8 เคล็ดลับเที่ยวญี่ปุ่นที่มือใหม่ไม่ควรพลาด!

สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่มีประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะมือใหม่) ก็เลยอยากนำมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ชาวพันทิปครับ เนื่องจากนี่เป็นกระทู้แรกของผม หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


รองเท้าใส่สบาย V.S. รองเท้าสวยงาม
        เพื่อนๆ หลายคนที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ใส่รองเท้าที่เดินสบายๆ เพราะการเที่ยวที่ญี่ปุ่นจะต้องเดินเยอะมากๆ หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น ผมเองก็เกิดความมั่นใจ (แบบผิดๆ ) ขึ้นมาว่า “มันจะเดินเยอะซักแค่ไหนกันเชียว  ปกติตูก็เดินเยอะอยู่แล้ว แค่นี้สบายมาก รถไฟฟ้าก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ เดินอีกนิดหน่อยไม่น่าจะเป็นอะไร” พอไปเดินจริงๆ เท่านั้นแหละครับ รู้เรื่อง คือ รถไฟฟ้ามันมีเยอะก็จริง แต่นอกจากนั้นคือไม่มีอย่างอื่นเลยนอกจากเท้าของคุณ อย่างที่บ้านเราถ้าขี้เกียจก็เรียกพี่วิน หรือเรียก Taxi ก็ได้ แต่ที่ญี่ปุ่นจะให้เรียก Taxi ก็คงไม่ไหว (ถ้าใครมีสตางค์ก็เรียกได้นะฮะ) เพราะฉะนั้น เราจะต้องใช้เท้าของเราเยอะมาก ไม่ว่าจะเดินไป-กลับบ้าน สถานีรถไฟ หรือเดินเที่ยว อย่างของผมตอนนั้นวันแรกเดินไป 21 กิโลด้วยความคึกคะนองครับ โอเคพอได้ พอวันถัดๆ มาความเมื่อยล้าเริ่มสะสม แทนที่จะได้เดินเที่ยวเยอะๆ ก็กลายเป็นเมื่อย อยากพักแทน ตอนนี้ผมกล้าพูดได้เต็มปากแล้วว่า รองเท้าที่ใส่แล้วเดินสบายสำคัญมากสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น (โดยเฉพาะผู้ที่งบน้อยแต่อยากไปเที่ยวเยอะๆ) อีก item นึง พกไปด้วยฮะ จะดีมากกกกกกกกกกกก คือ ยาทาคลายกล้ามเนื้อ อะไรเนี่ยแหละ ผมใช้หลอดสีส้มๆ ทามันทั้งขาทั้งน่องทั้งเท้าก่อนนอนนะครับ ตื่นมาคุณจะมีพลังเดินต่อ แน่ นอน!!


การแลกเงิน
        แลกเงินไปเสียให้เรียบร้อย เหลือดีกว่าขาด เพราะถ้าขาดแล้วจะวุ่นวายมาก คือผมแลกเงินไปกะว่าจะไม่ช้อปอะไรมาก แต่ดันมีภารกิจที่ต้องใช้เพิ่มจริงๆ แถมบัตรเครดิตก็ไม่ได้เอาไป พกเป็นดอลไปกันฉุกเฉิน คือปกติผมจะไม่พกบาทไปกันฉุกเฉินนะครับ มันหาที่แลกยาก ก็เลยเดินเอาเงินดอลลาร์เข้าไปแลกเงินเยนที่ธนาคารแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ย่าน Jiyugaoka  ไอ้เราก็ไม่มีความรู้ไง นึกว่าเออแลกๆ ไปก็เสร็จ ป่าวเลยจ้า คือขั้นตอนยาวมากต้องกรอกนู่นนี่นั่น ต้องขอที่อยู่ที่ที่ญี่ปุ่น บอกมานอนบ้านเพื่อนก็ขอเบอร์เพื่อนจะโทรไปถาม แถมพนักงานธนาคารก็ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง กว่าจะแลกเงินได้คือวุ่นกันทั้งธนาคาร ประมาณว่าข้อมูลไม่ครบจะแลกเงินยังไงดี แต่สุดท้ายก็แลกมาจนได้ เพราะฉะนั้น แลกไปเถอะครับ เกินก็ค่อยมาแลกคืนทีหลังที่ไทยก็ได้ ไม่ลำบากอยู่แล้ว หรือไม่ก็พกบัตรเครดิตไปด้วย เผื่อมีอะไรฉุกเฉินก็จะไม่ได้ต้องวุ่นวายขนาดนี้  ปล. พวกเขาน่ารักนะครับ ขนาดไม่คล่องยังพยายามให้บริการกันเต็มที่ ผมก็สนุกดี


ซื้อของฝากจาก Duty Free
        ตอนนั้นตั้งใจว่าจะไปเจอเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ไม่ได้พบกันตั้งแต่สมัยมัธยม แล้วก็จะซื้อของไปฝากด้วย ปกติเราก็จะไปเดินดูใน Duty Free ก่อนขึ้นเครื่องกัน ซึ่งก็อาจจะไม่ได้มีเวลาเยอะมาก เพราะต้องรีบไปขึ้นเครื่อง แต่วันนั้นมีเพื่อนแนะนำมาว่าให้ซื้อสินค้าจาก www.KingPowerOnline.com คือเราสามารถเลือกของจากที่บ้านแล้วสั่งซื้อได้เลย จากนั้นค่อยไปรับของที่สนามบิน ผมก็เลยลองใช้บริการดู ปรากฏว่าเวิคมาก คือสะดวกและช่วยประหยัดเวลาตอนไปขึ้นเครื่องได้เยอะเลยครับ แถมยังมีส่วนลดเพิ่มเติมที่ทาง King Power จัดโปรโมชั่นด้วย ใครที่กำลังมองหาของฝากก็สามารถลองใช้บริการของเค้าดูได้ครับ



เที่ยวอย่างคนญี่ปุ่น
       นอกจากย่าน Shopping หลักๆ แล้ว ผมและเพื่อนๆก็อยากไปสัมผัสวิถีชาวญี่ปุ่นบ้าง ก็เลยหารีวิวในพันทิปและอินเทอร์เน็ตว่าควรไปที่ไหนดี แต่หลังจากลองไปหลายๆ ที่แล้วพบว่า มันยังไม่ใช่ คือไปแล้วรู้สึกเลยว่า นี่คือสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวไปเท่านั้น มีแต่ชาวต่างชาติไป อารมณ์แบบบิ๊วสถานที่ขึ้นเฉยๆ กลิ่นอายญี่ปุ่นมันยังไม่พอ! เราก็เลยลองขอให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นพาเที่ยว 1 วัน บอกว่าขอแบบที่คนญี่ปุ่นเค้าไปกัน ตอนนั้นเพื่อนก็เลยพาไป Yokohama โอ้ววว เดินทางก็ไม่ไกลจาก Tokyo มาก นั่งรถไฟมาก็เกือบๆชั่วโมง แต่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมา และที่สำคัญนี้มันญี่ปุ่นแท้แน่นอน! ความรู้สึกคือเป็นที่ที่คนญี่ปุ่นเค้าไปกันจริงๆ โดยเฉพาะคู่รัก เพื่อนบอกเลยว่า ที่นี่เป็น No.1 เรื่องสถานที่ออกเดท!! มาเดินเล่น ชมวิว หาอะไรกินกันเรื่อยเปื่อย ดังนั้น แนะนำเลยว่า ถ้าใครอยากสัมผัสวิถีญี่ปุ่นจริงๆ ให้เพื่อนญี่ปุ่นแนะนำให้ (ถ้ามี) แต่ถ้าไม่มีก็ลองไป Yokohama ดูครับ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเมืองรอบๆ Tokyo จ้า


แผ่นดินไหว!
        ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นตอนนั้นมีข่าวแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ อื้อหือออออ แรงมาก ตูจะได้ไปไหมจองทุกอย่างไปหมดแล้ว พ่อแม่รู้ข่าวก็เป็นห่วงกันใหญ่ ยกเลิกไหมลูก เดี๋ยวค่อยไปวันอื่น โห่ววว ม่ายยยย เลยไปถามเพื่อนคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นอีก 2 คนปรากฏว่า เค้าดูเฉยๆ มาก คือใช้ชีวิตตามปกติ คนญี่ปุ่นบอกว่ามันก็แรงแต่มันไกลมากแล้วความแรงระดับนี้แม้ว่าจะมีไม่บ่อยแต่ก็ไม่ได้แปลกอะไร ก็เลยรอดตัวได้ไปสมใจอยาก แต่มันยังไม่จบ! ระหว่างที่อยู่ Tokyo ผมและมิตรสหายก็เจอแผ่นดินไหวกับตัวอีก คือ นอนๆ อยู่แล้วตื่นกันทั้งหมด เพราะบ้านมันสั่นแรงมาก สั่นจนคนตื่นอะ มีเพื่อนร่วมทริปคนนึงนึกว่าผีหลอก... ไม่คิดว่าจะเจอกับตัว แต่ซักพักก็หยุดไปครับ หลับต่อ ยัง ยังไม่หมด คืนหนึ่ง ผมก็ไปนั่งกินเบียร์กันในบาร์ชิวๆใต้ดินกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นนี่แหละครับ มันเอาอีกแล้วครับ โคมไฟเอนไปเอนมา นึกว่าเมาแต่เปล่า เพราะมันสั่นทั้งร้านนน!! ทุกคนในร้านก็ดูรู้สึกได้นะครับว่ามันสั่น แต่ก็ยังเฉยๆ พอนิ่งปุ๊บ ทุกคนคุยกันต่อประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้เราก็ถามเค้าว่า เฮ้ยยู เมื่อกี้แผ่นดินไหวใช่ไหม เค้าก็ตอบใช่ อ้าวแล้วทำไมยูดูเฉยๆ มากมันสั่นแรงมากเลยนะ เค้าก็บอกว่ามันปกติ เค้าจะตกใจถ้าโทรศัพท์ส่งสัญญาณเตือนซึ่งแปลว่ามันแรงมากกกก ดังนั้น ใครที่จะไปญี่ปุ่นแล้วเจอข่าวแผ่นดินไหวให้ลองถามเพื่อนชาวญี่ปุ่นดู หรือติดตามจากสื่อของญี่ปุ่นก็ได้ ถ้ามันรุนแรงมากๆ ถึงจะเป็นข่าวหรือมีประกาศ แต่ถ้าไม่แรงมากก็ไปได้จ้า ส่วนระหว่างเที่ยวก็ถ้าเกิดการสั่นไหวขึ้นก็ไม่ต้องตระหนกตกใจไป ถ้าโทรศัพท์ของคนญี่ปุ่นร้องค่อยว่ากัน


ภาษาญี่ปุ่น
        ผมคิดว่าทุกคนที่ไปญี่ปุ่นน่าจะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันคือ คนญี่ปุ่นไม่ค่อยพูดอังกฤษกับเราเท่าไหร่ แม้ว่าเราจะพูดภาษาอังกฤษกับเค้า เค้าก็จะพูดภาษาญี่ปุ่นกลับมาด้วยความเร็วเสมือนว่าเราคือ Native Speaker และอีกหลายครั้งที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ Local ก็จะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษด้วย ดังนั้น ถ้าคุณหรือเพื่อนร่วมทริปของคุณพูดหรืออ่านภาษาญี่ปุ่นได้ก็จะทำให้สามารถเที่ยวได้ง่ายขึ้นเยอะมากกกก ใครพูดไม่ได้ อ่านไม่ได้เลย แนะนำให้เอาหนังสือติดไปซักเล่มก็ยังดี เผื่อยามคับขันก็จะได้ไม่ลำบากมากน้า


ร้านอาหาร
        จากประสบการณ์การตามร้านในรีวิวมาหลายร้านก็พบว่า จริงๆ แล้วร้านที่คนไทยไปกันเยอะๆ ก็อาจจะไม่ได้ถูกปากเราก็ได้ ผมเอาร้านดังๆ ที่คนไทยไปกันไปถามคนญี่ปุ่นก็พบว่าเค้าก็ไม่ได้รู้จักร้านพวกนี้กันทุกร้าน เอ๊ะ หรือจริงๆ แล้วมันอาจจะดังเฉพาะในกลุ่มคนไทยก็ได้นะ ผมเลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองสุ่มร้านข้างทางที่ดูน่ากินแล้วเดินเข้าไปลองดู (อย่าลืมถามว่ามีเมนูภาษาอังกฤษไหม ถ้าคุณอ่านญี่ปุ่นไม่ได้) อาจจะพบร้านที่ถูกปาก ถูกใจมากกว่าร้านในรีวิวเป็นไหนๆ ก็ได้นะฮับ


สินค้าลดราคาในซุปเปอร์
        สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวแบบกินหนักบ้างกินประหยัดบ้าง ลองอาหารในซุปเปอร์ช่วงค่ำๆนี่แหละครับ เขาจะลดพิเศษ อร่อย อยู่ท้อง กินสบาย สบายใจสบายกระเป๋า แล้วถ้าใครไปเที่ยวนิกโก้ (Nikko) ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ ถ้าไปนอนโฮสเทล โมเตล หลายๆ ที่ไม่มีอาหารให้ก็ต้องเตรียมกันไว้นะครับ ที่นั้นจะมี Supermarket อยู่อันนึง (เหมือนจะมีอันเดียว) อยู่แถวๆ ท่ารถเลย พอตอนเย็น ค่ำๆ ซัก 6 โมงเป็นต้นไปเค้าก็จะเริ่มลดราคาสินค้าพวกอาหารแล้ว ยิ่งใกล้ปิด ยิ่งลด สูงสุดน่าจะ 50% แนะนำให้ซื้อกลับที่พักเผื่อทานตอนดึกๆ เพราะที่นั้นร้านอาหารจะปิดเร็ว หรือจะเก็บไว้ทานตอนเช้าก็ได้ อร่อยและประหยัดไปได้มากโขเลยละครับ อีกมื้อก็ไปซัดมื้อหนักๆฟินๆกันได้


        สิ่งที่ผมและเพื่อนๆ ได้ค้นพบและอยากแบ่งปันก็มีเท่านี้ สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ หาข้อมูลเยอะๆ แล้วจะเที่ยวสบายขึ้น ผมหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ส่วนผู้ที่ชำนาญแล้วก็สามารถแบ่งปันเคล็ดวิชากันได้ เพื่อนๆ ชาวพันทิปและการไปญี่ปุ่นครั้งหน้าของผมจะได้ฟินกว่านี้อีกกกกก! ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณครับบบ