิตรัก"
ในความสัมพันธ์ต้องค่อนข้างแน่นอนชัดเจน ต้องเป็นระยะเวลาที่ได้คบหากันเป็นปีขึ้นไปได้พบเจอกันตัวเป็นๆ ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันมาแล้วในระดับหนึ่ง และได้พูดคุยทักทายกันเป็นประจำ กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ยิ่งๆขึ้นในทุกวัน
ถึงจะเป็นอารมณ์เดียวกัน ถึงจะเข้าใจกันได้ดี และสามารถพูดคุยกันได้อย่างมีอรรถรส จึงจะเกิดประโยชน์กับทุกๆคน ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าเข้ามาเขียน มาให้ข้อคิดเห็น มาเมนท์ มาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ มีสาระกัน ส่วนคนที่พบเจอสมหวังได้อยู่กิน/แต่งงานกันไป แบบสายฟ้าแลบแป๊บๆคงไม่รู้ซึ้งถึงการรอคอย กับรักทางไกลเป็นปีๆ ก็คงเป็นความรู้สึกคนละแบบกันกับกระทู้นี้นะคะ
ขอให้ใจกันนิดหนึ่งนะคะ เพราะตัว จขกท. เป็นผู้หญิงสูงวัยค่ะ แต่หัวใจยังมีความรักอยู่

ขอตกลงกันว่า กระทู้นี้จะเป็นการพูดคุย ปรึกษาหารือแบ่งปันประสบการณ์ ให้กำลังใจกันถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่า ชีวิตนี้จะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น แต่ถ้าคิดว่าอ่านกระทู้นี้แล้วไม่ถูกใจไม่ชอบ ก็ขอความกรุณา ผ่านเลยไปนะ อย่า ! ได้เสียเวลาออกแรงนิ้วมือ มาเขียนเสียดสี-ดัน ทำลายกำลังใจ สร้างวจีกรรม มโนกรรมต่อกันจากการเม้นท์เลยค่ะ...เพราะ จขกท. จะลบไม่อ่านหมดหรอกนะคะ อีกอย่างถ้าใครอยู่สายมโน ไม่ต้องเข้ามาวาดวิมานในอากาศให้ฟังนะ ตรงนี่ขอเรื่องจริง ที่อยู่ในโลกความเป็นจริงเท่านั้นค่ะ

มาเริ่มเรื่องของ จขกท.กัน ขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะ...... พี่ในปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญค่ะ ได้เออรี่รีไทร์งานหลังจากทำงานมาครบ 30 ปี เป็นซิงเกิลมัมค่ะ มีลูกหนึ่งคนอายุยี่สิบ หลังจากออกจากงานก็ต้องอยู่บ้านเฉยๆ กินเงินบำนาญไปเป็นเดือนๆ มีความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า หายใจทิ้งไปเป็นวันๆ รู้สึกเหงา พาให้คิดถึงยามแก่ชรา ถ้ายังมีโอกาส สามารถหาใครสักคนที่ดีสำหรับพี่ มาร่วมใช้ชีวิตในบั้นปลายด้วยกัน ดูแลกัน ฝากผีฝากไข้ ในยามแก่ชราก็คงจะดีไม่น้อย ก็เลยให้โอกาสเปิดใจตัวเองอีกครั้ง แต่ก็มีเป้าหมายว่าต้องได้คนดี
ชีวิตต้องดีกว่านี้ ถ้าได้ชีวิตเท่าเดิมหรือแย่ลง ก็จะขออยู่คนเดียวดีกว่า
โชคชะตาลิขิตได้พบเจอกับชายต่างชาติ อายุอานามก็วัยใกล้เคียงกัน 50+ ความสูง ความหล่อก็ตรงสเป็คพอดี หน้าที่การงานก็ดีมากเป็นนักบินพาณิชย์ บินสายเอเชีย มีฐานบินอยู่บ้านเราทำงานที่นี่เป็นสิบปี มีหลักฐานดี เราได้คบหากันมาถึงเวลานี้ก็ได้ปีครึ่ง ความสัมพันธ์ก็เป็นไปด้วยดี ก็มีแต่ที่ได้พบเจอกันในครั้งแรกๆ ก็มีปัญหาไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ก็เดินหน้าต่อ..เหมือนกับคำที่เขาว่ากันว่า
รู้จักพูดคุยกันในเนตเป็นปี ก็ไม่เท่ากับการได้พูดคุยกันตัวจริงๆ แค่วันเดียว ..นั่นมันใช่เลยจริงๆ ถ้าใครยังไม่ได้พบเจอกันตัวจริงๆแล้ว
"ขออย่าได้เรียกว่าแฟนเลยนะ" ขอร้องหละค่ะ
เราก็บอกรัก บอกชอบกัน ต่างก็ถูกใจกัน เค้าบอกต้องการพี่ไปเป็นครอบครัวเค้า พี่เองก็ต้องปรับตัวยอมรับ ให้เค้าเป็นผู้นำพี่ เค้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง พี่ต้องยอมรับการเป็นผู้ตาม ต้องปรับตัวบ้าง เพราะพี่เองตอนทำงานก็มีหัวโขนเป็นผู้นำองค์กรด้วย มีชีวิตครอบครัวก็เคยชินแต่เป็นผู้นำครอบครัวมาตลอดจนถึงตอนนี้ มันติดความเคยชินมาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ได้ถอดหัวโขนหนักๆ เรื่องงานนั่นออกไปแล้ว ก็ต้องพยายามเตือนตัวเองบ่อยๆว่าต่อไปนี้เราต้องฝึกเป็น "ผู้ตามที่ดี" บ้างจะไปแข่งกันเป็น "ผู้นำ" ก็คงใช่ที่ไม่ดีแน่ๆเป็นผู้ตามก็สบายดี ต้องท่องไว้ๆฉันคือ
ผู้หญิงที่อ่อนหวาน น่าถนุถนอม หุหุ..
แฟนพี่ ทำงานยุ่งมาก รับผิดชอบงานสูง เรื่องเวลาน่ะไม่ต้องถามหา เค้าไม่ชอบคนจู้จี้ จุกจิกกวนใจ เรื่องมากนะ ชอบอยู่แบบสบายๆ หลังจากงาน ต้องการพักผ่อน นอนหลับ เพื่อจะได้มีแรงไปรับผิดชอบงานต่อเท่านั้น เค้าก็พยายามจะหาเวลาให้พี่ พาไปทานข้าว หาขนม หาไอศครีม อร่อยๆกินกันไปช้อปปิ้งที่ห้างฯไอทีกัน ชอบพากันไปร้องเพลงคาราโอเกะ อืมๆ..พี่ลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่งว่า พี่กับเค้าอยู่อาศัยกันคนละจังหวัดนะ ระยะทางไกลกันหลายๆร้อยกิโลเชียวแหล่ะ เค้าเองก็ต้องเดินทางไกลอยู่ห่างกันไกลๆเป็นกิจวัตร พี่จึงมีเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวมาก ถ้าไม่บริหารเวลาจัดการให้ดีๆ ก็จะทรมานในการรอคอยเป็นอย่างมากทีเดียว
เราได้ตกลงกันที่จะเปลี่ยนกันเดินทางไปมาหากัน แต่ยิ่งเคยได้อยู่ด้วยกัน ได้พบเจอกัน ยิ่งทำให้รู้สึกผูกพันธ์กัน เมื่ออยู่ห่างกันก็ยิ่งทำให้คิดถึงกันมากยิ่งขึ้นๆ ตอนนี้ก็เลยเข้าประเด็นหัวเรื่องกระทู้ว่าพี่
ได้ทำสิ่งที่ดีในชีวิตประจำวันอย่างไร? เพื่อไม่ให้การที่ต้องรอคอย มันทรมานมากเกินไป จนทำให้จิตตก ว้าวุ่น แล้วไปเรียกร้องเวลาจากแฟนพี่ ไปกวนใจเค้า ซึ่งการที่ไปจุกจิก เรียกร้อง เรื่องมากกับเค้า ก็จะยิ่งทำให้เค้าเกิดความเบื่อหน่าย เหนื่อยใจ แล้วความสัมพันธ์ของเรามันก็จะยิ่งแย่ลงไป สร้างเรื่องทะเลาะกันมีปัญหาไม่เข้าใจกันไปโน่นอีก ทุกอย่างมันเป็นไปได้ถ้าคนเราฟุ้งซ่านจิตตกวิตกกังวลอ่ะโน๊ะ !
พี่นะ ก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีเลิศประเสริฐศรี ที่ไหนหรอก ก็คือผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งนั่นแหล่ะ มีอารมณ์งี่เง่า อยากให้คนมาเอาใจ อยากอยู่ใกล้แฟน

(ถึงจะแก่แล้วก็เหอะ) รู้สึกเหงาเป็น บางอารมณ์มันก็อยากใจร้อน อยากเร่งรัดจะให้ได้อย่างใจไวๆ ว่างั้นเหอะ.. เมื่อพี่มีอารมณ์แบบนี้ขึ้นมา พี่ก็จะค่อยๆ ตะล่อมอารมณ์ที่มันฟุ้งๆ ให้มันสงบ อยู่ในขอบเขตพอดีๆ อย่าเพิ่งไปเวิ่นเว้อ !

นะอิสาวแก่ ตามอารมณ์ตัวเองให้ทันไม่งั้นผีบ้าจะเข้าสิงแล้ว ก็ต้องรู้ต้องเปลี่ยนให้ไว ต้องทำตัวให้เค้ารู้ว่า
"ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน..แต่ตัวชั้นแน่นะ รู้มั๊ย" ก็สามารถคอนโทรลอารมณ์ได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่ก็แอบหวั่นๆอยู้ ! กลัวจะหลุด ดีแตกเข้าซักวัน อิอิ..จึงต้องมาเขียน มาระบายที่นี่ไงคะ

แล้วก็หาพวกพ้องเพื่อนๆ ไว้แชร์เรื่องราวกันไงอ่ะ ตัวเอง(ความคิดดีมั้ย?) แต่ก็ไม่ใช่แค่คอยแต่คอนโทรลความรู้สึกนึกคิดอารมณ์อย่างเดียวนะ ก็ต้องมีอย่างอื่นทำด้วยน๊า จะได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์มั่งเนาะ ต้องมีงานทำค๊า เวลามันถึงจะมีความหมาย
"งานคือ การอธิบายตัวตน" เหมือนนักเขียนท่านหนึ่งให้คำนิยามไว้..
ทำงานอดิเรกที่คุณรักให้เป็น"เงิน"ตั้งแต่คุณยังมีแรง.....แล้วชีวิตคุณจะเล่นเป็น"เงิน"ทั้งชีวิต..เพราะเราดูแลตัวเองได้ และได้ทำ *สิ่งที่รัก* .. "ที่อธิบายตัวเราชั่วชีวิต"
พี่ได้ทำอย่างนั้นมาจริงๆ ก่อนที่จะได้อ่านบทความนั้น(เมื่อวานนี้)เสียอีกนะ มันเป็นความคิดที่ตรงใจกันจริงๆ ซึ่งพี่เองได้ทำงานอดิเรกที่พี่รัก ในทุกวันนี้ พี่ชอบการอ่าน การเขียน ชอบหาความรู้ใส่ตัว ทั้งทางด้านไอที รักการถ่ายรูป ชอบรูปภาพสวยๆ ชอบครีเอทตกแต่ง ชอบงานศิลปะ ทำแล้วมีความสุข รู้สึกว่าได้ใช้เวลาให้มีประโยชน์ แล้วเชื่อมั่ยว่า....เวลาผ่านไปไวจริงๆ บางทีลืม! ที่จะคิดถึงแฟน เลยหละ 555 พี่ไม่ได้นั่งคอยรอ รอคอย เฉยๆ เฝ้าแต่รอๆ ราชรถมาเกย ..มันไม่ได้หรอกนะว่าไหม? ถ้ามัวแต่รอเดี๊ยวก็จะเป็นบ้า สติแตก ดีไม่ดีไปกวนใจแฟนพี่ รับรองว่าคงได้ถึงจุดจบไม่สวยแน่ๆ เค้าขี้รำคาญอยู่ค่ะ
ถึงแม้จะมีงานอดิเรกทำทุกวัน แต่มันยังไม่พอหร๊อก สำหรับคนอย่างพี่ ต้องทำให้หัวใจ

แข็งแรง และร่างกาย

แข็งแรงด้วย ถึงจะครบสูตรสาวสองพันปี 555 เอิ๊กกๆๆ นั่งแต่ทำงาน หรือคอยแต่ท่องเน็ต ติดตามอ่านแต่เรื่องฮอทๆ เรื่องรักๆใคร่ๆ18+ ดูซีรี่ย์เกาหลี กันทั้งวั่นก็ไม่ได้น๊า สายตาคู่นี้ก็ใช้มานานมากแล้ว มันเมื่อยประท้วงเตือนมาบ้างแล้ว บางทีตัวหนังสือก็เล็กเล้กเพ่งดูจนปวดลูกกะตา ไม่ดีนะค๊า! สาวๆ ก็ต้องแบ่งเวลาไปออกกำลังกายกันมั่งนะ พี่ก็ออกกำลังกายวันละ ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพี่แข็งแรง แล้วก็แบ่งเวลาสวดมนตร์ไหว้พระนั่งสมาธิสักชั่วโมงหนึ่งให้ใจแข็งแรงด้วยค่ะ
พี่ได้ตั้งใจนำเรื่องราวของพี่เองมาแบ่งปันที่นี่ มาเล่าสู่กันฟัง นั่นคือ *สิ่งที่คิดว่าได้ทำดีในแต่ละวัน* ของพี่แล้ว ในช่วงเวลาที่ต้องรอคอย และถ้าหากสิ่งที่พี่ทำนี้ยังดีไม่พอ....ในระหว่างเวลาที่รอคอยนี้เกิดมีปัญหาขึ้นมาที่อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ความรักของพี่จะไปไม่ถึงฝั่งฝันแล้วละก็ พี่จะขอเข้ามาปรึกษาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่กระทู้นี้อีกครั้ง พี่ก็หวังว่าความสัมพันธ์ของพี่กับคนรัก จะพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงวันนั้นวันที่ได้อยู่ครองคู่กัน นั่นก็จะเป็นการจบขั้นตอนแรกของความรักคือ
"การบรรลุเป้าหมาย สมหวังในชีวิตรัก" แล้วพี่จะเข้ามาเล่าสู่กันฟังต่อไปนะคะ
จุ๊บ จุ๊บ !!
การรอรักทางไกลกับแฟนต่างชาติ ทำสิ่งที่ดีในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ได้ถึงฝั่งฝันกันอย่างไร !?
ขอแชร์ และขอเชิญพี่ๆน้องๆ และเพื่อนๆ ที่กำลังรอรักทางไกลกับแฟนชาวต่างชาติ หรือได้ผ่านการรอคอยไปได้ จนสมหวังในความรักแล้ว มาร่วมพูดคุย แบ่งปันความคิดเห็นกันน๊า ! มาให้กำลังใจกัน แนะนำการทำสิ่งที่ดีในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ "การรอคอย" ผ่านไปได้ "อย่างสบายๆ" ไม่ทรมานเพราะความคิดถึง และไม่คิดฟุ้งสร้านจนจิตตก และในช่วงความสัมพันธ์ก็ต้องมีปัญหากันเป็นธรรมดาโน๊ะ ! เรามาพูดคุยปรึกษาหาทางแก้ไขกัน จนกระทั่งในที่สุดก็ได้ลงเอย ได้ร่วมเรียงเคียงหมอนได้อยู่ด้วยกัน ได้แต่งงาน และหรือได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็ถือว่าได้จบขั้นตอนแรก คือ "การถึงฝั่งฝันสมหวังในชีวิตรัก"
ในความสัมพันธ์ต้องค่อนข้างแน่นอนชัดเจน ต้องเป็นระยะเวลาที่ได้คบหากันเป็นปีขึ้นไปได้พบเจอกันตัวเป็นๆ ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันมาแล้วในระดับหนึ่ง และได้พูดคุยทักทายกันเป็นประจำ กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ยิ่งๆขึ้นในทุกวัน ถึงจะเป็นอารมณ์เดียวกัน ถึงจะเข้าใจกันได้ดี และสามารถพูดคุยกันได้อย่างมีอรรถรส จึงจะเกิดประโยชน์กับทุกๆคน ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าเข้ามาเขียน มาให้ข้อคิดเห็น มาเมนท์ มาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ มีสาระกัน ส่วนคนที่พบเจอสมหวังได้อยู่กิน/แต่งงานกันไป แบบสายฟ้าแลบแป๊บๆคงไม่รู้ซึ้งถึงการรอคอย กับรักทางไกลเป็นปีๆ ก็คงเป็นความรู้สึกคนละแบบกันกับกระทู้นี้นะคะ
ขอให้ใจกันนิดหนึ่งนะคะ เพราะตัว จขกท. เป็นผู้หญิงสูงวัยค่ะ แต่หัวใจยังมีความรักอยู่
โชคชะตาลิขิตได้พบเจอกับชายต่างชาติ อายุอานามก็วัยใกล้เคียงกัน 50+ ความสูง ความหล่อก็ตรงสเป็คพอดี หน้าที่การงานก็ดีมากเป็นนักบินพาณิชย์ บินสายเอเชีย มีฐานบินอยู่บ้านเราทำงานที่นี่เป็นสิบปี มีหลักฐานดี เราได้คบหากันมาถึงเวลานี้ก็ได้ปีครึ่ง ความสัมพันธ์ก็เป็นไปด้วยดี ก็มีแต่ที่ได้พบเจอกันในครั้งแรกๆ ก็มีปัญหาไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ก็เดินหน้าต่อ..เหมือนกับคำที่เขาว่ากันว่า รู้จักพูดคุยกันในเนตเป็นปี ก็ไม่เท่ากับการได้พูดคุยกันตัวจริงๆ แค่วันเดียว ..นั่นมันใช่เลยจริงๆ ถ้าใครยังไม่ได้พบเจอกันตัวจริงๆแล้ว "ขออย่าได้เรียกว่าแฟนเลยนะ" ขอร้องหละค่ะ
เราก็บอกรัก บอกชอบกัน ต่างก็ถูกใจกัน เค้าบอกต้องการพี่ไปเป็นครอบครัวเค้า พี่เองก็ต้องปรับตัวยอมรับ ให้เค้าเป็นผู้นำพี่ เค้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง พี่ต้องยอมรับการเป็นผู้ตาม ต้องปรับตัวบ้าง เพราะพี่เองตอนทำงานก็มีหัวโขนเป็นผู้นำองค์กรด้วย มีชีวิตครอบครัวก็เคยชินแต่เป็นผู้นำครอบครัวมาตลอดจนถึงตอนนี้ มันติดความเคยชินมาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ได้ถอดหัวโขนหนักๆ เรื่องงานนั่นออกไปแล้ว ก็ต้องพยายามเตือนตัวเองบ่อยๆว่าต่อไปนี้เราต้องฝึกเป็น "ผู้ตามที่ดี" บ้างจะไปแข่งกันเป็น "ผู้นำ" ก็คงใช่ที่ไม่ดีแน่ๆเป็นผู้ตามก็สบายดี ต้องท่องไว้ๆฉันคือ ผู้หญิงที่อ่อนหวาน น่าถนุถนอม หุหุ..
แฟนพี่ ทำงานยุ่งมาก รับผิดชอบงานสูง เรื่องเวลาน่ะไม่ต้องถามหา เค้าไม่ชอบคนจู้จี้ จุกจิกกวนใจ เรื่องมากนะ ชอบอยู่แบบสบายๆ หลังจากงาน ต้องการพักผ่อน นอนหลับ เพื่อจะได้มีแรงไปรับผิดชอบงานต่อเท่านั้น เค้าก็พยายามจะหาเวลาให้พี่ พาไปทานข้าว หาขนม หาไอศครีม อร่อยๆกินกันไปช้อปปิ้งที่ห้างฯไอทีกัน ชอบพากันไปร้องเพลงคาราโอเกะ อืมๆ..พี่ลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่งว่า พี่กับเค้าอยู่อาศัยกันคนละจังหวัดนะ ระยะทางไกลกันหลายๆร้อยกิโลเชียวแหล่ะ เค้าเองก็ต้องเดินทางไกลอยู่ห่างกันไกลๆเป็นกิจวัตร พี่จึงมีเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวมาก ถ้าไม่บริหารเวลาจัดการให้ดีๆ ก็จะทรมานในการรอคอยเป็นอย่างมากทีเดียว
เราได้ตกลงกันที่จะเปลี่ยนกันเดินทางไปมาหากัน แต่ยิ่งเคยได้อยู่ด้วยกัน ได้พบเจอกัน ยิ่งทำให้รู้สึกผูกพันธ์กัน เมื่ออยู่ห่างกันก็ยิ่งทำให้คิดถึงกันมากยิ่งขึ้นๆ ตอนนี้ก็เลยเข้าประเด็นหัวเรื่องกระทู้ว่าพี่ ได้ทำสิ่งที่ดีในชีวิตประจำวันอย่างไร? เพื่อไม่ให้การที่ต้องรอคอย มันทรมานมากเกินไป จนทำให้จิตตก ว้าวุ่น แล้วไปเรียกร้องเวลาจากแฟนพี่ ไปกวนใจเค้า ซึ่งการที่ไปจุกจิก เรียกร้อง เรื่องมากกับเค้า ก็จะยิ่งทำให้เค้าเกิดความเบื่อหน่าย เหนื่อยใจ แล้วความสัมพันธ์ของเรามันก็จะยิ่งแย่ลงไป สร้างเรื่องทะเลาะกันมีปัญหาไม่เข้าใจกันไปโน่นอีก ทุกอย่างมันเป็นไปได้ถ้าคนเราฟุ้งซ่านจิตตกวิตกกังวลอ่ะโน๊ะ !
พี่นะ ก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีเลิศประเสริฐศรี ที่ไหนหรอก ก็คือผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งนั่นแหล่ะ มีอารมณ์งี่เง่า อยากให้คนมาเอาใจ อยากอยู่ใกล้แฟน
แต่ก็แอบหวั่นๆอยู้ ! กลัวจะหลุด ดีแตกเข้าซักวัน อิอิ..จึงต้องมาเขียน มาระบายที่นี่ไงคะ
พี่ได้ทำอย่างนั้นมาจริงๆ ก่อนที่จะได้อ่านบทความนั้น(เมื่อวานนี้)เสียอีกนะ มันเป็นความคิดที่ตรงใจกันจริงๆ ซึ่งพี่เองได้ทำงานอดิเรกที่พี่รัก ในทุกวันนี้ พี่ชอบการอ่าน การเขียน ชอบหาความรู้ใส่ตัว ทั้งทางด้านไอที รักการถ่ายรูป ชอบรูปภาพสวยๆ ชอบครีเอทตกแต่ง ชอบงานศิลปะ ทำแล้วมีความสุข รู้สึกว่าได้ใช้เวลาให้มีประโยชน์ แล้วเชื่อมั่ยว่า....เวลาผ่านไปไวจริงๆ บางทีลืม! ที่จะคิดถึงแฟน เลยหละ 555 พี่ไม่ได้นั่งคอยรอ รอคอย เฉยๆ เฝ้าแต่รอๆ ราชรถมาเกย ..มันไม่ได้หรอกนะว่าไหม? ถ้ามัวแต่รอเดี๊ยวก็จะเป็นบ้า สติแตก ดีไม่ดีไปกวนใจแฟนพี่ รับรองว่าคงได้ถึงจุดจบไม่สวยแน่ๆ เค้าขี้รำคาญอยู่ค่ะ
ถึงแม้จะมีงานอดิเรกทำทุกวัน แต่มันยังไม่พอหร๊อก สำหรับคนอย่างพี่ ต้องทำให้หัวใจ
พี่ได้ตั้งใจนำเรื่องราวของพี่เองมาแบ่งปันที่นี่ มาเล่าสู่กันฟัง นั่นคือ *สิ่งที่คิดว่าได้ทำดีในแต่ละวัน* ของพี่แล้ว ในช่วงเวลาที่ต้องรอคอย และถ้าหากสิ่งที่พี่ทำนี้ยังดีไม่พอ....ในระหว่างเวลาที่รอคอยนี้เกิดมีปัญหาขึ้นมาที่อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ความรักของพี่จะไปไม่ถึงฝั่งฝันแล้วละก็ พี่จะขอเข้ามาปรึกษาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่กระทู้นี้อีกครั้ง พี่ก็หวังว่าความสัมพันธ์ของพี่กับคนรัก จะพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงวันนั้นวันที่ได้อยู่ครองคู่กัน นั่นก็จะเป็นการจบขั้นตอนแรกของความรักคือ "การบรรลุเป้าหมาย สมหวังในชีวิตรัก" แล้วพี่จะเข้ามาเล่าสู่กันฟังต่อไปนะคะ จุ๊บ จุ๊บ !!