สวัสดีค่ะ อ่านเรื่องของคนอื่นมาก็เยอะ วันนี้เลยอยากจะมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นของเราบ้างคะ บอกไว้ก่อนเลยว่า อาจจะไม่กุ๊กกิ๊ก ออกจะดราม่าหน่อยๆด้วยซ้ำ (ว่าไปนั่น) ไปฟังกันเลยดีกว่าค่ะ
ตอนนั้น เราเพิ่งขึ้น ม.1 เป็นการเลือกสายเรียนครั้งแรก และเราเลือกเรียนสายภาษาค่ะ
(หลายๆคนเสียดายแทนเรา ที่เราไม่เลือกสายวิทย์-คณิต ก็เราไม่ชอบสักเท่าไหร่ เลยไม่ได้เลือก แล้วถ้าวันนั้นเราไม่เลือกเรียนสายภาษา เรื่องเหล่านี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นก็ได้)
สายภาษา สายตาคนอื่นจะมองว่า เด็กที่เข้าสายภาษา เพราะว่า เข้าวิทย์-คณิตไม่ได้ หรือเป็นเด็กเกเร ไม่เป็นความจริงทั้งหมดนะ เพราะเพื่อนๆเราส่วนใหญ่ เข้าสายนี้เพราะอยากเข้าจริงๆ
วันแรกที่เปิดเทอมมา แน่นอนว่า เพื่อนๆส่วนใหญ่ก็จะเพิ่งมาเจอกันเป็นครั้งแรก ทุกคนก็ดูตื่นเต้น ผู้หญิงผู้ชายก็สนิทกันได้ไว เราค่อนข้างเป็นสายเด็กเรียนนิสสนึง เลยไม่ค่อยวุ่นวายกับกลุ่มผู้ชายสักเท่าไร
ผ่านไปเทอมแรก ทุกอย่างปกติดีค่ะ จนกระทั่ง เพื่อนผู้ชายร่วมห้องของเราคนนึงทักแชทเฟซบุ๊คมา ขอแทนว่า A
A : ทักๆ ใช่ เรา ป่าว
เรา : ใช่ค่ะ มีอะไรป่าว
A : โหย พูดซะเพราะเชียว ไม่มีไร ทักไว้เฉยๆ
เรา : อ๋อ โอเคๆ
จากวันนั้น ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้น เรากับ A ก็สนิทกันมาเรื่อยๆ ยิ่งพอตอนที่ A ทักมาปรึกษาปัญหาความรักกับเรา จุดพีคก็อยู่ตรงนี้เลย เราอยู่คุยกับ A เพราะเรื่องนี้จนถึง ตีหนึ่งตีสอง (คืนปีใหม่ด้วยเลยอยู่ดึกได้) ซึ่ง มันน่าแปลกมากๆที่คนสองคนเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานมาก แต่คุยกันได้นานขนาดนั้น ตอนนั้นไม่คิดอะไรไง ใสใส เด็กๆ คิดแค่ว่า เห้ย เพื่อนกันไง เพื่อนไม่สบายใจ เราต้องช่วยสิ 5555
หลังจากผ่านเหตุการณ์คืนวันนั้นมา เราสองคนก็สนิทกันมากขึ้น มีไรคุยกันได้เสมอ เจออะไรมาก็เล่า ที่สำคัญ คือคุยกันทุกวัน แต่ไม่ใช่ตลอดทั้งวันอะไรขนาดนั้น คือว่างก็ตอบแชท ว่างก็คุย อะไรแบบนี้
ระหว่างนั้น A เขาก็มีแฟน ก็นะ ตามประสาผู้ชาย มีปัญหาอะไร ก็เรานี่แหละ ที่คอยช่วยให้คำปรึกษาตลอด
(จริงๆแล้ว A ไม่ใช่ผู้ชายที่เพอร์เฟ็คขนาดนั้นนะ ก็ตามประสาผู้ชายทั่วไป มีเที่ยว มีแฟน เรื่องทะเลาะต่อยตีมีบ้างตามโอกาส)
หลังจากนั้น ขึ้น ม.2 เรากับ A ก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น เรียกได้ว่า สนิทจนไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไงเลย แต่คนอื่นมองแล้วจะแอบแปลกใจนะที่ เด็กเรียนอย่างเรา สนิทกับเด็กค่อนข้างเกเรอย่าง A ได้ยังไง
ทุกวันนี้เราก็ยังแปลกใจเลย เป็นไปได้ไงว้าา
และจุดพีคอีกจุดสำคัญเลย สอบปลายภาคเทอม 1 ของ ม.2 เราเองนี่แหละที่เป็นคนจุดชนวนว่า
เรา : เห้ย มาแกล้งเพื่อนกัน
A : ยังไงๆ
เรา : ตั้งคบในเฟซดีป่ะ
A : เอาดิ
และเหตุการณ์วันนั้น เพื่อนๆที่รู้จักเราสองคนก็ตกใจไปตามๆกัน แต่หลังจากนั้นมันมีเหตุการณ์ที่พีคกว่า
ปิดเทอมเล็ก เราต้องไปอยู่บ้านยายที่ต่างจังหวัด ระหว่างนั้น เราได้คุยกับไอ้ A น้อยลง เพราะ ต่างจังหวัด สัญญาณดีมว๊ากกกกกกก นั่นแหละค่ะท่านผู้ชม เราเลยไม่ค่อยได้เข้าเฟซ ไม่ค่อยได้คุย จนไม่ได้คุยเลย ตอนนั้น ไม่ได้คิดไร คิดแค่ว่า คงไม่ว่าทั้งคู่อะไรแบบนี้ จนกระทั่งกลับมาที่จังหวัดบ้านเกิดของเรา
เท่านั้นแหละ
เราถึงได้รู้ว่า เพราะอะไร ไอ้ A ถึงหายไป
หน้าฟีดเฟซเราเด้งขึ้นมา เป็นโพสที่เพื่อนที่เราเคยรู้จัก โพสแล้วแท็ก A ประมาณว่า ฝันดีนะคะ รักน้าา อะไรทำนองนี้ แล้วเราเอะใจหนักมาก เลยเข้าไปส่องเฟซ A ชัดเจนเลยค่ะ
เขาสองคน เป็นแฟนกันไปเรียบร้อยแล้ว
ในตอนนั้น เราเฟลไปเลยนะ อารมณ์ประมาณว่า เห้ย ไหนว่าเพื่อนกันไม่ใช่เหรอฟะ ทำไมเรื่องนี้ถึงไม่บอกละ อยู่ๆหายไป แล้วให้เรารู้เองน่ะเหรอ แล้วเราก็โกรธมากๆในทันที ไม่ทักแชท ไม่คุย ไม่ไลค์โพส เจอหน้ากันที่โรงเรียนก็คือ ไม่พูดกันเลย หน้ามันเรายังไม่มองด้วยซ้ำ กลายเป็นแค่คนที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนราวมห้องเท่านั้น แต่เพราะอยู่ห้องเดียวกัน ความทรมานสำหรับเรามันเลยทวีคูณมากๆ
ระหว่างนั้น เราก็พยายามทำตัวปกติ แต่พอผ่านไปประมาณ 3 เดือน เราเริ่มกลับมาเฟลอีกครั้ง แต่พอผ่านวันนั้นมา เรากลายเป็นคนละคนไปเลย
เล่นเกม หาเพื่อนคุยในเกม เข้าแอปแชท คุยกับผู้ชาย นู่นนั่นนี่ เราทำทุกๆทางที่เราคิดว่า มันจะทำให้ชีวิตเราแฮปปี้ แต่ไม่เลย พอไม่มีคนคุย เราก็กลับมาเข้าโหมดเดิมๆ
ผ่านมาอีกเกือบๆ 4 เดือน A ก็ทักเรากลับมาคุย ประมาณว่าจะมาง้ออะไรแบบนี้
(คือหายไปครึ่งปี ละมาง้อ คิดว่าชั้นจะยอมง่ายๆใช่ม้ายยย)
ใช่ค่ะ 5555 เรายอมเลยอ่ะ ตอนนั้นเรารู้สึกเหมือน นี่แหละ ความสุขจริงๆที่เราขาดหายไปครึ่งปี เรามีความสุขมาก ทั้งเราทั้ง A คุยกันได้เหมือนเดิม และตอนนี้ เป็นเราซะเองที่เริ่มจะรู้สึกตัวว่า เรารู้สึกกับไอ้ A มากกว่าเพื่อนเข้าแล้ว
แต่ แต่ แต่ แต่...
มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อ A ยังคบกับแฟนคนปัจจุบันนี้อยู่
เอาละสิ คนนึงก็แฟน คนนึงก็เพื่อน (แต่ไอ้เพื่อนคนนี้มันคิดกับแกเกินเพื่อนแล้วนะเหวยยย)
ราวกับโชคเข้าข้าง ไม่สิ เอ้อ ช่างมันเถอะ เขาสองคน เหมือนจะจบกันในไม่ช้า เหมือนชีวิตคู่จะไปไม่รอดแล้ว อะไรแบบนี้ โอเค แล้วสองคนนั้นก็จบกันไป แบบไม่สวยงามเท่าไหร่นัก
แล้วระหว่างเราสองคนล่ะ
เรากลับมาคุยกัน เหมือนเดิม มากกว่าเดิม จน A ก็พอจะรับรู้ได้ว่า ไอ้เพื่อนคนนี้คิดกับแกเกินเพื่อนละนะ แล้วเหมือน A จะแอบคิดอะไรกับเรานิดๆแล้วเหมือนกัน ด้วยความที่เรา ไม่ชอบความสัมพันธ์ที่มันคลุมเครือ เราเลยเลือกที่จะถามไปตรงๆว่า
เรา : เห้ย ตกลงเราสองคนเป็นอะไรกัน
A : เป็นคนที่รู้สึกดีๆต่อกันไง
เรา : โอเค ตามนั้น
เฮือก เจ็บปวดเบาๆ ก็โอเค สถานะนี้ เจ๊ก็ยังไหว
แต่ แต่ แต่ แต่....
หลังจากที่คุณ A โสดได้ไม่นาน ก็เริ่มที่จะมี รุ่นพี่ สาวๆ น่ารักๆ เข้ามาทักทาย (ก็หล่อเหลือเกินอ่ะน้าาา) จนทำให้เกิดบทสนทนาต่อจากนี้
A : คือเราสองคนนี่ ยังไงนะ
เรา : ก็รู้สึกดีๆต่อกัน แค่นั้นไง
A : แบบต่างคนต่างมีแฟนได้ แต่ยังคุยกันเหมือนเดิม งั้นอ่ะเหรอ
เรา : ก็งั้นไง
เราพูดไปด้วยความไม่คิด คิดแค่ว่า ไหนๆก็ไหนๆละ ให้มันจบๆไปเล้ยยย TT จนกระทั่ง
มันเกิดขึ้นจริงๆ มีรุ่นพี่ผู้หญิงมาแวะเวียน ออกแนวจะจริงจัง มีกระทั่งรหัสเฟซ (นี่คือยังไม่ได้เป็นแฟนช้ะ) แล้วเรากลับกลายเป็นคนที่ทำตามที่พูดไม่ไดิ เราไม่โอเคเลยสักกะติ๊ด ที่ A จะมีแฟน ละคุยกับเราต่อไปแบบนี้ เห้ย แก ชั้นไม่โอเคว่ะ
แล้วเราทำไงอ่ะเหรอ หึหึ
เราก็มูฟตัวเองกลับมาจุดเดิมไงคะ TT อยู่คนเดียว หายไปจากชีวิตของ A อีกครั้ง แล้วเหมือน A จะแปลกใจ เลยกลับมาถามให้ชัดเจน โอเค จบลงที่ ชั้นรู้สึกกับแกเกินเพื่อนนะ แล้วแกก็รู้สึกกับชั้นเกินเพื่อนใช่ไหม โอเค เข้าใจตรงกัน แล้ว A ก็เลยรับปากว่า จะเลิกคุยกับพี่คนนี้นะ
แต่ โชคชะตาไม่ได้เห็นใจเราขนาดนั้นค่ะ
เพราะ A เป็นคนขี้สงสาร กลัวที่จะทำให้ใครต่อใครเสียความรู้สึกเพราะตัวเอง ในตอนที่เราเข้าใจว่าเขาสองคนเลิกคุยกันไปแล้ว เพื่อนเราก็มาบอกกับเราว่า
เพื่อน : เห้ย มันเลิกคุยแล้วจริงดิ เมื่อวานยังโพสหน้าวอลอยู่เลย
หือ โพสไหน ทำไมเราไม่เห็น เพื่อนเลยแคปมาให้ดู
รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้น บล็อกเฟซเราค่ะ จึงเข้าใจว่า ทำไมไม่เห็นอะไรเลย
เอาละไง เราเซ็งไปเลย แล้ววันนั้นเป็นวันศุกร์ คืนวันนั้นเราก็จัดเลย
TT ร้องไห้สิครับรออะไร โห่ย น้ำตามาเต็ม
เราเลยคอลไลน์ไปหาเพื่อนสนิท ขอแทนมันว่า B ละกัน
B ก็ตกใจพอสมควรเลยล่ะ ก็แน่อยู่แล้ว เราเป็นคนที่ ร้องไห้ยากมากๆๆๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่เราร้องไห้ให้ผู้ชาย ให้ตายเถอะซาร่า OMG หนักมาก
หลังจากนั้น A รู้ว่าเราไม่โอเค เลยเลิกคุยกับรุ่นพี่ไปแบบจริงจัง แน่ๆแล้วจริงๆ
ละครเรื่องนี้กำลังจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ไม่ค่ะ
แฟนเก่าคนล่าสุดของ A กลับมา
ใช่ เธอคือคนเดียวกันกับที่ทำให้เราจบความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนกับ A เนี่ยแหละ
ทีแรกเราไม่รู้ จนกระทั่ง A บอกว่า เราเลิกคุยผ่านไลน์ผ่านเฟซกันสักพักนะ แล้วก็เลยโทรคุยกัน เลยรู้ว่าเพราะอะไร
ก็คุณเธอเล่นจะคุมทั้งเฟซทั้งไลน์ของ A กลับมาคราวนี้จัดใหญ่จริงๆ แล้วเราสองคนก็กลายเป็นอยู่กันแบบหลบๆซ่อนๆ
เรื่องนี้ B เพื่อนเรารู้ค่ะ แล้วเราก็กลับมาเฟลอีก B ก็จัดเลย
คืนไหนสักคืนเนี่ยแหละ B ลงทุนมากถึงมากที่สุด เสียค่าโทรศัพท์เพื่อกะจะโทรไปด่าไอ้ A แต่สิ่งที่ได้มามันเกินความคาดหมายไปเยอะ
B : เห้ย แกรู้ป่ะ ว่า เรา เครียดขนาดไหน
A : แล้วแกคิดว่าเค้าไม่เครียดบ้างรึไง
B แอบงงไปเลยค่ะ จน A เล่าทุกอย่างที่คิดไว้ให้ B ฟัง ทุกอย่างเลยกระจ่าง
A วางแผนไว้หมดแล้ว ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามเกมส์ แล้วตอนจบทั้งเราและ A ก็จะแฮปปี้
โอเค เราเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างงั้น แล้วมันก็เป็นจริงๆซะด้วย
(ถึงตอนจบเรื่องนี้ แฟนเก่าของ A จะโพสด่าเราแบบเจ็บแสบพอสมควร ไม่เป็นไรค่ะ เราโอเคกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้ว)
และแน่นอนค่ะ ตอนจบมันแฮปปี้ ถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ใช้คำว่าแฟนนะคะ เพราะยังไม่ได้ขอคบหรืออะไร (เรารออยู่นะเตง) 555 แต่มันโอเคค่ะ ดีที่เป็นแบบนี้
เราว่าเรายังโชคดีค่ะ ที่ตอนจบมันดี
หลายคน อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเรา ประมาณว่า ชอบเพื่อนสนิทตัวเอง แล้วตอนจบ มันไม่สวยอย่างที่คิดไว้ บางคนอาจจะแค่มองหน้าไม่ติด หรือเสียเพื่อนไปเลยก็มี
แต่สำหรับคนที่พอจะมีหวัง อย่าท้อไปเลยค่ะ มันแค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น
แต่ถ้ามันเป็นพรหมลิขิตจริงๆแล้วละก็..
สักวัน ความรักนั้นจะเป็นของเราค่ะ ^^
ปล.ถ้าที่รักมาเห็นคงไม่ว่าไรเค้าน้าา 555
ปล2. ใครที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ แชร์เลยค่ะ จขกท รออ่านอยู่น้าา ^^
เพราะแอบชอบเพื่อนสนิท พรหมลิขิตเลยจัดให้ (ใครเคยเจอเหตุการณ์ดีๆ มาร่วมแชร์ประสบการณ์กันค่ะ)
ตอนนั้น เราเพิ่งขึ้น ม.1 เป็นการเลือกสายเรียนครั้งแรก และเราเลือกเรียนสายภาษาค่ะ
(หลายๆคนเสียดายแทนเรา ที่เราไม่เลือกสายวิทย์-คณิต ก็เราไม่ชอบสักเท่าไหร่ เลยไม่ได้เลือก แล้วถ้าวันนั้นเราไม่เลือกเรียนสายภาษา เรื่องเหล่านี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นก็ได้)
สายภาษา สายตาคนอื่นจะมองว่า เด็กที่เข้าสายภาษา เพราะว่า เข้าวิทย์-คณิตไม่ได้ หรือเป็นเด็กเกเร ไม่เป็นความจริงทั้งหมดนะ เพราะเพื่อนๆเราส่วนใหญ่ เข้าสายนี้เพราะอยากเข้าจริงๆ
วันแรกที่เปิดเทอมมา แน่นอนว่า เพื่อนๆส่วนใหญ่ก็จะเพิ่งมาเจอกันเป็นครั้งแรก ทุกคนก็ดูตื่นเต้น ผู้หญิงผู้ชายก็สนิทกันได้ไว เราค่อนข้างเป็นสายเด็กเรียนนิสสนึง เลยไม่ค่อยวุ่นวายกับกลุ่มผู้ชายสักเท่าไร
ผ่านไปเทอมแรก ทุกอย่างปกติดีค่ะ จนกระทั่ง เพื่อนผู้ชายร่วมห้องของเราคนนึงทักแชทเฟซบุ๊คมา ขอแทนว่า A
A : ทักๆ ใช่ เรา ป่าว
เรา : ใช่ค่ะ มีอะไรป่าว
A : โหย พูดซะเพราะเชียว ไม่มีไร ทักไว้เฉยๆ
เรา : อ๋อ โอเคๆ
จากวันนั้น ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้น เรากับ A ก็สนิทกันมาเรื่อยๆ ยิ่งพอตอนที่ A ทักมาปรึกษาปัญหาความรักกับเรา จุดพีคก็อยู่ตรงนี้เลย เราอยู่คุยกับ A เพราะเรื่องนี้จนถึง ตีหนึ่งตีสอง (คืนปีใหม่ด้วยเลยอยู่ดึกได้) ซึ่ง มันน่าแปลกมากๆที่คนสองคนเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานมาก แต่คุยกันได้นานขนาดนั้น ตอนนั้นไม่คิดอะไรไง ใสใส เด็กๆ คิดแค่ว่า เห้ย เพื่อนกันไง เพื่อนไม่สบายใจ เราต้องช่วยสิ 5555
หลังจากผ่านเหตุการณ์คืนวันนั้นมา เราสองคนก็สนิทกันมากขึ้น มีไรคุยกันได้เสมอ เจออะไรมาก็เล่า ที่สำคัญ คือคุยกันทุกวัน แต่ไม่ใช่ตลอดทั้งวันอะไรขนาดนั้น คือว่างก็ตอบแชท ว่างก็คุย อะไรแบบนี้
ระหว่างนั้น A เขาก็มีแฟน ก็นะ ตามประสาผู้ชาย มีปัญหาอะไร ก็เรานี่แหละ ที่คอยช่วยให้คำปรึกษาตลอด
(จริงๆแล้ว A ไม่ใช่ผู้ชายที่เพอร์เฟ็คขนาดนั้นนะ ก็ตามประสาผู้ชายทั่วไป มีเที่ยว มีแฟน เรื่องทะเลาะต่อยตีมีบ้างตามโอกาส)
หลังจากนั้น ขึ้น ม.2 เรากับ A ก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น เรียกได้ว่า สนิทจนไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไงเลย แต่คนอื่นมองแล้วจะแอบแปลกใจนะที่ เด็กเรียนอย่างเรา สนิทกับเด็กค่อนข้างเกเรอย่าง A ได้ยังไง
ทุกวันนี้เราก็ยังแปลกใจเลย เป็นไปได้ไงว้าา
และจุดพีคอีกจุดสำคัญเลย สอบปลายภาคเทอม 1 ของ ม.2 เราเองนี่แหละที่เป็นคนจุดชนวนว่า
เรา : เห้ย มาแกล้งเพื่อนกัน
A : ยังไงๆ
เรา : ตั้งคบในเฟซดีป่ะ
A : เอาดิ
และเหตุการณ์วันนั้น เพื่อนๆที่รู้จักเราสองคนก็ตกใจไปตามๆกัน แต่หลังจากนั้นมันมีเหตุการณ์ที่พีคกว่า
ปิดเทอมเล็ก เราต้องไปอยู่บ้านยายที่ต่างจังหวัด ระหว่างนั้น เราได้คุยกับไอ้ A น้อยลง เพราะ ต่างจังหวัด สัญญาณดีมว๊ากกกกกกก นั่นแหละค่ะท่านผู้ชม เราเลยไม่ค่อยได้เข้าเฟซ ไม่ค่อยได้คุย จนไม่ได้คุยเลย ตอนนั้น ไม่ได้คิดไร คิดแค่ว่า คงไม่ว่าทั้งคู่อะไรแบบนี้ จนกระทั่งกลับมาที่จังหวัดบ้านเกิดของเรา
เท่านั้นแหละ
เราถึงได้รู้ว่า เพราะอะไร ไอ้ A ถึงหายไป
หน้าฟีดเฟซเราเด้งขึ้นมา เป็นโพสที่เพื่อนที่เราเคยรู้จัก โพสแล้วแท็ก A ประมาณว่า ฝันดีนะคะ รักน้าา อะไรทำนองนี้ แล้วเราเอะใจหนักมาก เลยเข้าไปส่องเฟซ A ชัดเจนเลยค่ะ
เขาสองคน เป็นแฟนกันไปเรียบร้อยแล้ว
ในตอนนั้น เราเฟลไปเลยนะ อารมณ์ประมาณว่า เห้ย ไหนว่าเพื่อนกันไม่ใช่เหรอฟะ ทำไมเรื่องนี้ถึงไม่บอกละ อยู่ๆหายไป แล้วให้เรารู้เองน่ะเหรอ แล้วเราก็โกรธมากๆในทันที ไม่ทักแชท ไม่คุย ไม่ไลค์โพส เจอหน้ากันที่โรงเรียนก็คือ ไม่พูดกันเลย หน้ามันเรายังไม่มองด้วยซ้ำ กลายเป็นแค่คนที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนราวมห้องเท่านั้น แต่เพราะอยู่ห้องเดียวกัน ความทรมานสำหรับเรามันเลยทวีคูณมากๆ
ระหว่างนั้น เราก็พยายามทำตัวปกติ แต่พอผ่านไปประมาณ 3 เดือน เราเริ่มกลับมาเฟลอีกครั้ง แต่พอผ่านวันนั้นมา เรากลายเป็นคนละคนไปเลย
เล่นเกม หาเพื่อนคุยในเกม เข้าแอปแชท คุยกับผู้ชาย นู่นนั่นนี่ เราทำทุกๆทางที่เราคิดว่า มันจะทำให้ชีวิตเราแฮปปี้ แต่ไม่เลย พอไม่มีคนคุย เราก็กลับมาเข้าโหมดเดิมๆ
ผ่านมาอีกเกือบๆ 4 เดือน A ก็ทักเรากลับมาคุย ประมาณว่าจะมาง้ออะไรแบบนี้
(คือหายไปครึ่งปี ละมาง้อ คิดว่าชั้นจะยอมง่ายๆใช่ม้ายยย)
ใช่ค่ะ 5555 เรายอมเลยอ่ะ ตอนนั้นเรารู้สึกเหมือน นี่แหละ ความสุขจริงๆที่เราขาดหายไปครึ่งปี เรามีความสุขมาก ทั้งเราทั้ง A คุยกันได้เหมือนเดิม และตอนนี้ เป็นเราซะเองที่เริ่มจะรู้สึกตัวว่า เรารู้สึกกับไอ้ A มากกว่าเพื่อนเข้าแล้ว
แต่ แต่ แต่ แต่...
มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อ A ยังคบกับแฟนคนปัจจุบันนี้อยู่
เอาละสิ คนนึงก็แฟน คนนึงก็เพื่อน (แต่ไอ้เพื่อนคนนี้มันคิดกับแกเกินเพื่อนแล้วนะเหวยยย)
ราวกับโชคเข้าข้าง ไม่สิ เอ้อ ช่างมันเถอะ เขาสองคน เหมือนจะจบกันในไม่ช้า เหมือนชีวิตคู่จะไปไม่รอดแล้ว อะไรแบบนี้ โอเค แล้วสองคนนั้นก็จบกันไป แบบไม่สวยงามเท่าไหร่นัก
แล้วระหว่างเราสองคนล่ะ
เรากลับมาคุยกัน เหมือนเดิม มากกว่าเดิม จน A ก็พอจะรับรู้ได้ว่า ไอ้เพื่อนคนนี้คิดกับแกเกินเพื่อนละนะ แล้วเหมือน A จะแอบคิดอะไรกับเรานิดๆแล้วเหมือนกัน ด้วยความที่เรา ไม่ชอบความสัมพันธ์ที่มันคลุมเครือ เราเลยเลือกที่จะถามไปตรงๆว่า
เรา : เห้ย ตกลงเราสองคนเป็นอะไรกัน
A : เป็นคนที่รู้สึกดีๆต่อกันไง
เรา : โอเค ตามนั้น
เฮือก เจ็บปวดเบาๆ ก็โอเค สถานะนี้ เจ๊ก็ยังไหว
แต่ แต่ แต่ แต่....
หลังจากที่คุณ A โสดได้ไม่นาน ก็เริ่มที่จะมี รุ่นพี่ สาวๆ น่ารักๆ เข้ามาทักทาย (ก็หล่อเหลือเกินอ่ะน้าาา) จนทำให้เกิดบทสนทนาต่อจากนี้
A : คือเราสองคนนี่ ยังไงนะ
เรา : ก็รู้สึกดีๆต่อกัน แค่นั้นไง
A : แบบต่างคนต่างมีแฟนได้ แต่ยังคุยกันเหมือนเดิม งั้นอ่ะเหรอ
เรา : ก็งั้นไง
เราพูดไปด้วยความไม่คิด คิดแค่ว่า ไหนๆก็ไหนๆละ ให้มันจบๆไปเล้ยยย TT จนกระทั่ง
มันเกิดขึ้นจริงๆ มีรุ่นพี่ผู้หญิงมาแวะเวียน ออกแนวจะจริงจัง มีกระทั่งรหัสเฟซ (นี่คือยังไม่ได้เป็นแฟนช้ะ) แล้วเรากลับกลายเป็นคนที่ทำตามที่พูดไม่ไดิ เราไม่โอเคเลยสักกะติ๊ด ที่ A จะมีแฟน ละคุยกับเราต่อไปแบบนี้ เห้ย แก ชั้นไม่โอเคว่ะ
แล้วเราทำไงอ่ะเหรอ หึหึ
เราก็มูฟตัวเองกลับมาจุดเดิมไงคะ TT อยู่คนเดียว หายไปจากชีวิตของ A อีกครั้ง แล้วเหมือน A จะแปลกใจ เลยกลับมาถามให้ชัดเจน โอเค จบลงที่ ชั้นรู้สึกกับแกเกินเพื่อนนะ แล้วแกก็รู้สึกกับชั้นเกินเพื่อนใช่ไหม โอเค เข้าใจตรงกัน แล้ว A ก็เลยรับปากว่า จะเลิกคุยกับพี่คนนี้นะ
แต่ โชคชะตาไม่ได้เห็นใจเราขนาดนั้นค่ะ
เพราะ A เป็นคนขี้สงสาร กลัวที่จะทำให้ใครต่อใครเสียความรู้สึกเพราะตัวเอง ในตอนที่เราเข้าใจว่าเขาสองคนเลิกคุยกันไปแล้ว เพื่อนเราก็มาบอกกับเราว่า
เพื่อน : เห้ย มันเลิกคุยแล้วจริงดิ เมื่อวานยังโพสหน้าวอลอยู่เลย
หือ โพสไหน ทำไมเราไม่เห็น เพื่อนเลยแคปมาให้ดู
รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้น บล็อกเฟซเราค่ะ จึงเข้าใจว่า ทำไมไม่เห็นอะไรเลย
เอาละไง เราเซ็งไปเลย แล้ววันนั้นเป็นวันศุกร์ คืนวันนั้นเราก็จัดเลย
TT ร้องไห้สิครับรออะไร โห่ย น้ำตามาเต็ม
เราเลยคอลไลน์ไปหาเพื่อนสนิท ขอแทนมันว่า B ละกัน
B ก็ตกใจพอสมควรเลยล่ะ ก็แน่อยู่แล้ว เราเป็นคนที่ ร้องไห้ยากมากๆๆๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่เราร้องไห้ให้ผู้ชาย ให้ตายเถอะซาร่า OMG หนักมาก
หลังจากนั้น A รู้ว่าเราไม่โอเค เลยเลิกคุยกับรุ่นพี่ไปแบบจริงจัง แน่ๆแล้วจริงๆ
ละครเรื่องนี้กำลังจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ไม่ค่ะ
แฟนเก่าคนล่าสุดของ A กลับมา
ใช่ เธอคือคนเดียวกันกับที่ทำให้เราจบความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนกับ A เนี่ยแหละ
ทีแรกเราไม่รู้ จนกระทั่ง A บอกว่า เราเลิกคุยผ่านไลน์ผ่านเฟซกันสักพักนะ แล้วก็เลยโทรคุยกัน เลยรู้ว่าเพราะอะไร
ก็คุณเธอเล่นจะคุมทั้งเฟซทั้งไลน์ของ A กลับมาคราวนี้จัดใหญ่จริงๆ แล้วเราสองคนก็กลายเป็นอยู่กันแบบหลบๆซ่อนๆ
เรื่องนี้ B เพื่อนเรารู้ค่ะ แล้วเราก็กลับมาเฟลอีก B ก็จัดเลย
คืนไหนสักคืนเนี่ยแหละ B ลงทุนมากถึงมากที่สุด เสียค่าโทรศัพท์เพื่อกะจะโทรไปด่าไอ้ A แต่สิ่งที่ได้มามันเกินความคาดหมายไปเยอะ
B : เห้ย แกรู้ป่ะ ว่า เรา เครียดขนาดไหน
A : แล้วแกคิดว่าเค้าไม่เครียดบ้างรึไง
B แอบงงไปเลยค่ะ จน A เล่าทุกอย่างที่คิดไว้ให้ B ฟัง ทุกอย่างเลยกระจ่าง
A วางแผนไว้หมดแล้ว ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามเกมส์ แล้วตอนจบทั้งเราและ A ก็จะแฮปปี้
โอเค เราเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างงั้น แล้วมันก็เป็นจริงๆซะด้วย
(ถึงตอนจบเรื่องนี้ แฟนเก่าของ A จะโพสด่าเราแบบเจ็บแสบพอสมควร ไม่เป็นไรค่ะ เราโอเคกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้ว)
และแน่นอนค่ะ ตอนจบมันแฮปปี้ ถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ใช้คำว่าแฟนนะคะ เพราะยังไม่ได้ขอคบหรืออะไร (เรารออยู่นะเตง) 555 แต่มันโอเคค่ะ ดีที่เป็นแบบนี้
เราว่าเรายังโชคดีค่ะ ที่ตอนจบมันดี
หลายคน อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเรา ประมาณว่า ชอบเพื่อนสนิทตัวเอง แล้วตอนจบ มันไม่สวยอย่างที่คิดไว้ บางคนอาจจะแค่มองหน้าไม่ติด หรือเสียเพื่อนไปเลยก็มี
แต่สำหรับคนที่พอจะมีหวัง อย่าท้อไปเลยค่ะ มันแค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น
แต่ถ้ามันเป็นพรหมลิขิตจริงๆแล้วละก็..
สักวัน ความรักนั้นจะเป็นของเราค่ะ ^^
ปล.ถ้าที่รักมาเห็นคงไม่ว่าไรเค้าน้าา 555
ปล2. ใครที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ แชร์เลยค่ะ จขกท รออ่านอยู่น้าา ^^