ก่อนอื่นเลยต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า กระทู้นี้
"หาสาระไม่ได้"
เพียงแต่มันแค่ทำให้รู้สึก...ถึงความสุขกับ
"พื้นที่เล็กๆ" ในหัวใจ
ที่ทำให้เราได้นึกย้อนวัย...กลับไปตอนสมัย ป.6 อีกครั้ง
เมื่อสักครู่...ผมได้มีโอกาสนั่งดู
"เปาบุ้นจิ้น" ที่ทางช่อง 3 ได้นำกลับมาฉาย
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดิม ที่เคยออกอากาศเมื่อ ซึ่งจำได้ว่า เป็นละครจีนเรื่องแรกเลยมั้ง
ที่ได้ออกอากาศในเวลาไพรม์ไทม์หลังข่าว และ Rating ตีละครไทยซะกระจุย
ภาพในวัยเด็ก...เหมือนฟิล์มสไลด์เลยครับ ย้อนนึกกลับมาเป็นฉากๆ เลย
ตั้งแต่เริ่มฉาย...ไม่น่าเชื่อว่า ผมยังสามารถจำและร้อง 2 เพลงนี้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน
(ไม่ผิดเพี้ยน...จากที่เคยร้องตอนสมัย ป.6 เป๊ะ คือ มั่วได้เหมือนเดิม ไม่ผิดเพี้ยน 555+ แต่ก็ร้องได้นะ)
เปาบุ้นจิ้น : 2536
เพลงไตเติ้ล (ไม่รู้จักชื่อเพลง ขออภัยครับ)
ซินยวนยางหัวเตี่ยมง (ชื่อเพลงมันถูกมั้ยนะ 555)

ผ่านเรื่องของเพลงไป...แน่นอน ตัวละครก็เป็นที่จดจำเช่นกัน
ท่านเปา กงซุนเช่อ หวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง เจ้าหู่ และแน่นอน สุดหล่อ
จั่นเจา
ซึ่งทำให้เราได้รู้จักและจดจำกับดาราหน้าหยก
"เหอ เจีย จิ้ง"
ตัวละครแต่ตัวดังขนาดนี้คงหนีไม่พ้นกับประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตกับการ
"คอสเพลย์"
3 ตัวละครหลัก กับ 4 องครักษ์ข้างต้น มันคือบทบาทที่ต้องแย่งชิงกันในการแต่ง
"คอสเพลย์"
ขอโทษนะ ... ใครจะเป็นจั่นเจาก็เป็นไป สำหรับกรูต้อง "ท่านเปา" เท่านั้น
(อย่ามีปัญหากันให้มาก เดี๊ยะปั๊ดสั่งประหารให้หมดเลย เดี๊ยะๆๆ 555)
สมัยนี้เห็นมีเพจ
"อย่าปล่อยกะเทยไว้กับผ้า" แต่ขอโทษ จะบอกว่า...
สมัยนั้นผมกับเพื่อนในห้องเรียน จะใช้คำว่า
"อย่าปล่อยผู้ชายไว้กับผ้า" ก็คงจะใช้ได้ไม่ต่างกัน
สาระสำคัญ เราไม่ได้เน้นผ้าเน้นชุดกันเท่าไหร่ มันดูวุ่นวายไปสำหรับทำเล่น
เอาจริงๆ สิ่งที่โฟกัสสุดๆ มันอยู่ที่
"หมวก"
กระดาษแข็งหน้าขาวหลังเทา ถูกบรรจงตัดและดัดแปลง พร้อมแต้มเติมความสมจริงด้วย
"ปากกาเมจิกตราม้า"
สีหลัก 3 สี อย่าง ดำ น้ำเงิน และแดง เอามาระบายสีหมวกของแต่ละคน หมึกหมดกันเป็นด้ามๆ
เมิง...สวยไม่สวยยังไงก็ได้ แต่ที่สำคัญ "หางก้านหมวกต้องเด้ง ห้ามหัก เข้าใจ๋!!! 555+"
(เป็นการเล่นที่จริงจังมากลูกเอ๊ย...กับการเรียนเป็นอย่างนี้มั้ยลูก!!!)
จากที่แค่เล่นๆ ที่ดูจริงจังมากมาย เพื่อนๆ ที่เหลือในห้อง เมิงจะช้าอยู่ใย จับมาเป็นเจ้าหน้าที่ศาลให้หมด (แหว่ๆๆ...หวู่ๆๆ...)
เจ้าหน้าที่ศาลบทไม่ยาก เล่นไม่ยากหรอกเมิง อุปกรณ์มีแค่
"ไม้พลองลูกเสือ" ทุกอย่างก็จบ
เพื่อนผู้หญิงในห้องเห็นว่าเข้าท่า จึงนำมาสู่การคิดเนื้อเรื่องสำหรับการแสดงรอบกองไฟ ในกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือสำรอง
ลูกเสือ 1 หมู่ กับ ยุวกาชาด 1 หมู่ ต้องจับคู่ทำกิจกรรมด้วยกันตลอดการเข้าค่าย
จากที่เริ่ม แค่กลุ่มเพื่อนผู้ชาย ตอนนี้เลยลามไปถึงเพื่อนผู้หญิงด้วย
การออกแบบชุดสุดบรรเจิดของไทเฮา ฮองเฮา ของเหล่ายุวกาชาดจึงเริ่มขึ้น
วันแสดงจริง จึงได้เห็นเหล่าผู้หญิงมีทุกผ้า
ตั้งแต่ผ้าพันคอยันผ้าถุง เอา!!!...เอาให้สุด
กลองร้องทุกข์ไม่มี..ไม่เป็นไร กระดิ่งๆ สั่นกระดิ่งเอาก็ได้ ตอนเรียน สปช. พ่อขุนรามก็ทำแบบนี้ (พร่องๆๆ...นั่นมันระฆัง)
จะแสดงทั้งที มันต้องมี Hilight ของเด็ดๆ เก็บไว้เล่นอย่าง
"กระบี่อาญาสิทธิ์" สั่งให้ใครทำอะไรก็ต้องทำ
เดินไปสั่งให้หมู่อื่นทำนู่นทำนี่ มันก็ยังอุตส่าห์บ้ายอเล่นกับพวกเราด้วย
และสุดท้ายไม่มีไม่ได้กับ
"เครื่องประหารหัว H..E..R..E.." เปอดดดด...เม้ดดดดดด..... (ครีเอทแทบตาย..ได้ใช้แป๊บเดียว)
จบการแสดงไปพร้อมกับคำชื่นชมด้วยการเยลล์
"เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ"
(ว่าแต่เอ๊ะ ทำไมฟังแปลกๆ เหมือนไม่มีตัวสะกด เหมือนตัว ห. หรีบ แฮะ)
นี่คือหนึ่งในความทรงจำที่ยังไม่เคยลืม ซึ่งถือเป็นการส่งท้ายก่อนจบ ป.6 ที่วุ่นวายจริงๆ
บอกแล้วนะ...กระทู้นี้
"ไม่มีสาระ"
ปล.ทิ้งท้ายไว้หน่อยดีกว่า ดูหนังจีน ละครจีนมาก็หลายสิบปี เพิ่งจะมีข้อสงสัย
"ขันที" ในราชสำนักจีนเนี่ย จริตการพูดหรือน้ำเสียงจริงๆ มันเหมือนกับเสียงพากย์ไทยที่เราได้ยินไหม
หรือมันเป็นแค่บริบทของการพากย์เสียง ที่เหมือนจะตั้งใจเพื่อจะทำให้รู้ว่า หากมีลักษณะน้ำเสียงแบบนี้
"นี่คือ..กงกง"
หรือจริงๆ แล้ว คนที่เป็นกงกง ต้องมีจริตแบบนี้ ถึงจะเข้าไปอยู่ร่วมกับนางในวังทั้งหลายได้ หรืออะไรยังไงกันหนอ?..
(เอ๊ะ...หรือผมเพ้อเจ้อ ดูละครมากไปกันแน่นะ) ฝากถามผู้รู้ ผู้โชกโชน ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยนะครับ
ใครมีประสบการณ์หรือความทรงจำประมาณนี้ แชร์ได้นะครับ อยากอ่าน เพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับคนวัยเลข 3 ครับ
(ขอพื้นที่เล็กๆ ที่ยังเป็นเด็กอยู่ได้ไหม......)
[หาสาระไม่ได้] มาเล่นกันเถอะๆ...มาเล่าให้ฟังถึงความทรงจำครั้งเก่ากับ "เปาบุ้นจิ้น"
เพียงแต่มันแค่ทำให้รู้สึก...ถึงความสุขกับ "พื้นที่เล็กๆ" ในหัวใจ
ที่ทำให้เราได้นึกย้อนวัย...กลับไปตอนสมัย ป.6 อีกครั้ง
เมื่อสักครู่...ผมได้มีโอกาสนั่งดู "เปาบุ้นจิ้น" ที่ทางช่อง 3 ได้นำกลับมาฉาย
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดิม ที่เคยออกอากาศเมื่อ ซึ่งจำได้ว่า เป็นละครจีนเรื่องแรกเลยมั้ง
ที่ได้ออกอากาศในเวลาไพรม์ไทม์หลังข่าว และ Rating ตีละครไทยซะกระจุย
ภาพในวัยเด็ก...เหมือนฟิล์มสไลด์เลยครับ ย้อนนึกกลับมาเป็นฉากๆ เลย
ตั้งแต่เริ่มฉาย...ไม่น่าเชื่อว่า ผมยังสามารถจำและร้อง 2 เพลงนี้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน
(ไม่ผิดเพี้ยน...จากที่เคยร้องตอนสมัย ป.6 เป๊ะ คือ มั่วได้เหมือนเดิม ไม่ผิดเพี้ยน 555+ แต่ก็ร้องได้นะ)
เปาบุ้นจิ้น : 2536
เพลงไตเติ้ล (ไม่รู้จักชื่อเพลง ขออภัยครับ)
ซินยวนยางหัวเตี่ยมง (ชื่อเพลงมันถูกมั้ยนะ 555)
ผ่านเรื่องของเพลงไป...แน่นอน ตัวละครก็เป็นที่จดจำเช่นกัน
ท่านเปา กงซุนเช่อ หวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง เจ้าหู่ และแน่นอน สุดหล่อ จั่นเจา
ซึ่งทำให้เราได้รู้จักและจดจำกับดาราหน้าหยก "เหอ เจีย จิ้ง"
ตัวละครแต่ตัวดังขนาดนี้คงหนีไม่พ้นกับประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตกับการ "คอสเพลย์"
3 ตัวละครหลัก กับ 4 องครักษ์ข้างต้น มันคือบทบาทที่ต้องแย่งชิงกันในการแต่ง "คอสเพลย์"
ขอโทษนะ ... ใครจะเป็นจั่นเจาก็เป็นไป สำหรับกรูต้อง "ท่านเปา" เท่านั้น
(อย่ามีปัญหากันให้มาก เดี๊ยะปั๊ดสั่งประหารให้หมดเลย เดี๊ยะๆๆ 555)
สมัยนี้เห็นมีเพจ "อย่าปล่อยกะเทยไว้กับผ้า" แต่ขอโทษ จะบอกว่า...
สมัยนั้นผมกับเพื่อนในห้องเรียน จะใช้คำว่า "อย่าปล่อยผู้ชายไว้กับผ้า" ก็คงจะใช้ได้ไม่ต่างกัน
สาระสำคัญ เราไม่ได้เน้นผ้าเน้นชุดกันเท่าไหร่ มันดูวุ่นวายไปสำหรับทำเล่น
เอาจริงๆ สิ่งที่โฟกัสสุดๆ มันอยู่ที่ "หมวก"
กระดาษแข็งหน้าขาวหลังเทา ถูกบรรจงตัดและดัดแปลง พร้อมแต้มเติมความสมจริงด้วย "ปากกาเมจิกตราม้า"
สีหลัก 3 สี อย่าง ดำ น้ำเงิน และแดง เอามาระบายสีหมวกของแต่ละคน หมึกหมดกันเป็นด้ามๆ
เมิง...สวยไม่สวยยังไงก็ได้ แต่ที่สำคัญ "หางก้านหมวกต้องเด้ง ห้ามหัก เข้าใจ๋!!! 555+"
(เป็นการเล่นที่จริงจังมากลูกเอ๊ย...กับการเรียนเป็นอย่างนี้มั้ยลูก!!!)
จากที่แค่เล่นๆ ที่ดูจริงจังมากมาย เพื่อนๆ ที่เหลือในห้อง เมิงจะช้าอยู่ใย จับมาเป็นเจ้าหน้าที่ศาลให้หมด (แหว่ๆๆ...หวู่ๆๆ...)
เจ้าหน้าที่ศาลบทไม่ยาก เล่นไม่ยากหรอกเมิง อุปกรณ์มีแค่ "ไม้พลองลูกเสือ" ทุกอย่างก็จบ
เพื่อนผู้หญิงในห้องเห็นว่าเข้าท่า จึงนำมาสู่การคิดเนื้อเรื่องสำหรับการแสดงรอบกองไฟ ในกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือสำรอง
ลูกเสือ 1 หมู่ กับ ยุวกาชาด 1 หมู่ ต้องจับคู่ทำกิจกรรมด้วยกันตลอดการเข้าค่าย
จากที่เริ่ม แค่กลุ่มเพื่อนผู้ชาย ตอนนี้เลยลามไปถึงเพื่อนผู้หญิงด้วย
การออกแบบชุดสุดบรรเจิดของไทเฮา ฮองเฮา ของเหล่ายุวกาชาดจึงเริ่มขึ้น
วันแสดงจริง จึงได้เห็นเหล่าผู้หญิงมีทุกผ้า ตั้งแต่ผ้าพันคอยันผ้าถุง เอา!!!...เอาให้สุด
กลองร้องทุกข์ไม่มี..ไม่เป็นไร กระดิ่งๆ สั่นกระดิ่งเอาก็ได้ ตอนเรียน สปช. พ่อขุนรามก็ทำแบบนี้ (พร่องๆๆ...นั่นมันระฆัง)
จะแสดงทั้งที มันต้องมี Hilight ของเด็ดๆ เก็บไว้เล่นอย่าง "กระบี่อาญาสิทธิ์" สั่งให้ใครทำอะไรก็ต้องทำ
เดินไปสั่งให้หมู่อื่นทำนู่นทำนี่ มันก็ยังอุตส่าห์บ้ายอเล่นกับพวกเราด้วย
และสุดท้ายไม่มีไม่ได้กับ "เครื่องประหารหัว H..E..R..E.." เปอดดดด...เม้ดดดดดด..... (ครีเอทแทบตาย..ได้ใช้แป๊บเดียว)
จบการแสดงไปพร้อมกับคำชื่นชมด้วยการเยลล์ "เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ"
(ว่าแต่เอ๊ะ ทำไมฟังแปลกๆ เหมือนไม่มีตัวสะกด เหมือนตัว ห. หรีบ แฮะ)
นี่คือหนึ่งในความทรงจำที่ยังไม่เคยลืม ซึ่งถือเป็นการส่งท้ายก่อนจบ ป.6 ที่วุ่นวายจริงๆ
บอกแล้วนะ...กระทู้นี้ "ไม่มีสาระ"
ปล.ทิ้งท้ายไว้หน่อยดีกว่า ดูหนังจีน ละครจีนมาก็หลายสิบปี เพิ่งจะมีข้อสงสัย
"ขันที" ในราชสำนักจีนเนี่ย จริตการพูดหรือน้ำเสียงจริงๆ มันเหมือนกับเสียงพากย์ไทยที่เราได้ยินไหม
หรือมันเป็นแค่บริบทของการพากย์เสียง ที่เหมือนจะตั้งใจเพื่อจะทำให้รู้ว่า หากมีลักษณะน้ำเสียงแบบนี้ "นี่คือ..กงกง"
หรือจริงๆ แล้ว คนที่เป็นกงกง ต้องมีจริตแบบนี้ ถึงจะเข้าไปอยู่ร่วมกับนางในวังทั้งหลายได้ หรืออะไรยังไงกันหนอ?..
(เอ๊ะ...หรือผมเพ้อเจ้อ ดูละครมากไปกันแน่นะ) ฝากถามผู้รู้ ผู้โชกโชน ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยนะครับ
ใครมีประสบการณ์หรือความทรงจำประมาณนี้ แชร์ได้นะครับ อยากอ่าน เพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับคนวัยเลข 3 ครับ
(ขอพื้นที่เล็กๆ ที่ยังเป็นเด็กอยู่ได้ไหม......)