รอยด่างของสถานศึกษา

ขอความกรุณาให้คำแนะนำว่าจะแก้ไขหรือร้องเรียนกับหน่วยไหนหรือองค์กรใดจึงจะสัมฤทธิ์ผล เรื่องการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของครูผู้สอนซึ่งเอาเวลาราชการไปทำธุรกิจส่วนตัวเป็นระยะเวลาหลายปีติดต่อกัน ทั้งๆที่งานหลักของครูคือ งานสอน เหตุเกิด ณ ที่โรงเรียนชายล้วน ที่โรงเรียนมีอาคารเรียนสูง 5 ชั้น เพียงตึกเดียว กับอีกหนึ่งสนามบาสเกตบอล และที่ไม่เหมือนใครคือ มีผู้บริหารเป็นผู้หญิง และอยู่มานานหลายปี โรงเรียนนี้อยู่ระหว่าง สถานีรถไฟหัวลำโพงกับวงเวียนโอเดียน ( เยาวราช )/ เรื่องเกิดขึ้นที่กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คือมีครูหญิงคู่หนึ่งซึ่งจัดว่าเป็นคนพิเศษครูที่ทำตัวเป็นผู้ชายคือครู ร.ว.พ. ชื่อเล่น คือ ครู อ. และครูที่เป็นหญิงมีชื่อว่าครู บ.ส. พฤติกรรมของครูทั้งสองนี้คือ ครู อ. จะมาเซ็นชื่อตอนใกล้ๆ 08.00 น. หรือกว่านั้นพร้อมทั้งมาส่งครู บ.ส. มาทำงานแล้วครู อ. ก็จะหายออกไปจากโรงเรียนเลย ไม่สอน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาครู อ. จะทำอยู่ สามวิธี คือ หนึ่ง ให้ครู บ.ส. สอนแทน ใกรณีที่มีคาบสอนไม่ตรงกัน ถ้ามีคาบสอนตรงกันก็จะใช้ครูอัตราจ้างสอนแทน หรือไม่ก็ปล่อยนักเรียนเล่นกัน ซึ่งครู อ. นี้ได้คุยโวโอ้อวดว่า นามสกุลของตนเองเป็นนามสกุลพระราชทาน พ่อแม่เป็นข้าราชการ มีพี่ชายเป็นรองฯ อยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ ตนเองจะทำอย่างไรก็ได้ ซึ่งตอนแรกครู อ. ก็เป็นครูธุรการไม่มีวุฒิครู แต่มาติดพันครู บ.ส. เลยชักชวนกันมาสอนในหมวด แต่ไม่ชอบสอน บางวันแค่มาเซ็นชื่อแล้วกลับเลยบ่อยมากอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน บางวันก็มาสอนเพียง 1 คาบ การสอนแต่ละครั้งก็จะพยายามเข้าห้องสอนช้าๆ ประมาณ 15 นาที หรือมากกว่านั้นทุกครั้ง ไม่เคยทำหน้าที่ ครูประจำชั้น ซึ่งต้องโฮมรูมนักเรียนและอื่นๆ ทุกเช้า ไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งเลย เอาเปรียบคนที่ประจำชั้นร่วมตลอด ไม่ไปเข้าค่ายลูกเสือ ไม่คุมนักเรียน แต่จะมีชื่อในคำสั่งเกือบทุกคำสั่งเนื่องจากครู บ.ส. เป็นคนใส่ชื่อให้ ( ครู บ.ส. ทำงานในฝ่ายปกครอง ) เวลามีกิจกรรมก็จะมาทำทีถ่ายรูปกับพวกครู และเดินไปเดินมาให้คนเห็นแล้วก็หายตัวไปจากโรงเรียนเลย ตัวอย่างเช่น ในวันที่ 4 ธันวาคม 2557 น. ครู อ. ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา ในตอนเช้าก็แต่งชุดพิธีการมารับแล้วทำทีถ่ายรูปกับคณะครู เสร็จแล้วก็หายตัวไปจากโรงเรียนเลย ทิ้งคาบสอนซึ่งมีอยู่ 4 คาบไว้ให้ ครู บ.ส. สอน ครูอัตราจ้างสอน และ นศ.ฝึกสอนสอน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 นี้ ก็ทิ้งภาระไว้ให้ นศ. ฝึกสอนสอนแทนสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 12 คาบ ที่เหลือ ครู บ.ส. สอนแทน ซึ่งพฤติกรรมของคนทั้งคู่นี้เหมือนกับมีการวางแผนหรือ ฮั้วกันมาแล้วว่า ให้อีกคนออกไปทำธุรกิจ อีกคนจะคอยจัดการเรื่องสอนในโรงเรียน ได้รับเงินสองต่อ ทั้งสองคนนี้เงินเดือนรวมกันประมาณแสนกว่าบาท ซึ่งนับว่าไม่ใช่น้อยเลย ครู อ. ไม่เคยทำเอกสารเกี่ยวกับการเรียน ไม่ทราบว่าเคยตรวจงานนักเรียนหรือไม่ และตัดเกรดด้วยวิธีใด แต่ครู อ. จะไม่ให้นักเรียนติด ๐ เลย เพราะ ถ้าส่งคะแนนเสร็จก็จะมาเซ็นชื่อแล้วกลับแบบสบาย และมีครู บ.ส. เป็นคนคอยจัดการเรื่องเอกสารให้ทุกอย่าง ใน 1 ภาคเรียนมาสอนนักเรียนนับครั้งได้และไม่เคยอยู่โรงเรียนเต็มวันสักครั้ง จะลุกลี้ลุกลนใจจดจ่ออยู่กับการไปทำธุรกิจส่วนตัวตลอด ถ้าใครรู้ทันหรือพูดถึงพฤติกรรมของครู อ. ๆ ก็จะแสดงนิสัยถ่อย หยาบคาย ด่าทออาละวาดทันที ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้ครูในโรงเรียนตั้งแต่ผู้บริหาร รองฯ และฝ่ายต่าง ๆ กลัวกันมาก ไม่กล้าทำอะไร ทุกคนจะทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ทำให้ครู อ. ยิ่งได้ใจ และยังมี

นิสัยจอดรถเกะกะขวางทางในวัดเป็นประจำเพราะจะจอดแบบให้ตนเองออกสะดวก เซ็นชื่อเสร็จแล้วกลับ และสามารถมาเซ็นหลังแปดโมงได้ ซึ่งทำให้มีปัญหากับเจ้าหน้าที่วัดเนือง ๆ ล่าสุดปลายเดือนสิงหาคมก็ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่วัดต่อหน้าผู้คนมากมาย โดนเจ้าหน้าที่วัดว่าให้แบบเถียงไม่ได้เลยมาระบายออกกับนักเรียนโดยการตบหน้านักเรียนชั้น ม. ๑ ถ้า ครู อ. ไม่พอใจใครก็จะอาละวาดด่าทอ เอะอะโวยวายเสียงดังแบบไม่มีใครสามารถห้ามได้ ปัจจุบันเนื่องจากมีรองมาใหม่ 2 ท่าน ทำให้ครู อ. ใช้วิธี จอดรถไว้ที่โรงเรียนแล้วเลยไปทำธุรกิจส่วนตัวแถวเยาวราช สำเพ็ง แล้วตอนเย็นก็มารับครู บ.ส. กลับด้วยกัน พฤติกรรมเช่นนี้ของครู อ. ได้มีมายาวนาน ทำให้เกิดผลเสียกับนักเรียนชั้นม. ๑ ทุกปี เพราะครู อ. รับผิดชอบสอนวิชาพื้นฐาน ม. ๑ ทุกห้อง ทำให้เด็กนักเรียนถูกคนโน้นสอนที คนนี้สอนที สับสน เรียนไม่ติดต่อ ประกอบกับครู อ. ไม่เคยทำหน้าที่ของความเป็นครูเลย ไม่เคยอบรมสั่งสอนเด็ก และยังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็ก เป็นความด่างพร้อยของกลุ่มสาระ ทำให้ผู้ปกครองไม่ศรัทธา และโรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งปัญหานี้ผู้บริหารรู้ดี แต่ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจ โยนภาระให้ครูคนอื่น เพราะใครก็ตามที่มีชื่อทำงานคู่กับคนๆนี้ก็แสดงว่าต้องทำเอง เพราะครู อ. แค่มาเข้าแถวเคารพธงชาติในแต่ละวันยังไม่สามารถทำได้เลย ผู้บริหารก็แก้ปัญหาด้วยการ เปลี่ยนครูประจำชั้นให้คู่กับครู อ. ไปเรื่อย ส่วนใหญ่จะเป็น ครูอัตราจ้าง ครูผู้ช่วย ครูย้ายมาใหม่ ที่ไม่มีปากเสียงกล้าคัดค้าน ผลักภาระไปให้คนอื่น โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือหน้าที่ในฐานะผู้บริหารที่จะต้องแก้ปัญหาเลย เงินเดือนที่จ่ายครู อ. เป็นเงินภาษีประชาชน ไม่ใช่เงินผู้บริหาร ผู้บริหารเลยไม่ใส่ใจ นี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของครู อ. จริงๆ แล้วยังมีอีกมากมาย ขอความกรุณาช่วยให้คำแนะนำที่จะช่วยทำให้คนโกง คนคอรัปชั่น หมดไปจากโรงเรียนเสียที เพราะเวลานี้ชาติบ้านเมืองกำลังแย่ คนเป็นครูต้องเป็นตัวอย่างให้เด็กในทุก ๆด้าน ถ้าครูยังมีพฤติกรรม เห็นแก่ตัว ไม่ซื่อสัตย์ ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่มีความรับผิดชอบ เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน หาทางเอาเปรียบราชการตลอดเวลา และกล้าที่จะรับเงินเดือนจากภาษีอากรถึงเดือนละเกือบหกหมื่น มันคงไม่สมควร การที่ผู้บริหารเพิกเฉยก็เท่ากับสนับสนุนนั่นเอง จะบอกว่าไม่รู้ก็ไม่ได้ เพราะโรงเรียนมีตึกเรียนเพียงตึกเดียว เคยแจ้งเรื่องไปที่ต้นสังกัดแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไป ช่วยแนะนำวิธีหรือช่องทางที่จะสัมฤทธิ์ผลให้ด้วย จะเป็นพระคุณอย่างสูง จาก ตัวแทนของครูไทย