แบ่งปันความรู้สึกของลูกบุญธรรมค่ะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะวันนี้เป็นการเขียนกระทู้ที่สามแล้วค่ะ แต่ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่เลยค่ะ  ถ้าพิมผิดพลาดตรงไหนก็ขอโทษนะคะทุกคน
ต้องมาเริ่มเกริ่นก่อนว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ที่แสดงถึงว่าครอบครัวใหม่ที่ไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริงของเรามันเป็นอย่างไร  ดีหรือเสียกับการที่จะเปลี่ยนครอบครัว
สวัสดีค่ะทุกคนเราเป็นคนนึงที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของตัวเอง  เรียกง่ายๆว่าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ของตัวเองค่ะ   ซึ่งเราก็เป็นเด็กคนนึงที่เติบโตมากับอีกครอบครัวที่เลี้ยงเราเป็นเหมือนลูกเลยค่ะ  ครอบครัวนี้ประกอบด้วยพ่อ แม่และพี่สาวคนนึงค่ะ ซึ่งเราตั้งแต่จำความได้ก็อยู่แต่กับครอบครัวมาตลอดเลยค่ะ
แต่เราก็เชื่อว่านี่คือครอบครัวของเราจริงๆ นี่พ่อแม่แท้ๆของเรานะ  ด้วยความซื่อของเราด้วยก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลยมาตั้งแต่เด็กยันโต  จนมันถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยค่ะ  มันเป็นวันที่เราได้รู้ความจริงทุกอย่างเลยค่ะ   วันนั้น...  เป็นช่วงที่เราอยู่ประมาณป.6ค่ะ  เป็นวันที่ต้องไปสมัครสอบเข้ามัธยมค่ะ
คือเราอยู่โรงเรียนเอกชนค่ะ  ครูก็จะดูแลดีในระดับหนึ่งค่ะ  ซึ่งครูก็เป็นคนที่เตรียมพวกเอกสารยื่นสมัครสอบใส่ซองให้เราค่ะ  เราก็นั่งรถของโรงเรียนไปสมัครสอบที่โรงเรียนมัธยมที่อยู่ห่างจากโรงเรียนประถมประมาณ  500 เมตรค่ะ  ซึ่งวันนั้นไปกันประมาณ 16 คนค่ะ (สมัครเรียนห้องพิเศษค่ะคนเลยน้อย)
พอไปถึงที่ห้องสมัครสอบครูก็ปล่อยไปนั่งรอค่ะ เพราะครูต้องไปรับเพื่อนรอบที่ 2 ค่ะ  พอไปนั่งรอก็พบคุณครูท่านนึงเดินเข้ามาบอกว่าให้มาตรวจเอกสารค่ะ
พวกเราก็หยิบเอกสารในซองมาเช็คเรียงตามที่คุณครูท่านนั้นบอกให้เรียงค่ะ  และแล้วเราก็ไปสะดุดตากับเอกสารใบนึงเข้า..  คิดในใจเลยว่ามันดูไม่เหมือนเอกสารของคนอื่นเลยว่ะ (ไปแอบชะเง้อมองคนอื่นมา) เอกสารใบนั้นคือเอกสารรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมค่ะ ตอนนั้นคือตกใจมากเลย  แบบช็อคสุดๆเลยค่ะ
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะก็นั่งๆรอคิวไปยื่นเอกสารกับเพื่อนค่ะ พอถึงคิวเราก็เดินไปนั่งโต๊ะยื่นเอกสาร  ครูท่านก็เช็คๆเอกสารจนมาสะดุดกับเอกสารใบนึง
ครูก็ถามว่า "ทำไมชื่อพ่อและแม่ในใบเกิดกับในสำเนาบัตรประชาชนถึงเป็นคนละคนล่ะ?"  เราก็อึ้งๆเลยค่ะ  จะตอบไงดีวะเนี่ยยยยย
จนครูที่มากับเราก็มาอธิบายอะไรไม่รู้กับครูท่านนั้น (กระซิบค่ะ) เราเลยได้รับบัตรสอบเลย   พอไปนั่งกับเพื่อนๆครูก็มานั่งข้างๆแล้วแซวจนเพื่อนได้ยิน
ครู: ถ้าครูไม่ช่วยนี่ตอบไม่ถูกเลยใช่มั้ยล่ะ?  ก็แค่เรื่องใบรับบุตรบุญธรรม...  ครูเห็นเรายิ้มฝืดๆก็เลยหยุดพูดไป
เพื่อนมันก็ทำหน้าสงสัยๆ  จนถึงเวลารอรถมารับกลับโรงเรียนเพื่อนมันก็มาถามแบบแกเป็นลูกบุญธรรมหรอ? ครูก็บอกว่าเพื่อนมันก็พึ่งรู้วันนี้แหละ อย่าถาม
พอถึงเย็นวันนั้นเราก็แบบมานั่งกับพ่อแม่บุญธรรมของเรา  ทีนี้เราก็พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้แบบลอยๆ  คือแบบเขาก็บอกเราว่า
'แค่กระดาษใบเดียวนะลูกอย่าสนใจเลย  สนใจที่เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ดีกว่านะลูก' แบบพอเราได้ยินน้ำตาจะไหลเลย  มันซึ้งมากเลยค่ะตอนนั้น
เราเลยหยุดคิดเรื่องนั้นมาพักใหญ่ๆเลยค่ะ  เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ  รอก่อนค่ะๆ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่