วงการสื่อสารมึนท่าทีรัฐลอยแพ กสทช.ลุยไฟประมูลคลื่นความถี่ 900 MHzกับทีโอทีเอง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก ก่อนหน้าแคทก็เคยร้องขอให้รัฐกันคลื่น 1800 MHzที่สิ้นสุดสัญญาสัมปทานให้แต่ต้องจำนนด้วยข้อกฎหมาย ชี้หากประมูล 4 จีไม่เกิดเศรษฐกิจไทยกู่ไม่กลับแน่
แหล่งข่าวระดับสูงในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯด้านกฎหมาย ให้สัมภาษณ์สื่อถึงความขัดแย้งกรณีที่ฝายบริหารและสหภาพรัฐวิสาหกิจ บริษัททีโอที จำกัด(มหาชน) ออกโรงคัดค้านการนำคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตสไปประมูล โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และทีโอทีจะต้องไปหาทางออกกันเอง รัฐบาลไม่สามารถจะเข้าไปก้าวก่ายได้นั้นว่า ถือเป็นท่าทีที่ทำให้ทั้ง กสทช.และวงการโทรคมนาคมอดแปลกใจไม่ได้ประชาชนคนไทยต่างก็เฝ้ารอมานานกว่า 2-3 ปีแล้ว หลังจากก่อนหน้าได้ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ระงับการประมูลเอาไว้
แหล่งข่าวกล่าวว่า น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้ กรณีสิ้นสุดสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างบริษัท กสทโทรคมนาคม หรือแคทกับบริษัท ทรูมูฟ และดีพีซ- เมื่อปี 56 ฝ่ายบริหารกสท ก็เคยมีความพยายามจะขอถือครองคลื่น 1800 MHz เช่นกันและมีการฟ้องร้องไปทุกหน่วยงาน รวมถึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเรียกค่าเสียหายจาก กสทช.กว่า 2.7 แสนล้านเสียด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็จำนนด้วยข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.คลื่นความถี่ปี 2553 (พรบ.กสทช.) จนต้องยอมรามือยินยอมให้กสทช.นำคลื่น 1800 MHz มาเปิดประมูลซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"แต่พอมาถึงคิวการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของคลื่น 900 ของทีโอทีในครั้งนี้ ท่าทีของรัฐบาลกลับเปลี่ยนไปโดยอ้างว่าไม่ใช่เรื่องที่รัฐจะเข้ามาแก้ไขปล่อยให้เป็นเรื่องของกสทช.ไปว่ากันเองกับทีโอทีเอง ทั้งที่รัฐบาลเองเป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงไอซีที และสองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งกำกับนโยบายสื่อสารของประเทศ ซึ่งหากรัฐถือหางและยอมให้ทีโอทีถือครองคลื่นดังกล่าวได ก็คงต้องตอบคำถามกับบริษัทกสทโทรคมนาคมด้วยว่าเหตุใดรัฐถึงไม่เปิดช่องให้แคทได้ถือครองคลื่น 1800 MHz เพื่อให้บริการมือถือของตนเองก่อนหน้านั้นด้วย"
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การประมูลคลื่นความถี่เพื่อออกใบอนุญาต 4 จีนี้ไม่เพียงจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ของรัฐบาลเท่านั้น ผลพวงจากการประมูลยังจะช่วยเสิรมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยเฉพาะในด้านไอที เพราะไม่เพียงจะทำให้รัฐได้เม็ดเงินจากการประมูลที่คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท สำหรับการประมูลคลื่น 1800 MHz 2 ใบอนุญาต และอีกไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านสำหรับคลื่น 900 MHz ยังไม่รวมเม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตอีกนับแสนล้านบาท และจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่จะมีตามมา
"ก่อนหน้า กสทช.และนักวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เคยประเมินเอาไว้ว่าผลการประมูล 4 จีในครั้งนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาทในระยะ 2 ปีข้างหน้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และหากการประมูลจะต้องเลื่อนออกไปด้วยปัจจัยที่ไม่อาจคาดเดาได้จะยิ่งทำให้หนทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจต้องทอดยาวออกไปอีก"
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 12)
วงการสื่อสารมึนท่าทีรัฐลอยแพ กสทช ลุยประมูลความถี่ ทำศึกสายเลือดกันเองวงการหวั่นประมูล 4 จีดุเดือดหนัก
วงการสื่อสารมึนท่าทีรัฐลอยแพ กสทช.ลุยไฟประมูลคลื่นความถี่ 900 MHzกับทีโอทีเอง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก ก่อนหน้าแคทก็เคยร้องขอให้รัฐกันคลื่น 1800 MHzที่สิ้นสุดสัญญาสัมปทานให้แต่ต้องจำนนด้วยข้อกฎหมาย ชี้หากประมูล 4 จีไม่เกิดเศรษฐกิจไทยกู่ไม่กลับแน่
แหล่งข่าวระดับสูงในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯด้านกฎหมาย ให้สัมภาษณ์สื่อถึงความขัดแย้งกรณีที่ฝายบริหารและสหภาพรัฐวิสาหกิจ บริษัททีโอที จำกัด(มหาชน) ออกโรงคัดค้านการนำคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตสไปประมูล โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และทีโอทีจะต้องไปหาทางออกกันเอง รัฐบาลไม่สามารถจะเข้าไปก้าวก่ายได้นั้นว่า ถือเป็นท่าทีที่ทำให้ทั้ง กสทช.และวงการโทรคมนาคมอดแปลกใจไม่ได้ประชาชนคนไทยต่างก็เฝ้ารอมานานกว่า 2-3 ปีแล้ว หลังจากก่อนหน้าได้ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ระงับการประมูลเอาไว้
แหล่งข่าวกล่าวว่า น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้ กรณีสิ้นสุดสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างบริษัท กสทโทรคมนาคม หรือแคทกับบริษัท ทรูมูฟ และดีพีซ- เมื่อปี 56 ฝ่ายบริหารกสท ก็เคยมีความพยายามจะขอถือครองคลื่น 1800 MHz เช่นกันและมีการฟ้องร้องไปทุกหน่วยงาน รวมถึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเรียกค่าเสียหายจาก กสทช.กว่า 2.7 แสนล้านเสียด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็จำนนด้วยข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.คลื่นความถี่ปี 2553 (พรบ.กสทช.) จนต้องยอมรามือยินยอมให้กสทช.นำคลื่น 1800 MHz มาเปิดประมูลซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"แต่พอมาถึงคิวการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของคลื่น 900 ของทีโอทีในครั้งนี้ ท่าทีของรัฐบาลกลับเปลี่ยนไปโดยอ้างว่าไม่ใช่เรื่องที่รัฐจะเข้ามาแก้ไขปล่อยให้เป็นเรื่องของกสทช.ไปว่ากันเองกับทีโอทีเอง ทั้งที่รัฐบาลเองเป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงไอซีที และสองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งกำกับนโยบายสื่อสารของประเทศ ซึ่งหากรัฐถือหางและยอมให้ทีโอทีถือครองคลื่นดังกล่าวได ก็คงต้องตอบคำถามกับบริษัทกสทโทรคมนาคมด้วยว่าเหตุใดรัฐถึงไม่เปิดช่องให้แคทได้ถือครองคลื่น 1800 MHz เพื่อให้บริการมือถือของตนเองก่อนหน้านั้นด้วย"
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การประมูลคลื่นความถี่เพื่อออกใบอนุญาต 4 จีนี้ไม่เพียงจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ของรัฐบาลเท่านั้น ผลพวงจากการประมูลยังจะช่วยเสิรมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยเฉพาะในด้านไอที เพราะไม่เพียงจะทำให้รัฐได้เม็ดเงินจากการประมูลที่คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท สำหรับการประมูลคลื่น 1800 MHz 2 ใบอนุญาต และอีกไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านสำหรับคลื่น 900 MHz ยังไม่รวมเม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตอีกนับแสนล้านบาท และจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่จะมีตามมา
"ก่อนหน้า กสทช.และนักวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เคยประเมินเอาไว้ว่าผลการประมูล 4 จีในครั้งนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาทในระยะ 2 ปีข้างหน้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และหากการประมูลจะต้องเลื่อนออกไปด้วยปัจจัยที่ไม่อาจคาดเดาได้จะยิ่งทำให้หนทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจต้องทอดยาวออกไปอีก"
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 12)