คนชอบวิ่ง ๑๑ ต.ค.๕๘

คนชอบวื่ง

เรื่องสั้น

คนชอบวิ่ง

"เพทาย"

ชีวิตราชการของผมนั้น หลังจากที่สำเร็จจากโรงเรียนนายสิบแล้ว ก็ได้รับการบรรจุให้อยู่ในหน่วยส่วนกลาง ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการเลื่อนลด ปลดย้ายข้าราชการ ตำแหน่งเดียวตลอดเวลาสามสิบปี ผมจึงมีเรื่องที่จะต้องเกี่ยวพัน กับผู้สมัครเข้ารับราชการ ผู้ที่ประสงค์จะขอย้ายตนเองไปอยู่หน่วยอื่น หรือกลับไปอยู่ในหน่วยแถวบ้านเดิม และผู้ที่ขอลาออกจากราชการ นับจำนวนเป็นร้อยเป็นพันคน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามหลัก
เกณฑ์ของทางราชการ แต่ที่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้บังคับบัญชา ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา

การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการนั้น เป็นการเปิดรับสมัครสอบคัดเลือก โดยมีคณะกรรมการ ที่เป็นนายทหารผู้ใหญ่ ดำเนินการได้ผลเป็นประการใดแล้ว จึงส่งรายชื่อผู้ที่สอบได้ทั้งหมด มาให้ผมตรวจสอบเอกสาร และรายงานขอบรรจุไปยังหน่วยเหนือ เรียกว่าใช้ระบบคุณธรรม

เว้นแต่การบรรจุทดแทนผู้ที่ถึงแก่กรรม หรือลาออกจากราชการ จึงจะใช้ระบบอุปถัมภ์ คือพิจารณาบรรจุจากบุตรหลาน ของผู้ที่ตายหรือลาออก
ไปก่อน หากไม่มีก็จะบรรจุจากบุตรหลานของข้าราชการผู้อื่น ในหน่วยต่อไป แต่ถ้ามีคนมากกว่าอัตราว่าง ก็ต้องสอบคัดเลือกเช่นเดียวกัน

ผมจึงต้องพบกับผู้ที่คิดว่า ผมจะมีความสามารถทำให้เขา หรือลูกหลานของเขาได้เข้ารับราชการ อยู่เนือง ๆ บางคนก็ติดต่อผ่านนายหน้า ซึ่งเป็นผู้ที่ผมรู้จักคุ้นเคย ให้ช่วยเหลือโดยเสนอให้เงินเป็นจำนวนพอควร ผมก็ต้องปฏิเสธไปทุกครั้ง

บางทีแม้ผมจะอธิบายว่า ผมไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการคัดเลือก เขาก็ไม่เชื่อหาว่าไม่ช่วยกัน และถึงกับโกรธกันไปเลยก็มี นอกจากบางครั้งจะมีผู้แอบอ้างว่าได้ติดต่อผมแล้ว และมาขู่เข็ญให้ผมทำอะไรตามใจเขา ผมก็ต้องตะเพิดให้ไปบอกผู้นั้นมายืนยันกับผม ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมา

ผมถึงกับอบรมสั่งสอนลูกน้องว่า อย่าได้ทำสิ่งใดให้ผิดระเบียบข้อบังคับ หรือรับเงินทองของกำนัลใด ๆ เป็นอันขาด

นอกจากเมื่อเขาได้รับความสำเร็จสมประสงค์ ตามระเบียบของทางการแล้ว มีการเลี้ยงแสดงความยินดี แล้วมาเชิญเราไปเป็นแขก อย่างนั้นจึงพอจะรับได้บ้าง ตามความเหมาะสม

แม้แต่ผู้ที่ต้องการจะย้ายก็เหมือนกัน ถ้าไม่เข้าหลักเกณฑ์แล้ว ผมก็ช่วยไม่ได้ เพียงแต่ให้คำแนะนำว่าควรจะไปหาใคร หรือปฏิบัติอย่างไรเท่านั้น บางรายบอกว่าเตรียมเงินไว้วิ่งเต้นเรื่องนี้ เป็นจำนวนมาก ผมก็ต้องบอกให้เก็บเอาไว้ใช้ในเรื่องอื่นเถิด เพราะผมถือคติที่ว่า

............ถ้าทำงานเห็นแก่หน้า จะต้องแก้ปัญหาไม่รู้จบ............

มีกรณีพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ การบรรจุนักกีฬา พวกที่มีความสามารถในการกีฬา ไม่ว่าชนิดใด ประเภทใด ถ้ามาสมัครแล้วจะได้รับการพิจารณาบรรจุทันที และในบางโอกาส ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบด้านกีฬาของหน่วย ต้องไปเที่ยวเสาะหานักกีฬา เอามาบรรจุเสียด้วยซ้ำ พวกนี้ส่วนมากจะได้มาในเวลาที่ใกล้เคียงกับฤดูการแข่งขันกีฬา

ซึ่งนอกจากผมจะต้องรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน เสนอรายงานไปยังหน่วยเหนือผู้อนุมัติบรรจุแล้ว ยังจะต้องติดตามเรื่องไปตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้สามารถออกคำสั่งบรรจุได้ทันการแข่งขัน ในปีนั้นอีกด้วย บางทีต้องไปชูคำสั่งบรรจุกันที่ข้างสนามเลยก็มี

เรื่องการกีฬาระหว่างหน่วยนี้ ในกาลครั้งหนึ่งหน่วยของผมได้เอาจริงเอาจังมาก ถึงขนาดคว้ารางวัลชนะเลิศ ได้รับคะแนนรวม เป็นที่หนึ่งในกองทัพบก ๓ ปีซ้อน ซึ่งจะได้ถ้วยรางวัลนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ ติด ๆ กันถึง ๓ ครั้งรวม ๙ ปีติดต่อกัน จนมีถ้วยรางวัลเต็มตู้โชว์ในสโมสรทีเดียว.
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น เรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่