
เนื่องจากตาลขายคอลลาเจนผงอยู่ เลยอยากจะแนะนำวิธีการชงคอลลาเจนอย่างไรไม่ให้คาว ให้อร่อยและได้ประโยชน์สูงสุด
หลายๆ คนอาจจะทราบดีว่า คอลลาเจนผง ที่ทำมาจากปลาทะเล จะมีกลิ่นคาวอยู่บ้าง แต่จะคาวมากคาวน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการผลิตของแต่ละโรงงาน ซึ่งอาจจะได้กลิ่น หรือการทำการละลาย จะได้ไม่เหมือนกันเป๊ะๆ
หากคอลลาเจนที่คุณชื้อรับประทาน ไม่ได้จำเป็นว่าจะซื้อจากของตาล แต่เป็นคอลลาเจนเกรดที่ละลายค่อนข้างช้า หรือไม่ได้ละลายรวดเร็ว แบบเติมปุ๊บละลายปั๊บ ตาลมีเคล็ดลับที่ไม่ยาก มาแนะนำให้ทราบกันค่ะ ซึ่งตาลทดลองการชงแบบนี้มาหลายจากหลายๆ ยี่ห้อ หลายๆ โรงงาน ของแต่ละประเทศมาแล้ว ได้ผลเหมือนกัน คือมันจะละลายได้หมดเลย
ดูคลิปสอนวิธีชงคอลลาเจนอย่างไรไม่ให้เป็นก้อน
วิธีคือ
1. ตักคอลลาเจนผง 1 ช้อน ลงในแก้ว

2. เติมน้ำเปล่าพอท่วมผงคอลลาเจน ไม่ต้องเยอะ ใช้น้ำเปล่า(ที่ต้มสุกแล้ว) ไม่ต้องเป็นน้ำร้อน เอาแค่น้ำอุณหภูมิห้องก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ใช้ช้อนคนๆๆ ให้น้ำผสมกับผงคอลลาเจน แล้วยกช้อนออก ปล่อยให้ผงคอลลาเจนค่อยๆ ละลาย

3. สังเกตว่าน้ำจะใสขึ้น แต่สีของน้ำจะเป็นสีอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเกรดของคอลลาเจนแต่ละชนิด ซึ่งของตาลจะออกสีน้ำชาค่ะ บางยี่ห้อก็อาจจะสีใสกว่านี้

4. เติมน้ำผลไม้กล่องที่เหลือไปจนเต็มแก้ว ในที่นี้ตาลใส่น้ำผลไม้กล่องเล็กๆ

5. ยกดื่มได้เลย!!!
นี่เป็นวิธีการชงคอลลาเจนแบบเย็น จะเป็นการชงคอลลาเจนด้วยน้ำผลไม้ คือ การใช้น้ำผลไม้จะช่วยกลบกลิ่นของคอลลาเจน ทำให้ไม่รู้สึกคาว แต่สำหรับบางคนที่ชอบทานกับ ชา กาแฟ ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นการชงแบบร้อน ก็ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำเปล่าเพื่อให้ละลาย เพราะน้ำร้อนจะทำให้คอลลาเจนละลายได้ง่ายขึ้นอยู่แล้ว และไม่ต้องกังวลว่าจะเสียคุณค่าทางอาหารไป เพราะน้ำร้อนที่เราใช้ชงนั้นไม่ได้เป็นน้ำเดือดตลอดเวลา จะร้อนแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง คุณค่าของคอลลาเจนจึงยังไม่สูญเสียไปค่ะ
ซึ่งน้ำผลไม้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบยี่ห้ออะไร ชอบของใคร ก็ใช้มาชงกับคอลลาเจนได้เลยค่ะ
คอลลาเจนควรรับประทานช่วงไหน ดีที่สุด?
แนะนำว่าควรทานช่วงท้องว่างจะดีที่สุดค่ะ เช่น ตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนนอน แต่ถ้าก่อนนอนควรเว้นไว้ 3 ชม. นะคะ ไม่งั้นตื่นมาฉี่กลางดึกแน่ๆ ค่ะ
และหากจะต้องการให้ร่างกายดูดซึมได้ดี ก็ควรดื่มกับวิตามินซี เช่นน้ำผลไม้ ก็อุดมไปด้วยวิตามิน A,C,E แต่หากต้องการกินคู่กับวิตามินซีเพียวๆ แบบ 500mg, 1000mg ตาลแนะนำว่า ให้กินวิตามินซีพร้อมอาหาร เพราะการทานวิตามินซีในช่วงท้องว่าง จะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ
สำหรับใครที่สนใจ คอลลาเจนจากทางร้านของตาล ตาลขายคอลลาเจนเพียว 100% คือไม่แต่งสี กลิ่น หรือรสชาติ เป็นคอลลาเจนที่หลายๆ โรงงานนำไปใช้ในเครื่องดื่มต่างๆ หรือนำไปทำวิตามินอาหารเสริม ชนิดผงแบบพร้อมชงดื่มกับน้ำผลไม้ ชา หรือ กาแฟ หรือเครื่องดื่มตามชอบ
ที่ร้านมี 2 ขนาดค่ะ
500g ทานได้ 3 เดือนกว่าๆ ราคา 1,050 บาท
1kg (เน้นทานกันนานๆ แบ่งกันทานในครอบครัว) ราคา 2,000 บาท
จัดส่งฟรีแบบลงทะเบียน หรือ EMS จะคิด 60 บาท
สั่งซื้อทางไลน์ ADD มาที่ Line ID: siambeauty
โทร.สั่ง 083-7655600
เว็บไซต์ www.siambeautyonline.com
FB: www.facebook.com/siambeautyonline
สอนวิธีชงคอลลาเจนผงอย่างไรไม่ให้คาว ละลายง่าย และได้ประโยชน์เต็มๆ
เนื่องจากตาลขายคอลลาเจนผงอยู่ เลยอยากจะแนะนำวิธีการชงคอลลาเจนอย่างไรไม่ให้คาว ให้อร่อยและได้ประโยชน์สูงสุด
หลายๆ คนอาจจะทราบดีว่า คอลลาเจนผง ที่ทำมาจากปลาทะเล จะมีกลิ่นคาวอยู่บ้าง แต่จะคาวมากคาวน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการผลิตของแต่ละโรงงาน ซึ่งอาจจะได้กลิ่น หรือการทำการละลาย จะได้ไม่เหมือนกันเป๊ะๆ
หากคอลลาเจนที่คุณชื้อรับประทาน ไม่ได้จำเป็นว่าจะซื้อจากของตาล แต่เป็นคอลลาเจนเกรดที่ละลายค่อนข้างช้า หรือไม่ได้ละลายรวดเร็ว แบบเติมปุ๊บละลายปั๊บ ตาลมีเคล็ดลับที่ไม่ยาก มาแนะนำให้ทราบกันค่ะ ซึ่งตาลทดลองการชงแบบนี้มาหลายจากหลายๆ ยี่ห้อ หลายๆ โรงงาน ของแต่ละประเทศมาแล้ว ได้ผลเหมือนกัน คือมันจะละลายได้หมดเลย
ดูคลิปสอนวิธีชงคอลลาเจนอย่างไรไม่ให้เป็นก้อน
วิธีคือ
1. ตักคอลลาเจนผง 1 ช้อน ลงในแก้ว
2. เติมน้ำเปล่าพอท่วมผงคอลลาเจน ไม่ต้องเยอะ ใช้น้ำเปล่า(ที่ต้มสุกแล้ว) ไม่ต้องเป็นน้ำร้อน เอาแค่น้ำอุณหภูมิห้องก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ใช้ช้อนคนๆๆ ให้น้ำผสมกับผงคอลลาเจน แล้วยกช้อนออก ปล่อยให้ผงคอลลาเจนค่อยๆ ละลาย
3. สังเกตว่าน้ำจะใสขึ้น แต่สีของน้ำจะเป็นสีอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเกรดของคอลลาเจนแต่ละชนิด ซึ่งของตาลจะออกสีน้ำชาค่ะ บางยี่ห้อก็อาจจะสีใสกว่านี้
4. เติมน้ำผลไม้กล่องที่เหลือไปจนเต็มแก้ว ในที่นี้ตาลใส่น้ำผลไม้กล่องเล็กๆ
5. ยกดื่มได้เลย!!!
นี่เป็นวิธีการชงคอลลาเจนแบบเย็น จะเป็นการชงคอลลาเจนด้วยน้ำผลไม้ คือ การใช้น้ำผลไม้จะช่วยกลบกลิ่นของคอลลาเจน ทำให้ไม่รู้สึกคาว แต่สำหรับบางคนที่ชอบทานกับ ชา กาแฟ ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นการชงแบบร้อน ก็ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำเปล่าเพื่อให้ละลาย เพราะน้ำร้อนจะทำให้คอลลาเจนละลายได้ง่ายขึ้นอยู่แล้ว และไม่ต้องกังวลว่าจะเสียคุณค่าทางอาหารไป เพราะน้ำร้อนที่เราใช้ชงนั้นไม่ได้เป็นน้ำเดือดตลอดเวลา จะร้อนแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง คุณค่าของคอลลาเจนจึงยังไม่สูญเสียไปค่ะ
ซึ่งน้ำผลไม้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบยี่ห้ออะไร ชอบของใคร ก็ใช้มาชงกับคอลลาเจนได้เลยค่ะ
คอลลาเจนควรรับประทานช่วงไหน ดีที่สุด?
แนะนำว่าควรทานช่วงท้องว่างจะดีที่สุดค่ะ เช่น ตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนนอน แต่ถ้าก่อนนอนควรเว้นไว้ 3 ชม. นะคะ ไม่งั้นตื่นมาฉี่กลางดึกแน่ๆ ค่ะ
และหากจะต้องการให้ร่างกายดูดซึมได้ดี ก็ควรดื่มกับวิตามินซี เช่นน้ำผลไม้ ก็อุดมไปด้วยวิตามิน A,C,E แต่หากต้องการกินคู่กับวิตามินซีเพียวๆ แบบ 500mg, 1000mg ตาลแนะนำว่า ให้กินวิตามินซีพร้อมอาหาร เพราะการทานวิตามินซีในช่วงท้องว่าง จะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ
สำหรับใครที่สนใจ คอลลาเจนจากทางร้านของตาล ตาลขายคอลลาเจนเพียว 100% คือไม่แต่งสี กลิ่น หรือรสชาติ เป็นคอลลาเจนที่หลายๆ โรงงานนำไปใช้ในเครื่องดื่มต่างๆ หรือนำไปทำวิตามินอาหารเสริม ชนิดผงแบบพร้อมชงดื่มกับน้ำผลไม้ ชา หรือ กาแฟ หรือเครื่องดื่มตามชอบ
ที่ร้านมี 2 ขนาดค่ะ
500g ทานได้ 3 เดือนกว่าๆ ราคา 1,050 บาท
1kg (เน้นทานกันนานๆ แบ่งกันทานในครอบครัว) ราคา 2,000 บาท
จัดส่งฟรีแบบลงทะเบียน หรือ EMS จะคิด 60 บาท
สั่งซื้อทางไลน์ ADD มาที่ Line ID: siambeauty
โทร.สั่ง 083-7655600
เว็บไซต์ www.siambeautyonline.com
FB: www.facebook.com/siambeautyonline