ผมเป็นหนึ่งคนที่เข้าไปดูบอลไทยในสนามเมื่อวานนี้ บอกได้เลยว่าบรรยากาศนั้นสุดยอดมาก คุ้มค่ากับการเดินทางไกลจากลาดพร้าวไปเมืองทองธานี แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะสะท้อนฝากไปถึงน้องๆและโค้ชจุ่นหลังจากทราบว่าเราได้ไปต่อในรอบสุดท้ายแล้วนั้นคือ
1.การเข้าทำในจังหวะสุดท้าย เกือบทุกจังหวะที่มีโอกาสทำประตู น้องๆต่อบอลกันดีแล้วแต่จังหวะสุดท้าย จังหวะเข้าทำมันตันๆช้าๆ เหมือนต้องคิดก่อน ทำให้กองหลังฝั่งตรงข้ามเค้ามีเวลาจัดระเบียบ หลายๆครั้งเลี้ยงดึงกองหลังเกาหลีจนมีช่องมาได้แต่ไม่มีเพื่อนมาช่วยต่อบอล ต้องยิงเองทั้งๆที่มุมปิดหรือเปิดให้ตัวที่อยู่ไกลๆ ซึ่งก็ขาดความแม่นยำ ผมเห็นทีมสโมสรใหญ่ๆในยุโรป จะค่อยๆต่อบอลแต่พอถึงพื้นที่สุดท้ายสปีดบอลจะเร็วมากบางทีไม่ได้จบสกอร์แบบสวยงามอะไรมาก แต่มักจะได้ประตู เราไม่จำเป็นจะต้องมีศูนย์หน้าสไตล์โป้งปิดบัญชีก็ได้ แต่ต้องซ้อมเรื่องการเข้าทำและสปิดบอลในจังหวะสุดท้ายต้องเร็วและหลากลายกว่านี้ เรามีโอกาสมากมายเกือบทุกครั้งบอลจะไปตันอยู่ที่พื้นที่สุดท้ายแต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย
2.ผมว่าเรารับมือกับสถานการณ์ตุกติกได้ดีแล้วแต่ยังไม่ดีพอ ตลอดทั้งเกมส์เราโดนตอดบ่อย โดยส่วนตัวผมว่ามันเป็นปกติของเกมส์ฟุตบอล ผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูงจะถูกประกบ และโดนหยุดด้วยสารพัดวิธีทั้งในเกมส์และนอกเกมส์ ในกีฬาฟุตบอลที่กลับคำตัดสินไม่ได้ การฉวยโอกาสจากจุดบอดของผู้ตัดสินเพื่อนำไปสู่ชัยชนะ จึงเป็นวิธีที่เลี่ยงไม่ได้ เรารีแอคชั่นเรียกใบเหลืองและใบแดง จากลูกตุกติกของเกาหลีได้แล้ว แต่พลาดที่หยุดเล่นในจังหวะแฮนบอล คือน้องต้องไม่หยุดเล่นจนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดของกรรมการ อันนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ เราได้ประโยชน์จากกรรมการหลายครั้งจนเชื่อใจจคิดว่ายกมือแล้วเค้าจะเป่าหยุดเกมส์ ผมไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีสกปรกนะครับ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันจะอยู่ที่ผู้ตัดสินซ่ึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ที่สามารถผิดพลาดได้ เราควรเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ตรงนี้ ซึ่งเกาหลีทำได้ดีกว่าเรา
3. น้องๆต้องควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ เราประท้วงคำตัดสิน เรากดดันกรรมการได้ แต่เมื่อคำตัดสินออกมาแล้ว ควรหยุดและตั้งใจเล่นต่อ หลังเสียประตูที่สอง สรรเสิญของอาการหงุดหงิดชัดเจน จะไปแถมใส่ผู้เล่นเกาหลี ชาครเองไม่หยุดประท้วงผู้ตัดสินจนจบเกมส์ยังเดินไปถามอีก ถ้าโดนใบแดงมันจะส่งผลถึงรอบต่อไปทันที ณ ตอนนั้นเราตาม ถึงเราแพ้แต่ก็ยังไม่ได้จะตกรอบร้อยเปอร์เซนต์ อย่าให้ลูกสกปรกลูกเดียวส่งกับทีมในระยะยาว
4.คนไม่มีบอลต้องเคลื่อนที่มากกว่านี้ เราโดนเพรสซิ่งและผู้เล่นคีย์แมนโดนตามประกบ ยิ่งต้องเคลื่อนที่หาที่ที่ว่าง ให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน พอเพื่อนที่ไม่มีบอลเคลื่อนที่ คนมีบอลก็ต้องดูเพื่อนด้วยไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยง หลายๆจังหวะมากที่นักเตะเราตีรถเปล่า ชนิดที่กองเชียร์ต้องตะโกนบอกคนนี้เติมว่างแล้วๆ แต่เราเสียโอกาสไป
5. โดยส่วนตัวผมคืดว่าเด็กๆพวกนี้จะพาเราไปบอลโลก ในถ่ายทอดทีวีอาจะเห็นพวกเขาเฉพาะที่กล้องจับ แต่ในสนามเห็นหมด ก่อนมาผมคืดว่าเราจะต้องโดนเกาหลีบุกอย่างหนัก แต่กลับกันน้องๆบุกใส่ตลอดเกมส์ โค้ชทางโน้นให้เพรสซิ่งเร็วช่วงแรกๆผมคิดว่าเราโดนแน่น่าจะเล่นกันไม่ออกแต่พอเวลาผ่านไปมันมีจังหวะการเอาตัวรอดแม้โดนรุมสาม การเลี้ยงการส่ง ทักษะต่างๆ เราไล่ต้อนเกาหลีชนิดสู้กันได้แบบสุดมันส์แต่ก็นั่นแหละเกมส์ฟุตบอลถ้าเกมส์สูสี ฝีเท้าไม่ต่างกันมาก ทีมที่เรียกประโยชน์จากผู้ตัดสินได้ได้ดีกว่าก็จะชนะไป แต่อย่างไรก็ตามที่ผมเห็นบอกตรงๆว่าไม่ผิดหวัง ขอให้น้องๆพัฒนาฟอร์มให้ต่อเนื่อง บอลโลกอยู่ไม่ไกลเราหรอกครับ
U-19 เสียงสะท้อนจากหนึ่งในคนดูในสนามเมื่อวานนี้
1.การเข้าทำในจังหวะสุดท้าย เกือบทุกจังหวะที่มีโอกาสทำประตู น้องๆต่อบอลกันดีแล้วแต่จังหวะสุดท้าย จังหวะเข้าทำมันตันๆช้าๆ เหมือนต้องคิดก่อน ทำให้กองหลังฝั่งตรงข้ามเค้ามีเวลาจัดระเบียบ หลายๆครั้งเลี้ยงดึงกองหลังเกาหลีจนมีช่องมาได้แต่ไม่มีเพื่อนมาช่วยต่อบอล ต้องยิงเองทั้งๆที่มุมปิดหรือเปิดให้ตัวที่อยู่ไกลๆ ซึ่งก็ขาดความแม่นยำ ผมเห็นทีมสโมสรใหญ่ๆในยุโรป จะค่อยๆต่อบอลแต่พอถึงพื้นที่สุดท้ายสปีดบอลจะเร็วมากบางทีไม่ได้จบสกอร์แบบสวยงามอะไรมาก แต่มักจะได้ประตู เราไม่จำเป็นจะต้องมีศูนย์หน้าสไตล์โป้งปิดบัญชีก็ได้ แต่ต้องซ้อมเรื่องการเข้าทำและสปิดบอลในจังหวะสุดท้ายต้องเร็วและหลากลายกว่านี้ เรามีโอกาสมากมายเกือบทุกครั้งบอลจะไปตันอยู่ที่พื้นที่สุดท้ายแต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย
2.ผมว่าเรารับมือกับสถานการณ์ตุกติกได้ดีแล้วแต่ยังไม่ดีพอ ตลอดทั้งเกมส์เราโดนตอดบ่อย โดยส่วนตัวผมว่ามันเป็นปกติของเกมส์ฟุตบอล ผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูงจะถูกประกบ และโดนหยุดด้วยสารพัดวิธีทั้งในเกมส์และนอกเกมส์ ในกีฬาฟุตบอลที่กลับคำตัดสินไม่ได้ การฉวยโอกาสจากจุดบอดของผู้ตัดสินเพื่อนำไปสู่ชัยชนะ จึงเป็นวิธีที่เลี่ยงไม่ได้ เรารีแอคชั่นเรียกใบเหลืองและใบแดง จากลูกตุกติกของเกาหลีได้แล้ว แต่พลาดที่หยุดเล่นในจังหวะแฮนบอล คือน้องต้องไม่หยุดเล่นจนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดของกรรมการ อันนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ เราได้ประโยชน์จากกรรมการหลายครั้งจนเชื่อใจจคิดว่ายกมือแล้วเค้าจะเป่าหยุดเกมส์ ผมไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีสกปรกนะครับ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันจะอยู่ที่ผู้ตัดสินซ่ึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ที่สามารถผิดพลาดได้ เราควรเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ตรงนี้ ซึ่งเกาหลีทำได้ดีกว่าเรา
3. น้องๆต้องควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้ เราประท้วงคำตัดสิน เรากดดันกรรมการได้ แต่เมื่อคำตัดสินออกมาแล้ว ควรหยุดและตั้งใจเล่นต่อ หลังเสียประตูที่สอง สรรเสิญของอาการหงุดหงิดชัดเจน จะไปแถมใส่ผู้เล่นเกาหลี ชาครเองไม่หยุดประท้วงผู้ตัดสินจนจบเกมส์ยังเดินไปถามอีก ถ้าโดนใบแดงมันจะส่งผลถึงรอบต่อไปทันที ณ ตอนนั้นเราตาม ถึงเราแพ้แต่ก็ยังไม่ได้จะตกรอบร้อยเปอร์เซนต์ อย่าให้ลูกสกปรกลูกเดียวส่งกับทีมในระยะยาว
4.คนไม่มีบอลต้องเคลื่อนที่มากกว่านี้ เราโดนเพรสซิ่งและผู้เล่นคีย์แมนโดนตามประกบ ยิ่งต้องเคลื่อนที่หาที่ที่ว่าง ให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน พอเพื่อนที่ไม่มีบอลเคลื่อนที่ คนมีบอลก็ต้องดูเพื่อนด้วยไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยง หลายๆจังหวะมากที่นักเตะเราตีรถเปล่า ชนิดที่กองเชียร์ต้องตะโกนบอกคนนี้เติมว่างแล้วๆ แต่เราเสียโอกาสไป
5. โดยส่วนตัวผมคืดว่าเด็กๆพวกนี้จะพาเราไปบอลโลก ในถ่ายทอดทีวีอาจะเห็นพวกเขาเฉพาะที่กล้องจับ แต่ในสนามเห็นหมด ก่อนมาผมคืดว่าเราจะต้องโดนเกาหลีบุกอย่างหนัก แต่กลับกันน้องๆบุกใส่ตลอดเกมส์ โค้ชทางโน้นให้เพรสซิ่งเร็วช่วงแรกๆผมคิดว่าเราโดนแน่น่าจะเล่นกันไม่ออกแต่พอเวลาผ่านไปมันมีจังหวะการเอาตัวรอดแม้โดนรุมสาม การเลี้ยงการส่ง ทักษะต่างๆ เราไล่ต้อนเกาหลีชนิดสู้กันได้แบบสุดมันส์แต่ก็นั่นแหละเกมส์ฟุตบอลถ้าเกมส์สูสี ฝีเท้าไม่ต่างกันมาก ทีมที่เรียกประโยชน์จากผู้ตัดสินได้ได้ดีกว่าก็จะชนะไป แต่อย่างไรก็ตามที่ผมเห็นบอกตรงๆว่าไม่ผิดหวัง ขอให้น้องๆพัฒนาฟอร์มให้ต่อเนื่อง บอลโลกอยู่ไม่ไกลเราหรอกครับ