ไปเจอมาโดยบังเอิญ แต่ดูไม่ค่อยออกว่าของวัดอะไร
ค้นไปค้นมาในใจตอนนี้มี
- ครูบาต๋า วัดบ้านเหล่า จ.เชียงใหม่
กับ
- ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
ใครพอจะมองออก รบกวนบอกด้วยครับ
ถ้าเป็นได้เซียนพระบอกราคาปล่อยด้วยก็ดีครับ

-----------------------------------------------------------------------------------
รูปขยายใหญ่ดูได้ที่
https://www.img.in.th/image/79Iz
-----------------------------------------------------------------------------------------
โดนหลายๆท่านมองยันต์ม้าเสพนางไปในทางเสื่อม ขออธิบายไว้ ณ จุดนี้นะครับ
ประวัติยันต์ม้าเสพนาง
ประวัติยันต์ม้าเสพนางเป็นยันต์ที่มีในแวดวงยันต์ด้านเสน่ห์ของล้านนามานาน เชื่อกันว่าเป็นยันต์ที่มาจากทางพม่า เงี้ยว มีมาในล้านนาเมื่อไหร่ไม่มีไครทราบ แต่โบราณล้านนานิยมใช้ยันต์นี้กันมาก เนื่องจากไห้ผลทางด้านเสน่ห์
ม้าเสพนางเป็นหนึ่งใน 4 สุดยอดเสน่ห์ โดยมี 1 ม้าเสพนาง 2 วัวเสพนาง 3 หนูกินน้ำนมแมว 4 วัวกินน้ำนมเสือ ตามตำนานเล่าไว้ว่า มีครอบครัวหนึ่งมีลูกสาวสวยมาก ครอบครัวนี้เลี้ยงม้าตัวผู้อยู่หนึ่งตัวมีลักษณะงามยิ่งนัก หญิงสาวดูแลม้าทุกวันจนเกิดความใกล้ชิดกับอาชาหนุ่ม จึงบังเกิดความรักใคร่ต่อม้าหนุ่ม ต่อมาจึงได้เสพกามกับม้าหนุ่ม ผู้เป็นพ่อได้ทราบเรื่องนี้เข้าจึงโกธรและอับอายมาก ถึงกับฆ่าม้าตัวนั้นตาย หญิงสาวเสียใจมากจึงกลั้นใจตายตามม้าตัวนั้นไป ดังนั้นยันต์ม้าเสพนางจึงเป็นยันต์ที่ให้ผลทางด้าน ราคะ ตัณหากามารมณ์รุนแรง ผู้ที่จะใช้ควรใช้อย่างมีศีลธรรม
รูปยันต์ม้าเสพนางตามตำราของโบราณมีคติธรรม มีปริศนาธรรมแผงไว้ หาใช่เป็นเครื่องรางทางลามกอนาจารอย่างอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ม้าเสพนาง กับปริศนาธรรมที่แผงอยู่
ม้าเสพนาง ศิลปะของเครื่องรางที่พระเกจิลานนายุคเก่าแต่งสร้างขึ้นคู่กับอิ้น
ใครจะล่วงรู้ประวัติยาวนานอันแฝงด้วยสัจธรรม หาใช่แต่ฤทธานุภาพหรือเสน่หามายาที่คนปรารถนาโลกๆๆอย่างเดียวหรือใช่แค่สมาธิจิตผู้เสกสร้างด้วยคาถา
หารู้ไม่ว่านั้นคือการพิจารณาธรรมที่แฝงไว้เตือนใจของคนยุคเก่าผ่านรูปลักษณ์
หากอิ้นหรือรูปชายหญิงกอดกันแสดงการ กำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนามแล้ว
ม้าเสพนางมีความหมายลึกกว่าที่คิดนัก
ในศาสนาพราหมณ์ดั้งเดิม ม้าเป็นเทพโบราณที่ชนอริยะกะนับถือแทนพระอาทิตย์เทพคือความสว่างในใจรู้
แทนเทพกฤท อัศวิน เทพคู่แฝดที่ช่วยคนทำดี อันพัฒนาการมาเป็นพระอวโลกิเตศววรษทักษรีโลเกศวรในอินเดีย
ที่แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต
ทั้งนี้ 900 ปีก่อนในศรีลังกา ม้ายังเป็นสัญลักษณ์แทนการตื่นรู้ฝึกฝนตนให้พ้นจากกิเลส
เป็นการเข้าใจการเวียนว่ายในสังสารวัฏ จึงแทนด้วยรูปม้า
เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการฝึกฝนตนในการเรียนรู้โลกคือมายาแทนสตรีที่สวมกอดม้าอยู่
เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้
ให้ตื่นจากความหลง ความโลภ ความโกรธ
จึงเป็นอิสระจาก เครื่องผูกมัดกายใจ
ม้าเสพนาง จึงเป็นปริศนาธรรมที่สอนให้ตื่นรู้ใช่ลุ่มหลงในมายา
จากการใช้ม้าแทนการตื่นรู้ฝึกฝนผ่านกาลเวลาจึงเลือนหายการรู้แจ้งสัจจะ
เห็นเพียงสมมติที่สร้างแต่เรืองอานุภาพด้วยสมาธิที่เกิดจากการพิจารณาธรรม
ม้าเสพนางนี้ มายาข้ามมายา
ด้วยตื่นรู้ คือรู้สัจจะที่แฝงอยู่ในมายา
ใช่หลงไปตามมายา ด้วยงมงาย
ผ้ายันต์ม้าเสพนางผืนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ??
ค้นไปค้นมาในใจตอนนี้มี
- ครูบาต๋า วัดบ้านเหล่า จ.เชียงใหม่
กับ
- ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
ใครพอจะมองออก รบกวนบอกด้วยครับ
ถ้าเป็นได้เซียนพระบอกราคาปล่อยด้วยก็ดีครับ
-----------------------------------------------------------------------------------
รูปขยายใหญ่ดูได้ที่ https://www.img.in.th/image/79Iz
-----------------------------------------------------------------------------------------
โดนหลายๆท่านมองยันต์ม้าเสพนางไปในทางเสื่อม ขออธิบายไว้ ณ จุดนี้นะครับ
ประวัติยันต์ม้าเสพนาง
ประวัติยันต์ม้าเสพนางเป็นยันต์ที่มีในแวดวงยันต์ด้านเสน่ห์ของล้านนามานาน เชื่อกันว่าเป็นยันต์ที่มาจากทางพม่า เงี้ยว มีมาในล้านนาเมื่อไหร่ไม่มีไครทราบ แต่โบราณล้านนานิยมใช้ยันต์นี้กันมาก เนื่องจากไห้ผลทางด้านเสน่ห์
ม้าเสพนางเป็นหนึ่งใน 4 สุดยอดเสน่ห์ โดยมี 1 ม้าเสพนาง 2 วัวเสพนาง 3 หนูกินน้ำนมแมว 4 วัวกินน้ำนมเสือ ตามตำนานเล่าไว้ว่า มีครอบครัวหนึ่งมีลูกสาวสวยมาก ครอบครัวนี้เลี้ยงม้าตัวผู้อยู่หนึ่งตัวมีลักษณะงามยิ่งนัก หญิงสาวดูแลม้าทุกวันจนเกิดความใกล้ชิดกับอาชาหนุ่ม จึงบังเกิดความรักใคร่ต่อม้าหนุ่ม ต่อมาจึงได้เสพกามกับม้าหนุ่ม ผู้เป็นพ่อได้ทราบเรื่องนี้เข้าจึงโกธรและอับอายมาก ถึงกับฆ่าม้าตัวนั้นตาย หญิงสาวเสียใจมากจึงกลั้นใจตายตามม้าตัวนั้นไป ดังนั้นยันต์ม้าเสพนางจึงเป็นยันต์ที่ให้ผลทางด้าน ราคะ ตัณหากามารมณ์รุนแรง ผู้ที่จะใช้ควรใช้อย่างมีศีลธรรม
รูปยันต์ม้าเสพนางตามตำราของโบราณมีคติธรรม มีปริศนาธรรมแผงไว้ หาใช่เป็นเครื่องรางทางลามกอนาจารอย่างอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ม้าเสพนาง กับปริศนาธรรมที่แผงอยู่
ม้าเสพนาง ศิลปะของเครื่องรางที่พระเกจิลานนายุคเก่าแต่งสร้างขึ้นคู่กับอิ้น
ใครจะล่วงรู้ประวัติยาวนานอันแฝงด้วยสัจธรรม หาใช่แต่ฤทธานุภาพหรือเสน่หามายาที่คนปรารถนาโลกๆๆอย่างเดียวหรือใช่แค่สมาธิจิตผู้เสกสร้างด้วยคาถา
หารู้ไม่ว่านั้นคือการพิจารณาธรรมที่แฝงไว้เตือนใจของคนยุคเก่าผ่านรูปลักษณ์
หากอิ้นหรือรูปชายหญิงกอดกันแสดงการ กำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนามแล้ว
ม้าเสพนางมีความหมายลึกกว่าที่คิดนัก
ในศาสนาพราหมณ์ดั้งเดิม ม้าเป็นเทพโบราณที่ชนอริยะกะนับถือแทนพระอาทิตย์เทพคือความสว่างในใจรู้
แทนเทพกฤท อัศวิน เทพคู่แฝดที่ช่วยคนทำดี อันพัฒนาการมาเป็นพระอวโลกิเตศววรษทักษรีโลเกศวรในอินเดีย
ที่แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต
ทั้งนี้ 900 ปีก่อนในศรีลังกา ม้ายังเป็นสัญลักษณ์แทนการตื่นรู้ฝึกฝนตนให้พ้นจากกิเลส
เป็นการเข้าใจการเวียนว่ายในสังสารวัฏ จึงแทนด้วยรูปม้า
เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการฝึกฝนตนในการเรียนรู้โลกคือมายาแทนสตรีที่สวมกอดม้าอยู่
เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้
ให้ตื่นจากความหลง ความโลภ ความโกรธ
จึงเป็นอิสระจาก เครื่องผูกมัดกายใจ
ม้าเสพนาง จึงเป็นปริศนาธรรมที่สอนให้ตื่นรู้ใช่ลุ่มหลงในมายา
จากการใช้ม้าแทนการตื่นรู้ฝึกฝนผ่านกาลเวลาจึงเลือนหายการรู้แจ้งสัจจะ
เห็นเพียงสมมติที่สร้างแต่เรืองอานุภาพด้วยสมาธิที่เกิดจากการพิจารณาธรรม
ม้าเสพนางนี้ มายาข้ามมายา
ด้วยตื่นรู้ คือรู้สัจจะที่แฝงอยู่ในมายา
ใช่หลงไปตามมายา ด้วยงมงาย