ก็ไม่รู้จะตั้งชื่อกระทู้ยังไง แต่ก็อยากให้เข้ามาอ่านกันเยอะ > การมีแฟนดี บางทีก็ทุเลสตัวเอง ที่คอยแต่ให้เค้าช่วยเหลือเรา

กระทู้คำถาม
สวัสดีครับ ผมก็ติดตามอ่านกระทู้ในพันทิปมาได้สักระยะนึงแล้วครับ วันนี้เลยอยากจะปรึกษาเพื่อนๆในพันทิปหน่อยว่า ถ้าพวกคุณเป็นแฟนผมแล้วจะทนอยู่กับผมได้นานมั้ย

                  เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับคบกันมาได้ปีกว่าๆแล้ว แฟนผมไม่ใช่คนน่าตาดีมาก แต่เทอน่ารักและเข้าใจผมมากแต่บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจ (เอ๊ะยังไง) ผมเริ่มคบกันก่อนที่ผมจะเรียนจบ ผมรู้จักกันทาง Facebook ซึ่งไม่เคยเจอหน้ากันเลยก่อนน่านี้ เพราะผมเป็นรุ่นพี่แล้วก็อยู่กันคนละคณะ ผมเรียนวิศวะ เทอเรียนคณะการจัดการ
                 ขอเล่าประวัติส่วนตัวก่อนน่านี้น่ะครับ ก่อนที่ผมจะคบกับแฟนผม ผมยอมรับเลยว่าผมเป็นคนที่ เ_ี้ย พอสมควร บ้านผมอยู่ใกล้มหาลัย ทั้งเที่ยวหนัก กินเหล้าหนัก เล่นพนันบ้าง เคยติดหญ้ายิ้ม เรื่องผญ คือทุกชนิดที่คิดไม่ดีผมทำหมด ทำเพราะสนุก รู้สึกเท่ บอกไว้ก่อน ผมไม่ใช่คนหน้าตาดีเท่าไหร่ แต่ถ้าผมชอบใครหรือจีบใครก็ไม่เคยพลาดเลย 55555+ ส่วนใหญ่คนที่ผมชอบจะเป็นพวกดาวคณะ ถือว่าน่าตาก็ใช้ได้ทั้งนั้น ช่วงปี 1-3 ผมทำกิจกรรมคนจึงรู้จักเยอะ ไปเที่ยวร้านเหล้าแทบไม่ต้องพกตังไปเลย อาศัยเจอคนรู้จักแล้วก็ไปกินกับเค้า (ตลก-) ไปเที่ยวก็ต้องเจอ ผญ ผมก็จีบแหล่ะครับ บางทีก็ได้เป็นแฟนกัน บางทีก็ได้แค่นอนกันเฉยๆ บางทีก็มีคนมาชอบแล้วก็นอนกันเฉยๆ ทั้งแถวมหาลัยผมและมหาลัยใกล้เคียง ที่บอกงี้เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด จังหวัดผมมีมหาลัยใกล้ทะเลด้วยแต่ผมไม่ได้เรียนที่นั่นครับ มันเป็นอย่างนี้วนๆเวียนๆอยู่ตลอด 3 ปี ผมเคยแม้กระทั่งไปคุยกับผญ คนที่เพื่อนแอบปลื้ม (แต่เพื่อนผมมีแฟนแล้วน่ะ) มันก็ด่าแต่ก็ไม่ว่าอะไรมาก ผมพา ผญ มาบ้านเพื่อนทุกวันแต่ไม่ค่อยซ้ำหน้า (เพื่อนเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน) เพื่อนชอบถามว่าคนนี้ได้ยัง ซึ่งมันชอบคิดว่าคนที่ผมพามาผมต้องได้เค้าตลอด จริงๆก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง บอกอีกครั้ง ผมไม่ใช่คนหล่อ รวย อะไร แต่ปากผมดี ตอนนั้นผมเป็นคนจริงใจกับทุกคน ทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ทั้งรุ่นพี่ ทั้งแฟนและสาวๆ สมัยนั้นถือว่าการกินเหล้า การคุยกับสาว สำคัญกว่าการเรียนอีกครับ ซึ่งบอกเลยว่ามันมีผลตามมาแน่นอน แต่ตอนนั้นก็แค่สนุกอยากใช้ชีวิตวัยรุ่น ใช้ชีวิตเด็กมหาลัย และจะบอกอีกครั้งน่ะครับว่ามันไม่ดีเลย ทุกวันนี้ยังรู้สึกเสียใจอยู่เลย แต่บางทีก็คิดว่าเป็นประสบการณ์
                 ต่อจากนั้นพอขึ้นปี 4 ความสนุกที่เคยมีเริ่มจางหายไป เพราะต้องทำโปรเจ็ก และมันเป็นอะไรที่ #$%@%@ ไม่ต้องบรรยายล่ะกันครับ ปีนั้นผมทำโปรเจ็กกับเพื่อนทั้งหมด 5 คน ระหว่างนั้น ผมก็ยังทำกิจกรรมอยู่แต่น้อยลง เอ้อลืมบอก สมัยผมอยู่ปี 3 ผมเป็นประทานว๊ากของคณะวิศวกรรมศาสตร์ครับ ผมปี 4 จึงต้องมีการฝึกน้องๆปี 3 ในการว๊ากหรือบางคนเรียกประชุมเชียร์ ก็นั่นแหล่ะครับ จีบสาวอีกแล้ว จีบน้องปี 3 ที่เป็นพี่ว๊าก คือจริงๆก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย แต่เห็นคนเค้าชอบกันเยอะแล้วพอดีเราทำกิจกรรมร่วมกันเลย อ่ะ ลองจีบดู สรุปคือไม่นานก็ได้เป็นแฟนกัน (ย้ำอีกทีๆ กูไม่หล่อ) คบกันได้ไม่นานก็ต้องเลิก พอเลิกก็ไปจีบคนใหม่ (นี่ที่เล่ามา ไม่ค่อยมีเรื่องเรียนเลยเนอะ ห่า ) แล้วก็ได้แฟนใหม่เป็นเด็กคนละมหาลัย เป็นรุ่นน้องปีนึง ตอนคบคนนี้ก็ดีน่ะครับเพราะผมไปกินเหล้าแถวมหาลัยเทอบ่อย แต่สุดท้ายก็เลิกกันอีก เพราะผมไม่พอยังไปแอบคุยกับคนอื่นอีก ซึ่งเค้าเคยเตือนผมว่า ทำอะไรอย่าคิดว่าไม่รู้น่ะ จับได้ 1 ครั้ง พอครั้งที่ 2 เลิกเลย คบกันได้ปีหน่อยๆมั่งครับ ผมไม่อยากเลิกเลยกับคนนี้ เพราะอะไรหลายๆอย่างเข้ากันดี แต่เลิกมันก็คือเลิก ทำใจอยู่นานครับ ไม่คุยกับใครอื่นเลยเพราะยังคิดถึงอยู่ตลอด ขอไม่ลงรายละเอียดต่อล่ะกัน จนจบปี 4 แต่ผมเรียนไม่จบ4 ปี ก็อย่างที่บอก ว่าช่วงนั้นไม่สนใจเรียนเลย
                 เวรกรรมมันก็ตามมาครับ พอขึ้นปี 5 (อย่างกะเรียนหมอ) ปัญหาชีวิตก็เริ่มดาหน้าเข้ามา พ่อเกรีษณอายุงาน เงินที่ได้เกรีษณมาก็เอาไปใช้หนี้ ตอนนี้แหล่ะครับ ความยิ้มเริ่มบังเกิด เงินทองเริ่มไม่ค่อยมี ผมเลยกลับไปทำงาน Part-time เหมือนเดิมเพื่อที่จะเอาเงินไว้ใช้ส่วนตัว ซึ่งๆแล้ว ผมก็เข้าๆออกๆงานพิเศษมาตลอดแหล่ะครับ ที่ๆผ่านๆมาเกรดผ่านมาด้วยกีตลอด บางทีก็ซีและบีบ้าง 55555+ มันก็น้อยแหล่ะครับ ปี 5 เลยต้องทำเกรดขึ้นมา ทีนี้รู้เลย สัสเอ๋ย ยากยิ้มเลย แต่ก็หังอยู่ว่าจะขอจบไม่เกิน 5 ปี เลยลงเรียนอัดเลยครับ เทอมละ 7-8 ตัว แล้วก็เปนตัวยากๆที่เคยดรอปมา เป็นตัวที่คนเรียนจะจบไม่จบก็ไอ้วิชาพวกนี้แหล่ะ (Heat ,Air,Solid แหม ทั้งร้อนทั้งหนาวและแข็งเลยครับ) เพราะเพื่อนก็จบกันหมดแล้วนิ เพื่อนที่คอยติวยิ้มทำการทำงาน ไปเรียนเมืองนอก ชีวิตดีดี๊กันหมด ทีนี้ก็เหลือผมที่ต้องเผชิญกับวิบากกรรมต่อไป  ตอนนี้ก็มีบ้างที่ผมเงินไม่พอใช้ ก็ต้องไปยืมเพื่อนๆมาครับ ทั้งเงินค่าเทอม เงินกิน เงินค่าผ่อนมอไซด์ คือปัญมาพร้อมกันเลยทั้งบ้านครับ ผมต้องทนอึดอัดและน่าด้านไปขอยืมคนเพื่อนเป็นหมื่นๆ แต่ก็หลายๆคนครับ มีอยู่คนนึงที่ 2 หมื่นกว่า (ซึ้งมันมาก ไม่ทวงผมสักคำ) หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนที่เคยสนุกเฮฮาด้วยกันสมัยเรียน เริ่มหายไป หายไปทีละคน ยอมรับครับว่าผมก็ไปยืมเงินเค้ากันนั่นแหล่ะ นานเลยกว่าจะคืนเค้า ก็ยอมรับว่าเพื่อนมันไม่ผิดที่จะว่าเรา แต่ก็มาเจอกับน้อง ผญ คนนึง ซึ่งเป็นคนที่ผมพูดไว้ตั้งแต่แรกแหล่ะครับ ซึ่งปัจจุบันยังคบกันดีอยู่ ผมคุยกับน้องคนนี้ ผมก็เล่าปัญหาชีวิตทุกอย่างซึ่งบอกเลย ผมไม่ได้จะหวังให้เค้าช่วยเลยครับ ตอนนั้นยังไม่ได้คบกันน้องเค้ารู้ว่าผมปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ น้องเค้าก็ขอเลขบัญชีผมไปแล้วโอนเงินมาให้เลย แฟนผมคนนี้เค้ามีเงินเก็บอยู่เยอะครับ สมัยก่อนที่จะมาคุยมาคบผมเค้าขายครีมใน IG ไม่ใช่ครีมหน้าใสอะรพวกนั้นน่ะ แต่เป็นพกครีมตามเคาเตอร์แบนเนมอ่ะครับ พวกที่เป็นตัวเทส พักไว้ก่อนมาต่อกับเรื่องเพื่อนผมต่อเด่ว คือเพื่อนจะเอาเราไปพูดให้คนอื่นฟังว่าผมเป็นอย่างนี้อย่างนั้น ผมเสียใจมากครับ ร้องไห้เลย(เพื่อนกลุ่มในสาขา) เพื่อนกลุ่มที่เคยกินๆนอนๆด้วยกัน(เพื่อนนอกสาขา) ก้ไปเที่ยวกันแต่ไม่ชวนผมสักคำ ร้องไห้ครับ ที่ร้องเพราะผมคิดว่า ผมเนี้ยจิงใจกับเพื่อนกลุ่มนี้มากๆ อดก็เคยอดมาด้วยกัน สมัยปี 1-3 แม่ผมขายก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวมหาลัย พวกมันก็มากินกัน ร้านเคยเปิดอยู่ข้างบ้านที่พวกมันเคยเช่าอยู่กันเลยได้รู้จักกัน มันมาขอน้ำชุบบอกจะเอาไปให้หมากิน แม่ผมก็งง หมาพวกกินน้ำชุบด้วยหรอว่ะ แต่ก็ให้ไปครับ แล้วมันก็เอาไปต้มมาม่ากินกัน บอกไว้เลยว่า น้ำชุบก๋วยเตี๋ยวเนี้ย ที่ตามร้านที่เราไม่นั่งกินกันแล้วเค้าให้น้อยๆเพราะมันคือหัวใจของก๋วยเตี๋ยว เค้าจึงไม่ให้เราเยอะเพราะสามารถขายได้อีกหลายชาม (อ่านไปบางทีมันอาจจะมาการสลับมาเล่าที่มาที่ไปบ้างก็อย่างงการน่ะครับ) ต่อเลยครับ หลังจากที่พวกมันไปเที่ยวกันแล้วไม่ชวน ผมเสียใจ ร้องไห้ แฟนผมก็บอกใจเย็นๆ เพื่อนเค้าอาจจะรู้ว่าเราแย่อยู่ เงินทองไม่ค่อยมีเลยไม่อยากชวนมั่งไรงี้ ตอนนั้นผมยอมรับเลยว่า กูไม่สน เงินจะมีหรือไม่มีแต่ก็ไม่เห็นชวนก่อนนิ วันต่อมา มันออกโดดงานมาหาที่บ้าน มาง้อผม (นี่ก็ขี้น้อยใจอย่างกะ ผญ เลย) ผมก็เอ้อๆ เอาน้ำให้มันกินกัน คือพวกมันสนิทกับที่บ้านผมมาก ก็ตอนที่ว่าขายของแหล่ะครับ บางครั้งไม่มีเงินก็มากินก่อน กินให้อิ่ม อยากได้จอยเอาไว้เล่นเกมส์ ก็มาช่วยแม่ผมทำงาน ช่วยเสริฟก๋วยเตี๋ยว แม่ก็ให้กินฟรี แถมได้ตังไปซื้อจอยเกมส์ ผมเลยรู้สึกว่า เห้ย น้อยใจว่ะ ผมไม่รู้หรอกว่า คนอื่นเค้าวัดความสำคัญกันยังไง แต่ที่ผมรู้ ผมวัดด้วยใจครับ แต่พอเวลาผ่านไป ก็กลับมาคุยด้วยกันดีเหมือนเดิมจนถึงปัจจุบันเพราะผมเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เลิกอาการคิดเล็กคิดน้อย คิดเอาในแง่ดีตลอด
                       คงสงสัยว่าทำไมไม่ค่อยพูดถึงแฟน ใจเย็นๆน่ะครับ แค่อยากจะบอกว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ผมมีปัญหา แฟนผมจะคอยอยู่ข้างๆมาโดนตลอดครับ ช่วงระหว่างที่คบกัน แฟนเลยตัดสินใจ ไปเช้าหอนอกอยู่กับผม โดยที่แฟนผมจ่ายเงินค่าหอ ค่ากิน ค่าอื่นๆหมดเลย จนผมคิดว่าผมดูเหมือนเป็นแมงดาเลยครับ แฟนผมเรียนก็โอเครครับตามเกณฑ์ปกติ พ่อแม่เป็นครูก็ถือว่าที่บ้านมีตังแหล่ะครับ แต่ผมก็ไม่คิดจะให้แฟนมาเลี้ยงผม ช่วงนั้นผมดันวางแผนเรียนผิด และก็ไม่ได้จบ 5 ปี อย่างที่คิด เพราะเกรดเราไม่ถึงเกณฑ์ที่จะจบ (F Air,Solid) จึงต้องมาต่อปี 6 อีกเทอมนึง ผมที่เคยสนุกเฮฮาได้หายไปเลยครับ

เดี๋ยวมาต่อครับ พักเที่ยงแปป ก็ไม่รู้จะมีใครอ่านมั้ย แต่ก็ตั้งไว้เผื่อจะมีคนเข้าใจอารมที่ผมเป็นบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่