เมียถ่ายคลิปสามีนอกใจกับคนใช้ เมียอาจติดคุก 1 ปีและอาจโดนปรับ



สิทธิสตรี มุสลิมโลกอาหรับ "ยินยอมหรือจำยอม"

แต่ก่อนที่เราจะรู้ว่าอะไรคือบ่อเกิดของปัญหา สิทธิสตรีในโลกตะวันออกกลางที่ประชากรเกือบจะทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลาม เราควรจะมาดูกันก่อนว่า "คนส่วนใหญ่" ที่มองเห็นปัญหาเหล่านี้คือใคร ?

"คนส่วนใหญ่" ที่เราหยิบยกขึ้นมากล่าว อ้างในบรรทัดข้างต้นนั้นก็คือ "คนนอกดินแดนตะวันออกกลาง" ที่โดยมากจะใช้สายตาของคนทางซีกโลกตะวันตก หรือคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อม, สภาพสังคม, ขนบประเพณี และจริตที่แตกต่างกัน มองเข้ามาในสังคมโลกตะวันออกกลางที่เป็นมุสลิม ทำให้คนส่วนใหญ่เหล่านั้นฝังใจเชื่อว่า สิ่งที่เกิดในโลกตะวันออกกลางคือ การกดขี่ทางเพศที่สมควรจะได้รับความเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน

เนื่อง จากผู้หญิงมุสลิมในโลกตะวันออกกลางนั้นเป็นกลุ่มคนที่ถูกข้อจำกัดทางจารีต ศาสนาอันเคร่งครัดบีบรัดชีวิตของพวกเธอในเกือบจะทุก ๆ ด้าน ยกตัวอย่าง เช่น การออกกฎหมายห้ามผู้หญิง ขับรถในประเทศซาอุดีอาระเบีย หรือการบังคับให้ผู้หญิงทุกคนต้องสวม "ฮิญาบ" คลุมตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนออกจากบ้านในประเทศอิหร่าน จนเกิดเป็นภาพลักษณ์ที่ล้าหลังและกลายเป็นสัญลักษณ์การจำกัดสิทธิเสรีภาพใน สายตาของคนตะวันตก หรือโลกอื่นที่ไม่ใช่สังคมมุสลิมไปแล้วในตอนนี้

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว กฎข้อห้ามเหล่านั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่า "ความแตกต่างทางวัฒนธรรม" เท่านั้นเอง

หาก ใครที่ได้ดูภาพยนตร์อิหร่านดีกรีออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ อย่าง "Nader and Simin, A Separation" ก็น่าจะมีความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ในกรณีปมปัญหาเรื่องการหย่าร้างของตัวละครหลัก ที่ฝ่ายหญิงตัดสินใจฟ้องหย่ากับสามี เพื่อที่จะได้สามารถพาลูกสาวและตัวเองย้ายไปอยู่ในต่างประเทศได้ เนื่องจากในกฎหมายของอิหร่านได้มีข้อห้ามไว้ว่า

"ไม่อนุญาตให้ภรรยาเดินทางออกนอกประเทศคนเดียวโดยไม่มีสามีเดินทางไปด้วย"

จากปมปัญหาในจุดนี้หากใช้สายตาของคนนอกมองเข้าไปแล้ว

กรณี นี้นับว่าเป็นการจำกัดสิทธิของสตรีและชี้ให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันของ สังคมในโลกตะวันออกกลางอย่างชัดเจน และสมควรที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยแห่งเสรีนิยม

แต่ หากใช้สายตาของคนที่อยู่ในโลกมุสลิม หรือผู้ที่เคยคลุกคลีอยู่ในโลกตะวันออกกลางมาเป็นเวลานานแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องของการจำกัดสิทธิสตรีแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของกฎหมายที่ถูกตราขึ้นเพื่อพิทักษ์หรือป้องกันผู้หญิงจาก อันตรายที่อาจจะเกิดจากการเดินทางไปไหนมาไหนเพียงคนเดียวในต่างประเทศ

ในเรื่องนี้ "ดร.อับดุลรอนิง สือแต" รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอิสลามศึกษา ฝ่ายพัฒนานักศึกษา ได้ให้ทรรศนะในเรื่องนี้ว่า

"ใน เรื่องของสิทธิสตรีในโลกมุสลิมหรือโลกอาหรับนั้นอยู่ที่มุมมองของคน ถ้ามองจากคนภายในแล้วก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะบทบาทและการใช้ชีวิตของพวกเขาถูกผูกติดเข้ากับศาสนาจนไม่สามารถแยกออกได้แล้ว คนส่วนใหญ่ภายในโลกอาหรับจึงไม่รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการกดขี่ทางเพศ แต่ถ้าเป็นคนภายนอกที่ไม่เข้าใจโลกอาหรับมองเข้ามา สิ่งเหล่านี้ก็คือความไม่เท่าเทียมระหว่างชาย-หญิงดี ๆ นี่เอง"

ประเด็น ข้อถกเถียงของผู้หญิงในโลกมุสลิม จึงยังเป็นความคลุมเครือทางความคิดของคนสองพรมแดน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะหยิบแว่นอันใดมามองสตรีในโลกอาหรับ


ภูมิ ชื่นบุญ :: เรื่อง
08 มี.ค. 2555 เวลา 06:05:19 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ปล.ขอ tag ห้องศาสนาด้วยนะครับ เพราะไม่รู้ว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นผลมาจาก วัฒนธรรม ประเพณี หรือคำสอนของศาสนาด้วยหรือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่