ดาว-ก้อย ในวันที่ยังแข็งแรงไม่พอ

เรื่อยเปื่อยกับซีรี่ย์  #hormonesseason 3

ที่สุดก็มาสักทีนะ ดุจดาว –วิริยา ^^
ความสัมพันธ์ที่รอดูมานาน แค่ตอนสองก็เข็นมาให้ดูอย่างเร็วไม่รู้เพราะทนเสียง เรียกร้องจาก  #ทีมดาวก้อย ไม่ไหว              
หรือเรื่องเล่า จากตัวละคร สองตัวนี้ ยังมีมากพอ ให้ตามไปเก็บ อีก 11 Ep.ที่เหลือ  ---ไม่ก็ปาหมอน ตัดจบ !!!??                          
กับความรักที่มันเป็นไปได้ยาก จบด้วยการ ปล่อยมือจากกันของดาวก้อย    เอาแบบนี้ จริง เหรอ??  ทีมงาน โคตรใจร้ายว่ะ

                       สำหรับตัวเราเองเฝ้ารอดูอยู่ว่าจะเขียนบทพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ขนาดไหน สำหรับฉากสัมผัสทางกายที่ เยอะขึ้นมาก หากเป็นแค่การเซอร์วิสแฟนๆ  แฟนคลับ อย่างเรา ยินดีรับไว้ นะจ๊ะ :p ( มุมมองส่วนตัว รู้สึกเฉยๆนะ การอยู่ตามลำพัง ของคนที่มีใจให้กัน มันอยากจะสัมผัสกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ดูว่าเยอะหรืออะไร ) ----- ถามว่าชอบมั้ย?  ชอบจ้า ^___^
                                                      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
         ถ้าทีมเขียนบทจบเรื่องราวทั้งสองคนไว้แค่นี้ แค่ต่างคนต่างเลือกที่จะปล่อย เราขอแอบค้นมุมเล็ก ๆ ที่จะผลักดันความสัมพันธ์นี้ ให้มันยังเดินต่อไปได้ (ไม่ยอมแพ้ ง่ายๆหรอกน่า)

          มาดูที่“ดาว” ก่อนละกัน เพราะตัวละครตัวนี้ติดเงื่อนไขที่ พื้นฐานมากแต่ โคตรยากที่จะฝ่าออกไป  กำแพงที่เรียกว่า “ครอบครัว”
แคบมาหน่อยก็ ติดที่คุณแม่นี่แหล่ะ ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียว ของแม่ที่เข้มงวด ขยับนิด ผิดทางหน่อย ก็ถูกดุด่าว่ากล่าว
แม่ผู้ซึ่งบงการทุกอย่างไปกระทั่งงานอดิเรก จนมาเจอความอดกลั้นสุดท้ายของ ลูกสาว ที่ระเบิดทุกความรู้สึกของตัวเองออกมา
ถึงเริ่มรู้สึกตัว ว่าทุกอย่างที่เธอทำ ที่คิดว่าเป็นความรัก ความห่วงใยมันมากเกินไป และผิดทาง    
เมื่อแม่ได้คิด และ เริ่มมองลูกสาวตัวเองอีกครั้ง ก็ได้เห็นว่า ดาว ไม่ใช่เด็กน้อย อีกต่อไป เธอกำลังเติบโต มีโลกอีกใบของเธอเอง และ กำลังมีความรัก กับ คนๆนึงที่เป็น ผู้หญิงเหมือนกัน
                                                          +++++++++++++++++++++++++++++++++++
สัญญาณที่ดี   แม่มักจะถามถึงก้อยกับดาว  เมื่อสังเกตว่า ดาวไม่คุยกันกับเพื่อนที่สนิทมาก ๆอย่างก้อย แม้จะติดใจว่าทั้งสองคนรักกันแบบคนรัก แต่เมื่อได้เห็นว่าลูกสาว เงียบไป คุณแม่ก็เปรยมาว่า“แล้วลูกอยากคุยกับเขาหรือเปล่า ถ้าอยากคุยก็ลองดู....”  ถ้าอยากคุยก็ลอง... ก็ลองดู คำพูดสะท้อนไปมาในหัว ขอแปลออกมาอย่างที่ใจต้องการ ลองดูนี่เท่ากับ   ลองคบดู หรือเปล่า? >__<    (ถ้าเป็นเราวิ่งไปหาก้อยแล้วเนี่ย เข้าข้างตัวเองไว้ก่อน)          
                                                         ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สัญญาณที่ดีครั้งที่สอง เมื่อก่อนด้วยความกลัวลูกสาวจะออกนอกลู่นอกทาง เวลาเห็นอะไรที่ตัวเองคิดว่าไม่ดี ก็จะพร่ำสอน พร่ำบ่น ไม่ว่าจะเป็นละครที่มีฉากสูบบุหรี่ ละครที่มีฉากคนแสดงความรักกัน การแต่งตัวที่เปิดนิดปิดหน่อย มาปัจจุบัน กับ ภาพที่เด็กสาวสองคน กอดคอซบไหล่หอมแก้มบนรถสามล้อ แม่กลับนิ่ง เหมือน กลัวว่าถ้าพูดออกมามันจะแทงใจดำของดาว ใจจริงของแม่คงรับไม่ได้ถ้าภาพตรงหน้านั้นเป็นลูกสาวตัวเอง แต่ด้วยภาพจำของดาวที่ระเบิดอารมณ์ตอนนั้นออกมา  
          หลังจากนั้นแม่ก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังคงหากิจกรรมให้ลูกทำแต่ คำพูดมันเปลี่ยนไป จากที่เคยบอกแม่จะให้ดาวทำนู่นทำนี่ กลายเป็น ดาวอยากจะทำหรือเปล่า เสนอให้ลูกได้ตัดสินใจเอง แนะนำ แต่ไม่ต้องทำตามอีกต่อไปแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงเป็นไปในทางบวกเริ่มยอมรับ ยอมฟังความคิดเห็นของลูกมากขึ้น แม้ตอนที่ ดาวบอก อยากจะลองเขียนนิยาย ก็พูดในเชิงสนับสนุน ให้ลองดู อยากลองอ่าน นิยายของลูกบ้างเหมือนกัน (เชิงว่าอะไรที่ลูกอยากทำ ก็ลองทำดูไปเลย แล้วมันจะเอี่ยวมาถึงเรื่องความรักได้มั้ย?!! )
กำแพงมันเริ่มพังตัวเองละ เหลือแค่คนในกำแพงจะกล้าพอมั้ย ถ้าลองเปิดใจยอมรับในสิ่งตัวเองเป็นได้ กล้ามากพอที่จะบอกกับแม่ได้ เราคิดว่าแม่เองก็พร้อมจะเคียงข้างแล้วล่ะ

“กำแพงถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลใด เหตุผลหนึ่ง และเหตุผลนั้นคือ การให้โอกาสเราได้แสดงออกมาว่าเราต้องการสิ่งนั้นมากเพียงไร”
                                                                                                                                        (แรนดี เพาช์ THE LAST LECTURE)

ดาว ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าต้องการความรักครั้งนี้มากพอหรือเปล่า ไม่ใช่แม่ที่จะเป็นคนกำหนด เธอจะต้องเป็นคนเดินออกมาเอง ถ้าก้อยคือคนที่สำคัญกับชีวิตมากๆ ต้องไปคว้ามาให้ได้ กล้าหาญให้มากพอเถอะดุจดาว

                                                                      “โลกใบนี้ไม่สามารถมีคนเพียงสองคนได้ แต่ยุติธรรมพอให้คนสองคน ได้รักกัน...”

  
                                                                                                               สำหรับวิริยา ขอติดไว้ก่อน เม่าเหม่อ  
                                                                                                                        เรามาลุ้นคู่นี้ไปด้วยกันนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่