[ ไต้หวัน ] จีหลงเมืองติดทะเล 45 นาทีจากไทเป


v
v
v
v
:: ตอนที่ 1
[ ไต้หวัน ] จีหลงเมืองติดทะเล 45 นาทีจากไทเป "ซื้อตั๋วหลักสิบ ไปดูวิวหลักล้าน"
http://pantip.com/topic/34280322
^
^
^
^
หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปยังจุดที่เรามาร์คไว้ วันนี้เราจะเดินทางไปด้วยกันทั้งหมด 3 ที่ ไปที่แรกกันเลยครับ เราหาป้ายรถเมย์ก่อน สาย 103



รถเมย์สาย 103 จะเขียนว่า 八斗子 (Badouzi station) ดูง่ายๆ

เราจะไปที่แรกคับคือ Chaojing Park 八斗子潮境公園



จากจุดแดง เราจะไปยังจุดมุ่งหมายที่สวนสาธรณะริมทะเลทางด้านบน ใช้เวลนั่งรถเมย์ประมาณ 15 นาที(สถานีก่อนสุดท้าย)ก็จะถึง


ตอนนี้เรามาถึงแล้วครับ สังเกตุง่ายจะมีเซเว่น  และร้านชาไข่มุข 85 oc


ง่ายๆครับ ไปทางขวามือครับ (ไปซ้ายก็ได้) แต่ไปขวาจะดีกว่าคับ เพราะผมไปทางนั้น 555 เดินตรงไปเรื่อยๆเลยครับ ถ้าไม่รู้จริงๆถามคนแถวนั้นได้ว่า 潮境公園 Chaojing park (ออกเสียง ฉาวจิ้ง ปาร์ค)นะครับ คนแถวนั้นเข้ายินดีตอบและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ครับ 55  เพราะผมก็ถามเหมือนกัน คุณลุงคุณป้านี่มาแย่งกับตอบเลย แทบจะพาไปส่งแต่ผมอยากไปเองมากกว่าครับ



พอเดินมาไม่นานก็จะเจอกับ National museum ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าอย่างเห็นได้ชัด พอถึงแล้วถ้าใครมีเวลานะครับตึกด้านในนั้นมีการจัดแสดงเรื่องของทะเล สัตร์ทะเลต่างๆ และตึกใหญ่จะมีนิทรรศการศิลปะ ที่วนเวียนเปลี่ยนไปตามหัวข้อ ด้านในมีร้านอาหาร มีของที่ระลึกมากมาย สามารถมานั่งพักผ่อนได้ แต่ตอนนี้ผมอยากไปทะเลแล้ว เลยเด่วค่อมาแวะเนอะ 55




เราเดินเลยไปครับจะเห็นป้ายบอกทางแสดงว่ามาถูกแล้วครับ มุ่งหน้า Chaojing park ได้เลยครับ


พอเดินเลยป้ามาประมาณ 100 เมตรก็จะเห็นวิวนี้ครับ ด้านหน้ามีทางแยกเราไม่ต้องสนใจเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานไปเลยครับ


สิ่งที่ผมชอบมายเลยคือ หมู่บ้านชาวประมงตรงนี้คือน้ำทะเลฟ้ามาก เอาจริงๆคือภาพ ออริจิก็ฟ้าแล้วครับ มันช่างต่างจากคลองแสนแสบบ้านเราจริงๆ 55 (แซวๆ ครับ )



หลังจากนั้นเดินขึ้นสะพานมาเลยครับ ตรงนี้คือถ่ายจากสะพานนะครับ จะเห็นวิวภูเขาลูกใหญ่เรียงลายอย่างสวยงาม ลมทะเลพัดกระทบหน้าตลอดเวลา ตอนนี้เดินยิ้ม ปลื้มปริ่มตลอดเวลาครับ สมงสมองไปหมดแล้ว 555 ยังครับ ยังไม่ใช่จุดพีคครับ ไปกันต่อ


ด้วยความที่ชอบทะเลมากกกกกกกกกก มุมที่ถ่ายแล้ว ก็ยังคงถ่ายเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นครับ 55 ระหว่างนี้เราจะเห็นร้านอาหารเล็กๆเรียงรายกันอยู่ด้านซ้ายมือ เด่วไปถ่ายรูปเสร็จผมจะมาหาร้านวิวสวยๆดูดดื่มธรรมชาติครับ



เราเดินตามยอดเขาไปเรื่อยๆครับ วันนี้ท้องฟ้าให้ 10 คะแนนครับ พอใจเป็นอย่างมาก อ่อ ที่นี่สามารถมาเล่นว่าวได้นะครับ ทางข้างจะมีจำหน่ายแต่ผมไม่ทราบเรื่องราคา ส่วนมากจะเป็นว่าว งู กระเบน ตัวใหญ่ๆครับเพราะลมทะเลมันแรงมาก


มุมนี้เป็นมุมที่เรียบง่ายมายืนจุดๆนี้มองน้ำทะเลสีฟ้า ก็มีความสุขแล้วครับ ขนาดวันนี้วันเสาร์คนยังไม่ค่อยมีเลยครับ เอาเป็นว่าไม่ต้องแย่งใครเที่ยว ไม่ต้องเบียดเสียด แฮปปี้ครับ ฮ่าๆ


ส่วนใครที่มีรถก็สามารถขับขึ้นมาได้นะครับ ด้านบนมีที่จอด อ่อ สามารถเอาเสื่อมาปูตรงสนามหญ้านั่งปิ๊กนิ๊คกันได้สบายๆเลย เขาไม่หวงห้าม แต่ไม่ต้องถึงกับ กางเต้น ขุดหลุม ก่อไฟเผาปลา หุงข้าวนะครับ ฮ่าๆ



ตรงด้านบนจะเป็นทุ่งหญ้าครับ ส่วนตรงนี้คือพอข้ามสะพานมาแล้วก็จะเป็นพื้นที่ของ Chaojing park ทั้งหมดครับ



ผมว่าคนเราใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วครับ จะมีอะไรดีไปกว่าการทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุข นางแบบคนนี้เป็นเพื่อนกันมานาน อยู่ด้วยกันมาตลอด สอนอะไรหลายอย่าง คอยช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจริงๆ ผมรู้สึกโชคดีมาก เลยอยากจะพาเพื่อนไปเที่ยว เห็นเพื่อนมีความสุขเราก็ปริ่มใจ มันคือมิตรภาพดีๆ ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้เนอะ พิมไปน้ำตาจะไหล 55 ดราม่าทำไม??





นั่ ง ช ม วิ ว ดี ฝ่ า   นั่ ง ต ร ง นี้ น า น ม า ก  เ ป็ น ที่ ที่ ไ ม่ ค่ อ ย มี ใ ค ร เ ดิ น ม า ถึ ง  

พิกัดคืออยู่ด้านในสุดของสวนเลยครับ




จากภาพจะเห็นได้ว่า ไม่ได้อาร์ตอะไรแต่อย่างใด คือถ้าหันหน้ามา มันจะกลายเป็นรูปเสียทันที 5555 อย่าได้อคร์คับ อาร์ตไปเรื่อยๆครับ



พอถ่ายรูปได้ซักพัก ก็ได้เวลาพักดื่มน้ำดื่มท่ากันซักหน่อยครับ วันนี้เราเดินย้อมมาหน่อยเดียวนะครับก็จะเจอร้านนี้ครับ




ร้านนี้มี 2 ชั้นนะครับ เป็นแบบเครื่องดื่ม ชากาแฟ น้ำปั่น ผมไม้ ขิงหวาน และแบบอาหารหลักด้วยครับ นั่งร้านนี้เราก็สามารถดูวิวข้างนอกได้ ถือว่าสวยเลย แต่ติดที่ว่าสายไฟที่พาดมาหน้าร้าน บังวิวนิดหน่อย และก็ร้านนี้ wifi ไม่ถึงชั้น 2 นะครับ ผมว่าน่าจะเป็นมาตรการของร้าน ให้เพื่อนๆมานั่งทานข้าวคุยกัน ชมวิว ไม่ต้องนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ 555 คิดบวกครับ




วิธีการมาก็ง่ายมากครับ เราเดินย้อยมาที่ National Museum แล้วทางด้านหน้า Museum ก็จะมีทางเล็กๆให้เลี้ยวขวา เลี้ยวไปเลยครับใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณ 15 นาที



พอเดินขึ้นมาบนเขาเรียบร้อยแล้ว ก็จะเห็นวิวนี้ ถือว่ามาถูกต้อง โดยปกติก็จะมีคนเดินขึ้นเรื่อยๆนะครับ ทางมันจะดูแปลกๆนิดนึงแต่เป็นปกติครับ




หลังจากนั้นเดินลงบันไดมาก็เดินตามเส้นทาง wangyou walley เรียบริมทะเลไปเลยครับ

พอเราหันหลังก็จะเห็น บันไดที่เราเดินลงมาครับ ตอนนี้คือเดินขาควิดมาก เพราะกลัวไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกครับ



เดินดูวิวระหว่างทางไปเลยครับ สวยมาก



เป้าหมายของเราคือป้อมปราการด้านบนยอดเขาครับ จุดนั้นเป็นจุดสูงสุดคือสามารถดูวิวได้ 360 เลย วิ่งหน่อยครับ ฮ่าๆ เด่วไม่ทัน



เพื่อนๆดูรูปตามไปเรื่อยๆนะครับ ภาพนี้คือจุดที่เราขึ้นไปอยู่บนยอดเขาแล้ว หอบมากเลย ฮ่าๆ


อันนี้เป็นวิวหมู่บ้านทางด้านหลังป้อมนะครับ เป็นหมู่บ้านในหุบเขา สวยดีได้บรรยากาศ


และนี่คือเรือสำราญที่เราถ่ายรูปด้วยเมื่อเช้านี้ ฮ่าๆ ในที่สุดก็ออกเดินทางแล้ว ผมว่าเขาต้องไปญี่ปุ่นกันแน่ๆ 55 ครั้งหน้าผมจะไปนั่งเรือนะครับ ฮ่าๆ ฝันแปป



แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า จิตใจเริ่มสงบยืนนิ่งๆ รับลมทะเลแบบวิวส่วนตัว ด้านบนคนน้อยมาครับ มีแค่ผมกับเพื่อนและนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันอีก 2 คน เพราะฉะนั้นไม่ต้องแย่งกันเที่ยวครับ


ถึงแม้ว่าพระอาทิตย์จะไม่ได้ตกลงไปในทะเล แต่วิวก็สวยไม่เบาเลยนะครับ ยิ้มๆ



นางแบบก็ได้ทำงานอีกครั้ง วันนี้เธอลำบากมาก ต้องยืนตากแดดตากลมให้ผมถ่ายรูป ฮ่าๆ ขอบคุณมากๆ



รูปนี้เป็นรูปที่ผมเดินผ่าน กลุ่มเพื่อนกลุ่มนึงที่นั่นงคุยกันอยู่บนยอดเขา ผมเห็นแวปแรกคือคิดถึงเพื่อนมากๆ พวกเราเพิ่งเรียนจบแล้วต่างคนก็เริ่มต่างทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาได้เที่ยวด้วยกัน หัวเราะด้วยกันแบบเมื่อก่อน ทำให้รู้สึกคิดถึงมากจริง ถ้ามีเวลาพวกเราก้จะมาเที่ยวด้วยกันอีกแน่ๆเลย เศร้าจัง คิดถึงเพื่อนนะ


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่