[CR] เกาะสุรินทร์ ชีวิตติดเกาะ ฟินไม่รู้ลืม ดำน้ำจนตัวดำ



ต่อเนื่องมาจากกระทู้ก่อน http://pantip.com/topic/34266507 ที่ยังอยากไหลเที่ยวต่อยังไม่อยากกลับ อุตส่าห์นั่งรถไฟมาตั้งไกล
เป้าหมายในครั้งนี้คือเกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา เกาะที่อยากจะมาหลายครั้งแต่ยังไม่มีโอกาส ได้แต่มาดำScubaนอนอยู่บนเรือliveaboardช่วงปีใหม่ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นเกาะและไปนอนบนเกาะ
ทริปนี้เลยขอจัดสัก3วัน2คืน(ใจจริงอยากอยู่สักอาทิตย์นึง ฝรั่งบางคนมาอยู่เป็นเดือนเลยครับ บางคนมาทุกปี)
เกาะสุรินทร์อยู่ที่ไหน สำหรับขาเที่ยวเกาะหลายๆคนคงทราบดีอยู่แล้ว ว่าอยู่ที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
การเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดพังงาเนื่องจากยังไม่มีสนามบิน(แต่กำลังจะมีเร็วแล้ว)มาถึงจังหวัดพังงาโดยตรง จึงต้องไปลงที่สนามบินภูเก็ตแล้วค่อยนั่งรถต่อมาที่อำเภอคุระบุรี
แบบที่สองคือโดยเดินทางโดยรถยนต์ หรือรถรถทัวร์ รถทัวร์สามารถขึ้นได้ที่ขนส่งสายใต้ใหม่ เป็นรถของบริษัทลิกไนท์ทัวร์ ออกจากขนส่งในตอนเย็นจะมาถึงในคุระบุรีในตอนเช้าพอดี แล้วมีรถของบริษัททัวร์มารับไปที่ท่าเรือเพื่อเดินทางไปยังเกาะสุรินทร์(ในกรณีที่คุณใช้บริการเรือหรือซื้อทัวร์กับทางบริษัทนั้น)

แต่ทริปนี้ผมเดินทางต่อมาจากจังหวัดกระบี่ การเดินทางจึงหลายต่อนิดนึงครับแต่ก็สนุกดี(พูดปลอยใจตัวเอง)
เราเริ่มต้นที่กันตัวเมืองกระบี่ บอกสองแถวไปบขส.กระบี่ คนละยี่สิบบาท จากการไปถามลุงคนนึงแถวร้านข้าวที่ไปนั่งทาน ต้องขอบคุณลุงคนนั้นด้วยที่ชี้จุดให้เรียบร้อยบอกกับเดินมาส่งและบอกกำชับอีกว่าถ้ามีมอไซรับจ้างมาถามหรือมีใครมาถามว่าจะไปไหนไม่ต้องบอก ไปยืนรอตรงนั้นเดี๋ยวก็มีรถมา
เมื่อถึงบขส เรียบร้อยก็ได้เวลาเดินหาตั๋วไปจังหวัดพังงา เดินถามคนขายตั๋วซึ่งกวักมือเรียกกันเป็นระวิงด้วยสันดานเอ้ยสันชาตญาณความหวาดระแหวงจึงทำเป็นนิ่งไม่สนใจเดินผ่านไปก่อน 1 รอบ ก่อนที่จะเดินกลับมาอีก 1รอบ พอถามคนขายตั๋วของบริษัทนึงทราบว่ามีไปพังงาแต่รถที่จะไปพังงานั้นออกไปแล้ว จึงต้องนั่งรถสาย เบตง-ภูเก็ต ไปลงที่  โคลกลอย แบบงงๆ ว่าจะหลงมั้ยไปถึงแล้วทำไงต่อ แต่ผมถามย้ำกับคนขายตั๋วแล้วว่ามีรถต่ไปพังงาได้แน่ใช่มั้ย เธอยืนยันมาว่ามีจึงตัดสินใจซื้อตั๋วมา รถออกบ่ายสามโมงครึ่ง จริงมันมีรถตู้ที่จะไปภูเก็ตด้วยซึ่งน่าจะเร็วกว่าการนั่งรถทัวร์แบบผม(slowlifeโคตรๆ) ซึ่งผมก็มาเห็นรถตู้เมื่อซื้อตั๋วไปแล้ว

พอถึงโคลกลอย ประมาณ 5โมง เดินข้ามถนนแบกสัมภาระไปซื้อตั๋ว จากร้านขายของข้างๆตู้กสิกรในภาพ ของบริษัทศรีตรังทัวร์ ตามคำแนะนำของพี่มลจากบริษัทซาบีน่าทัวร์ ที่ผมโทรไปจองตั๋วเรือไว้แล้ว
รถจะมาจากภูเก็ตมารับประมาณ1 ทุ่ม แต่ระหว่างที่นั่งรอก็มีฝรั่งที่เดินทางมาตากระบี่ด้วรถตันเดียวกันกำลังง่วนอยู่กับคนขายตั๋ว เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องผมจึงเสนอตัวเข้าไปเผือกได้ความว่าจะไปเขาสก แล้วไปถามคนขายตั๋วว่ามีรถต่อไปเขาสกมั้ยซึ่งรถที่จะไปต่อนั้นหมดไปตั้งแต่บ่ายสอง งานเข้าละไงยู
สุดท้ายช่วยถามคนขายตั๋วให้ว่านั่งรถไปลงเขาหลักแล้วนอนพักคืนนึงเช้าค่อยหาต่อรถไปเขาสก จะเหมาแท๊กซี่ไป 3000 ยิ้มหมดตังค์เที่ยวเขาสกแน่ยู

รถมาถึงคุระบุรีประมาณสี่ทุ่มกว่า สื่งแรกที่พบคือความเงียบที่มันเงียบจนได้ยินเสียงท้องร้อง ร้านต่างๆปิดเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ร้านนี้แหละที่ยังเปิดอยู่และสามรถฝากท้องได้ รสชาติถือว่าดีใช้ได้เลยครับ และร้านนี้เองก็อยู่ฝั่งข้ามกับห้องพักที่ผมหมายตาไว้แล้ว

กินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาเข้าที่พักสักที นั่งรถมาทั้งวันแล้ว เมื่อยตูดมาก
ที่พักชื่อบุญปิยะ ห้องพักราคา 650 บาท ต่อ 600 ให้ตายไงแกก็ไม่ยอมลดให้ ขอเข้ามาดูห้อง ห้องยังใหม่ดีครับ เตียงแข็งนิดๆ แต่แค่นอนคืนเดียวแป๊ปเดียวเอง ได้ห้องพักเป็นเบอร์ 15 เบอร์เดียวกับที่พักที่ไร่เลย์ เราจึงคุยกันขำว่าสงสัยงวดนี้ต้องจัดซะหน่อยแล้ว


ห้องพักสะอาดดีครับ ห้องน้ำก็ไม่สกปรก

จัดการเก็บของเรียบร้อย ก็ออกไปร้านสะดวกซื้อ เพื่อไปซื้อแฟ๊บมาซักผ้า เพราะผมเอาเสื้อผ้ามาไม่เยอะเพราะไม่คิดว่าจะไหลต่อ เสื้อผ้าหมดแล้วซักสิครับรออะไร คิดว่าเช้ามาคงจะแห้ง ที่ไหนได้เช้ามายังเปียกเหมือนเดิม ต้องเอาใส่ถุงไปตากที่เกาะต่อ

ได้สเบียงมาเรียบร้อย เงียบขนาดไหนคิดดูครับ ถนนเส้นหลักไม่มีรถวิ่งเลย ถึงขนาดเล่นกันกลางถนนได้เลย

เช้าตื่นมาโทรไปหาบริษัทซาบีน่าทัวร์ เพื่อย้ำกับพี่เค้าอีกทีว่ารออยู่ที่รีสอร์ทนะ รถจะมารับตอนเก้าโมง ตอนนี้มีเวลาไปเดินตลาดแถวๆนั้นตุนสเบียงไว้ไปกินบนเกาะ
เมื่อถึงออฟฟิตเรียบร้อยก็ทำการเช็คอิน เป็นตั๋วเรื่อสปีดโบ๊ทไปกลับเกาะสุรินทร์ คนละ 1700 บาท พร้อมเช่าเต๊นท์พร้อมเครื่องนอนอีกคืนละ 350 บาท นอนได้สองคนสบายๆ
ที่นี่จะมีสองแบบนะครับ คือแบบแพคเกจทัวร์ และแบบโอเพ่น คือซื้อแค่ตั๋วเรือ แล้วไปเช่าเต๊นท์หรือบ้านพักของทางอุทยานเอา
แล้วเค้าจะถามว่าเราจะพักที่หาดไหน ที่นี่มีสองหาด คือ หาดไม้งาม กับ อ่าวช่องขาด ผมเลือกพักที่หาดไม้งาม จากนั้นเค้าจะแจกริบบิ้นแยกสีให้เอาไปผูกไว้ที่กระเป๋าสัมภาระของเรา ผูกทุกอันทุกสิ่งนะครับแม้กระทั่งถุงน้ำ ขนม เพื่อจะได้แยกสัมภาระของแต่ละหาดได้ไม่มาปะปนกัน
พอได้เวลาก็เดินมาที่ท่าเรือคุระบุรี เพื่อรอขึ้นไปเกาะกันเลย

ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือสปีทโบ๊ท ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ก็สุรินทร์
น้ำใสมาก ใสจริงๆ

อยากลองขับเรือดูบ้าง เลยขอเค้าลองดู ว่าแต่กุญแจอยู่ไหน แล้วสตาร์ทไงหละเนี่ย

เมื่อถึงแล้วก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นเรือหางยาว เพื่อนั่งต่อไปยังหาดที่เราจะพักนั่นคือ หาดไม้งาม
ระหว่างทางก็เก็บภาพไปพลางๆ

มีฮอมาจอดที่นี่ด้วย

น้ำใสไล่เฉดสวยมากครับ ของจริงสวยกว่านี้เยอะเลยครับ


เมื่อไปถึงแล้วต้องรอเรือเรือขนกระเป๋าของเรามาส่งที่หาดก่อนที่จะแบกกระเป๋าสัมภาระของตัวเอง เดินเท้าต่อไปอีกด้าน(ใครซื้อแพคเกจมีบริการแบกไปให้ครับ เดินกันตัวปลิว) ที่เป็นที่พักและที่ทำการอุทยาน
เมื่อไปถึงทางสต๊าฟของซาบีน่าให้รออยู่ที่ทำการอุทยานก่อน เพื่อที่จะพาไปที่เต๊นท์ของเรา และทำการชำระค่าอุทยานให้เรียบร้อย


ถึงแล้วครับหาดไม้งาม สวย งาม ทรายขาวละเอียดนุ่ม น้ำใสมากๆ

เราขอกับทางสต๊าฟว่าอยากได้เต๊นท์ทีอยู่ติดทะเลซึ่ง สต๊าฟนั้นขอเช็คก่อน ว่าลูกค้าที่ซื้อแพคเกจ ได้ที่พักเรียบร้อยมั้ย สุดท้ายเราก็ตื้อมาจนได้ หน้าตาเต๊นท์ก็ประมาณนี้ครับ เปิดเต๊นท์ออกมาวิ่งลงทะเลได้เลย โอ๊ยยยย นี่แหละที่ตามหา

เมื่อเก็บของเข้าเต๊นท์เรียบร้อย กิจกรรมแรกที่ต้องทำคือ ตากผ้าครับ อย่างที่บอกครับ ถ้าที่ตากไว้เมื่อคืนนั้นไม่แห้ง เลยต้องเอามาตากต่อบนเกาะ
มันเป็นการตากผ้าที่ได้อารมณ์มากๆ เกิดมาพึ่งเคยตากผ้าริมทะเล

หลักจากนั้นก็เดินกลับที่ ที่ทำการอุทยานเพื่อทำการลงชื่อบอกจำนวนจองไปดำน้ำรอบบ่าย ลงชื่อเสร็จเรียบร้อย ต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วเลย
เสร็จแล้วถามทางเจ้าหน้าที่ว่าไปดูลูกปลาฉลามที่ไหน เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เดินไปทางด้านซ้ายของหาดไม้งาม จะมีต้นโกงกางเดินเข้าไปเงียบ ตอนนี้น้ำขึ้นไปดูได้เลย
ระหว่างเดินไปขอจัดภาพสักหน่อย แดดกำลังดี ร้อนกำลังดี แต่เจอหาดสวยๆ น้ำใสๆ บรรยากาศเงียบสงบแบบนี้ จะกี่แดดเราก็ทนได้



ทรายอาจจะไม่ขาวเท่าตาชัย น้ำทะเลอาจจะไม่ใสปิ๊งๆเหมือนสิมิลัน กับ ตาชัย แต่นี่ก็ใสมากแล้ว และทรายขาวๆแบบนี้ คนไม่พลุกพล่าน ไม่วุ่นวาย ไม่มีเรือมาจอดให้ขัดลูกหูลูกตา ผมนี่หลงรักที่นี่เลย

หาดไม้งามนี้น้ำไม่ลึกนะครับ เห็นมองออกไปไกลๆนี่เดินออกไปได้สบายๆครับ และเวลาน้ำลงทีนี่เดินออกไปถึงหินนั่นเลยครับ

จัดทะเลกันไปอย่างต่อเนื่อง


ผู้ร่วมเดินทางไปกับผมในทริปนี้ที่นับแต่นี้ไปเธอจะเป็นคนที่ร่วมเดินทางกับผมไปตลอดชีวิต และตอนที่ถ่ายภาพนี้เธอตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว โดยที่เราทั้งสองนั้นไม่รู้มาก่อน มารู้ก็หลังจากกลับมาที่กรุงเทพแล้ว (ปัจจุบันตอนนที่พิมพ์กระทู้อยู่นี้ 33 สัปดาห์แล้วครับ)
กลายเป็นทริปเราสองสามคนไปโดยปริยาย เคยได้ยินแต่แบกเป้เที่ยว แต่ของเราคือแบกตัวอ่อนเที่ยว

นอกเรื่องไปละกลับมาเข้าเรื่องกันต่อ ผมชอบต้นไม้ต้นนี้มากครั้งแรกที่เห็นอยากจะรีปเข้าไปถ่ายภาพทันที
เดินลุยน้ำไปครึ่งเอว ไปกลับอยู่สองรอบกว่าจะได้ภาพนี้

เมื่อเราใช้คนอื่นถ่ายแล้ว มันต้องมีการก๊อปมุมกันเป็นธรรมดา หัวเราะ

เดินเลียบชายหาดมาเรื่อยๆ จะมาถึงจุดที่เราจะมาดูลูกปลาฉลามกัน เป็นจัวหวะเดียวกับบริษัททัวร์พาลูกทัวร์มาดูปลาฉลามเหมือนกัน
ฝรั่งมุง

***วิธีการมาดูลูกปลาฉลามนะครับ
เดินมาให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ งดใช้เสียงนะครับ
ค่อยๆเดินลงไปยืนในน้ำ ยืนอยู่นิ่งๆ สักพักเดี๋ยวปลาก็จะว่ายเข้ามาหาเองครับ ไม่ต้องไปเดินตาม
คุณคงมีคำถามว่าแล้วปลามันกัดมั้ย จากการที่ผมยืนอยู่นานมากปลาว่าผ่านไปหลายรอบก้ไม่มีปลาตัวไหนจะว่ายเข้ามากัดนะครับ สบายใจได้

เวลามานี่มาทีละหลายตัวเลยครับ ไม่ใช่มาตัวสองตัว

ปลาฉลามนี้จะเป็นพันธุ์ ครีบดำ หรือ Blacktip Shark

มาดูหน้าตาใกล้ๆกันเลย บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตผมเลย ที่ได้มาเห็นปลาฉลามตัวเป็นๆ ในทะเลแบบครบทุกครีบ ปรกติเคยเห็นแต่ในชามหรือไม่ก็ตามสะพานปลา


ชื่อสินค้า:   หาดไม้งาม เกาะสุรินทร์ พังงา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  Snorkeling เที่ยวไทย Backpack บันทึกนักเดินทาง เที่ยวทะเล
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่