ตอนจบมาร์ค วัตนีย์ตายนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ล้อเล่นครับ ตอนอ่านหนังสืออยู่เจอน้องมาอำแบบนี้เลยอยากให้คนอื่นโดนบ้าง555
เหตุการณ์สำคัญที่ตัดออก
- ที่สำคัญที่สุดที่ผมว่าไม่น่าตัดออกคือตอนดร.แมนน์ เอ้ย พี่มาร์คเดินทางจากแฮ็ปไปแอรีส4 จากในหนังสือเหมือนขึ้นสาย8ฝ่าแดรมฤตยูนี่กลายเป็นขับรถไปปากซอยเลยครับ จากที่ต้องเจอพายุทะเลทรายที่ลดแสงอาทิตย์ทำให้รถไปต่อไม่ได้ และตกหลุมอุกาบาตจนรถคว่ำที่ทำให้เห็นถึงความอันตรายและคาดการณ์ไม่ได้ของการพจญภัยบนดาวอังคาร กลายเป็นทริปขับรถข้ามจังหวัดชิลๆ
- เครื่องสื่อสารบนPathfinderที่เสียด้วยอุบัตีเหตุเอาเครื่องเจาะไปพิง(555+) กลายเป็นทำให้ช่วงหลังเปลี่ยนเป็นคนละเรื่องเลย จากที่พี่มาร์คต้องใช้ไหวพริบเอาตัวรอดคนเดียว โดดเดี่ยวบนท้องเล ในหนังสือแสดงถึงความเหงา การดิ้นรน และลุ้นไปกับการต่อสู้ของพี่มาร์คคนเดียวที่นาซ่าไม่สามารถช่วยได้ และยังให้การแก้ไขสถานการณ์ตอนเจอพายุของพี่มาร์คดูEpicไปอีกขั้น กลายเป็นว่าตัวหนังเลยดูง่ายไปมากเลย
ซึ่งรวมๆสองจุดนี้น่าจะไม่เกิน15นาที ตัวหนังกลับเอาไปใส่ฉากเล็กน้อยอื่นแทน ข้ามจุดใหญ่สสองจุดนี้ไป ทำให้ลดคุณค่าและการให้เกียร์ติหนังสือไป
จุดเล็กๆน้อยๆ
- ตอนที่โจแฮนเซ็นคุยกับพ่อแม่ครั้งสุดท้ายน่าเอามาใส่มากๆ ตอนที่ทุกคนตัดสินใจให้เธออยู่รอดคนเดียวในกรณีที่ยานเสบียงส่งมาล้มเหลว รวมถึงตัดสินใจให้เธอกินเนื้อเพื่อนๆ แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของนักบินอวกาศต้องแบกรับ และการตัดสินใจที่เข้มแข็งมากๆ กลับกลายเป็นฉากบอกลาเล่นกับลูกๆสดใสฟรุ้งฟริ้งไป(อาจจะอยากให้Softลงเด็กดูเยอะ)
- ตอนที่อุตส่าดั้งดนมา100กว่าวันมาถึงแอรีส4 ในหนังสือพี่มาร์คแกโดดเหยงๆ ดีใจไปเกาะขายานท่ามกลางความเงียบของดาวอังคาร ถ้าเอามาใส่คงเข้าใจพี่บ่าวโดดเดี่ยวในท้องเลมากกว่านี้
-ฉากที่พี่มาร์คโมฯรถ โมฯบ้าน จริงๆในหนังสือพี่มาร์คแกเทพกว่าที่เห็นในหนังเยอะ ทั้งการคำนวนแคลลอรี่ พลังงาน เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ สังคม ประวัติศาสตร์ ภาษาไทย(?) ก็เข้าใจว่าหนังคงจะ6ชั่วโมง แค่นี้ก็เมพมากละ555+
- ตอนที่อาเฮียจีนจะมาช่วยความจริงในหนังสือมีผลประโยชน์ของจีนที่จะได้แสดงความเจ๋ง+นำหน้าUSA เป็นการเมืองนิดๆ แต่ฟังดูซับซ้อนเอาออกก็เข้าใจได้
ข้อดีของหนัง
- ขอชมฉากจบก่อนเลย ที่การช่วยเหลือไม่ได้ง่ายๆชิลๆแบบในหนังสือ ยิ่งตอนพี่มาร์คกลายร่างเป็นIron manนี่โครตชอบเลย ยังคิดอยู่ว่าในหนังสือน่าจะทำแบบนี้ล่ะ แต่ถ้าจะให้Epicแบบพีคๆไปเลย เบ็คน่าจะตัดเชือกให้กัปตันลูอิสไปลุยกับIron manให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
- สภาพร่างกาย
ในหนังสือไม่ได้พูดถึงการขาดสารอาหารของพี่มาร์คที่ต้องจำกัดอาหาร แต่ในหนังทำออกมาได้ดีมาก ฉากพี่มาร์คอาบน้ำออกมาโชว์หุ้นแห้งกะร่องกะแหร่งนี่สมจริงมากๆ และถ้าใครสังเกตุ"ฟัน"พี่มาร์คจะเปลี่ยนไป เหงือกร่นฟันแหว่ง ซึ่งในหนังสือบอกว่ามีวิตามินกินเหลือเฟือ แต่ในหนังทำแบบนี้ก็ให้ความรันทดดี
- ฉากสั่งลาตายของพี่มาร์คเขียนบทพูดได้ดีมากๆ
โดยรวมหนังก็ทำออกมาดี เก็บเนื้อเรื่อง+ส่วนสำคัญไว้ได้สมจริง แต่Roverดูเล็กไม่ค่อยมีอะไรไปนิดนะ เมิร์ฟ เอ้ยกัปตันก็แสดงภาวะผู้นำที่มีความขัดแย้งกับความรู้สึกผิดได้ดี แมตต์เดมอนก็รับบทพี่มาร์คที่มีตลกร้ายและอารมณ์ขันเศร้าเหงา(อารมณ์ไรวะ)ที่ต้องต่อสู้ตัวขนเดียวบนดาวเถื่อนสุดไกลโลกได้ดี
และยังให้ความหวังของการบุกเบิกอวกาศของมนุษยชาติได้ดี รวมถึงการร่วมมือระหว่างชาติ(จีน+USA)ที่ก้าวข้ามความขัดแย้งไปได้(ทั้งที่ตอนนี้ฮึ่มๆจะรบกันที่ซีเรียอยู่โน่น)
เอาไป8/10ครับ เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งในตอนนี้ที่น่าดูรองมาจากเมย์ไหนฯ
[Spoilมั๊กๆ] The Martian ไม่น่าตัดตอนสำคัญในหนังสือออกไปเยอะเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เหตุการณ์สำคัญที่ตัดออก
- ที่สำคัญที่สุดที่ผมว่าไม่น่าตัดออกคือตอนดร.แมนน์ เอ้ย พี่มาร์คเดินทางจากแฮ็ปไปแอรีส4 จากในหนังสือเหมือนขึ้นสาย8ฝ่าแดรมฤตยูนี่กลายเป็นขับรถไปปากซอยเลยครับ จากที่ต้องเจอพายุทะเลทรายที่ลดแสงอาทิตย์ทำให้รถไปต่อไม่ได้ และตกหลุมอุกาบาตจนรถคว่ำที่ทำให้เห็นถึงความอันตรายและคาดการณ์ไม่ได้ของการพจญภัยบนดาวอังคาร กลายเป็นทริปขับรถข้ามจังหวัดชิลๆ
- เครื่องสื่อสารบนPathfinderที่เสียด้วยอุบัตีเหตุเอาเครื่องเจาะไปพิง(555+) กลายเป็นทำให้ช่วงหลังเปลี่ยนเป็นคนละเรื่องเลย จากที่พี่มาร์คต้องใช้ไหวพริบเอาตัวรอดคนเดียว โดดเดี่ยวบนท้องเล ในหนังสือแสดงถึงความเหงา การดิ้นรน และลุ้นไปกับการต่อสู้ของพี่มาร์คคนเดียวที่นาซ่าไม่สามารถช่วยได้ และยังให้การแก้ไขสถานการณ์ตอนเจอพายุของพี่มาร์คดูEpicไปอีกขั้น กลายเป็นว่าตัวหนังเลยดูง่ายไปมากเลย
ซึ่งรวมๆสองจุดนี้น่าจะไม่เกิน15นาที ตัวหนังกลับเอาไปใส่ฉากเล็กน้อยอื่นแทน ข้ามจุดใหญ่สสองจุดนี้ไป ทำให้ลดคุณค่าและการให้เกียร์ติหนังสือไป
จุดเล็กๆน้อยๆ
- ตอนที่โจแฮนเซ็นคุยกับพ่อแม่ครั้งสุดท้ายน่าเอามาใส่มากๆ ตอนที่ทุกคนตัดสินใจให้เธออยู่รอดคนเดียวในกรณีที่ยานเสบียงส่งมาล้มเหลว รวมถึงตัดสินใจให้เธอกินเนื้อเพื่อนๆ แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของนักบินอวกาศต้องแบกรับ และการตัดสินใจที่เข้มแข็งมากๆ กลับกลายเป็นฉากบอกลาเล่นกับลูกๆสดใสฟรุ้งฟริ้งไป(อาจจะอยากให้Softลงเด็กดูเยอะ)
- ตอนที่อุตส่าดั้งดนมา100กว่าวันมาถึงแอรีส4 ในหนังสือพี่มาร์คแกโดดเหยงๆ ดีใจไปเกาะขายานท่ามกลางความเงียบของดาวอังคาร ถ้าเอามาใส่คงเข้าใจพี่บ่าวโดดเดี่ยวในท้องเลมากกว่านี้
-ฉากที่พี่มาร์คโมฯรถ โมฯบ้าน จริงๆในหนังสือพี่มาร์คแกเทพกว่าที่เห็นในหนังเยอะ ทั้งการคำนวนแคลลอรี่ พลังงาน เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ สังคม ประวัติศาสตร์ ภาษาไทย(?) ก็เข้าใจว่าหนังคงจะ6ชั่วโมง แค่นี้ก็เมพมากละ555+
- ตอนที่อาเฮียจีนจะมาช่วยความจริงในหนังสือมีผลประโยชน์ของจีนที่จะได้แสดงความเจ๋ง+นำหน้าUSA เป็นการเมืองนิดๆ แต่ฟังดูซับซ้อนเอาออกก็เข้าใจได้
ข้อดีของหนัง
- ขอชมฉากจบก่อนเลย ที่การช่วยเหลือไม่ได้ง่ายๆชิลๆแบบในหนังสือ ยิ่งตอนพี่มาร์คกลายร่างเป็นIron manนี่โครตชอบเลย ยังคิดอยู่ว่าในหนังสือน่าจะทำแบบนี้ล่ะ แต่ถ้าจะให้Epicแบบพีคๆไปเลย เบ็คน่าจะตัดเชือกให้กัปตันลูอิสไปลุยกับIron manให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
- สภาพร่างกาย
ในหนังสือไม่ได้พูดถึงการขาดสารอาหารของพี่มาร์คที่ต้องจำกัดอาหาร แต่ในหนังทำออกมาได้ดีมาก ฉากพี่มาร์คอาบน้ำออกมาโชว์หุ้นแห้งกะร่องกะแหร่งนี่สมจริงมากๆ และถ้าใครสังเกตุ"ฟัน"พี่มาร์คจะเปลี่ยนไป เหงือกร่นฟันแหว่ง ซึ่งในหนังสือบอกว่ามีวิตามินกินเหลือเฟือ แต่ในหนังทำแบบนี้ก็ให้ความรันทดดี
- ฉากสั่งลาตายของพี่มาร์คเขียนบทพูดได้ดีมากๆ
โดยรวมหนังก็ทำออกมาดี เก็บเนื้อเรื่อง+ส่วนสำคัญไว้ได้สมจริง แต่Roverดูเล็กไม่ค่อยมีอะไรไปนิดนะ เมิร์ฟ เอ้ยกัปตันก็แสดงภาวะผู้นำที่มีความขัดแย้งกับความรู้สึกผิดได้ดี แมตต์เดมอนก็รับบทพี่มาร์คที่มีตลกร้ายและอารมณ์ขันเศร้าเหงา(อารมณ์ไรวะ)ที่ต้องต่อสู้ตัวขนเดียวบนดาวเถื่อนสุดไกลโลกได้ดี
และยังให้ความหวังของการบุกเบิกอวกาศของมนุษยชาติได้ดี รวมถึงการร่วมมือระหว่างชาติ(จีน+USA)ที่ก้าวข้ามความขัดแย้งไปได้(ทั้งที่ตอนนี้ฮึ่มๆจะรบกันที่ซีเรียอยู่โน่น)
เอาไป8/10ครับ เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งในตอนนี้ที่น่าดูรองมาจากเมย์ไหนฯ