สวัสดีค่ะ เราเพิ่งจะสมัครพันทิปได้ไม่กี่เดือน เพราะตั้งใจจะแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษกับสถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งมันยาวมากกกกกก แต่ก็ยังไม่ได้ตั้งกระทู้สักที (วันนี้ก็ยังไม่มีอารมณ์ตั้งเรื่องนั้นค่ะ5555) แต่จะมาขอเล่าชีวิตรักที่ผ่านๆมาให้ฟังกันนะคะ
ปัจจุบันเราเพิ่งเรียนจบจากมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ อายุ 22 ปี เรามีความรักครั้งแรกๆตอนประมาน ม.ต้น ปัจจุบันก็มีมา 4-5 คนแล้วค่ะ เราจะเล่าเป็นบางคนนะคะ เริ่มเลย....
แฟนคนนี้เราคบประมานช่วง ม.4 ค่ะ สมมติว่าชื่อ "กบ" กบอยู่ปี1ค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่รร.เก่า (เราเพิ่งย้ายรร.มาเข้าม.ปลายที่ใหม่) ก็คุยๆกันผ่านทาง hi5 ตอนนั้นเรารู้สึกว่ากบเป็นผู้ชายอบอุ่น ให้คำปรึกษาเราได้ในทุกๆเรื่อง ต่อให้เราต้องทำรายงานดึกแค่ไหน กบจะออน hi5 เล่น msn เป็นเพื่อนเราทุกคืน บวกกับการที่กบอายุมากกว่าเรา เราเลยรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้น่าจะโอเค (เราไม่เคยคบคนอายุน้อยกว่าเลยค่ะ เพราะเรารุ้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง มีภาวะความเป็นผู้นำพอสมควร เลยอยากได้ผู้ชายที่นำเราได้ เป็นพ่อที่ดีให้แก่ลูกเราได้ คิดไปนั่นนน 555) ก็คุยกันมาสักพักค่ะ จนเรารู้สึกว่ามันโอเคนะ เค้าก็เป็นคนง่ายๆ ไม่ง๊องแง๊ง เราว่างก็คุย ไม่ว่างก็ไม่เคยบ่น คือเอนอ่อนตามเราทุกอย่าง จนวันนึงก็นัดกินข้าวดูหนังกันค่ะ และน่าจะตกลงเป็นแฟนกันประมานช่วงนั้นอ่ะค่ะ จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ก่อนหน้านั้นเราก็คุยกับคนอื่นพอสมควรนะคะ แต่พอคบกับกบ เราก็เลิกคุยกับทุกคนเลยค่ะ
(ระหว่างเล่าเราอาจจะแทรกลักษณะนิสัยเราเข้าไปด้วยนะคะ เพราะทุกๆคนรอบตัวเราบอกว่า เราเป็นคนนิสัยไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป 555555 หลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจ)
ก็วันที่ดูหนัง เราเป็นคนเลี้ยงค่ะ คือเราทราบว่ากบทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เพราะที่บ้านฐานะไม่ค่อยดีค่ะ พ่อเสีย มีพี่สาว 2 คน มีสามีแล้วทั้งคู่ คนนึงมีลูกก็เอามาให้แม่กบเลี้ยง บ้านกบเปิดโต๊ะสนุ๊ก แล้วก็เปิดโต๊ะบอลค่ะ แต่แค่แบบเล็กๆ คนเล่นไม่กี่คน เป็นคนระแวกนั้น จริงๆวันนั้นกบก็ทำท่าว่าจะเลี้ยงหนังเราค่ะ แต่ด้วยนิสัยเรา เราก็บอกว่า เห้ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง กบก็บอกงั้นกบเลี้ยงข้าวเราละกัน คือเราเป็นคนที่ไม่กล้ารับของๆของใครค่ะ เป็นคนขี้เกรงใจ เป็นคนที่มีความสุขที่ได้เป็นฝ่ายให้ และทุกข์ใจถ้าต้องเป็นฝ่ายรับมากๆ (ซึ่งนิสัยนี้ของเรานี่แหล่ะค่ะ คือต้นเหตุของหายนะทั้งปวง) พอดูหนังจบ ก็ไปทานข้าวค่ะ สุดท้ายเราเลี้ยงเพราะเราเกรงใจ ละก็แยกย้ายกันกลับ ชีวิตก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา ดูหนังทุกเรื่องที่เข้าโรงดูเสร็จทานข้าว กลับบ้าน เราออกเงินทุกครั้งทุกบาททุกสตางค์ เพราะด้วยความเกรงใจ ไม่กล้าให้เค้าเลี้ยงค่ะ เหมือนเราเอาเปรียบเค้าเพราะเค้าก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว เป็นแบบนี้มาประมานปีกว่าๆค่ะ จนเราชินเพราะทุกครั้งที่ทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้เงินคือจะเป็นเราทันทีค่ะ วันตรุษจีนเราได้แต๊ะเอียจากที่บ้านประมาน 25,000 เราให้น้องชายไปคนละ 5000 เราเหลือ 15000 เราให้กบเลยค่ะ เหมือนให้ไว้ติดตัว เผื่ออยากได้หรืออยากซื้ออะไร (พอคิดย้อนคือความคิดเราตอนนั้นเราเป็นเด็กมากๆค่ะ เด็กผู้หญิงคนนึงที่รักผู้ชายคนนึงและอยากให้เค้ามีชีวิตดีๆอยากอยู่กับเค้าไปตลอด ไม่เคยคิดว่าจะต้องเลิกกัน คิดว่าเราโชคดีจังได้เจอผู้ชายที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เคยทะเลาะกันเลย ง้องอนกันตามปกติค่ะ ช่วงนั้นโลกสวย 5555)
ส่วนกบก็จะดูแลเราเรื่องอื่นๆแทน จริงๆแล้วถ้าไม่นับเรื่องเงินกบค่อนข้างเป็นผู้ชายที่ดีนะคะ แอบติดเกมส์นิดหน่อย มีกาบอลบ้างบางครั้ง ตรงนี้เราเข้าใจค่ะว่าบ้านเค้าเปิดโต๊ะบอลคงต้องมีบ้าง แต่ไม่ได้ติดนะคะ เหล้ากินบ้าง บุหรี่ไม่สูบ ก็โอเคค่ะ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เค้าเป็นผู้ชายอบอุ่นมากๆ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งของอื่นๆ ตามใจเราทุกอย่าง พูดจาดี ให้เกียรติเราและเราสัมผัสได้ว่าเค้ารักเราจริงค่ะ หมายความว่าถ้าเราไม่มีเงินกบก็ยังรักเราค่ะ เราเคยพิสูจน์หลายๆครั้ง เช่นบางครั้งเราไม่กดเงินละบอกกบว่าช่วงนี้ที่บ้านไปตปท.กันเป็นเดือนเลยเราต้องอยู่บ้านคนเดียว มีเงินใช้แค่ 1-2 พัน ต้องประหยัด ช่วงนั้นเราก็จะเว้นจากการดูหนังกินข้าวไปค่ะ เราจะไปหากบที่บ้านแทน คือกบพยายามที่จะหาเงินเพื้อเป็นค้าแท้กซี่ให้เรากลับบ้านทุกครั้ง บางครั้งขอเงินแม่ล่วงหน้า จากเงินอาทิตย์ของตัวเองให้เราเป็นค่าแท้กซี่กลับบ้าน (แม่กบให้อาทิตย์ละ 500) กบให้เรา 300-400 บ้าง บอกเก็บไว้แค่ค่ารถเมล์ เดี๋ยวกลับมากินข้าวบ้าน ช่วงนั้นเราซึ้งใจมากค่ะ และมีอีกหลายๆเหตุการณ์ค่ะ ที่กบพิสูจน์ให้เราเห็น ทุกๆคนไม่ต้องสงสัยนะคะว่า ก็เค้าหลอกเมิงไง อยากสบายไงเลยทำดีกับเมิง คือเราเป็นคนให้มากเกินไปค่ะ เราโง่แค่เรื่องเงิน เรื่องอื่นฉลาดเป็นกรดค่ะ ทันทุกอย่าง โกหกเรื่องอะไรตอนนี้อยู่ไหนเรารู้หมดค่ะ อยู่ที่จะพูดหรือไม่พูด รู้ทุกอย่างยิ่งกว่าอับดุลค่ะ ทุกคนยกย่องเราเรื่องนี้ 55555555
ต้องย้อนไปตอนที่เราเข้าบ้านกบครั้งแรก วันแรกที่เข้าไป ญาติผู้ใหญ่เค้าเสียเลยค่ะ 😶😶 คือเราเห็นก่อนเสียนะคะ พอเรากลับบ้าน กบโทมาบอกว่าญาติเสียแล้วค่ะ(ขอไม่บอกนะคะว่าญาติเป็นใครกลัวกบเข้ามาอ่านละรู้ว่าเป็นตัวเอง55) เราก็ตกใจมากว่า ตรูตัวซวยป่าววะ แม่เค้าก็เสียใจมากค่ะ แต่เราไม่ทราบว่าแม่เค้าจะรู้สึกแย่กับเรารึป่าว เพราะเรามีความเชื่ออยู่อย่างนึงค่ะว่า ให้เราสู้กับอะไรเราสู้ได้ แต่ถ้าให้สู้กับแม่แฟนเราขอบายค่ะ ถ้าแม่แฟนเรามีปัญหากับเราตั้งแต่แรก เราจะไม่คบต่อเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาโลกแตก (หมายถึงว่าไม่ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนะคะ ตามประสาแม่หวงลูกชาย) ถ้าเป็นแบบนี้เราบายค่ะ แต่เหตุการณ์นี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น
ต่อค่ะ... พอเราทราบข่าวว่าญาติเค้าเสีย เราก็ให้พี่บ้านใส่ซองไปให้ค่ะ เรื่องก็จบไป แม่ก็ไม่ได้มีท่าทีขุ่นเคืองอะไรเรา ก็ชีวิตก็แฮปปี้มีความสุขดีค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะคะ
เป็นควายตัวเมีย...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า!!!!!!!!
ปัจจุบันเราเพิ่งเรียนจบจากมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ อายุ 22 ปี เรามีความรักครั้งแรกๆตอนประมาน ม.ต้น ปัจจุบันก็มีมา 4-5 คนแล้วค่ะ เราจะเล่าเป็นบางคนนะคะ เริ่มเลย....
แฟนคนนี้เราคบประมานช่วง ม.4 ค่ะ สมมติว่าชื่อ "กบ" กบอยู่ปี1ค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่รร.เก่า (เราเพิ่งย้ายรร.มาเข้าม.ปลายที่ใหม่) ก็คุยๆกันผ่านทาง hi5 ตอนนั้นเรารู้สึกว่ากบเป็นผู้ชายอบอุ่น ให้คำปรึกษาเราได้ในทุกๆเรื่อง ต่อให้เราต้องทำรายงานดึกแค่ไหน กบจะออน hi5 เล่น msn เป็นเพื่อนเราทุกคืน บวกกับการที่กบอายุมากกว่าเรา เราเลยรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้น่าจะโอเค (เราไม่เคยคบคนอายุน้อยกว่าเลยค่ะ เพราะเรารุ้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง มีภาวะความเป็นผู้นำพอสมควร เลยอยากได้ผู้ชายที่นำเราได้ เป็นพ่อที่ดีให้แก่ลูกเราได้ คิดไปนั่นนน 555) ก็คุยกันมาสักพักค่ะ จนเรารู้สึกว่ามันโอเคนะ เค้าก็เป็นคนง่ายๆ ไม่ง๊องแง๊ง เราว่างก็คุย ไม่ว่างก็ไม่เคยบ่น คือเอนอ่อนตามเราทุกอย่าง จนวันนึงก็นัดกินข้าวดูหนังกันค่ะ และน่าจะตกลงเป็นแฟนกันประมานช่วงนั้นอ่ะค่ะ จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ก่อนหน้านั้นเราก็คุยกับคนอื่นพอสมควรนะคะ แต่พอคบกับกบ เราก็เลิกคุยกับทุกคนเลยค่ะ
(ระหว่างเล่าเราอาจจะแทรกลักษณะนิสัยเราเข้าไปด้วยนะคะ เพราะทุกๆคนรอบตัวเราบอกว่า เราเป็นคนนิสัยไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป 555555 หลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจ)
ก็วันที่ดูหนัง เราเป็นคนเลี้ยงค่ะ คือเราทราบว่ากบทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เพราะที่บ้านฐานะไม่ค่อยดีค่ะ พ่อเสีย มีพี่สาว 2 คน มีสามีแล้วทั้งคู่ คนนึงมีลูกก็เอามาให้แม่กบเลี้ยง บ้านกบเปิดโต๊ะสนุ๊ก แล้วก็เปิดโต๊ะบอลค่ะ แต่แค่แบบเล็กๆ คนเล่นไม่กี่คน เป็นคนระแวกนั้น จริงๆวันนั้นกบก็ทำท่าว่าจะเลี้ยงหนังเราค่ะ แต่ด้วยนิสัยเรา เราก็บอกว่า เห้ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง กบก็บอกงั้นกบเลี้ยงข้าวเราละกัน คือเราเป็นคนที่ไม่กล้ารับของๆของใครค่ะ เป็นคนขี้เกรงใจ เป็นคนที่มีความสุขที่ได้เป็นฝ่ายให้ และทุกข์ใจถ้าต้องเป็นฝ่ายรับมากๆ (ซึ่งนิสัยนี้ของเรานี่แหล่ะค่ะ คือต้นเหตุของหายนะทั้งปวง) พอดูหนังจบ ก็ไปทานข้าวค่ะ สุดท้ายเราเลี้ยงเพราะเราเกรงใจ ละก็แยกย้ายกันกลับ ชีวิตก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา ดูหนังทุกเรื่องที่เข้าโรงดูเสร็จทานข้าว กลับบ้าน เราออกเงินทุกครั้งทุกบาททุกสตางค์ เพราะด้วยความเกรงใจ ไม่กล้าให้เค้าเลี้ยงค่ะ เหมือนเราเอาเปรียบเค้าเพราะเค้าก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว เป็นแบบนี้มาประมานปีกว่าๆค่ะ จนเราชินเพราะทุกครั้งที่ทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้เงินคือจะเป็นเราทันทีค่ะ วันตรุษจีนเราได้แต๊ะเอียจากที่บ้านประมาน 25,000 เราให้น้องชายไปคนละ 5000 เราเหลือ 15000 เราให้กบเลยค่ะ เหมือนให้ไว้ติดตัว เผื่ออยากได้หรืออยากซื้ออะไร (พอคิดย้อนคือความคิดเราตอนนั้นเราเป็นเด็กมากๆค่ะ เด็กผู้หญิงคนนึงที่รักผู้ชายคนนึงและอยากให้เค้ามีชีวิตดีๆอยากอยู่กับเค้าไปตลอด ไม่เคยคิดว่าจะต้องเลิกกัน คิดว่าเราโชคดีจังได้เจอผู้ชายที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เคยทะเลาะกันเลย ง้องอนกันตามปกติค่ะ ช่วงนั้นโลกสวย 5555)
ส่วนกบก็จะดูแลเราเรื่องอื่นๆแทน จริงๆแล้วถ้าไม่นับเรื่องเงินกบค่อนข้างเป็นผู้ชายที่ดีนะคะ แอบติดเกมส์นิดหน่อย มีกาบอลบ้างบางครั้ง ตรงนี้เราเข้าใจค่ะว่าบ้านเค้าเปิดโต๊ะบอลคงต้องมีบ้าง แต่ไม่ได้ติดนะคะ เหล้ากินบ้าง บุหรี่ไม่สูบ ก็โอเคค่ะ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เค้าเป็นผู้ชายอบอุ่นมากๆ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งของอื่นๆ ตามใจเราทุกอย่าง พูดจาดี ให้เกียรติเราและเราสัมผัสได้ว่าเค้ารักเราจริงค่ะ หมายความว่าถ้าเราไม่มีเงินกบก็ยังรักเราค่ะ เราเคยพิสูจน์หลายๆครั้ง เช่นบางครั้งเราไม่กดเงินละบอกกบว่าช่วงนี้ที่บ้านไปตปท.กันเป็นเดือนเลยเราต้องอยู่บ้านคนเดียว มีเงินใช้แค่ 1-2 พัน ต้องประหยัด ช่วงนั้นเราก็จะเว้นจากการดูหนังกินข้าวไปค่ะ เราจะไปหากบที่บ้านแทน คือกบพยายามที่จะหาเงินเพื้อเป็นค้าแท้กซี่ให้เรากลับบ้านทุกครั้ง บางครั้งขอเงินแม่ล่วงหน้า จากเงินอาทิตย์ของตัวเองให้เราเป็นค่าแท้กซี่กลับบ้าน (แม่กบให้อาทิตย์ละ 500) กบให้เรา 300-400 บ้าง บอกเก็บไว้แค่ค่ารถเมล์ เดี๋ยวกลับมากินข้าวบ้าน ช่วงนั้นเราซึ้งใจมากค่ะ และมีอีกหลายๆเหตุการณ์ค่ะ ที่กบพิสูจน์ให้เราเห็น ทุกๆคนไม่ต้องสงสัยนะคะว่า ก็เค้าหลอกเมิงไง อยากสบายไงเลยทำดีกับเมิง คือเราเป็นคนให้มากเกินไปค่ะ เราโง่แค่เรื่องเงิน เรื่องอื่นฉลาดเป็นกรดค่ะ ทันทุกอย่าง โกหกเรื่องอะไรตอนนี้อยู่ไหนเรารู้หมดค่ะ อยู่ที่จะพูดหรือไม่พูด รู้ทุกอย่างยิ่งกว่าอับดุลค่ะ ทุกคนยกย่องเราเรื่องนี้ 55555555
ต้องย้อนไปตอนที่เราเข้าบ้านกบครั้งแรก วันแรกที่เข้าไป ญาติผู้ใหญ่เค้าเสียเลยค่ะ 😶😶 คือเราเห็นก่อนเสียนะคะ พอเรากลับบ้าน กบโทมาบอกว่าญาติเสียแล้วค่ะ(ขอไม่บอกนะคะว่าญาติเป็นใครกลัวกบเข้ามาอ่านละรู้ว่าเป็นตัวเอง55) เราก็ตกใจมากว่า ตรูตัวซวยป่าววะ แม่เค้าก็เสียใจมากค่ะ แต่เราไม่ทราบว่าแม่เค้าจะรู้สึกแย่กับเรารึป่าว เพราะเรามีความเชื่ออยู่อย่างนึงค่ะว่า ให้เราสู้กับอะไรเราสู้ได้ แต่ถ้าให้สู้กับแม่แฟนเราขอบายค่ะ ถ้าแม่แฟนเรามีปัญหากับเราตั้งแต่แรก เราจะไม่คบต่อเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาโลกแตก (หมายถึงว่าไม่ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนะคะ ตามประสาแม่หวงลูกชาย) ถ้าเป็นแบบนี้เราบายค่ะ แต่เหตุการณ์นี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น
ต่อค่ะ... พอเราทราบข่าวว่าญาติเค้าเสีย เราก็ให้พี่บ้านใส่ซองไปให้ค่ะ เรื่องก็จบไป แม่ก็ไม่ได้มีท่าทีขุ่นเคืองอะไรเรา ก็ชีวิตก็แฮปปี้มีความสุขดีค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะคะ